วานนี้ (13 ต.ค.) นายวิทยา บุรณศิริ ส.ส.อยุธยา พรรคพลังประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล(วิปรัฐบาล) แถลงภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมมีมติที่จะเสนอให้นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร เปิดการประชุมสภาในสัปดาห์หน้า โดยสมาชิกพรรคร่วมรัฐบาลกว่า 300 คน มีสัญญาประชาคมร่วมกันว่า จะทำหน้าที่ในรัฐสภา ในฐานะตัวแทนของประชาชน เพื่อให้การทำงานของฝ่ายนิติบัญญัติ เดินหน้าต่อไปได้ หลังจากที่สัปดาห์นี้ต้องงดการประชุม เนื่องจากทางประธานสภาได้ทำหนังสือขอความร่วมมือไปยัง ผบ.ทบ. และ ผบ.ตร. เพื่อให้มารักษาความปลอดภัยที่รัฐสภา ในวันที่ 15-16 ต.ค.นี้ แต่ทั้ง 2 คน ไม่ตอบกลับมา
ดังนั้น ในวันที่ 22-23 ต.ค.นี้ วิปรัฐบาล จะขอให้ประธานสภาฯ เปิดประชุม ถึงแม้ว่าจะไม่ได้รับการรักษาความปลอดภัยจากทหาร และตำรวจ ซึ่งวันนั้นอาจจะมีประชาชนที่รักเรา มาร่วมเป็นเพื่อนประชุมกับ ส.ส. โดยทำหน้าที่คุ้มครองรักษาความปลอดภัย และสนับสนุน ส.ส.ในการทำหน้าที่ประชุมสภา โดย ส.ส. จะอยู่ในห้องประชุม ส่วนประชาชนจะอยู่ภายนอกอาคารรัฐสภา
ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่เกณฑ์ประชาชนมาเป็นเพื่อน เพราะส.ส.กลัวตายใช่หรือไม่ นายวิทยา กล่าวว่า ส.ส.ไม่กลัวตาย แต่ส.ส.เป็นตัวแทนของประชาชนที่ต้องการให้ผู้แทนเข้ามาทำหน้าที่ ดังนั้นประชาชนจึงอยากมาทำหน้าที่คุ้มครอง ส.ส.ของเขา เพราะประธานสภาฯ ขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร มาอารักขา แต่ยังไม่ได้รับการตอบรับ ประชาชนจึงต้องการที่จะมาปกป้อง ซึ่งไม่ใช่เป็นการทำเพื่อตัวเราเอง แต่ทำเพื่อประชาชน เพราะในระหว่างมีการประชุมวิปรัฐบาล นายชัย ได้แจ้งกับตนว่า วันนี้มีบุคคลโทรศัพท์เข้ามาขู่วางระเบิดที่ อาคารรัฐสภา
นายวิทยา กล่าวต่อว่า ที่ประชุมวิปรัฐบาลยังได้ตั้งข้อสังเกตว่า นายชัย ยังไม่ได้ดำเนินการใดๆ กับกลุ่มบุคคลที่มายึดสถานที่ ทำลายการรักษาความปลอดภัย กล้องวงจรปิด และยังมีบุคคลภายนอกเข้ามาร่วมประชุม ในวันที่ 7 ต.ค. โดยที่เจ้าหน้าที่ตำรวจปล่อยปละละเลยไม่ได้ทำอะไรเลย
ทั้งนี้ วิปรัฐบาลได้มอบหมายให้ นายสุชาติ ลายน้ำเงิน ส.ส.ลพบุรี และนายธเนศ เครือรัตน์ ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคพลังประชาชน เข้าแจ้งความที่ สน.ดุสิต เพื่อดำเนินคดีกับพันธมิตรฯ ในข้อหาขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ของรัฐในการไม่ให้ ส.ส.เข้าประชุมสภา และข้อหาทำลายทรัพย์สินของทางราชการ โดยใช้อาวุธปืน จนสถานที่ราชการ ได้รับความเสียหายในวันที่14 ต.ค.นี้ เวลา 09.00 น.
