นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ เลขานุการส่วนตัวนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรรัฐมนตรี กล่าวถึงความไม่พอใจของ ส.ส.ภาคเหนือต่อนายโอฬาร ไชยประวัติ รองนายกฯ และ รมว.คลัง ที่ไม่แก้ไขปัญหาข้าวโพดราคาตกต่ำ และมีการชุมนุม ของเครือข่ายเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดว่า ได้ข้อยุติแล้ว โดยจะนำการประกันราคารับจำนำข้าวโพลเข้าสู่ที่ประชุม ครม.ในวันอังคารที่ 28 ต.ค.นี้ ส่วนที่ไม่นำเข้า ครม.เมื่อวันอังคารที่ 21 ต.ค.จนนำมาซึ่งความไม่พอใจเพราะนายโอฬาร ต้องการ ความมั่นใจเรื่องราคาต้นทุน และอยู่ในระหว่างตรวจสอบกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ผู้สื่อข่าวถามว่านายโอฬาร ซึ่งเป็นคนนอกพรรคพลังประชาชน มีความกังวลกับการที่มีกลุ่มส.ส.ภาคเหนือของพรรคมากดดันหรือไม่ นายบุญทรงกล่าวว่า ไม่มีอะไร เป็นเรื่องของพรรค คุยกันได้ เมื่อถามว่า ทางพรรคจะกำชับไม่ให้ส.ส.ออกมา เคลื่อนไหวเพราะรัฐบาลมีปัญหาภายนอกมากอยู่แล้วหรือไม่ นายบุญทรง กล่าวว่า อาทิตย์นี้ทั้งนายโอฬาร และนายกรัฐมนตรี ไม่สามารถเข้าประชุมพรรคได้ เพราะติดภารกิจ ซึ่งไม่มีเวลาคุยกัน หลังจากนี้คิดว่าไม่มีปัญหา
ต่อข้อถามว่ากังวลความเคลื่อนไหวทั้งในและนอกพรรคบ้างหรือไม่ นายบุญทรงกล่าวว่า ไม่น่าจะมีอะไร เมื่อวันที่ 22 (ต.ค.) ได้หารือกับนายโอฬารแล้ว เมื่อถามว่า ห่วงหรือไม่มีโหรทำนายว่านายกรัฐมนตรีถ้าออกนอกประเทศไปแล้วจะไม่ได้กลับ นายบุญทรง กล่าวว่า ไม่น่าจะมีอะไร เมื่อถามย้ำว่า ไม่มีอะไรคือไม่กังวลใช่มั้ย นายบุญทรงกล่าวว่า ไม่กังวล นายกฯไม่เคยพูดเรื่องนี้ เพียงแต่บอกว่าจะตั้งหน้าตั้งตาทำงาน ทำได้เท่าไหร่ก็เท่านั้น
ผู้สื่อข่าวถามว่าคุยกับผู้บัญชาการเหล่าทัพเข้าใจกันดีไม่มีปัญหาใช่หรือไม่ นายบุญทรงกล่าวว่า เวลาเจอกันก็ทักทายคุยกันตลอด
นายพรศักดิ์ เจริญประเสริฐ ส.ส.ศีรษะเกส พรรคพลังประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการส่งเสริมราคาผลิตผลเกษตรกรรม สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า ตนได้รับเรื่องร้องเรียนจากส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ให้คณะกรรมาธิการฯ ช่วยพิจารณาหาทางแก้ปัญหาราคายางพาราตกต่ำ จึงได้เชิญ7 หน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องเข้าชี้แจงต่อที่ประชุมคณะกรรมาธิการฯ โดยมี11 ส.ส.จากพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งอยู่ในจังหวัดที่ปลูกยางพาราเข้าร่วมประชุมด้วย
ซึ่งหลังจากรับฟังข้อมูลจากหน่วยงานดังกล่าวแล้ว คณะกรรมาธิการฯ จึงมีมติทำหนังสือเสนอแนะแนวทางการแก้ไขปัญหาต่อรัฐบาลจำนวน 5 ข้อ คือ 1.ส่งเรื่องให้กระทรวงพาณิชย์ เพื่อกำหนดราคายางพาราไม่ให้ต่ำกว่า 52 บาทต่อกิโลกรัม 2. ถ้าราคายางต่ำกว่า 52 บาทต่อกิโลกรัม รัฐต้องเข้าแทรกแซงราคา 3. คณะกรรมาธิการฯเห็นว่ารัฐบาลควรใช้มาตรการลดต้นทุน โดยให้ควบคุมราคาปุ๋ย อย่างเคร่งครัด 4. รัฐบาลต้องช่วย เหลือผู้ส่งออกโดยเพิ่มโควตาการส่งออก และให้ต่างประเทศซื้อยางพาราในราคาที่ได้ตกลงซื้อขายล่วงหน้า และ 5. เร่งรัดให้บริษัทร่วมทุนยางพาราระหว่างประเทศปฏิบัติตามบันทึกความร่วมมือเรื่องการไม่ตัดราคายาง และหากราคายางตกต่ำให้แต่ละประเทศสต็อคยางเพื่อพยุงราคาไว้
