ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ – ศูนย์เศรษฐกิจการลงทุนภาคที่ 1 เผย 9 เดือนแรกปี 51 นักลงทุน 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบนยื่นขอส่งเสริมการลงทุนเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ได้รับอนุมัติลดลงเหลือมูลค่าการลงทุนเพียง 1,200 ล้านบาท จากปีก่อน 4,000 กว่าล้านบาท อย่างไรก็ตามยังเชื่อช่วงที่เหลือของปีน่าจะอยู่ในเกณฑ์ดีเนื่องจากยังมีโครงการลงทุนที่จ่อคิวรอพิจารณาอนุมัติอีกเพียบ
นางบุษกร วุฒิวิจารณ์ ผู้อำนวยการศูนย์เศรษฐกิจภาคลงทุนภาคที่ 1 กล่าวถึงภาวะการลงทุนในพื้นที่ 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบนช่วง 9 เดือนของปี 2551 ว่า มีจำนวนโครงการขอรับการส่งเสริมการลงทุน 40 โครงการ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มี 30 โครงการ หรือเพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 33 ขณะที่มูลค่าการลงทุนเพิ่มขึ้นเป็น 3,335.30 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีมูลค่าการลงทุน 3,284.10 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 1.56
นส่วนของโครงการที่ได้รับการอนุมัติส่งเสริมการลงทุนในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2551 มีจำนวนทั้งสิ้น 29 โครงการ มูลค่าการลงทุน 1,253.9 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีโครงการได้รับอนุมัติส่งเสริมการลงทุนทั้งสิ้น 39 โครงการ มูลค่าการลงทุน 4,446.90 ล้านบาท โดยมูลค่าการลงทุนในปีนี้ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนคิดเป็นร้อยละ 71.80 และจำนวนวนโครงการลดลงคิดเป็นร้อยละ 25.64
สำหรับประเภทกิจการที่ได้รับการอนุมัติส่งเสริมการลงทุน และมีมูลค่าการลงทุนสูงสุด คือ กลุ่มอุตสาหกรรมเกษตรและผลิตผลทางการเกษตร มูลค่าการลงทุนทั้งสิ้น 493.5 ล้านบาท รองลงมาเป็นอุตสาหกรรมบริการและสาธารณูปโภค มูลค่าการลงทุน 295 ล้านบาท อุตสาหกรรมโลหะหนัก เครื่องจักรและอุปกรณ์ขนส่ง มูลค่าการลงทุน 145.6 ล้านบาท อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า มูลค่าการลงทุน 138.2 ล้านบาท และอุตสาหกรรมเบา มูลค่าการลงทุน 136.6 ล้านบาท
ส่วนพื้นที่ที่ได้รับความสนใจสูงสุดในการลงทุนของพื้นที่ภาคเหนือตอนบน ยังคงเป็นจังหวัดลำพูน 15 โครงการ มูลค่าการลงทุน 650.90 ล้านบาท รองลงมาเป็นจังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 12 โครงการ มูลค่าการลงทุน 592 ล้านบาท โดยโครงการที่ได้รับการอนุมัติส่งเสริมการลงทุนทั้งหมด 29 โครงการในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้นั้น ล้วนเป็นการลงทุนของผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม(SMEs) ซึ่งมีขนาดการลงทุนไม่เกิน 200 ล้านบาททั้งสิ้น แบ่งเป็นขนาดการลงทุนไม่เกิน 20 ล้านบาท 11 โครงการ และขนาดการลงทุน 20-200 ล้านบาท 18 โครงการ
ขณะเดียวกันนางบุษกร กล่าวถึงภาวะการลงทุนในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปี 2551 ว่า ยังคงมีความคาดหวังว่าจะอยู่ในเกณฑ์ที่ดี โดยดูจากการแสดงความจำนงขอรับการสนับสนุนการลงทุนของนักลงทุน ที่มีเข้ามายังสำนักงาน และกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณา
สำหรับปัจจัยและสถานการณ์ต่างๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อการลงทุน เชื่อว่าเบื้องต้นยังไม่น่าจะมีผลกระทบต่อการลงทุนในพื้นที่ภาคเหนือตอนบนช่วงที่เหลือของปีนี้มากนัก เพราะส่วนใหญ่เป็นการลงทุนที่มีการวางแผนมาล่วงหน้าแล้ว และนักลงทุนส่วนใหญ่ก็เป็นกลุ่มนักลงทุนทุนไทยมากกว่าต่างชาติ อย่างไรก็ตาม ผลกระทบที่จะตามมาในปีหน้าคงจะต้องมีการประเมินกันอีกครั้งหนึ่ง
“ปัญหาภาวะเศรษฐกิจโลกที่เกิดขึ้นอยู่ตอนนี้ ยังไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อการลงทุนในช่วงที่เหลือของปีนี้มากนัก เพราะส่วนใหญ่เป็นการลงทุนที่มีการวางแผนมาล่วงหน้าแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ภาคเหนือตอนบนน่าจะได้รับผลกระทบไม่มากเนื่องจากการลงทุนส่วนใหญ่มาจากนักลงทุนชาวไทย ส่วนผลกระทบที่จะเกิดขึ้นในปีหน้าก็คงจะต้องมีการหารือและประเมินร่วมกันอีกครั้งว่าจะเป็นอย่างไร” ผู้อำนวยการศูนย์เศรษฐกิจภาคลงทุนภาคที่ 1 กล่าว
