ผู้จัดการรายวัน - เฟิร์น มอส เป็นไม้ประดับอีกชนิดหนึ่งที่ได้รับนิยมอย่างมากในการนำมาใช้ตกแต่งบ้าน รีสอร์ท หรือ โรงแรม เพราะเฟิร์น หรือ มอส เป็นพืชตามธรรมชาติ ซึ่งถ้าพบพืชทั้งสองชนิดนี้ในป่าแห่งใด จะเป็นดัชนีบ่งชี้ถึงความสมบูรณ์ของธรรมชาติในบริเวณนั้น ดังนั้น นักจัดสวน เจ้าของบ้าน หรือ รีสอร์ท ทั้งหลายจึงนิยมนำเฟิร์น หรือ มอสมาตกแต่งร่วมกับไม้ประดับอื่นๆ เพื่อช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับสภาพแวดล้อมโดยรอบ
ปัจจุบันประเทศไทยมีเฟิร์นที่ค้นพบในประเทศมากกว่า 500 สายพันธุ์ ส่วนหนึ่งเป็นเฟิร์นที่เพาะพันธุ์ขึ้นมาใหม่จากฟาร์ม และส่วนหนึ่งเป็นการค้นพบตามธรรมชาติ ซึ่งปัจจุบันแหล่งความสมบูรณ์ตามธรรมชาติเริ่มลดน้อยลง จากการเข้าไปบุกรุกถางป่า ทำให้เราไม่พบเฟิร์นสายพันธุ์ใหม่ตามธรรมชาติเพิ่มมากขึ้นจากในอดีต
สำหรับธุรกิจไม้ประดับ มีผู้เพาะพันธุ์เฟิร์นออกมาจำหน่ายหลายราย แต่ส่วนใหญ่จะเป็นรายเล็ก แต่ในลักษณะของฟาร์มขนาดใหญ่ที่เพาะพันธุ์เฟิร์นโดยตรงมีเพียงไม่กี่รายและหนึ่งในนั้น เป็นฟาร์มของสามีภรรยา คุณนพดล และคุณสุภาศรี นาเงิน เจ้าของฟาร์ม ตะนาวะสี เฟิร์นการ์เด้นท์ ที่อำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง บนเนื้อที่ของฟาร์มมากกว่า 10 ไร่
คุณนพดลและ คุณสุภาศรี ทุ่มเทความกำลังแรงกาย แรงใจ รวมถึงกำลังเงินเนรมิตร ฟาร์มแห่งนี้ให้ความสวยงาม และสร้างบรรยากาศโดยรอบให้มีความชื้นตลอดเวลา เพื่อให้เหมาะสมกับการเพาะและขยายพันธุ์เฟิร์น โดยวิธีทางธรรมชาติ ต่างจากฟาร์มแห่งอื่นๆที่มักจะใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย ทำให้เมื่อลูกค้าซื้อเฟิร์นออกไปเลี้ยงภายนอกฟาร์ม เฟิร์นจะไม่รอด หรือไม่สวยงามเหมือนอยู่ในฟาร์ม ในขณะที่เฟิร์นที่ลี้ยงภายในฟาร์มแห่งนี้ ซึ่งเลี้ยงตามธรรมชาติ เมื่อลูกค้านำไปเลี้ยงที่บ้านเฟิร์นมีการปรับตัวเล็กน้อย ก็สามารถอยู่รอดได้
คุณนพดล เล่าว่า ตนเองและภรรยา เป็นคนชอบเฟิร์นเหมือนกัน ซึ่งได้เปิดฟาร์มแห่งนี้มานานกว่า 14 ปี ทำแบบค่อยเป็นค่อยไป เริ่มจากคุณศรี ซึ่งเป็นภรรยา เป็นแม่ค้าขายต้นไม้อยู่ที่สวนจตุจักร และผมเองรับจัดสวนเป็นงานอดิเรก และการจัดสวนสไตล์ของผมมักจะต้องมีเฟิร์นเข้ามาร่วมกับไม้ประดับอื่นๆ เสมอ ซึ่งปัญหาคือหาเฟิร์นที่ถูกใจไม่ค่อยได้ เพราะการเพาะพันธุ์เฟิร์นบางสายพันธุ์ค่อนข้างทำได้ยาก จึงตัดสินใจหันมาเพาะพันธุ์และเปิดฟาร์มของตัวเอง