ผู้สื่อข่าวถามว่านายโอฬาร ซึ่งเป็นคนนอกพรรคพลังประชาชน มีความกังวลกับการที่มีกลุ่มส.ส.ภาคเหนือของพรรคมากดดันหรือไม่ นายบุญทรงกล่าวว่า ไม่มีอะไร เป็นเรื่องของพรรค คุยกันได้ เมื่อถามว่า ทางพรรคจะกำชับไม่ให้ส.ส.ออกมา เคลื่อนไหวเพราะรัฐบาลมีปัญหาภายนอกมากอยู่แล้วหรือไม่ นายบุญทรง กล่าวว่า อาทิตย์นี้ทั้งนายโอฬาร และนายกรัฐมนตรี ไม่สามารถเข้าประชุมพรรคได้ เพราะติดภารกิจ ซึ่งไม่มีเวลาคุยกัน หลังจากนี้คิดว่าไม่มีปัญหา
ต่อข้อถามว่ากังวลความเคลื่อนไหวทั้งในและนอกพรรคบ้างหรือไม่ นายบุญทรงกล่าวว่า ไม่น่าจะมีอะไร เมื่อวันที่ 22 (ต.ค.) ได้หารือกับนายโอฬารแล้ว เมื่อถามว่า ห่วงหรือไม่มีโหรทำนายว่านายกรัฐมนตรีถ้าออกนอกประเทศไปแล้วจะไม่ได้กลับ นายบุญทรง กล่าวว่า ไม่น่าจะมีอะไร เมื่อถามย้ำว่า ไม่มีอะไรคือไม่กังวลใช่มั้ย นายบุญทรงกล่าวว่า ไม่กังวล นายกฯไม่เคยพูดเรื่องนี้ เพียงแต่บอกว่าจะตั้งหน้าตั้งตาทำงาน ทำได้เท่าไหร่ก็เท่านั้น
ผู้สื่อข่าวถามว่าคุยกับผู้บัญชาการเหล่าทัพเข้าใจกันดีไม่มีปัญหาใช่หรือไม่ นายบุญทรงกล่าวว่า เวลาเจอกันก็ทักทายคุยกันตลอด
นายพรศักดิ์ เจริญประเสริฐ ส.ส.ศีรษะเกส พรรคพลังประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการส่งเสริมราคาผลิตผลเกษตรกรรม สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า ตนได้รับเรื่องร้องเรียนจากส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ให้คณะกรรมาธิการฯ ช่วยพิจารณาหาทางแก้ปัญหาราคายางพาราตกต่ำ จึงได้เชิญ7 หน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องเข้าชี้แจงต่อที่ประชุมคณะกรรมาธิการฯ โดยมี11 ส.ส.จากพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งอยู่ในจังหวัดที่ปลูกยางพาราเข้าร่วมประชุมด้วย
ซึ่งหลังจากรับฟังข้อมูลจากหน่วยงานดังกล่าวแล้ว คณะกรรมาธิการฯ จึงมีมติทำหนังสือเสนอแนะแนวทางการแก้ไขปัญหาต่อรัฐบาลจำนวน 5 ข้อ คือ 1.ส่งเรื่องให้กระทรวงพาณิชย์ เพื่อกำหนดราคายางพาราไม่ให้ต่ำกว่า 52 บาทต่อกิโลกรัม 2. ถ้าราคายางต่ำกว่า 52 บาทต่อกิโลกรัม รัฐต้องเข้าแทรกแซงราคา 3. คณะกรรมาธิการฯเห็นว่ารัฐบาลควรใช้มาตรการลดต้นทุน โดยให้ควบคุมราคาปุ๋ย อย่างเคร่งครัด 4. รัฐบาลต้องช่วย เหลือผู้ส่งออกโดยเพิ่มโควตาการส่งออก และให้ต่างประเทศซื้อยางพาราในราคาที่ได้ตกลงซื้อขายล่วงหน้า และ 5. เร่งรัดให้บริษัทร่วมทุนยางพาราระหว่างประเทศปฏิบัติตามบันทึกความร่วมมือเรื่องการไม่ตัดราคายาง และหากราคายางตกต่ำให้แต่ละประเทศสต็อคยางเพื่อพยุงราคาไว้