รอยเตอร์/เอเอฟพี - คะแนนนิยมในตัวนายกรัฐมนตรี ทาโร อาโซะ แห่งญี่ปุ่น ร่วงลงมาอย่างแรงจนเหลือเพียง 20% เศษๆ ทั้งนี้จากผลโพล 4 สำนักที่นำออกเผยแพร่เมื่อวานนี้(8) ซึ่งยิ่งทำให้เกิดความกังวลใจภายในพรรคลิเบอรัล เดโมแครติก ปาร์ตี้ (แอลดีพี) ที่เป็นแกนนำรัฐบาลผสมชุดปัจจุบันว่า พรรคกำลังจะสูญเสียอำนาจบริหารประเทศที่สามารถกุมเอาไว้ในมือมายาวนาน
ผลสำรวจที่จัดทำให้แก่หนังสือพิมพ์โยมิอูริ ชิมบุง ชี้ว่า เรตติ้งความยอมรับในคณะรัฐบาลอาโซะ ได้หล่นลงเกือบครึ่งจนมาเหลือ 21% จากที่เคยได้ 41% ตอนต้นเดือนพฤศจิกายน ขณะที่โพลของหนังสือพิมพ์อาซาฮี ชิมบุง บอกว่ารัฐบาลชุดนี้ได้รับความสนับสนุนเพียง 22% หล่นจากที่เคยได้ 37% เมื่อหนึ่งเดือนก่อน เช่นเดียวกับผลสำรวจของไนมิจิ ชิมบุง ที่ก็ได้ผลสรุปว่า คะแนนนิยมของรัฐบาลอาโซะเหลือ 21% จาก 36% ในเดือนตุลาคม
ทางด้านโพลของสถานีวิทยุและโทรทัศน์เอ็นเอชเค แสดงให้เห็นว่า ผู้ตอบคำถาม 22% เชื่อว่า อิชิโร โอซาวะ ผู้นำฝ่ายค้านเป็นบุคคลผู้เหมาะสมเป็นนายกรัฐมนตรี ขณะที่มี 18% เท่านั้นที่คิดว่าอาโซะเหมาะสมกว่า
อาโซะเพิ่งดำรงตำแหน่งมาได้ 2 เดือนเศษ ทว่าคะแนนนิยมได้ลดฮวบลงอย่างรวดเร็วน่าใจหาย ผู้นำของพรรคแอลดีพีซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรีก่อนหน้าเขาทั้ง 2 คน ได้แก่ ชินโซ อาเบะ และ ยาสุโอะ ฟุคุดะ ต่างต้องลาออกหลังนั่งเก้าอี้ได้เพียงประมาณ 1 ปี ภายหลังที่เรตติ้งความยอมรับได้รูดลงมาต่ำกว่า 30% ซึ่งเป็นระดับที่พวกนักวิเคราะห์มองว่าจะต้องรักษาไว้ให้ได้หากต้องการอยู่รอดต่อไป
ผลสำรวจที่จัดทำให้แก่หนังสือพิมพ์โยมิอูริ ชิมบุง ชี้ว่า เรตติ้งความยอมรับในคณะรัฐบาลอาโซะ ได้หล่นลงเกือบครึ่งจนมาเหลือ 21% จากที่เคยได้ 41% ตอนต้นเดือนพฤศจิกายน ขณะที่โพลของหนังสือพิมพ์อาซาฮี ชิมบุง บอกว่ารัฐบาลชุดนี้ได้รับความสนับสนุนเพียง 22% หล่นจากที่เคยได้ 37% เมื่อหนึ่งเดือนก่อน เช่นเดียวกับผลสำรวจของไนมิจิ ชิมบุง ที่ก็ได้ผลสรุปว่า คะแนนนิยมของรัฐบาลอาโซะเหลือ 21% จาก 36% ในเดือนตุลาคม
ทางด้านโพลของสถานีวิทยุและโทรทัศน์เอ็นเอชเค แสดงให้เห็นว่า ผู้ตอบคำถาม 22% เชื่อว่า อิชิโร โอซาวะ ผู้นำฝ่ายค้านเป็นบุคคลผู้เหมาะสมเป็นนายกรัฐมนตรี ขณะที่มี 18% เท่านั้นที่คิดว่าอาโซะเหมาะสมกว่า
อาโซะเพิ่งดำรงตำแหน่งมาได้ 2 เดือนเศษ ทว่าคะแนนนิยมได้ลดฮวบลงอย่างรวดเร็วน่าใจหาย ผู้นำของพรรคแอลดีพีซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรีก่อนหน้าเขาทั้ง 2 คน ได้แก่ ชินโซ อาเบะ และ ยาสุโอะ ฟุคุดะ ต่างต้องลาออกหลังนั่งเก้าอี้ได้เพียงประมาณ 1 ปี ภายหลังที่เรตติ้งความยอมรับได้รูดลงมาต่ำกว่า 30% ซึ่งเป็นระดับที่พวกนักวิเคราะห์มองว่าจะต้องรักษาไว้ให้ได้หากต้องการอยู่รอดต่อไป