“ก่อนที่ผมจะมาเปิดฟาร์มแห่งนี้ ผมได้มีโอกาสเดินเข้าป่าเพื่อค้นหาเฟิร์นพันธุ์ใหม่ เพื่อนำมาใช้กับงานจัดสวนที่ทำอยู่ และเกิดความรู้สึกชื่นชอบธรรมชาติและความสงบในป่า หลังจากนั้น ผมได้ลาออกจากการรับราชการตำรวจ และมาทุ่มเทเนรมิตรฟาร์มแห่งนี้ให้ออกมาใกล้เคียงกับธรรมชาติมากที่สุด พร้อมกับเพาะพันธุ์เฟิร์นออกจำหน่าย"
เริ่มจากภรรยานำไปจำหน่ายที่สวนจตุจักร แต่ต่อมาเริ่มมีเฟิร์นสายพันธุ์ใหม่ และเป็นเฟิร์นขนาดใหญ่ ทำให้หันมารับออร์เดอร์จากลูกค้าที่เป็นโรงแรม รีสอร์ท ที่ต้องการเฟิร์นขนาดใหญ่เพื่อนำไปตกแต่งสถานที่ จึงไม่มีเวลาออกไปขายตนไม้ที่สวนจตุจักร เหมือนที่ผ่านมา เพราะผมกับภรรยาต้องทุ่มเทกับการดูแลต้นไม้ที่รับออร์เดอร์ ประกอบกับตอนช่วงปี 2549 ฟาร์มตะวานาสี เจอภัยธรรมชาติจากปัญหาน้ำท่วมทำให้เฟิร์นเสียหายไปมาก ทำให้ต้องหันมาฟื้นฟูกันใหม่
และสิ่งที่ทำให้เรามีกำลังและรุกขึ้นยื่นได้อย่างทุกวันนี้ มาจากเมื่อได้มีโอกาสรับเสด็จสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ และนำเฟิร์นต้นหนึ่ง ซึ่งเหลือจากการถูกน้ำท่วมมาถวายพระองค์ พระองค์ทรงชื่นชอบและให้ความสนพระทัยมาก พร้อมกับประทานกำลังใจทำให้เราทั้งสองคนมีแรงสู้ต่อมาจนถึงทุกวันนี้
สำหรับเฟิร์นของฟาร์มตะนาวะสี จะแบ่งออกเป็นเฟิร์นที่ใช้ในการจัดสวน เฟิร์นในกลุ่มนักสะสม และเฟิร์นแปลกและหายาก ซึ่งราคาแตกต่างกันมาก ซึ่งถ้าเป็นเฟิร์นทั่วไป ราคาเริ่มต้นที่ 30 บาท แต่ถ้าเป็นเฟิร์นกลุ่มสะสมราคาขึ้นอยู่กับนักสะสมจะตั้งราคากันขึ้นมา ส่วนเฟิร์นแปลกและหายากถ้าทางฟาร์มของเรายังไม่สามารถเพาะพันธุ์ได้ ก็จะไม่ได้ขายออกไป
คุณนพดล เล่าว่า ได้มีโอกาสนำเฟิร์นสายพันธุ์แปลก และหายากไปโชว์ในหลายครั้ง รวมถึงการได้รับเชิญให้ไปร่วมในงานพืชสวนโลก ที่จัดขึ้นที่จังหวัดเชียงใหม่ในครั้งที่ผ่านมาด้วย และได้ไปร่วมออกงานแสดงต้นไม้อีกหลายงาน และที่หลายแห่งสนใจนำเฟิร์นจากฟาร์มของเราไปร่วมโชว์เพราะทางตะนาวะสี มีเฟิร์นที่มีความสวยงาม และเป็นเฟิร์นขนาดใหญ่ที่มีน้อยฟาร์มที่จะเลี้ยงได้ใหญ่เท่านี้
ทั้งนี้ เป็นเหตุผลที่ทำให้ฟาร์มตะนาวะสีมีลูกค้าเข้ามาอย่างต่อเนื่อง จากการบอกกันแบบปากต่อปาก โดยเฉพาะสำหรับกลุ่มที่ต้องการเฟิร์นขนาดใหญ่ หรือ เฟิร์นนำเข้าจากต่างประเทศ ทางฟาร์มแห่งนี้มีจำหน่ายด้วยเช่นกัน แต่การเลี้ยงเฟิร์นขนาดใหญ่จะต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2 ปีขึ้นไป ทำให้มีผู้เพาะพันธุ์เฟิร์นขนาดใหญ่ออกสู่ตลาดน้อย ลูกค้าจึงต้องเข้ามาซื้อที่ฟาร์มตะนาวะสีแห่งนี้และออร์เดอร์ก่อนล่วงหน้า เพื่อให้ได้เฟิร์นที่สวยและสมบูรณ์ นำไปใช้งานได้เลย ราคาเฟิร์นขนาดใหญ่ราคาอยู่ในหลักพันบาทขึ้นไปจนถึงหลักหมื่นบาท
