00ในที่สุดการโฟนอิน ของ"เสี่ยแม้ว" ผ่านรายการ"ความจริงวันนี้สัญจร" ที่ราชมังคลากีฬาสถาน เมื่อ
วันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา ก็ไม่ได้ผิดไปจากความคาดหมาย คือยังมีการโจมตีกระบวนการยุติธรรม ว่า
กลั่นแกล้ง จนต้องถูกพิพากษาให้จำคุก และยังบอกว่า จะกลับเข้าประเทศหรือไม่ ขึ้นอยู่กับพระมหา
กรุณาธิคุณ
00 ความจริงแล้ว "เสี่ยแม้ว" สามารถกลับเข้าประเทศได้ทุกเวลา หากเป็นการมาเพื่อต่อสู้คดี และหาก
คดีถึงที่สุดแล้วคำพิพากษาของศาลยังให้จำคุกเหมือนเดิม ค่อยยื่นถวายฎีกา เพื่อขอพระราช
ทานอภัยโทษ จึงเป็นกระบวนการที่ถูกต้อง ไม่ใช่หนีคดีอยู่นอกประเทศแล้วจะมาใช้วิธีให้ลิ่วล้อล่า
รายชื่อประชาชนเพื่อถวายฎีกานั้น เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เพราะเท่ากับเป็นการดึงเอาสถาบันเบื้องสูง กับ
สถาบันตุลาการ ลงมาพัวพันกับปัญหาของตัวเอง อีกทั้งเป็นการปลุกระดมกลุ่ม"เสื้อแดง" หวังจะให้
มาปะทะกลับ"พันธมิตรฯเสื้อเหลือง" ชัดๆ
00 ด้านนายกฯหน้าใส ใจโหด บอกหน้าตาเฉย ไม่ได้ดู ไม่ได้ฟัง "พี่เมีย" โฟนอิน และยังไม่ได้ดูเทป
แถมปัดความรับผิดชอบโดยสิ้นเชิง หากมีคำพูดที่ไม่เหมาะสม ผู้จัดรายการก็ต้องรับผิดชอบไป ไม่
เกี่ยวกับรัฐบาล
00 ด้านหนึ่งทำตัวเป็นพรีเซ็นเตอร์ ให้โครงการสานเสวนาของนักวิชาการกลางกลวง โชว์เสื้อ"ยุติ
ความรุนแรง" แต่อีกด้านกลับเดินเกมให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ด้วยการตั้ง ส.ส.ร.3 ทั้งๆ ที่
รู้ว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้นคือชนวนของความขัดแย้งมาตั้งแต่ต้น และหากยังดึงดันต่อไปแล้วจะ
ยุติความรุนแรงได้อย่างไร
00 เมื่ออยากจะแก้รัฐธรรมนูญกันนัก "เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ" ส.ว.นักตรวจสอบ เลยเสนอโมเดลใน
การตรวจสอบนักการเมือง ให้บรรจุไว้ในรัฐธรรมนูญเสียเลย คือ นักการเมืองต้องชี้แจงที่มาที่ไปของ
ทรัพย์สินให้ชัดเจน รวมทั้งระบุด้วยว่าเสียภาษีหรือยัง ถ้าบอกที่มา ที่ไปไม่ได้ ให้อายัดทรัพย์นั้นไว้
ก่อน จนกว่าจะชี้แจงได้ ถ้าชี้แจงไม่ได้ก็ยึด และถ้ายังไม่เสียภาษีก็ต้องเสียหนักขึ้นพร้อมค่าปรับ
อย่างนี้จึงจะขจัดนักการเมืองโกงกินได้
00 จนถึงวันนี้ เรื่อง "คลิปคนหน้าเหมือนสมชาย" ก็ยังคงเป็นคลิปสุดฮอต ที่ใครๆ ก็อยากดู คนที่ดู
แล้วก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า "เหมือนจริงๆอย่างไม่ต้องสงสัย" แต่ก็ยังไม่มีคำพูดอะไรหลุดจากปาก
นายกฯ นอกจากรอยยิ้ม ทั้งๆ ที่เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญเกี่ยวกับจริยธรรมของผู้บริหาร ถ้าไม่ใช่ก็บอกมา
