"สถาพรบุ๊คส์" รุกหนักตลาดพ็อกเก๊ตบุ๊ค ชี้เป็นตลาดที่เติบโตต่อเนื่อง ปีนี้เปิดใหม่อีกแห่ง หวังขยายฐานตลาดให้กว้าง คาดปีหน้ายังไม่มีการเปิดตัวสำนักพิมพ์เพิ่ม เหตุเศรษฐกิจไม่ค่อยดี ฉุดกำลังซื้อลดลง
นายวรพันธ์ โลกิตสถาพร กรรมการผู้จัดการ สำนักพิมพ์สถาพรบุ๊คส์ เปิดเผยกับ "ASTVผู้จัดการรายวัน" ว่า ภาพรวมตลาดหนังสือในปีหน้าอาจจะยังคงได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ลดลงตามไปด้วย แต่อย่างไรก็ตามหากผู้ประกอบการสามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาพตลาดก็จะยังคงดำเนินกิจการต่อไปได้ เนื่องจากแม้ว่าเศรษฐกิจจะดีไม่ดีก็ตาม คนก็ยังคงต้องอ่านหนังสือ เพียงแต่อาจจะอ่านน้อยลง เลือกซื้อมากขึ้น อีกทั้งยังมีคนที่ต้องการจะจ่ายเพื่อที่จะเพิ่มพูนคามรู้และความบันเทิงให้กับตัวเองด้วยการอ่านหนังสือ
อย่างไรก็ตามหากพิจารณารายละเอียดแล้วจะพบว่า ตลาดหนังสือในกลุ่มเซ็กเม้นท์ของพ็อกเก๊ตบุ๊ค ยังเป็นกลุ่มตลาดที่มีการเติบโตที่ดีและมีแนวโน้มการเติบโตต่อเนื่องในอนาคตด้วย เนื่องจากว่า พ็อกเก๊ตบุ๊คส์นี้เป็นหนังสือที่สามารถจับกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลายในวงกว้าง เพราะมีพ็อกเก๊ตบุ๊คหลายแนว ทั้งผู้ชาย ผู้หญิง เด็ก หรือเป็นประเภทเนื้อหาเช่น ฮาวทู วาไรตี้ ความรู้ สาระ บันเทิง นวนิยาย และหนังสือแปลด้วย
นายวรพันธ์กล่าวว่า ปีนี้เป็นปีที่ตลาดพ็อกเก๊ตบุ๊คมีความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจ โดยเฉพาะการเปิดตัวสำนักพิมพ์พ็อกเก๊ตบุ๊คใหม่ๆของค่ายหนังสือทั้งค่ายใหม่และค่ายเก่า กันอย่างคึกคัก ในส่วนของบริษัทฯเองก็มีการรุกตลาดพ็อกเก๊ตบุ๊กคอย่างมากในปีนี้ เพื่อตอบรับกับตลาดที่มีความต้องการมาก โดยมีการเปิดสำนักพิมพ์พ็อกเก๊ตบุ๊คใหม่อีกเพื่อเข้ามาเสริมตลาด และขยายฐานผู้อ่านมากขึ้น
ล่าสุดได้เปิดตัวสำนักพิมพ์ บีไบร์ท ขึ้นมาในช่วงงานมหกรรมหนังสือฯที่ผ่านมา โดยเป็นสำนักพิมพ์ที่จะผลิตพ็อกเก็ตบุ๊คในแนวฮาวทู คู่มือ คำแนะนำ กลเม็ดเคล็ดลับ ต่างๆที่ครอบคุลมเนื้อหาใน 6 หมวดหมู่ ซึ่งถอดรหัสมาจากคำว่า Bright (ซึ่งเป็นคำที่มี 2 ความหมายในศัพท์เดียวกันคือ ความปราดเปรื่องหรือสว่าง ) ลักษณะของเนื้อหาจะนำไปใช้ได้ง่าย ราคาปานกลาง เน้นรูปเล่มที่สวยงาม ผ่านกระบวนการผลิตที่ดี
