ผู้จัดการรายวัน- “อคานโด”สบช่องตลาดการบริหารที่อยู่อาศัยให้เช่าเติบโต ลุยตั้งบริษัทโบกเกอร์ ชี้ตลาดไม่แย่อย่างที่คิด ยังมีกลุ่มทุนกระแสเงินสดไล่ชอปที่ดิน รอพัฒนาช่วงตลาดดีดตัว ระบุมาตรการ3อ่อนไม่ช่วยอะไรอสังหาฯ แน่จริงลดVATเหลือ 5% ให้ต่างชาติถือครองอสังหาฯได้เต็มที่
นายโจเอล ริชาร์ด เฟลด์แมน กรรมการผู้จัดการ บริษัท อคานโด จำกัด กล่าวว่า ทางบริษัทฯได้ดำเนินการจัดตั้งบริษัทใหม่ภายใต้ชื่อ " อคานโด เรียล เอสเตท จำกัด "เพื่อวัตถุประสงค์ให้บริการตัวแทนฝ่ายขายอสังหาฯ บริการธุรกิจให้เช่า ประเมินความเป็นไปได้การลงทุน การขายอสังหาริมทรัพย์ โดยมีทุนจดทะเบียนเบื้องต้น 4 ล้านบาท โดยปัจจุบัน บริษัทมีลูกค้าอยู่ 7 ราย ประกอบด้วย กองทุนรวมลิซมันพร็อเพอร์ตี้ ,บริษัทไรมอนแลนด์ ,กองทุนรวมเอ็มจีพีเอ ,บริษัท ทิลลิกี้ แอนด์ กินบินส์ จำกัด ,บริษัท แมนเนอร์ พาร์ควัน จำกัด , บริษัทหัวหิน 88 จำกัด และบริษัท บีชฟร้อนท์ ดีเวลลอมเมนท์ จำกัด
ทั้งนี้ การเข้ามาตลาดดังกล่าว เนื่องจากเห็นว่าโอกาสความเป็นไปได้ยังมีอยู่ ไม่ได้ตกต่ำตามการคาดการณ์ของผู้ประกอบการหลายๆราย เนื่องจากในภาวะที่ตลาดอยู่ในช่วงขาลง จะยังมีกลุ่มนักลงทุนที่มีกระแสเงินสด ไล่ซื้อที่ดินเพื่อรอการพัฒนาในช่วงตลาดอสังหาฯปรับตัวดีขึ้น
สำหรับกลุ่มลูกค้าของบริษัทฯนั้น ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มลูกค้าคนไทย 95% ส่วนอีก 15% เป็นลูกค้าชาวต่างชาติ ทั้งนี้ หลังจากที่ชาวต่างชาติที่เข้ามาทำงานในไทยลดลง จากการเรียกตัวบุคคลากรกลับประเทศ ทำให้ตลาดไฮเอนด์ค่อนข้างแย่ลง แต่ในขณะเดียวกัน ตลาดระดับกลาง-ล่างกลับฟื้นตัวดีขึ้น เนื่องจากความต้องการเช่าที่อยู่อาศัยของคนไทยยังมีต่อนเอง ซึ่งเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องปกติ เพราะเรื่องที่อยู่อาศัยเป็นสิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิต ไม่ว่าภาวะเศรษฐกิจจะปรับตัวอย่างไร
นายโจเอล กล่าวว่า ความเชื่อมั่นต่อการลงทุนในประเทศไทยนั้น บริษัทฯมีความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจไทยมากกว่าการเมือง ซึ่งหากการเมืองมีความมั่นคงก็เชื่อว่าเศรษฐกิจไทยจะไปได้ไกลกว่าปัจจุบันแน่นอน ส่วนความเห็นต่อการออกมาตรการ3 อ่อนนั้น เชื่อว่าไม่น่าจะกระตุ้นหรือช่วยให้ตลาดอสังหาฯดีขึ้น แต่จะช่วยเรื่องการส่งออกมากกว่า ซึ่งหากรัฐบาลต้องการให้กระตุ้นการลงทุนอสังหาฯ รัฐบาลควรออกมาตรการที่ใหญ่กว่า เช่น การลดภาษีมูลค่าเพิ่มเหลือ 5% เพื่อกระตุ้นการบริโภค แก้กฎเกณฑ์การถือครองสิทธิ์ในที่ดินหรือคอนโดมิเนียม เพื่อให้ชาวต่างชาติเข้ามาซื้อที่อยู่อาศัยในประเทศ ซึ่งจะช่วยผลักดันให้ตลาดอสังหาฯขยายตัวจากได้มากกว่ามาตรการที่ออกมา