สนใจโทร. 081-858-4863
ปัจจุบันประเทศไทยมีเฟิร์นที่ค้นพบในประเทศมากกว่า 500 สายพันธุ์ ส่วนหนึ่งเป็นเฟิร์นที่เพาะพันธุ์ขึ้นมาใหม่จากฟาร์ม และส่วนหนึ่งเป็นการค้นพบตามธรรมชาติ ซึ่งปัจจุบันแหล่งความสมบูรณ์ตามธรรมชาติเริ่มลดน้อยลง จากการเข้าไปบุกรุกถางป่า ทำให้เราไม่พบเฟิร์นสายพันธุ์ใหม่ตามธรรมชาติเพิ่มมากขึ้นจากในอดีต
สำหรับธุรกิจไม้ประดับ มีผู้เพาะพันธุ์เฟิร์นออกมาจำหน่ายหลายราย แต่ส่วนใหญ่จะเป็นรายเล็ก แต่ในลักษณะของฟาร์มขนาดใหญ่ที่เพาะพันธุ์เฟิร์นโดยตรงมีเพียงไม่กี่รายและหนึ่งในนั้น เป็นฟาร์มของสามีภรรยา คุณนพดล และคุณสุภาศรี นาเงิน เจ้าของฟาร์ม ตะนาวะสี เฟิร์นการ์เด้นท์ ที่อำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง บนเนื้อที่ของฟาร์มมากกว่า 10 ไร่
คุณนพดลและ คุณสุภาศรี ทุ่มเทความกำลังแรงกาย แรงใจ รวมถึงกำลังเงินเนรมิตร ฟาร์มแห่งนี้ให้ความสวยงาม และสร้างบรรยากาศโดยรอบให้มีความชื้นตลอดเวลา เพื่อให้เหมาะสมกับการเพาะและขยายพันธุ์เฟิร์น โดยวิธีทางธรรมชาติ ต่างจากฟาร์มแห่งอื่นๆที่มักจะใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย ทำให้เมื่อลูกค้าซื้อเฟิร์นออกไปเลี้ยงภายนอกฟาร์ม เฟิร์นจะไม่รอด หรือไม่สวยงามเหมือนอยู่ในฟาร์ม ในขณะที่เฟิร์นที่ลี้ยงภายในฟาร์มแห่งนี้ ซึ่งเลี้ยงตามธรรมชาติ เมื่อลูกค้านำไปเลี้ยงที่บ้านเฟิร์นมีการปรับตัวเล็กน้อย ก็สามารถอยู่รอดได้
คุณนพดล เล่าว่า ตนเองและภรรยา เป็นคนชอบเฟิร์นเหมือนกัน ซึ่งได้เปิดฟาร์มแห่งนี้มานานกว่า 14 ปี ทำแบบค่อยเป็นค่อยไป เริ่มจากคุณศรี ซึ่งเป็นภรรยา เป็นแม่ค้าขายต้นไม้อยู่ที่สวนจตุจักร และผมเองรับจัดสวนเป็นงานอดิเรก และการจัดสวนสไตล์ของผมมักจะต้องมีเฟิร์นเข้ามาร่วมกับไม้ประดับอื่นๆ เสมอ ซึ่งปัญหาคือหาเฟิร์นที่ถูกใจไม่ค่อยได้ เพราะการเพาะพันธุ์เฟิร์นบางสายพันธุ์ค่อนข้างทำได้ยาก จึงตัดสินใจหันมาเพาะพันธุ์และเปิดฟาร์มของตัวเอง
“ก่อนที่ผมจะมาเปิดฟาร์มแห่งนี้ ผมได้มีโอกาสเดินเข้าป่าเพื่อค้นหาเฟิร์นพันธุ์ใหม่ เพื่อนำมาใช้กับงานจัดสวนที่ทำอยู่ และเกิดความรู้สึกชื่นชอบธรรมชาติและความสงบในป่า หลังจากนั้น ผมได้ลาออกจากการรับราชการตำรวจ และมาทุ่มเทเนรมิตรฟาร์มแห่งนี้ให้ออกมาใกล้เคียงกับธรรมชาติมากที่สุด พร้อมกับเพาะพันธุ์เฟิร์นออกจำหน่าย"