ด้านนายสุชาติ ลายน้ำเงิน ส.ส.ลพบุรี พรรคพลังประชาชน กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ประชาชนได้เข้ามาพูดคุยและบอกว่าส.ส.ไม่ต้องกลัว หากจะเกิดอันตรายประชาชนพร้อมจะเข้ามาทำหน้าที่คุ้มครอง ส.ส. ถ้าประชาชนจะเข้ามาจริง ส.ส. 1 คน สามารถนำประชาชนเข้ามาได้มากกว่า 1,000 คน
**อ้างปชป.ไม่มีสิทธิ์ตรวจองค์ประชุม
นายวิทยา ยังกล่าวถึงกรณี พรรคประชาธิปัตย์ ขอตรวจสอบองค์ประชุมในการแถลงนโยบายรัฐบาล เมื่อวันที่ 7 ต.ค. ที่ผ่านมา เนื่องจากเกรงว่าที่ประชุมจะไม่ครบองค์ประชุม ว่า ขณะนี้วิปรัฐบาลกำลังดูข้อกฎหมายว่า ผู้ที่ไม่มาประชุม จะสามารถตรวจสอบคนที่มาประชุมได้หรือไม่ โดยจะขอดูว่า เขามีอำนาจตามกฎหมายหรือไม่ ขณะเดียวกันก็จะใช้ประมวลจริยธรรม และพิจารณาดูข้อกฎหมาย ว่าจะสามารถเอาผิดสมาชิกที่ไม่เข้าร่วมประชุมโดยเฉพาะส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ และส.ว.บางส่วน ที่ปรากฏตัวในสภาแต่ไม่เข้าร่วมประชุมได้หรือไม่ อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า ส.ส.พรรคพลังประชาชน ไม่มีการกดบัตรแทนกัน
ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า ร.ต.อ. เฉลิม อยู่บำรุง รมว.สาธารณสุข อยู่ที่กระทรวงสาธารณสุข แต่กลับมีชื่อปรากฏในเอกสารการลงมติการแถลงนโยบาย นายวิทยา กล่าว่าต้องไปถามร.ต.อ. เฉลิม กันเอาเอง เชื่อว่าในการเปิดประชุมสภาสัปดาห์หน้า ร.ต.อ.เฉลิม คงจะชี้แจงในสภา รวมถึงบุคคลอื่นๆ ที่ถูกกระบุว่าไม่ได้เข้าร่วมประชุม แต่มีชื่อปรากฏด้วย
**ยันเดินหน้าตั้ง ส.ส.ร.3
ผู้สื่อข่าวถามว่าพรรคประชาธิปัตย์ ได้ส่งหนังสือถึงประธานสภาฯ กรณีไม่ส่งตัวแทนเป็นคณะกรรมการฯ เพื่อยกร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 เพื่อนำไปสู่การตั้ง ส.ส.ร.3 นายวิทยา กล่าวว่า ให้สิทธิ์ท่านแล้ว ถ้าไม่ใช้ก็ไม่เป็นไร
ขณะที่ นายเอกพจน์ ปานแย้ม กล่าวว่า แม้ไม่มีพรรคประชาธิปัตย์ การทำงานในรัฐสภา ก็สามารถเดินหน้าต่อไปได้ โดยพรรคร่วมรัฐบาลยืนยันว่าจะต้องมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 291 เพื่อให้มีการตั้งส.ส.ร.3 หากพรรคประชาธิปัตย์ ไม่เข้าร่วม ก็เป็นเรื่องของเขา แต่เชื่อว่า ส.ส.ร.3 จะเป็นที่ยอมรับของประชาชนได้
นายสุชาติ ลายน้ำเงิน ส.ส.ลพบุรี พรรคพลังประชาชน กล่าวว่า ในที่ประชุมวิปรัฐบาลได้มีการหารือกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์มีหน้าที่เข้าร่วมประชุม แต่กลับไม่เข้าร่วมประชุม และยังออกมากล่าวโทษสมาชิกที่เข้าร่วมประชุมว่ากระทำการ เข้าข่ายขัดรัฐธรรมนูญ ดังนั้นวิปรัฐบาลก็เตรียมมาตรการ ที่จะยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณาว่า การกระทำของพรรคประชาธิปัตย์ และ ส.ว.ส่วนหนึ่งที่ไม่เข้าร่วมประชุมรัฐสภา เป็นการกระทำที่ขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่
