ผู้จัดการรายวัน – “ทีทีเอเอ” เผยคนไทยเที่ยวนอกซบเซา ปิดเทอมยังหงอย ทั้งที่ทุกปีจะคึกคัก ระบุตลาดระยะใกล้วูบ 60% ส่วนระยะไกลกู่ไม่กลับลดฮวบ 85% จากช่วยเดียวกันของปีก่อน ส่งผลตัวเลขปีนี้ไม่เติบโต เหตุพิษเศรษฐกิจและการเมืองรุมเร้า มีผลด้านจิตวิทยา เกิดความไม่มั่นใจในอนาคต หมดอารมณ์เที่ยว หันเก็บเงินใช้ยามจำเป็น
นายเจริญ วังอนานนท์ นายกสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว หรือ ทีทีเอเอ ช่วงปิคภาคเรียนในเดือนตุลาคมปีนี้ ปริมาณนักท่องเที่ยวคนไทยที่เดินทางออกไปต่างประเทศลดลงมาก โดยตลาดยอดนิยมระยะใกล้ที่คนไทยชอบเดินทางไปเที่ยว ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น คนไทยเดินทางไปเที่ยวลดลง 60% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนตลาดระยะไกล อย่างยุโรป และอเมริกา ลดลงถึง 85%
ทั้งนี้เพราะ จากสถานการณ์การเมืองภายในประเทศ ปัญหาเศรษฐกิจโลก ที่เริ่มเห็นผลกระทบกับธุรกิจในประเทศไทย และ ประเทศเพื่อนบ้าน ส่งผลให้ คนไทยเกิดความไม่มั่นใจในอนาคต จึงชะลอการจับจ่าย เพื่อออมเงินไว้ใช้เท่าที่จำเป็น หากสถานการณ์เป็นเช่นนี้ มองว่า ยอดรวมทั้งปี ของตลาดคนไทยเที่ยวต่างประเทศอาจไม่เติบโต จากทุกปีจะโตประมณ 5-10%
“ทุกช่วงปิดเทอม คนไทยจะพาลูกหลานเที่ยว แต่ปีนี้สังเกตุได้ว่า บริษัทนำเที่ยวก็ไม่ได้ปรับขึ้นราคาแพกเกจทัวร์ แม้ต้นทุนจะเพิ่มขึ้น แต่ก็ยังไม่มีลูกค้ามาใช้บริการ เป็นไปได้ว่า ทุกคนเริ่มไม่มั่นใจเศรษฐกิจในอนาคต จึงออมเงินเก็บไว้ใช้เท่าที่จำเป็น ส่วนการเดินทางเที่ยวในประเทศก็มีบ้าง แต่ก็เป็นระยะใกล้ และไม่ได้พักค้างคืน”
ทางด้านนายเอนก ศรีชีวะชาติ ประธานที่ปรึกษาสมาคม ทีทีเอเอ กล่าวว่า กลุ่มคนไทยที่เดินทางท่องเที่ยวไปต่างประเทศ ปีนี้ ส่วนใหญ่ เป็นกลุ่ม อินเซนทีฟ หรือ ท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล ซึ่งคนกลุ่มนี้จะมีผู้จ่ายเงินซื้อแพกเกจทัวร์ให้ไปเที่ยว ส่วนกลุ่มที่ซื้อแพกเกจทัวร์ไปเที่ยวเองนั้นปีน้อยมาก และ ประเทศที่เลือกไปก็เป็นระยะใกล้ เช่น เวียดนาม
“ตอนนี้คนไทยหมดอารมณ์คิดเรื่องท่องเที่ยว เพราะ ปัญหาการเมืองและเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นปัจจัยที่นอกเหนือความสามารถที่ สมาคมท่องเที่ยวและ ททท.จะแก้ไขได้ แม้จะกระตุ้นมากเท่าใดก็คงไม่เห็นผล แต่ก็ยังหวังว่า ช่วงปลายปี คนไทยจะกลับมาเดินทางท่องเที่ยวกันคึกคัก”
นายเอนก กล่าว อีกว่า กลุ่มนักท่องเที่ยวระดับกลางถึงบน ที่ มีศักยภาพ เดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศ ขณะนี้ก็เจอปัญหาหุ้นตก ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องมาจากปัญหาทางการเงินในประเทศสหรัฐอเมริกา ทำให้ดัชนีตลาดหุ้นปรับตัวลดลงทั่วโลก กลุ่มคนที่ลงทุนในตลาดหุ้นก็ได้รับผลกระทบโดยตรง ทำให้มีเงินเหลือไปเที่ยวต่างประเทศได้น้อยลง ทั้งที่ช่วงเดือน ต.ค.-พ.ย. คนไทยจะเริ่มจองเพื่อเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศแล้ว แต่ปีนี้เงียบเหงามาก
