ผู้จัดการรายวัน – ชี้พิษแฮมเบอร์เกอร์ยังไม่กระทบส่งออกไทย คาดปีนี้โต 15-20% มูลค่ากว่า 5 แสนล้าน ระบุมุ่งเจาะตลาดบน ปีหน้ายังโตได้อีก 10% ด้านกรมส่งออกเตรียมอัด 320 โครงการกระตุ้น ขณะที่ภาคเอกชนเผย ของขวัญของแต่งบ้านไทยยังรุ่ง คาดงาน BIG&BIH เงินสะพัด 500 ล้าน
นายศิริพล ยอดเมืองเจริญ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดงานแสดงสินค้าของขวัญและของใช้ในบ้าน ครั้งที่ 26 หรือ BIG&BIH ว่า แม้ขณะนี้เศรษฐกิจโลกจะชะลอตัว แต่ภาครวมการส่งออกของไทยในปีนี้ (2551) ยังขยายตัวในระดับที่ดี เติบโต 15-20% หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 5-6 แสนล้านบาท
สำหรับปีหน้า (2552) ยอดส่งออกอาจลดลงตามภาวะเศรษฐกิจโลก แต่โดยรวม ยังเชื่อว่า ส่งออกไทยยังจะเติบโตได้อีก 10% เนื่องจากผู้ประกอบการไทยได้ยกระดับสินค้าสู่กลุ่มกลางบน ซึ่งผู้ซื้อยังมีกำลังซื้อสูง ต่างจากคู่แข่ง เช่น จีน และเวียดนาม ที่เน้นผลิตสินค้าตลาดกลางและล่าง จึงได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัวมากกว่า
ด้านนายราเชนทร์ พจนสุนทร อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก กล่าวเสริมว่า แม้ว่าประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นตลาดส่งออกหลักของไทย จะเกิดวิกฤตการเงิน ทำให้สัดส่วนการส่งออกสินค้าไทยไปสหรัฐฯ ลดลง จาก 38% เหลือ 31% อย่างไรก็ดี ผู้ประกอบการไทยได้หาตลาดใหม่ขึ้นมาทดแทน เช่น อาเซียน ยุโรป ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น เป็นต้น ทำให้ปีนี้ผลกระทบจากวิกฤตการเงินสหรัฐ ยังไม่กระทบต่อการส่งออกของไทยมากนัก
ส่วนการเตรียมพร้อมรับมือเศรษฐกิจโลกชะลอที่คาดว่าจะส่งผลรุนแรงในปีหน้า ทางกรมฯ จะอัดมาตรการกระตุ้นส่งออกมากกว่า 320 โครงการ ทั้งการหาตลาดใหม่ และเสริมศักยภาพให้แก่ผู้ส่งออกไทย เป็นต้น
ด้านนายจิรบูลย์ วิทยสิงห์ ประธานสมาคมของขวัญ ของชำร่วยไทยและของตกแต่งบ้าน ในฐานะตัวแทน 7 สมาคมภาคเอกชนที่ร่วมกันจัดงาน BIG&BIH ครั้งนี้ เปิดเผยว่า แม้ว่าภาพรวมปีนี้ จะมีผู้ประกอบการมาแสดงสินค้าลดลงประมาณ 100 รายจากปีที่แล้ว เหลือประมาณ 634 บริษัท ซึ่งเป็นผลจากความกังวลทางเศรษฐกิจ และการจัดงานครั้งนี้ ตัดส่วนลดจาก 30% เหลือ 20% ทำให้ปริมาณผู้ออกแสดงสินค้าลดลง ทว่า ทุกรายที่มาออกงานล้วนเป็นผู้ประกอบการที่มีศักยภาพด้านการส่งออกสูง
สำหรับภาครวมการส่งออกสินค้าของขวัญของชำร่วยไทยนับถึงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ยังอยู่ในเกณฑ์ดี มูลค่า 41,000 ล้านบาท โดยเฉพาะส่งออกสินค้าของเล่นเด็ก เติบโตกว่า 20% เนื่องจากสินค้าจีนมีปัญหาด้านความปลอดภัย ผู้ซื้อจึงหันมาซื้อสินค้าจากไทยแทน