นายโจเอล ริชาร์ด เฟลด์แมน กรรมการผู้จัดการ บริษัท อคานโด จำกัด กล่าวว่า ทางบริษัทฯได้ดำเนินการจัดตั้งบริษัทใหม่ภายใต้ชื่อ " อคานโด เรียล เอสเตท จำกัด "เพื่อวัตถุประสงค์ให้บริการตัวแทนฝ่ายขายอสังหาฯ บริการธุรกิจให้เช่า ประเมินความเป็นไปได้การลงทุน การขายอสังหาริมทรัพย์ โดยมีทุนจดทะเบียนเบื้องต้น 4 ล้านบาท โดยปัจจุบัน บริษัทมีลูกค้าอยู่ 7 ราย ประกอบด้วย กองทุนรวมลิซมันพร็อเพอร์ตี้ ,บริษัทไรมอนแลนด์ ,กองทุนรวมเอ็มจีพีเอ ,บริษัท ทิลลิกี้ แอนด์ กินบินส์ จำกัด ,บริษัท แมนเนอร์ พาร์ควัน จำกัด , บริษัทหัวหิน 88 จำกัด และบริษัท บีชฟร้อนท์ ดีเวลลอมเมนท์ จำกัด
ทั้งนี้ การเข้ามาตลาดดังกล่าว เนื่องจากเห็นว่าโอกาสความเป็นไปได้ยังมีอยู่ ไม่ได้ตกต่ำตามการคาดการณ์ของผู้ประกอบการหลายๆราย เนื่องจากในภาวะที่ตลาดอยู่ในช่วงขาลง จะยังมีกลุ่มนักลงทุนที่มีกระแสเงินสด ไล่ซื้อที่ดินเพื่อรอการพัฒนาในช่วงตลาดอสังหาฯปรับตัวดีขึ้น
สำหรับกลุ่มลูกค้าของบริษัทฯนั้น ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มลูกค้าคนไทย 95% ส่วนอีก 15% เป็นลูกค้าชาวต่างชาติ ทั้งนี้ หลังจากที่ชาวต่างชาติที่เข้ามาทำงานในไทยลดลง จากการเรียกตัวบุคคลากรกลับประเทศ ทำให้ตลาดไฮเอนด์ค่อนข้างแย่ลง แต่ในขณะเดียวกัน ตลาดระดับกลาง-ล่างกลับฟื้นตัวดีขึ้น เนื่องจากความต้องการเช่าที่อยู่อาศัยของคนไทยยังมีต่อนเอง ซึ่งเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องปกติ เพราะเรื่องที่อยู่อาศัยเป็นสิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิต ไม่ว่าภาวะเศรษฐกิจจะปรับตัวอย่างไร
นายโจเอล กล่าวว่า ความเชื่อมั่นต่อการลงทุนในประเทศไทยนั้น บริษัทฯมีความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจไทยมากกว่าการเมือง ซึ่งหากการเมืองมีความมั่นคงก็เชื่อว่าเศรษฐกิจไทยจะไปได้ไกลกว่าปัจจุบันแน่นอน ส่วนความเห็นต่อการออกมาตรการ3 อ่อนนั้น เชื่อว่าไม่น่าจะกระตุ้นหรือช่วยให้ตลาดอสังหาฯดีขึ้น แต่จะช่วยเรื่องการส่งออกมากกว่า ซึ่งหากรัฐบาลต้องการให้กระตุ้นการลงทุนอสังหาฯ รัฐบาลควรออกมาตรการที่ใหญ่กว่า เช่น การลดภาษีมูลค่าเพิ่มเหลือ 5% เพื่อกระตุ้นการบริโภค แก้กฎเกณฑ์การถือครองสิทธิ์ในที่ดินหรือคอนโดมิเนียม เพื่อให้ชาวต่างชาติเข้ามาซื้อที่อยู่อาศัยในประเทศ ซึ่งจะช่วยผลักดันให้ตลาดอสังหาฯขยายตัวจากได้มากกว่ามาตรการที่ออกมา