นายเจริญ วังอนานนท์ นายกสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว หรือ ทีทีเอเอ ช่วงปิคภาคเรียนในเดือนตุลาคมปีนี้ ปริมาณนักท่องเที่ยวคนไทยที่เดินทางออกไปต่างประเทศลดลงมาก โดยตลาดยอดนิยมระยะใกล้ที่คนไทยชอบเดินทางไปเที่ยว ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น คนไทยเดินทางไปเที่ยวลดลง 60% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนตลาดระยะไกล อย่างยุโรป และอเมริกา ลดลงถึง 85%
ทั้งนี้เพราะ จากสถานการณ์การเมืองภายในประเทศ ปัญหาเศรษฐกิจโลก ที่เริ่มเห็นผลกระทบกับธุรกิจในประเทศไทย และ ประเทศเพื่อนบ้าน ส่งผลให้ คนไทยเกิดความไม่มั่นใจในอนาคต จึงชะลอการจับจ่าย เพื่อออมเงินไว้ใช้เท่าที่จำเป็น หากสถานการณ์เป็นเช่นนี้ มองว่า ยอดรวมทั้งปี ของตลาดคนไทยเที่ยวต่างประเทศอาจไม่เติบโต จากทุกปีจะโตประมณ 5-10%
“ทุกช่วงปิดเทอม คนไทยจะพาลูกหลานเที่ยว แต่ปีนี้สังเกตุได้ว่า บริษัทนำเที่ยวก็ไม่ได้ปรับขึ้นราคาแพกเกจทัวร์ แม้ต้นทุนจะเพิ่มขึ้น แต่ก็ยังไม่มีลูกค้ามาใช้บริการ เป็นไปได้ว่า ทุกคนเริ่มไม่มั่นใจเศรษฐกิจในอนาคต จึงออมเงินเก็บไว้ใช้เท่าที่จำเป็น ส่วนการเดินทางเที่ยวในประเทศก็มีบ้าง แต่ก็เป็นระยะใกล้ และไม่ได้พักค้างคืน”
ทางด้านนายเอนก ศรีชีวะชาติ ประธานที่ปรึกษาสมาคม ทีทีเอเอ กล่าวว่า กลุ่มคนไทยที่เดินทางท่องเที่ยวไปต่างประเทศ ปีนี้ ส่วนใหญ่ เป็นกลุ่ม อินเซนทีฟ หรือ ท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล ซึ่งคนกลุ่มนี้จะมีผู้จ่ายเงินซื้อแพกเกจทัวร์ให้ไปเที่ยว ส่วนกลุ่มที่ซื้อแพกเกจทัวร์ไปเที่ยวเองนั้นปีน้อยมาก และ ประเทศที่เลือกไปก็เป็นระยะใกล้ เช่น เวียดนาม
“ตอนนี้คนไทยหมดอารมณ์คิดเรื่องท่องเที่ยว เพราะ ปัญหาการเมืองและเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นปัจจัยที่นอกเหนือความสามารถที่ สมาคมท่องเที่ยวและ ททท.จะแก้ไขได้ แม้จะกระตุ้นมากเท่าใดก็คงไม่เห็นผล แต่ก็ยังหวังว่า ช่วงปลายปี คนไทยจะกลับมาเดินทางท่องเที่ยวกันคึกคัก”
นายเอนก กล่าว อีกว่า กลุ่มนักท่องเที่ยวระดับกลางถึงบน ที่ มีศักยภาพ เดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศ ขณะนี้ก็เจอปัญหาหุ้นตก ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องมาจากปัญหาทางการเงินในประเทศสหรัฐอเมริกา ทำให้ดัชนีตลาดหุ้นปรับตัวลดลงทั่วโลก กลุ่มคนที่ลงทุนในตลาดหุ้นก็ได้รับผลกระทบโดยตรง ทำให้มีเงินเหลือไปเที่ยวต่างประเทศได้น้อยลง ทั้งที่ช่วงเดือน ต.ค.-พ.ย. คนไทยจะเริ่มจองเพื่อเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศแล้ว แต่ปีนี้เงียบเหงามาก