นางบุษกร วุฒิวิจารณ์ ผู้อำนวยการศูนย์เศรษฐกิจภาคลงทุนภาคที่ 1 กล่าวถึงภาวะการลงทุนในพื้นที่ 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบนช่วง 9 เดือนของปี 2551 ว่า มีจำนวนโครงการขอรับการส่งเสริมการลงทุน 40 โครงการ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มี 30 โครงการ หรือเพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 33 ขณะที่มูลค่าการลงทุนเพิ่มขึ้นเป็น 3,335.30 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีมูลค่าการลงทุน 3,284.10 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 1.56
นส่วนของโครงการที่ได้รับการอนุมัติส่งเสริมการลงทุนในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2551 มีจำนวนทั้งสิ้น 29 โครงการ มูลค่าการลงทุน 1,253.9 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีโครงการได้รับอนุมัติส่งเสริมการลงทุนทั้งสิ้น 39 โครงการ มูลค่าการลงทุน 4,446.90 ล้านบาท โดยมูลค่าการลงทุนในปีนี้ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนคิดเป็นร้อยละ 71.80 และจำนวนวนโครงการลดลงคิดเป็นร้อยละ 25.64
สำหรับประเภทกิจการที่ได้รับการอนุมัติส่งเสริมการลงทุน และมีมูลค่าการลงทุนสูงสุด คือ กลุ่มอุตสาหกรรมเกษตรและผลิตผลทางการเกษตร มูลค่าการลงทุนทั้งสิ้น 493.5 ล้านบาท รองลงมาเป็นอุตสาหกรรมบริการและสาธารณูปโภค มูลค่าการลงทุน 295 ล้านบาท อุตสาหกรรมโลหะหนัก เครื่องจักรและอุปกรณ์ขนส่ง มูลค่าการลงทุน 145.6 ล้านบาท อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า มูลค่าการลงทุน 138.2 ล้านบาท และอุตสาหกรรมเบา มูลค่าการลงทุน 136.6 ล้านบาท
ส่วนพื้นที่ที่ได้รับความสนใจสูงสุดในการลงทุนของพื้นที่ภาคเหนือตอนบน ยังคงเป็นจังหวัดลำพูน 15 โครงการ มูลค่าการลงทุน 650.90 ล้านบาท รองลงมาเป็นจังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 12 โครงการ มูลค่าการลงทุน 592 ล้านบาท โดยโครงการที่ได้รับการอนุมัติส่งเสริมการลงทุนทั้งหมด 29 โครงการในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้นั้น ล้วนเป็นการลงทุนของผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม(SMEs) ซึ่งมีขนาดการลงทุนไม่เกิน 200 ล้านบาททั้งสิ้น แบ่งเป็นขนาดการลงทุนไม่เกิน 20 ล้านบาท 11 โครงการ และขนาดการลงทุน 20-200 ล้านบาท 18 โครงการ
ขณะเดียวกันนางบุษกร กล่าวถึงภาวะการลงทุนในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปี 2551 ว่า ยังคงมีความคาดหวังว่าจะอยู่ในเกณฑ์ที่ดี โดยดูจากการแสดงความจำนงขอรับการสนับสนุนการลงทุนของนักลงทุน ที่มีเข้ามายังสำนักงาน และกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณา
สำหรับปัจจัยและสถานการณ์ต่างๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อการลงทุน เชื่อว่าเบื้องต้นยังไม่น่าจะมีผลกระทบต่อการลงทุนในพื้นที่ภาคเหนือตอนบนช่วงที่เหลือของปีนี้มากนัก เพราะส่วนใหญ่เป็นการลงทุนที่มีการวางแผนมาล่วงหน้าแล้ว และนักลงทุนส่วนใหญ่ก็เป็นกลุ่มนักลงทุนทุนไทยมากกว่าต่างชาติ อย่างไรก็ตาม ผลกระทบที่จะตามมาในปีหน้าคงจะต้องมีการประเมินกันอีกครั้งหนึ่ง
“ปัญหาภาวะเศรษฐกิจโลกที่เกิดขึ้นอยู่ตอนนี้ ยังไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อการลงทุนในช่วงที่เหลือของปีนี้มากนัก เพราะส่วนใหญ่เป็นการลงทุนที่มีการวางแผนมาล่วงหน้าแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ภาคเหนือตอนบนน่าจะได้รับผลกระทบไม่มากเนื่องจากการลงทุนส่วนใหญ่มาจากนักลงทุนชาวไทย ส่วนผลกระทบที่จะเกิดขึ้นในปีหน้าก็คงจะต้องมีการหารือและประเมินร่วมกันอีกครั้งว่าจะเป็นอย่างไร” ผู้อำนวยการศูนย์เศรษฐกิจภาคลงทุนภาคที่ 1 กล่าว