โดยได้เปิดตัวพ็อกเก๊ตบุ๊คครั้งแรกจำนวน 3 เล่มเป็นปฐมฤกษ์คือ 1. หนังสือแปลชื่อ "ไม่กล้าเปลี่ยนก็ไม่มีโอกาส" จากไต้หวัน เขียนโดย เติง เสี่ยว เกอ แปลโดยสุทธิมา โพธ์เงิน 2.หนังสือแนวไลฟ์สไตล์ชื่อว่า " เกาหลีที่เนตเห็น" เป็นพ็อกเก๊ตบุ๊คแนวภาพ เดินเรื่องด้วยภาพ เป็นภาษาไทยกับเกาหลี มีซีดีเพลงประกอบด้วย และ 3. ชื่อว่า "ความลับของซูเปอร์สตาร์" เป็นเ 100 เรื่องความลับของดาราดังที่มีเนื้อหาในเชิงบวก
อย่างไรก็ตามนายสถาพรกล่าวว่า ในปีหน้าบริษัทฯยังไม่มีแผนที่จะเปิดสำนักพิมพ์ใหม่เพิ่มเติม แต่จะพยายามสร้างสำนักพิมพ์ที่มีอยู่ทั้งหมดให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ส่วนปีหน้ายอดการออกพ็อกเก๊ตบุ๊กใหม่ๆนั้นคาดว่าจะมีประมาณใกล้เตียงกับปีนี้หรืออาจจะมากกว่าเล็กน้อย ซึ่งปีนี้ทั้งปีออกมาประมาณ 100 กว่าเรื่อง
ปัจจุบันเครือสถาพรบุ๊คส์มีสำนักพิมพ์หลายแห่งเช่น พิมพ์คำสำนักพิมพ์ เน้นการจัดพิมพ์หนังสือ สารคดี ความรู้ทั่วไป นวนิยาย, สำนักพิมพ์สถาพรบุ๊คส์ เน้นหนังสือประกอการเรียน การสอน ความรู้ทั่วไป วรรณกรรมเยาวชน , สำนักพิมพ์ปริ๊นเซส เน้นนวนิยายโรแมนติกสำหรับนักอ่านวัยรุ่น , สำนักพิมพ์ Z-Girl เน้นนวนิยายกลุ่มผู้อ่านวัยทีน , สำนักพิมพ์เพชรการเรือน เน้นหนังสือเชิงสุขภาพ ศิลปการงานอาชีพ และสำนักพิมม์ซูการ์บีช เป็นต้น
ทั้งนี้สัดส่วนรายได้หลักของบริษัทฯยังคงมาจาก สำนักพิมพ์สถารพรบุ๊คส์ กว่า 50% ส่วนที่เหลืออีก 50% มาจากสำนักพิมพ์อื่นในเครือรวมกัน
นายวรพันธ์ โลกิตสถาพร กรรมการผู้จัดการ สำนักพิมพ์สถาพรบุ๊คส์ เปิดเผยกับ "ASTVผู้จัดการรายวัน" ว่า ภาพรวมตลาดหนังสือในปีหน้าอาจจะยังคงได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ลดลงตามไปด้วย แต่อย่างไรก็ตามหากผู้ประกอบการสามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาพตลาดก็จะยังคงดำเนินกิจการต่อไปได้ เนื่องจากแม้ว่าเศรษฐกิจจะดีไม่ดีก็ตาม คนก็ยังคงต้องอ่านหนังสือ เพียงแต่อาจจะอ่านน้อยลง เลือกซื้อมากขึ้น อีกทั้งยังมีคนที่ต้องการจะจ่ายเพื่อที่จะเพิ่มพูนคามรู้และความบันเทิงให้กับตัวเองด้วยการอ่านหนังสือ
อย่างไรก็ตามหากพิจารณารายละเอียดแล้วจะพบว่า ตลาดหนังสือในกลุ่มเซ็กเม้นท์ของพ็อกเก๊ตบุ๊ค ยังเป็นกลุ่มตลาดที่มีการเติบโตที่ดีและมีแนวโน้มการเติบโตต่อเนื่องในอนาคตด้วย เนื่องจากว่า พ็อกเก๊ตบุ๊คส์นี้เป็นหนังสือที่สามารถจับกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลายในวงกว้าง เพราะมีพ็อกเก๊ตบุ๊คหลายแนว ทั้งผู้ชาย ผู้หญิง เด็ก หรือเป็นประเภทเนื้อหาเช่น ฮาวทู วาไรตี้ ความรู้ สาระ บันเทิง นวนิยาย และหนังสือแปลด้วย
