xs
xsm
sm
md
lg

ต้องสวยเพียบพูนด้วยเสน่ห์ ฉลาด และแสนดี?

เผยแพร่:   โดย: ราวี เวียงพยัคฆ์

อาจจะเป็นเพราะเราถูกสั่งสอนมาแต่ไหนแต่ไรว่า คนล้มอย่าข้าม เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร หรือไม่ก็ต้องเคยดูตอนจบของนิยายอิจฉาริษยาที่คนร้าย คนโกง มักจะได้รับการอภัยจากนางเอกที่แสนซื่อ แสนดี แสนบริสุทธิ์ ทั้งที่ตลอดทั้งเรื่อง ไอ้คนที่เล่นบทร้าย บทโกง คอยกลั่นแกล้งนางเอกสารพัด เมื่อเห็นภาพอดีตนายกรัฐมนตรีหุ่น นายสมัคร สุนทรเวช นั่งคอตกหมดสภาพอยู่ที่สนามบินฮุสตัน สหรัฐอเมริกา จึงมีคนจำนวนไม่น้อยที่เห็นว่า คนไทยที่ไปถือป้ายบอกให้นายสมัคร สุนทรเวช และภริยาของเขารู้ว่า เวรกรรมมีจริง ไม่ต้องรอถึงชาติหน้า ออกจะโหดร้ายทารุณไปหน่อย

ขัดกับขนบธรรมเนียมประเพณีไทยที่สั่งสอนกันมาว่า คนล้มอย่าข้าม เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร หรืออะไรทำนองนี้อีกมากมาย

นิยายอิจฉาริษยานั้นตอนจบตัวโกงมักจะสำนึกผิด ซึ่งเมื่อนางเอกที่แสนดีให้อภัยคนอ่าน คนดู ก็พอจะทำใจคล้อยตามเพื่อที่จะเป็นคนดี คนซื่อ บริสุทธิ์ได้ แต่ดูเหมือนว่านายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรีหุ่นนอมินีที่แสนซื่อของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ดูจะไม่สำนึกเลยว่า เขาได้ก่อกรรมทำเข็ญอย่างไรไว้บ้างกับสังคมไทย การเมืองไทย

เหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 เขามีส่วนสำคัญในการปลุกระดมให้ผู้คนในสังคมของเราเข้าใจว่า ภายในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์มีการสั่งสมอาวุธ มีพวกญวน พวกแกวที่พร้อมที่จะทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ สมควรที่จะถูกฆ่า ถูกกวาดล้างไปสัก 2-3 พันคน

แล้วในที่สุดก็เกิดการเข่นฆ่าขึ้นในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ บางคนถูกฆ่าเผายาง แขวนคอ นักศึกษาหญิงบางคนถูกทารุณอย่างโหดร้าย

นายสมัคร สุนทรเวช บอกว่า เหตุการณ์นั้นมีคนตายคนเดียว!

น่าสมเพชก็ตรงที่นิสิต นักศึกษาบางคนที่ต้องหนีเข้าป่าในวันนั้นกลับมาสนับสนุนนายสมัคร สุนทรเวช ในวันนี้

หรือจากจดหมายที่เขาร่อนมาจากสหรัฐอเมริกาเพื่อบอกกล่าวคนไทยว่า 7 เดือนที่เขาอยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้สร้างคุณูปการให้กับประเทศชาติและประชาชน

พูดได้โดยที่ไม่อายปาก

เพียง 2-3 เดือนที่มาเป็นนายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรีที่นายสมัคร สุนทรเวช บอกเองว่า ถูกประชาชนมองว่า ไม่รู้ว่ามาจากนรกขุมไหนนั้น จ้องแต่ที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อฟอกผิดให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และครอบครัว รวมทั้งเพื่อที่จะไม่ให้พรรคร่วมรัฐบาลต้องรับผิดในกรณีที่ทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ทำผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับการเลือกตั้ง

นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีหุ่นพูดอยู่เสมอว่า รัฐธรรมนูญฉบับที่ใช้อยู่ในปัจจุบันเขียนเป็นหลุมพรางเอาไว้ เป็นกับดักเอาไว้ที่จะยุบพรรคพลังประชาชนที่เขาเป็นหัวหน้าพรรคอยู่ ทั้งที่บทบัญญัติของรัฐธรรมนูญนั้นใช้กับทุกพรรคการเมือง ใช้กับประชาชนทั้งประเทศ ไม่ได้มีตรงไหนที่ซ่อนเร้นอำพรางเลยแม้แต่น้อย

7 เดือนที่อยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช นอกจากคอยที่จะรับใช้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ช่วยให้เขาได้เป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว อีกอย่างที่เขาพยายามอย่างยิ่งก็คือ การผ่านเมกะโปรเจกต์ที่จะใช้งบประมาณนับหมื่นนับแสนล้านบาท แต่ละโครงการชวนให้สงสัยทั้งนั้นว่า ไม่สะอาด ไม่บริสุทธิ์

อย่าว่าแต่รถและเรือดับเพลิงที่นายสมัคร สุนทรเวช มีส่วนสำคัญยิ่งในการซื้อเอาไว้ก่อนที่เขาจะพ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครที่ใช้เงินภาษีของประชาชนซื้อทิ้งเอาไว้ตากแดดตากฝนอยู่ขณะนี้ และรอ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด รอลากคอคนผิดเข้าคุกเข้าตะรางอยู่ขณะนี้

นายสมัคร สุนทรเวช เคยสำนึกถึงความผิดของเขาสักน้อยนิดไหม?

