รอยเตอร์ - บารัค โอบามา ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เดินหน้าจัดทีมงานด้านความมั่นคงแห่งชาติในวันอังคาร (25) ซึ่งคาดว่ารอเบิร์ต เกตส์ คงจะรั้งตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหมต่อไป ส่วนพล.ร.อ.เจมส์ โจนส์ นายทหารเกษียณราชการ ซึ่งวิพากษ์วิจารณ์นโยบายทำสงครามอิรักมาตลอด อาจได้รับแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติ
เว็บไซต์ข่าวสาร "โพลิติโค" ได้อ้างแหล่งข่าวทั้งจากคนในพรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกันว่า รอเบิร์ต เกตส์ได้ตกลงรับตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหมในรัฐบาลสหรัฐฯ ชุดใหม่แล้ว และคาดว่าช่วงต้นสัปดาห์หน้าโอบามาคงจะเปิดเผยรายชื่อทีมงานด้านความมั่นคงแห่งชาติอย่างเป็นทางการ พร้อมกับการมอบตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศให้กับวุฒิสมาชิกฮิลลารี คลินตันด้วย ขณะเดียวกัน สำนักข่าวอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นเอบีซีและฟ็อกซ์ ต่างก็รายงานว่าเกตส์จะรับผิดชอบงานในเพนตากอนต่อไปตามที่มีการคาดการณ์กันมาาหลายสัปดาห์แล้วเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวหลายรายที่ทราบเรื่องทีมงานเปลี่ยนถ่ายอำนาจของโอบามาเป็นอย่างดี บางคนยังคงปฏิเสธรายงานข่าวดังกล่าว และบางคนก็ไม่แน่ใจว่าทั้งเกตส์และโจนส์ได้ตกลงกับโอบามาเป็นที่เรียบร้อยแล้วหรือยัง เพราะยังมีประเด็นสำคัญบางประเด็นที่ยังต้องเจรจากันเสียก่อน โดยเฉพาะในส่วนของเกตส์ซึ่งกำลังเจรจาต่อรองเรื่องทีมงานที่จะช่วยเขาในรัฐบาลใหม่
"มีโอกาสสัก 85 เปอร์เซ็นต์ที่เขาจะยอมอยู่ในตำแหน่งต่อไป" แหล่งข่าวใกล้ชิดกับทีมงานการเปลี่ยนถ่ายอำนาจระบุ และกล่าวว่าเกตส์ยังอยากอยู่ในตำแหน่งผู้นำเพนตากอนต่ออีกหนึ่งปีหรือมากกว่านั้น แต่ก็เกรงว่าตนเองจะกลายเป็นผู้นำกองทัพที่มีสภาพ "เป็ดง่อย" หากมีการกำหนดตารางเวลาการทำงานอย่างชัดเจน
นอกจากนั้นยังมีประเด็นที่ว่าเขาจะคงรักษาใครไว้ในทีมงานของเขาได้บ้าง และใครจะมาเป็นรัฐมนตรีช่วยของเขา ซึ่งขณะนี้มีคนของเดโมแครตจำนวนมากที่ต้องการได้ตำแหน่งระดับสูงในเพนตากอน
เกตส์เคยเป็นผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองกลางสหรัฐฯ (ซีไอเอ) และก่อนที่จะก้าวขึ้นเป็นผู้นำเพนตากอนต่อจากโดนัลด์ รัมสเฟลด์ในปี 2006 นั้น เขาดำรงตำแหน่งอธิการบดีของมหาวิทยาลัยเทกซัสเอแอนด์เอ็ม
ปัจจุบันเกตส์อายุ 65 ปี พวกนักวิเคราะห์มองกันว่าเขาเป็นคนในรัฐบาลบุชคนหนึ่งที่ยังคงได้รับความเชื่อถืออยู่ โดยเขามีแนวนโยบายซึ่งเน้นไปที่การสร้างความสัมพันธ์เชิงสร้างสรรค์ แต่ก็ยืนยันเป้าหมายที่ชัดเจนในการทำสงครามในอิรักและอัฟกานิสถาน
ส่วนแหล่งข่าวใกล้ชิดกับโจนส์ก็ระบุว่า โอบามายังอยู่ในระหว่างการเจรจากับอดีตผู้บัญชาการกองทัพนาวิกโยธินผู้นี้ และยังไม่มีการตัดสินใจอย่างเป็นทางการแต่อย่างใด
โจนส์ยังเคยเป็นผู้บัญชาการกองทหารของสหรัฐฯ และของนาโต้ในยุโรป และเขาเป็นผู้หนึ่งที่วิพากษ์วิจารณ์การทำสงครามอิรักของรัฐบาลบุชอย่างหนักมาตลอด บ๊อบ วูดเวิร์ด ผู้สื่อข่าวประจำหนังสือพิมพ์วอชิงตัน โพสต์ ก็เคยอ้างคำพูดของโจนส์ในหนังสือ State of Denial ตีพิมพ์เมื่อปี 2006 ซึ่งโจนส์กล่าวถึงสงครามอิรักว่าเป็น "ความล่มจม"
นอกจากนั้นเว็บไชต์โพลิติโคยังคาดการณ์ด้วยว่าเจมส์ สไตน์เบิร์ก อดีตผู้ช่วยที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติในสมัยรัฐบาลคลินตัน จะได้ตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีช่วยกระทรวงการต่างประเทศ
ส่วนซูซาน ไรซ์ ที่ปรึกษานโยบายต่างประเทศอีกผู้หนึ่งของโอบามา อาจได้รับแต่งตั้งให้เป็นเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำสหประชาชาติ และ พล.ร.อ. เดนนิส แบลร์ ซึ่งเกษียณราชการไปแล้วจะได้รับแต่งตั้งเป็นผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ
ก่อนหน้านี้ โอบามาได้เปิดเผยรายชื่อบุคคลในทีมงานเศรษฐกิจของเขาไปแล้วคือทิโทธี ไกธ์เนอร์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ สาขานิวยอร์ก จะเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีคลัง และลอเรนซ์ ซัมเมอร์ อดีตรัฐมนตรีคลังยุครัฐบาลคลินตัน จะรับผิดชอบในตำแหน่งประธานสภาเศรษฐกิจแห่งชาติ
เว็บไซต์ข่าวสาร "โพลิติโค" ได้อ้างแหล่งข่าวทั้งจากคนในพรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกันว่า รอเบิร์ต เกตส์ได้ตกลงรับตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหมในรัฐบาลสหรัฐฯ ชุดใหม่แล้ว และคาดว่าช่วงต้นสัปดาห์หน้าโอบามาคงจะเปิดเผยรายชื่อทีมงานด้านความมั่นคงแห่งชาติอย่างเป็นทางการ พร้อมกับการมอบตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศให้กับวุฒิสมาชิกฮิลลารี คลินตันด้วย ขณะเดียวกัน สำนักข่าวอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นเอบีซีและฟ็อกซ์ ต่างก็รายงานว่าเกตส์จะรับผิดชอบงานในเพนตากอนต่อไปตามที่มีการคาดการณ์กันมาาหลายสัปดาห์แล้วเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวหลายรายที่ทราบเรื่องทีมงานเปลี่ยนถ่ายอำนาจของโอบามาเป็นอย่างดี บางคนยังคงปฏิเสธรายงานข่าวดังกล่าว และบางคนก็ไม่แน่ใจว่าทั้งเกตส์และโจนส์ได้ตกลงกับโอบามาเป็นที่เรียบร้อยแล้วหรือยัง เพราะยังมีประเด็นสำคัญบางประเด็นที่ยังต้องเจรจากันเสียก่อน โดยเฉพาะในส่วนของเกตส์ซึ่งกำลังเจรจาต่อรองเรื่องทีมงานที่จะช่วยเขาในรัฐบาลใหม่
"มีโอกาสสัก 85 เปอร์เซ็นต์ที่เขาจะยอมอยู่ในตำแหน่งต่อไป" แหล่งข่าวใกล้ชิดกับทีมงานการเปลี่ยนถ่ายอำนาจระบุ และกล่าวว่าเกตส์ยังอยากอยู่ในตำแหน่งผู้นำเพนตากอนต่ออีกหนึ่งปีหรือมากกว่านั้น แต่ก็เกรงว่าตนเองจะกลายเป็นผู้นำกองทัพที่มีสภาพ "เป็ดง่อย" หากมีการกำหนดตารางเวลาการทำงานอย่างชัดเจน
นอกจากนั้นยังมีประเด็นที่ว่าเขาจะคงรักษาใครไว้ในทีมงานของเขาได้บ้าง และใครจะมาเป็นรัฐมนตรีช่วยของเขา ซึ่งขณะนี้มีคนของเดโมแครตจำนวนมากที่ต้องการได้ตำแหน่งระดับสูงในเพนตากอน
เกตส์เคยเป็นผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองกลางสหรัฐฯ (ซีไอเอ) และก่อนที่จะก้าวขึ้นเป็นผู้นำเพนตากอนต่อจากโดนัลด์ รัมสเฟลด์ในปี 2006 นั้น เขาดำรงตำแหน่งอธิการบดีของมหาวิทยาลัยเทกซัสเอแอนด์เอ็ม
ปัจจุบันเกตส์อายุ 65 ปี พวกนักวิเคราะห์มองกันว่าเขาเป็นคนในรัฐบาลบุชคนหนึ่งที่ยังคงได้รับความเชื่อถืออยู่ โดยเขามีแนวนโยบายซึ่งเน้นไปที่การสร้างความสัมพันธ์เชิงสร้างสรรค์ แต่ก็ยืนยันเป้าหมายที่ชัดเจนในการทำสงครามในอิรักและอัฟกานิสถาน
ส่วนแหล่งข่าวใกล้ชิดกับโจนส์ก็ระบุว่า โอบามายังอยู่ในระหว่างการเจรจากับอดีตผู้บัญชาการกองทัพนาวิกโยธินผู้นี้ และยังไม่มีการตัดสินใจอย่างเป็นทางการแต่อย่างใด
โจนส์ยังเคยเป็นผู้บัญชาการกองทหารของสหรัฐฯ และของนาโต้ในยุโรป และเขาเป็นผู้หนึ่งที่วิพากษ์วิจารณ์การทำสงครามอิรักของรัฐบาลบุชอย่างหนักมาตลอด บ๊อบ วูดเวิร์ด ผู้สื่อข่าวประจำหนังสือพิมพ์วอชิงตัน โพสต์ ก็เคยอ้างคำพูดของโจนส์ในหนังสือ State of Denial ตีพิมพ์เมื่อปี 2006 ซึ่งโจนส์กล่าวถึงสงครามอิรักว่าเป็น "ความล่มจม"
นอกจากนั้นเว็บไชต์โพลิติโคยังคาดการณ์ด้วยว่าเจมส์ สไตน์เบิร์ก อดีตผู้ช่วยที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติในสมัยรัฐบาลคลินตัน จะได้ตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีช่วยกระทรวงการต่างประเทศ
ส่วนซูซาน ไรซ์ ที่ปรึกษานโยบายต่างประเทศอีกผู้หนึ่งของโอบามา อาจได้รับแต่งตั้งให้เป็นเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำสหประชาชาติ และ พล.ร.อ. เดนนิส แบลร์ ซึ่งเกษียณราชการไปแล้วจะได้รับแต่งตั้งเป็นผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ
ก่อนหน้านี้ โอบามาได้เปิดเผยรายชื่อบุคคลในทีมงานเศรษฐกิจของเขาไปแล้วคือทิโทธี ไกธ์เนอร์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ สาขานิวยอร์ก จะเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีคลัง และลอเรนซ์ ซัมเมอร์ อดีตรัฐมนตรีคลังยุครัฐบาลคลินตัน จะรับผิดชอบในตำแหน่งประธานสภาเศรษฐกิจแห่งชาติ