**"เหลิม"อ้างไปประชุมสภา 7 ต.ค.
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า ในการประชุมรัฐสภา เมื่อวันที่ 7 ต.ค. ตนเองก็ได้แสดงตัว แต่เห็นท่าไม่ดี จึงได้หนีออกมา ถามว่ากลัวหรือไม่ ก็กลัว แต่ไม่บอกว่าออกมาทางไหน ถือเป็นความลับ เหมือนตอนลี้ภัย เมื่อองค์ประชุมครบก็ออกมาทันที โดยไม่ได้เซ็นชื่อ การที่พรรคประชาธิปัตย์ ไม่ได้เข้าร่วมประชุม แต่ออกมาตรวจสอบ รู้ได้อย่างไรว่าตนเข้าหรือไม่ คงไม่เคยได้ยินข่าวว่า สมัยรับราชการตนได้ฉายาว่า สารวัตรนินจา
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 7 ต.ค. สื่อได้เสนอข่าวว่า ร.ต.อ.เฉลิม ไม่ได้เข้าไปประชุมที่สภา หลังจากผู้สื่อข่าวได้สอบถามคณะผู้ติดตามของ ร.ต.อ.เฉลิม ก็ได้รับคำตอบว่า ร.ต.อ.เฉลิม เดินทางไปรัฐสภา เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. แต่ไม่สามารถเข้าไปได้ เนื่องจากกลุ่มพันธมิตรฯปิดล้อมสภาอยู่ จึงได้ขับรถยนต์ กลับมากที่กระทรวงสาธารณสุข เมื่อเวลาประมาณ 11.45 น. หลังจากนั้นก็เรียกประชุมที่ปรึกษารมต. และ อยู่ที่กระทรวงตลอดทั้งวัน
**รองปธ.สภารับ 3 ส.ส.ไม่ได้ประชุม
นายสามารถ แก้วมีชัย รองปธ.สภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 กล่าวถึง การตรวจสอบองค์ประชุม เมื่อวันที่ 7 ต.ค. ที่ผ่านมาว่า หลังจากที่ได้มีการตรวจสอบด้วยตัวเอง พบว่ามี 3 ส.ส. ไม่ได้เซ็นชื่อเข้าประชุมจริง โดยเป็น ส.ส.จากพรรคพลังประชาชน 2 คน และพรรคร่วมรัฐบาล 1 คน แต่ไม่กระทบต่อองค์ประชุมในการรับทราบนโยบายรัฐบาล เพราะมีผู้เข้าประชุมทั้งสิ้น 320 คน หากหักออกไป 3 คน จะเหลือ 317 คน ซึ่งเกินกึ่งหนึ่งขององค์ประชุมคือ 311 เสียง ดังนั้นจึงไม่เข้าเงื่อนไขที่พรรคประชาธิปัตย์ จะยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยได้
นายสามารถ ยังกล่าวถึงการกดบัตรแทนกัน ว่า แม้จะผิดข้อบังคับของที่ประชุมสภา แต่ถือว่าเป็นความผิดเฉพาะตัว ตามประมวลจริยธรรม โดยมีโทษเพียงแค่ตำหนิ ตักเตือน และประณามในที่ประชุมเท่านั้น
รองประธานสภาฯ กล่าวถึงกรณีที่วิปรัฐบาลเสนอให้ประชุมสภาสัปดาห์หน้าตามปกติว่า นายชัย ชิดชอบ ประธานสภา ได้เห็นชอบให้มีการประชุมสภาตามปกติ จนกว่าจะปิดสมัยประชุมวันที่ 28 พ.ย. โดยเริ่มตั้งแต่วันพุธที่ 22 ต.ค.นี้
เมื่อถามว่า วิปรัฐบาลเตรียมเกณฑ์ชาวบ้านมารักษาความปลอดภัยให้ ส.ส.ในการประชุมสภานายสามารถ กล่าวว่า เป็นความเห็นของวิปรัฐบาล แต่คงไม่ถึงขนาดนั้น เนื่องจากเป็นการประชุมสภาตามปกติ ไม่มีวาระพิเศษเหมือนกับวันที่รัฐบาลแถลงนโยบาย เพราะไม่อยากให้บ้านเมืองมีปัญหาถึงขนาดต้องเกณฑ์กำลังนอกราชการมาคุ้มกัน เพื่อรักษาความปลอดภัยให้ส.ส. แต่หากมีการปิดล้อมสภาอีก ก็ปีนกำแพงหนีไปอีกรอบ ก็เท่านั้น
**อยากได้บันทึกประชุมครม.ก็ไปขอเอง
นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รมว.เกษตรฯ กล่าวถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ จะขอบันทึกการประชุมครม.เมื่อกลางดึกวันที่ 6 ต.ค.ที่ผ่านมา เพราะเชื่อว่าในการประชุมครม.วันดังกล่าวอาจมีแผนสลายการชุมนุม ว่า ถ้าอยากได้ข้อมูล ก็ให้ทำหนังสือไปยังสำนักเลขานุการครม.เอง เพราะที่ผ่านมาในการประชุมครม.ทุกครั้ง ก็มีการเปิดเผยข้อมูลไว้อยู่แล้ว อยากได้ ก็ไปขอเอาเอง
" ถ้าพรรคประชาธิปัตย์อยากได้ ก็ให้ทำหนังสือขอเองซิ ไม่ใช่มาพูดแบบนี้" นายสมศักดิ์ กล่าวอย่างมีอารมณ์
ดังนั้น ในวันที่ 22-23 ต.ค.นี้ วิปรัฐบาล จะขอให้ประธานสภาฯ เปิดประชุม ถึงแม้ว่าจะไม่ได้รับการรักษาความปลอดภัยจากทหาร และตำรวจ ซึ่งวันนั้นอาจจะมีประชาชนที่รักเรา มาร่วมเป็นเพื่อนประชุมกับ ส.ส. โดยทำหน้าที่คุ้มครองรักษาความปลอดภัย และสนับสนุน ส.ส.ในการทำหน้าที่ประชุมสภา โดย ส.ส. จะอยู่ในห้องประชุม ส่วนประชาชนจะอยู่ภายนอกอาคารรัฐสภา
ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่เกณฑ์ประชาชนมาเป็นเพื่อน เพราะส.ส.กลัวตายใช่หรือไม่ นายวิทยา กล่าวว่า ส.ส.ไม่กลัวตาย แต่ส.ส.เป็นตัวแทนของประชาชนที่ต้องการให้ผู้แทนเข้ามาทำหน้าที่ ดังนั้นประชาชนจึงอยากมาทำหน้าที่คุ้มครอง ส.ส.ของเขา เพราะประธานสภาฯ ขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร มาอารักขา แต่ยังไม่ได้รับการตอบรับ ประชาชนจึงต้องการที่จะมาปกป้อง ซึ่งไม่ใช่เป็นการทำเพื่อตัวเราเอง แต่ทำเพื่อประชาชน เพราะในระหว่างมีการประชุมวิปรัฐบาล นายชัย ได้แจ้งกับตนว่า วันนี้มีบุคคลโทรศัพท์เข้ามาขู่วางระเบิดที่ อาคารรัฐสภา
นายวิทยา กล่าวต่อว่า ที่ประชุมวิปรัฐบาลยังได้ตั้งข้อสังเกตว่า นายชัย ยังไม่ได้ดำเนินการใดๆ กับกลุ่มบุคคลที่มายึดสถานที่ ทำลายการรักษาความปลอดภัย กล้องวงจรปิด และยังมีบุคคลภายนอกเข้ามาร่วมประชุม ในวันที่ 7 ต.ค. โดยที่เจ้าหน้าที่ตำรวจปล่อยปละละเลยไม่ได้ทำอะไรเลย
ทั้งนี้ วิปรัฐบาลได้มอบหมายให้ นายสุชาติ ลายน้ำเงิน ส.ส.ลพบุรี และนายธเนศ เครือรัตน์ ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคพลังประชาชน เข้าแจ้งความที่ สน.ดุสิต เพื่อดำเนินคดีกับพันธมิตรฯ ในข้อหาขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ของรัฐในการไม่ให้ ส.ส.เข้าประชุมสภา และข้อหาทำลายทรัพย์สินของทางราชการ โดยใช้อาวุธปืน จนสถานที่ราชการ ได้รับความเสียหายในวันที่14 ต.ค.นี้ เวลา 09.00 น.