เริ่มจากภรรยานำไปจำหน่ายที่สวนจตุจักร แต่ต่อมาเริ่มมีเฟิร์นสายพันธุ์ใหม่ และเป็นเฟิร์นขนาดใหญ่ ทำให้หันมารับออร์เดอร์จากลูกค้าที่เป็นโรงแรม รีสอร์ท ที่ต้องการเฟิร์นขนาดใหญ่เพื่อนำไปตกแต่งสถานที่ จึงไม่มีเวลาออกไปขายตนไม้ที่สวนจตุจักร เหมือนที่ผ่านมา เพราะผมกับภรรยาต้องทุ่มเทกับการดูแลต้นไม้ที่รับออร์เดอร์ ประกอบกับตอนช่วงปี 2549 ฟาร์มตะวานาสี เจอภัยธรรมชาติจากปัญหาน้ำท่วมทำให้เฟิร์นเสียหายไปมาก ทำให้ต้องหันมาฟื้นฟูกันใหม่
และสิ่งที่ทำให้เรามีกำลังและรุกขึ้นยื่นได้อย่างทุกวันนี้ มาจากเมื่อได้มีโอกาสรับเสด็จสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ และนำเฟิร์นต้นหนึ่ง ซึ่งเหลือจากการถูกน้ำท่วมมาถวายพระองค์ พระองค์ทรงชื่นชอบและให้ความสนพระทัยมาก พร้อมกับประทานกำลังใจทำให้เราทั้งสองคนมีแรงสู้ต่อมาจนถึงทุกวันนี้
สำหรับเฟิร์นของฟาร์มตะนาวะสี จะแบ่งออกเป็นเฟิร์นที่ใช้ในการจัดสวน เฟิร์นในกลุ่มนักสะสม และเฟิร์นแปลกและหายาก ซึ่งราคาแตกต่างกันมาก ซึ่งถ้าเป็นเฟิร์นทั่วไป ราคาเริ่มต้นที่ 30 บาท แต่ถ้าเป็นเฟิร์นกลุ่มสะสมราคาขึ้นอยู่กับนักสะสมจะตั้งราคากันขึ้นมา ส่วนเฟิร์นแปลกและหายากถ้าทางฟาร์มของเรายังไม่สามารถเพาะพันธุ์ได้ ก็จะไม่ได้ขายออกไป
คุณนพดล เล่าว่า ได้มีโอกาสนำเฟิร์นสายพันธุ์แปลก และหายากไปโชว์ในหลายครั้ง รวมถึงการได้รับเชิญให้ไปร่วมในงานพืชสวนโลก ที่จัดขึ้นที่จังหวัดเชียงใหม่ในครั้งที่ผ่านมาด้วย และได้ไปร่วมออกงานแสดงต้นไม้อีกหลายงาน และที่หลายแห่งสนใจนำเฟิร์นจากฟาร์มของเราไปร่วมโชว์เพราะทางตะนาวะสี มีเฟิร์นที่มีความสวยงาม และเป็นเฟิร์นขนาดใหญ่ที่มีน้อยฟาร์มที่จะเลี้ยงได้ใหญ่เท่านี้
ทั้งนี้ เป็นเหตุผลที่ทำให้ฟาร์มตะนาวะสีมีลูกค้าเข้ามาอย่างต่อเนื่อง จากการบอกกันแบบปากต่อปาก โดยเฉพาะสำหรับกลุ่มที่ต้องการเฟิร์นขนาดใหญ่ หรือ เฟิร์นนำเข้าจากต่างประเทศ ทางฟาร์มแห่งนี้มีจำหน่ายด้วยเช่นกัน แต่การเลี้ยงเฟิร์นขนาดใหญ่จะต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2 ปีขึ้นไป ทำให้มีผู้เพาะพันธุ์เฟิร์นขนาดใหญ่ออกสู่ตลาดน้อย ลูกค้าจึงต้องเข้ามาซื้อที่ฟาร์มตะนาวะสีแห่งนี้และออร์เดอร์ก่อนล่วงหน้า เพื่อให้ได้เฟิร์นที่สวยและสมบูรณ์ นำไปใช้งานได้เลย ราคาเฟิร์นขนาดใหญ่ราคาอยู่ในหลักพันบาทขึ้นไปจนถึงหลักหมื่นบาท
สนใจโทร. 081-858-4863