เลยว่าไม่ใช่ แต่ถ้าใช่ก็ออกไปเถอะ
วันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา ก็ไม่ได้ผิดไปจากความคาดหมาย คือยังมีการโจมตีกระบวนการยุติธรรม ว่า
กลั่นแกล้ง จนต้องถูกพิพากษาให้จำคุก และยังบอกว่า จะกลับเข้าประเทศหรือไม่ ขึ้นอยู่กับพระมหา
กรุณาธิคุณ
00 ความจริงแล้ว "เสี่ยแม้ว" สามารถกลับเข้าประเทศได้ทุกเวลา หากเป็นการมาเพื่อต่อสู้คดี และหาก
คดีถึงที่สุดแล้วคำพิพากษาของศาลยังให้จำคุกเหมือนเดิม ค่อยยื่นถวายฎีกา เพื่อขอพระราช
ทานอภัยโทษ จึงเป็นกระบวนการที่ถูกต้อง ไม่ใช่หนีคดีอยู่นอกประเทศแล้วจะมาใช้วิธีให้ลิ่วล้อล่า
รายชื่อประชาชนเพื่อถวายฎีกานั้น เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เพราะเท่ากับเป็นการดึงเอาสถาบันเบื้องสูง กับ
สถาบันตุลาการ ลงมาพัวพันกับปัญหาของตัวเอง อีกทั้งเป็นการปลุกระดมกลุ่ม"เสื้อแดง" หวังจะให้
มาปะทะกลับ"พันธมิตรฯเสื้อเหลือง" ชัดๆ
00 ด้านนายกฯหน้าใส ใจโหด บอกหน้าตาเฉย ไม่ได้ดู ไม่ได้ฟัง "พี่เมีย" โฟนอิน และยังไม่ได้ดูเทป
แถมปัดความรับผิดชอบโดยสิ้นเชิง หากมีคำพูดที่ไม่เหมาะสม ผู้จัดรายการก็ต้องรับผิดชอบไป ไม่
เกี่ยวกับรัฐบาล
00 ด้านหนึ่งทำตัวเป็นพรีเซ็นเตอร์ ให้โครงการสานเสวนาของนักวิชาการกลางกลวง โชว์เสื้อ"ยุติ
ความรุนแรง" แต่อีกด้านกลับเดินเกมให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ด้วยการตั้ง ส.ส.ร.3 ทั้งๆ ที่
รู้ว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้นคือชนวนของความขัดแย้งมาตั้งแต่ต้น และหากยังดึงดันต่อไปแล้วจะ
ยุติความรุนแรงได้อย่างไร
00 เมื่ออยากจะแก้รัฐธรรมนูญกันนัก "เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ" ส.ว.นักตรวจสอบ เลยเสนอโมเดลใน
การตรวจสอบนักการเมือง ให้บรรจุไว้ในรัฐธรรมนูญเสียเลย คือ นักการเมืองต้องชี้แจงที่มาที่ไปของ
ทรัพย์สินให้ชัดเจน รวมทั้งระบุด้วยว่าเสียภาษีหรือยัง ถ้าบอกที่มา ที่ไปไม่ได้ ให้อายัดทรัพย์นั้นไว้
ก่อน จนกว่าจะชี้แจงได้ ถ้าชี้แจงไม่ได้ก็ยึด และถ้ายังไม่เสียภาษีก็ต้องเสียหนักขึ้นพร้อมค่าปรับ
อย่างนี้จึงจะขจัดนักการเมืองโกงกินได้
00 จนถึงวันนี้ เรื่อง "คลิปคนหน้าเหมือนสมชาย" ก็ยังคงเป็นคลิปสุดฮอต ที่ใครๆ ก็อยากดู คนที่ดู
แล้วก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า "เหมือนจริงๆอย่างไม่ต้องสงสัย" แต่ก็ยังไม่มีคำพูดอะไรหลุดจากปาก
นายกฯ นอกจากรอยยิ้ม ทั้งๆ ที่เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญเกี่ยวกับจริยธรรมของผู้บริหาร ถ้าไม่ใช่ก็บอกมา
เลยว่าไม่ใช่ แต่ถ้าใช่ก็ออกไปเถอะ