ทั้งนี้ เชื่อว่า ถึงสิ้นปีนี้ ส่งออกของขวัญของชำร่วยไทยจะมีมูลค่ากว่า 62,000 ล้านบาท และสำหรับงานนี้ คาดจะมีเงินสะพัดภายในงานไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท
นายศิริพล ยอดเมืองเจริญ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดงานแสดงสินค้าของขวัญและของใช้ในบ้าน ครั้งที่ 26 หรือ BIG&BIH ว่า แม้ขณะนี้เศรษฐกิจโลกจะชะลอตัว แต่ภาครวมการส่งออกของไทยในปีนี้ (2551) ยังขยายตัวในระดับที่ดี เติบโต 15-20% หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 5-6 แสนล้านบาท
สำหรับปีหน้า (2552) ยอดส่งออกอาจลดลงตามภาวะเศรษฐกิจโลก แต่โดยรวม ยังเชื่อว่า ส่งออกไทยยังจะเติบโตได้อีก 10% เนื่องจากผู้ประกอบการไทยได้ยกระดับสินค้าสู่กลุ่มกลางบน ซึ่งผู้ซื้อยังมีกำลังซื้อสูง ต่างจากคู่แข่ง เช่น จีน และเวียดนาม ที่เน้นผลิตสินค้าตลาดกลางและล่าง จึงได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัวมากกว่า
ด้านนายราเชนทร์ พจนสุนทร อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก กล่าวเสริมว่า แม้ว่าประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นตลาดส่งออกหลักของไทย จะเกิดวิกฤตการเงิน ทำให้สัดส่วนการส่งออกสินค้าไทยไปสหรัฐฯ ลดลง จาก 38% เหลือ 31% อย่างไรก็ดี ผู้ประกอบการไทยได้หาตลาดใหม่ขึ้นมาทดแทน เช่น อาเซียน ยุโรป ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น เป็นต้น ทำให้ปีนี้ผลกระทบจากวิกฤตการเงินสหรัฐ ยังไม่กระทบต่อการส่งออกของไทยมากนัก
ส่วนการเตรียมพร้อมรับมือเศรษฐกิจโลกชะลอที่คาดว่าจะส่งผลรุนแรงในปีหน้า ทางกรมฯ จะอัดมาตรการกระตุ้นส่งออกมากกว่า 320 โครงการ ทั้งการหาตลาดใหม่ และเสริมศักยภาพให้แก่ผู้ส่งออกไทย เป็นต้น
ด้านนายจิรบูลย์ วิทยสิงห์ ประธานสมาคมของขวัญ ของชำร่วยไทยและของตกแต่งบ้าน ในฐานะตัวแทน 7 สมาคมภาคเอกชนที่ร่วมกันจัดงาน BIG&BIH ครั้งนี้ เปิดเผยว่า แม้ว่าภาพรวมปีนี้ จะมีผู้ประกอบการมาแสดงสินค้าลดลงประมาณ 100 รายจากปีที่แล้ว เหลือประมาณ 634 บริษัท ซึ่งเป็นผลจากความกังวลทางเศรษฐกิจ และการจัดงานครั้งนี้ ตัดส่วนลดจาก 30% เหลือ 20% ทำให้ปริมาณผู้ออกแสดงสินค้าลดลง ทว่า ทุกรายที่มาออกงานล้วนเป็นผู้ประกอบการที่มีศักยภาพด้านการส่งออกสูง
สำหรับภาครวมการส่งออกสินค้าของขวัญของชำร่วยไทยนับถึงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ยังอยู่ในเกณฑ์ดี มูลค่า 41,000 ล้านบาท โดยเฉพาะส่งออกสินค้าของเล่นเด็ก เติบโตกว่า 20% เนื่องจากสินค้าจีนมีปัญหาด้านความปลอดภัย ผู้ซื้อจึงหันมาซื้อสินค้าจากไทยแทน
ทั้งนี้ เชื่อว่า ถึงสิ้นปีนี้ ส่งออกของขวัญของชำร่วยไทยจะมีมูลค่ากว่า 62,000 ล้านบาท และสำหรับงานนี้ คาดจะมีเงินสะพัดภายในงานไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท