สถานการณ์ทางการเมืองและเศรษฐกิจไม่กระทบมารีฟรานซ์ฯ คุยธุรกิจฉลุย ยอดเฉลี่ยต่อหัวเพิ่มขึ้น โกยส่วนแบ่งตลาดรวมสถาบันลดน้ำหนักเป็น 60% ปีนี้ พร้อมอัดงบ 300 ล้านบาท ทำการตลาดปีหน้า ระบุภาพรวมธุรกิจลดน้ำหนักปีหน้า โตน้อย รายเล็กเหนื่อย
นางสาวศศิวีณ์ ซื่อตรง ผู้จัดการทั่วไปมารีฟรานซ์ บอดี้ไลน์ เปิดเผยว่า ตลาดรวมของสถาบันลดน้ำหนักและสัดส่วนในปีนี้อยู่ที่ 3,000 ล้านบาท ทั้งนี้มั่นใจว่าในสิ้นปี2551 ทางบริษัทฯจะมีส่วนแบ่งทางการตลาดที่ 60% มากกว่าปี2550 ที่มีส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ที่ 58%
ล่าสุดทางบริษัทฯได้แตกไลน์ธุรกิจขยายเซกเมนท์ใหม่ไปยังกลุ่มผลิตภัณฑ์สกินแคร์ภายใต้ชื่อ” เบลล่า”(Bella) ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่นำเข้ามาจากประเทศอเมริกา และเพิ่มพื้นที่ภายในแต่ละสาขาให้บริการลูกค้าเกี่ยวกับผิวหน้าด้วยผลิตภัณฑ์ เบลล่า
นางสาวศศิวีณ์ กล่าวว่า การเพิ่มธุรกิจสกินแคร์ เพื่อต้องการให้บริการลูกค้าแบบครบวงจร One Stop Shopping อีกทั้งทิศทางตลาดสกินแคร์มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องสวนกระแสเศรษฐกิจ เพราะความงามเป็นสิ่งที่มีความจำเป็นต่อผู้หญิง ตั้งเป้าผลิตภัณฑ์ “เบลล่า” จะช่วยขยายฐาน ในส่วนของบริการทรีตเมนต์ตัว ให้เติบโตขึ้นอีก 20% ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่มาจากฐานลูกค้าเก่าที่มีใช้บริการ
สำหรับภาพรวมของสถาบันลดน้ำหนักและสัดส่วนในปี2552 มองว่าจะไม่โตไปกว่านี้ เนื่องจากมีผู้ประกอบการไม่กี่รายในธุรกิจนี้ ขณะที่แบรนด์ท้องถิ่นจะต้องวางแผนแบบรัดกุมมากกว่าเดิม แต่ในส่วนของทางบริษัทฯซึ่งเป็นแบรนด์ระดับอินเตอร์ ก็ยังคงต้องมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
“ทางบริษัทฯ มีการปรับตัวมาตลอดอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์ทางการเมืองหรือเศรษฐกิจ ดังนั้นจึงไม่มีผลกระทบกับทางบริษัทฯ การขยายสาขายังคงเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ รวมทั้งจะไม่มีการปลดพนักงาน แต่ในทางกลับกันสถานการณ์ต่างๆกับทำให้ยอดใช้จ่ายของผู้เข้ามาใช้บริการต่อหัวเพิ่มขึ้นจากเดิม คือจาก 35,000-40,000 บาทต่อคนเป็น 45,000-50,000 บาทต่อคน”
บริษัทยังมีแผนการจัดโปรโมชั่นส่งเสริมการขาย และปรับลดราคา ตลอดจนการจัดแพคเกจที่ดีขึ้น เพื่อคืนกำไรให้แก่ลูกค้า เนื่องจากทางบริษัทฯได้เปิดให้บริการมานานจนต้นทุนคงที่เลยจุดคุ้มทุน
ปัจจุบันทางบริษัทฯมีสาขาทั้งสิ้น 20 สาขา ในปี2551 เปิด 5 สาขาได้แก่ ปิ่นเกล้า ทาว์เวอร์ ,รถไฟฟ้าใต้ดินพหลโยธิน , เซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ ,พัทยา และ ชลบุรี ปี2552 มีแผนขยาย 3 สาขา เน้นทำเลที่เหมาะสม เพราะที่ผ่านมาได้ขยายสาขามากเพียงพอรองรับลูกค้าแล้ว
กลยุทธ์ทางการตลาดในปี 2552 เตรียมงบ 300 ล้านบาท เท่ากับปีนี้ เน้นแบบ บีโลว์เดอะไลน์ เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายและความต้องการของลูกค้า เพราะ แบบMass Media หรือใช้ พรีเซ็นเตอร์เป็นกลยุทธ์ เริ่มอิ่มตัวแล้ว และมีแผนจับมือพันธมิตรกลุ่มบัตรเครดิตทุกๆธนาคาร จัดกิจกรรมมอบสิทธิประโยชน์ เพื่อกระตุ้นการจับจ่าย
นางสาวศศิวีณ์ ซื่อตรง ผู้จัดการทั่วไปมารีฟรานซ์ บอดี้ไลน์ เปิดเผยว่า ตลาดรวมของสถาบันลดน้ำหนักและสัดส่วนในปีนี้อยู่ที่ 3,000 ล้านบาท ทั้งนี้มั่นใจว่าในสิ้นปี2551 ทางบริษัทฯจะมีส่วนแบ่งทางการตลาดที่ 60% มากกว่าปี2550 ที่มีส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ที่ 58%
ล่าสุดทางบริษัทฯได้แตกไลน์ธุรกิจขยายเซกเมนท์ใหม่ไปยังกลุ่มผลิตภัณฑ์สกินแคร์ภายใต้ชื่อ” เบลล่า”(Bella) ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่นำเข้ามาจากประเทศอเมริกา และเพิ่มพื้นที่ภายในแต่ละสาขาให้บริการลูกค้าเกี่ยวกับผิวหน้าด้วยผลิตภัณฑ์ เบลล่า
นางสาวศศิวีณ์ กล่าวว่า การเพิ่มธุรกิจสกินแคร์ เพื่อต้องการให้บริการลูกค้าแบบครบวงจร One Stop Shopping อีกทั้งทิศทางตลาดสกินแคร์มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องสวนกระแสเศรษฐกิจ เพราะความงามเป็นสิ่งที่มีความจำเป็นต่อผู้หญิง ตั้งเป้าผลิตภัณฑ์ “เบลล่า” จะช่วยขยายฐาน ในส่วนของบริการทรีตเมนต์ตัว ให้เติบโตขึ้นอีก 20% ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่มาจากฐานลูกค้าเก่าที่มีใช้บริการ
สำหรับภาพรวมของสถาบันลดน้ำหนักและสัดส่วนในปี2552 มองว่าจะไม่โตไปกว่านี้ เนื่องจากมีผู้ประกอบการไม่กี่รายในธุรกิจนี้ ขณะที่แบรนด์ท้องถิ่นจะต้องวางแผนแบบรัดกุมมากกว่าเดิม แต่ในส่วนของทางบริษัทฯซึ่งเป็นแบรนด์ระดับอินเตอร์ ก็ยังคงต้องมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
“ทางบริษัทฯ มีการปรับตัวมาตลอดอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์ทางการเมืองหรือเศรษฐกิจ ดังนั้นจึงไม่มีผลกระทบกับทางบริษัทฯ การขยายสาขายังคงเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ รวมทั้งจะไม่มีการปลดพนักงาน แต่ในทางกลับกันสถานการณ์ต่างๆกับทำให้ยอดใช้จ่ายของผู้เข้ามาใช้บริการต่อหัวเพิ่มขึ้นจากเดิม คือจาก 35,000-40,000 บาทต่อคนเป็น 45,000-50,000 บาทต่อคน”
บริษัทยังมีแผนการจัดโปรโมชั่นส่งเสริมการขาย และปรับลดราคา ตลอดจนการจัดแพคเกจที่ดีขึ้น เพื่อคืนกำไรให้แก่ลูกค้า เนื่องจากทางบริษัทฯได้เปิดให้บริการมานานจนต้นทุนคงที่เลยจุดคุ้มทุน
ปัจจุบันทางบริษัทฯมีสาขาทั้งสิ้น 20 สาขา ในปี2551 เปิด 5 สาขาได้แก่ ปิ่นเกล้า ทาว์เวอร์ ,รถไฟฟ้าใต้ดินพหลโยธิน , เซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ ,พัทยา และ ชลบุรี ปี2552 มีแผนขยาย 3 สาขา เน้นทำเลที่เหมาะสม เพราะที่ผ่านมาได้ขยายสาขามากเพียงพอรองรับลูกค้าแล้ว
กลยุทธ์ทางการตลาดในปี 2552 เตรียมงบ 300 ล้านบาท เท่ากับปีนี้ เน้นแบบ บีโลว์เดอะไลน์ เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายและความต้องการของลูกค้า เพราะ แบบMass Media หรือใช้ พรีเซ็นเตอร์เป็นกลยุทธ์ เริ่มอิ่มตัวแล้ว และมีแผนจับมือพันธมิตรกลุ่มบัตรเครดิตทุกๆธนาคาร จัดกิจกรรมมอบสิทธิประโยชน์ เพื่อกระตุ้นการจับจ่าย