นายวรพันธ์กล่าวว่า ปีนี้เป็นปีที่ตลาดพ็อกเก๊ตบุ๊คมีความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจ โดยเฉพาะการเปิดตัวสำนักพิมพ์พ็อกเก๊ตบุ๊คใหม่ๆของค่ายหนังสือทั้งค่ายใหม่และค่ายเก่า กันอย่างคึกคัก ในส่วนของบริษัทฯเองก็มีการรุกตลาดพ็อกเก๊ตบุ๊กคอย่างมากในปีนี้ เพื่อตอบรับกับตลาดที่มีความต้องการมาก โดยมีการเปิดสำนักพิมพ์พ็อกเก๊ตบุ๊คใหม่อีกเพื่อเข้ามาเสริมตลาด และขยายฐานผู้อ่านมากขึ้น
ล่าสุดได้เปิดตัวสำนักพิมพ์ บีไบร์ท ขึ้นมาในช่วงงานมหกรรมหนังสือฯที่ผ่านมา โดยเป็นสำนักพิมพ์ที่จะผลิตพ็อกเก็ตบุ๊คในแนวฮาวทู คู่มือ คำแนะนำ กลเม็ดเคล็ดลับ ต่างๆที่ครอบคุลมเนื้อหาใน 6 หมวดหมู่ ซึ่งถอดรหัสมาจากคำว่า Bright (ซึ่งเป็นคำที่มี 2 ความหมายในศัพท์เดียวกันคือ ความปราดเปรื่องหรือสว่าง ) ลักษณะของเนื้อหาจะนำไปใช้ได้ง่าย ราคาปานกลาง เน้นรูปเล่มที่สวยงาม ผ่านกระบวนการผลิตที่ดี
โดยได้เปิดตัวพ็อกเก๊ตบุ๊คครั้งแรกจำนวน 3 เล่มเป็นปฐมฤกษ์คือ 1. หนังสือแปลชื่อ "ไม่กล้าเปลี่ยนก็ไม่มีโอกาส" จากไต้หวัน เขียนโดย เติง เสี่ยว เกอ แปลโดยสุทธิมา โพธ์เงิน 2.หนังสือแนวไลฟ์สไตล์ชื่อว่า " เกาหลีที่เนตเห็น" เป็นพ็อกเก๊ตบุ๊คแนวภาพ เดินเรื่องด้วยภาพ เป็นภาษาไทยกับเกาหลี มีซีดีเพลงประกอบด้วย และ 3. ชื่อว่า "ความลับของซูเปอร์สตาร์" เป็นเ 100 เรื่องความลับของดาราดังที่มีเนื้อหาในเชิงบวก
อย่างไรก็ตามนายสถาพรกล่าวว่า ในปีหน้าบริษัทฯยังไม่มีแผนที่จะเปิดสำนักพิมพ์ใหม่เพิ่มเติม แต่จะพยายามสร้างสำนักพิมพ์ที่มีอยู่ทั้งหมดให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ส่วนปีหน้ายอดการออกพ็อกเก๊ตบุ๊กใหม่ๆนั้นคาดว่าจะมีประมาณใกล้เตียงกับปีนี้หรืออาจจะมากกว่าเล็กน้อย ซึ่งปีนี้ทั้งปีออกมาประมาณ 100 กว่าเรื่อง
ปัจจุบันเครือสถาพรบุ๊คส์มีสำนักพิมพ์หลายแห่งเช่น พิมพ์คำสำนักพิมพ์ เน้นการจัดพิมพ์หนังสือ สารคดี ความรู้ทั่วไป นวนิยาย, สำนักพิมพ์สถาพรบุ๊คส์ เน้นหนังสือประกอการเรียน การสอน ความรู้ทั่วไป วรรณกรรมเยาวชน , สำนักพิมพ์ปริ๊นเซส เน้นนวนิยายโรแมนติกสำหรับนักอ่านวัยรุ่น , สำนักพิมพ์ Z-Girl เน้นนวนิยายกลุ่มผู้อ่านวัยทีน , สำนักพิมพ์เพชรการเรือน เน้นหนังสือเชิงสุขภาพ ศิลปการงานอาชีพ และสำนักพิมม์ซูการ์บีช เป็นต้น
ทั้งนี้สัดส่วนรายได้หลักของบริษัทฯยังคงมาจาก สำนักพิมพ์สถารพรบุ๊คส์ กว่า 50% ส่วนที่เหลืออีก 50% มาจากสำนักพิมพ์อื่นในเครือรวมกัน