เมื่อศาลรัฐธรรมนูญด้วยเสียงข้างมากมีมติว่าการไปจัดรายการชิมไปบ่นไป ขัดกับบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ เขาต้องพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 9 กันยายน 2551 นายสมัคร และบริษัทบริวารของเขาก็ยังไม่รู้อีกว่า เขาทำอะไรผิด เรามักจะได้ยินอยู่เสมอว่า “ทำกับข้าวถูกปลด เป็นกบฏถูกปล่อย” ซึ่งหมายถึงว่า เพียงนายสมัคร สุนทรเวช ทำกับข้าวออกรายการทีวีก็ถูกศาลรัฐธรรมนูญปลด แต่แกนนำพันธมิตรฯ และคนอื่นๆ รวม 9 คนถูกตำรวจตั้งข้อหากบฏกลับถูกศาลปล่อย

พวกเขาพูดความจริงเพียงเสี้ยว ครึ่งเสี้ยว ไม่พูดความจริงทั้งหมด

ถูกต้องที่ทำกับข้าวถูกปลด เป็นกบฏถูกปล่อย แต่ความจริงยิ่งกว่าประโยคดังกล่าวนี้ก็คือ นายสมัคร ไม่ได้ทำกับข้าวอย่างเดียว หากแต่ศาลเชื่อว่า รับเงิน รับผลประโยชน์จากการทำกับข้าวเดือนละเกือบแสนบาท ซึ่งรัฐธรรมนูญเขียนห้ามไว้ไม่ให้ทำ เพราะเป็นการขัดกันในผลประโยชน์

ตัวเป็นนายกรัฐมนตรีไปจัดรายการอย่างนั้น บริษัทห้างร้านก็ต้องเกรงอกเกรงใจให้โฆษณา หรือให้ผลประโยชน์อย่างอื่นตอบแทนกัน (เจ้าของสปอนเซอร์รายหนึ่งก็ได้รับแต่งตั้งให้เป็นบอร์ดในการบินไทย)

เป็นกบฏถูกปล่อยนั่นก็ถูกอีก เพราะข้อหากบฏเป็นข้อหาที่ตำรวจยัดเยียดให้กับแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ศาลพิจารณาแล้วเห็นว่า องค์ประกอบความผิดยังไม่ถึงขั้นเป็นกบฏ ก็ต้องถอนข้อหาไปเหลือข้อหาอย่างอื่นที่ไม่ร้ายแรงเหมือนเป็นกบฏ

การไม่รู้สึกผิด หรือไม่มีสำนึกแม้แต่น้อยนี้ไม่ได้เกิดขึ้นแต่จำเพาะนายสมัคร สุนทรเวช แม้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก็ดูเหมือนจะยังไม่สำนึก ทั้งที่ศาลตัดสินให้คุณหญิงพจมาน ชินวัตร ถูกจำคุก 3 ปีนั้น เขาจาระไนความผิดเอาไว้ชัดแจ้ง ชัดเจนว่า จงใจหลีกเลี่ยงภาษีอย่างไรบ้าง ให้ปากคำที่เป็นเท็จต่อเจ้าหน้าที่ในเรื่องใดบ้าง หรือที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตัดสินจำคุก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร 2 ปี ในคำพิพากษาก็เขียนเอาไว้อย่างกระจะกระจ่างว่าทำความผิดอะไรไว้

แต่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก็ยังไม่ละอายที่เที่ยวได้บอกใครต่อใครว่า เป็นการกลั่นแกล้ง เป็นความพยายามที่จะกีดกันเขาออกจากเวทีการเมือง เขาเป็นประชาธิปไตย เขามาจากการเลือกตั้งของประชาชน เขาเป็นนายกรัฐมนตรีที่เป็นประชาธิปไตย รักห่วงใยประชาชน เขารวยแล้ว เขาไม่โกง เขาอยากเสียภาษีหลังจากขายธุรกิจให้เทมาเส็กใจแทบขาด แต่การซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ เขาไม่เก็บภาษี เขาต้องไปอยู่อังกฤษ เขาเลือกอังกฤษเพราะอังกฤษเป็นประเทศประชาธิปไตย ฯลฯ

วันนี้อังกฤษไม่ให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เข้าประเทศแล้ว

วันนี้นายสมัคร สุนทรเวช ซึ่งถนัดในการสาบถสาบานว่า ถ้าหากผมโกง ผมทุจริต ขอให้มีอันเป็นไป

เพื่อที่จะเป็นคนดีของสังคม เพื่อความซื่อบริสุทธิ์เหมือนดอกไม้แรกแย้ม สมควรที่พวกเขาจะต้องท่องคำว่า เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร คนล้มอย่าข้าม

แม้ว่าคนคนนั้นจะชั่วช้า เลวทราม สักเพียงใดก็ตาม

กำลังโหลดความคิดเห็น