นายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา และแกนนำกลุ่ม 40 ส.ว. กล่าวถึงวิกฤตการเมืองไทยในขณะนี้ว่า ทางออกของบ้านเมืองในขณะนี้ คือ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ต้องลาออกหรือไม่เช่นนั้นนายสมชาย ต้องยุบสภา
ขณะที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ก็ต้องยุติการชุมนุมที่สนามบินสุวรรณภูมิ และสนามบินดอนเมือง โดยต้องรีบทำให้เร็วที่สุด เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนม์พรรษา 5 ธันวามหาราช
"รัฐบาลต้องรีบตัดสินใจ เพราะในวันที่ 2 ธ.ค. จะมีการสวนสนาม วันที่ 4 ธ.ค. พระองค์จะมีพระราชดำรัส ต่อพสกนิกรชาวไทย วันที่ 5 ธ.ค. วันเฉลิมพระชนม์พรรษา ถามว่าหากสถานการณ์บ้านเมืองยังเป็นแบบนี้ พระองค์จะสบายพระทัยได้อย่างไร" นายสมชายกล่าว
นายสมชาย กล่าวด้วยว่า ทราบมาว่ารัฐบาล ได้สั่งให้ผู้ว่าราชการทุกจังหวัด ระดมพลคนเสื้อแดงในทุกจังหวัดทั่วประเทศ หากจังหวัดไหนไม่มีแนวร่วมก็ให้นำแรงงานต่างชาติมาใส่เสื้อสีแดงแทน เพื่อนำมาปะทะกับคนเสื้อเหลือง ทำให้มีความสุ่มเสี่ยงที่จะเกิดสงครามกลางเมืองเป็นอย่างมาก
โดยเฉพาะในวันที่ 2 ธ.ค. ที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดแถลงปิดคดียุบพรรค หากคนเสื้อแดงปิดล้อมศาลรัฐธรรมนูญ แต่คนเสื้อเหลืองไม่ยอมจะเกิดอะไรขึ้น รัฐบาลไม่ควรปล่อยให้เกิดเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเด็ดขาด และควรยุบสภาโดยเร็ว
"การที่รัฐบาลบอกว่า สภาไม่มีความผิดนั้น ผมกลับเห็นต่างกัน เพราะผมเห็นว่าสภาชุดนี้ไม่เคยแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน ส.ส.ไม่ได้ทำหน้าที่อย่างสมเกียรติ โดย 1 ปีที่ผ่านมาออกกฎหมายแค่ 2 ฉบับ คือ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดิน และพระราชบัญญัติประชามติ เท่านั้น นอกนั้นมีแต่การพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปีที่มีช่องโหว่ และคำถามมากมาย ว่าเป็นการเตรียมเงินซื้อเสียง หาเสียงล่วงหน้าหรือไม่ เห็นได้ว่าสภาชุดนี้ไม่มีผลงานเลย ตรงกันข้ามกลับมีแต่ความปั่นป่วน ท้าตีท้าต่อยคนอื่นไปทั่ว ที่สภาเป็นอยู่ทุกวันนี้ก็ถือว่าเป็นความไร้สภาวะของสภาอยู่แล้ว มีก็เหมือนไม่มี ซึ่งผมเชื่อว่าหากส.ส.ชุดนี้มีความดีจริง เลือกตั้งใหม่ก็คงได้กลับมาอยู่แล้ว ถามว่าจะกลัวอะไรกับการยุบสภา" นายสมชาย กล่าว
นายสมชาย กล่าวด้วยว่า ก่อนหน้านี้ พรรคประชาธิปัตย์ เคยเสนอให้รัฐบาลแก้ปัญหาการเมืองด้วยการยุบสภา แต่รัฐบาลก็ไม่ทำ ตนจึงอยากเสนอไปยังพรรคประชาธิปัตย์ว่า ได้โปรดแสดงความกล้าหาญด้วยการลาออกจากการเป็น ส.ส. ทั้งหมด เพื่อทำให้สภาชุดนี้ไม่สามารถทำงานได้ และหมดสภาพลงไป โดยพรรคประชาธิปัตย์ต้องรีบทำก่อนวันที่ 5 ธ.ค. เช่นกัน ส่วนพันธมิตรฯ หากมีการยุบสภาแล้ว พันธมิตรฯยังไม่หยุดก็เชื่อว่าสังคมคงไม่ยอมรับพันธมิตรฯ อีกต่อไป
ขณะที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ก็ต้องยุติการชุมนุมที่สนามบินสุวรรณภูมิ และสนามบินดอนเมือง โดยต้องรีบทำให้เร็วที่สุด เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนม์พรรษา 5 ธันวามหาราช
"รัฐบาลต้องรีบตัดสินใจ เพราะในวันที่ 2 ธ.ค. จะมีการสวนสนาม วันที่ 4 ธ.ค. พระองค์จะมีพระราชดำรัส ต่อพสกนิกรชาวไทย วันที่ 5 ธ.ค. วันเฉลิมพระชนม์พรรษา ถามว่าหากสถานการณ์บ้านเมืองยังเป็นแบบนี้ พระองค์จะสบายพระทัยได้อย่างไร" นายสมชายกล่าว
นายสมชาย กล่าวด้วยว่า ทราบมาว่ารัฐบาล ได้สั่งให้ผู้ว่าราชการทุกจังหวัด ระดมพลคนเสื้อแดงในทุกจังหวัดทั่วประเทศ หากจังหวัดไหนไม่มีแนวร่วมก็ให้นำแรงงานต่างชาติมาใส่เสื้อสีแดงแทน เพื่อนำมาปะทะกับคนเสื้อเหลือง ทำให้มีความสุ่มเสี่ยงที่จะเกิดสงครามกลางเมืองเป็นอย่างมาก
โดยเฉพาะในวันที่ 2 ธ.ค. ที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดแถลงปิดคดียุบพรรค หากคนเสื้อแดงปิดล้อมศาลรัฐธรรมนูญ แต่คนเสื้อเหลืองไม่ยอมจะเกิดอะไรขึ้น รัฐบาลไม่ควรปล่อยให้เกิดเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเด็ดขาด และควรยุบสภาโดยเร็ว
"การที่รัฐบาลบอกว่า สภาไม่มีความผิดนั้น ผมกลับเห็นต่างกัน เพราะผมเห็นว่าสภาชุดนี้ไม่เคยแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน ส.ส.ไม่ได้ทำหน้าที่อย่างสมเกียรติ โดย 1 ปีที่ผ่านมาออกกฎหมายแค่ 2 ฉบับ คือ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดิน และพระราชบัญญัติประชามติ เท่านั้น นอกนั้นมีแต่การพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปีที่มีช่องโหว่ และคำถามมากมาย ว่าเป็นการเตรียมเงินซื้อเสียง หาเสียงล่วงหน้าหรือไม่ เห็นได้ว่าสภาชุดนี้ไม่มีผลงานเลย ตรงกันข้ามกลับมีแต่ความปั่นป่วน ท้าตีท้าต่อยคนอื่นไปทั่ว ที่สภาเป็นอยู่ทุกวันนี้ก็ถือว่าเป็นความไร้สภาวะของสภาอยู่แล้ว มีก็เหมือนไม่มี ซึ่งผมเชื่อว่าหากส.ส.ชุดนี้มีความดีจริง เลือกตั้งใหม่ก็คงได้กลับมาอยู่แล้ว ถามว่าจะกลัวอะไรกับการยุบสภา" นายสมชาย กล่าว
นายสมชาย กล่าวด้วยว่า ก่อนหน้านี้ พรรคประชาธิปัตย์ เคยเสนอให้รัฐบาลแก้ปัญหาการเมืองด้วยการยุบสภา แต่รัฐบาลก็ไม่ทำ ตนจึงอยากเสนอไปยังพรรคประชาธิปัตย์ว่า ได้โปรดแสดงความกล้าหาญด้วยการลาออกจากการเป็น ส.ส. ทั้งหมด เพื่อทำให้สภาชุดนี้ไม่สามารถทำงานได้ และหมดสภาพลงไป โดยพรรคประชาธิปัตย์ต้องรีบทำก่อนวันที่ 5 ธ.ค. เช่นกัน ส่วนพันธมิตรฯ หากมีการยุบสภาแล้ว พันธมิตรฯยังไม่หยุดก็เชื่อว่าสังคมคงไม่ยอมรับพันธมิตรฯ อีกต่อไป