ด้านนายสุชาติ ลายน้ำเงิน ส.ส.ลพบุรี พรรคพลังประชาชน กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ประชาชนได้เข้ามาพูดคุยและบอกว่าส.ส.ไม่ต้องกลัว หากจะเกิดอันตรายประชาชนพร้อมจะเข้ามาทำหน้าที่คุ้มครอง ส.ส. ถ้าประชาชนจะเข้ามาจริง ส.ส. 1 คน สามารถนำประชาชนเข้ามาได้มากกว่า 1,000 คน
**อ้างปชป.ไม่มีสิทธิ์ตรวจองค์ประชุม
นายวิทยา ยังกล่าวถึงกรณี พรรคประชาธิปัตย์ ขอตรวจสอบองค์ประชุมในการแถลงนโยบายรัฐบาล เมื่อวันที่ 7 ต.ค. ที่ผ่านมา เนื่องจากเกรงว่าที่ประชุมจะไม่ครบองค์ประชุม ว่า ขณะนี้วิปรัฐบาลกำลังดูข้อกฎหมายว่า ผู้ที่ไม่มาประชุม จะสามารถตรวจสอบคนที่มาประชุมได้หรือไม่ โดยจะขอดูว่า เขามีอำนาจตามกฎหมายหรือไม่ ขณะเดียวกันก็จะใช้ประมวลจริยธรรม และพิจารณาดูข้อกฎหมาย ว่าจะสามารถเอาผิดสมาชิกที่ไม่เข้าร่วมประชุมโดยเฉพาะส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ และส.ว.บางส่วน ที่ปรากฏตัวในสภาแต่ไม่เข้าร่วมประชุมได้หรือไม่ อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า ส.ส.พรรคพลังประชาชน ไม่มีการกดบัตรแทนกัน
ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า ร.ต.อ. เฉลิม อยู่บำรุง รมว.สาธารณสุข อยู่ที่กระทรวงสาธารณสุข แต่กลับมีชื่อปรากฏในเอกสารการลงมติการแถลงนโยบาย นายวิทยา กล่าว่าต้องไปถามร.ต.อ. เฉลิม กันเอาเอง เชื่อว่าในการเปิดประชุมสภาสัปดาห์หน้า ร.ต.อ.เฉลิม คงจะชี้แจงในสภา รวมถึงบุคคลอื่นๆ ที่ถูกกระบุว่าไม่ได้เข้าร่วมประชุม แต่มีชื่อปรากฏด้วย
**ยันเดินหน้าตั้ง ส.ส.ร.3
ผู้สื่อข่าวถามว่าพรรคประชาธิปัตย์ ได้ส่งหนังสือถึงประธานสภาฯ กรณีไม่ส่งตัวแทนเป็นคณะกรรมการฯ เพื่อยกร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 เพื่อนำไปสู่การตั้ง ส.ส.ร.3 นายวิทยา กล่าวว่า ให้สิทธิ์ท่านแล้ว ถ้าไม่ใช้ก็ไม่เป็นไร
ขณะที่ นายเอกพจน์ ปานแย้ม กล่าวว่า แม้ไม่มีพรรคประชาธิปัตย์ การทำงานในรัฐสภา ก็สามารถเดินหน้าต่อไปได้ โดยพรรคร่วมรัฐบาลยืนยันว่าจะต้องมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 291 เพื่อให้มีการตั้งส.ส.ร.3 หากพรรคประชาธิปัตย์ ไม่เข้าร่วม ก็เป็นเรื่องของเขา แต่เชื่อว่า ส.ส.ร.3 จะเป็นที่ยอมรับของประชาชนได้
นายสุชาติ ลายน้ำเงิน ส.ส.ลพบุรี พรรคพลังประชาชน กล่าวว่า ในที่ประชุมวิปรัฐบาลได้มีการหารือกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์มีหน้าที่เข้าร่วมประชุม แต่กลับไม่เข้าร่วมประชุม และยังออกมากล่าวโทษสมาชิกที่เข้าร่วมประชุมว่ากระทำการ เข้าข่ายขัดรัฐธรรมนูญ ดังนั้นวิปรัฐบาลก็เตรียมมาตรการ ที่จะยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณาว่า การกระทำของพรรคประชาธิปัตย์ และ ส.ว.ส่วนหนึ่งที่ไม่เข้าร่วมประชุมรัฐสภา เป็นการกระทำที่ขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่
**"เหลิม"อ้างไปประชุมสภา 7 ต.ค.
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า ในการประชุมรัฐสภา เมื่อวันที่ 7 ต.ค. ตนเองก็ได้แสดงตัว แต่เห็นท่าไม่ดี จึงได้หนีออกมา ถามว่ากลัวหรือไม่ ก็กลัว แต่ไม่บอกว่าออกมาทางไหน ถือเป็นความลับ เหมือนตอนลี้ภัย เมื่อองค์ประชุมครบก็ออกมาทันที โดยไม่ได้เซ็นชื่อ การที่พรรคประชาธิปัตย์ ไม่ได้เข้าร่วมประชุม แต่ออกมาตรวจสอบ รู้ได้อย่างไรว่าตนเข้าหรือไม่ คงไม่เคยได้ยินข่าวว่า สมัยรับราชการตนได้ฉายาว่า สารวัตรนินจา
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 7 ต.ค. สื่อได้เสนอข่าวว่า ร.ต.อ.เฉลิม ไม่ได้เข้าไปประชุมที่สภา หลังจากผู้สื่อข่าวได้สอบถามคณะผู้ติดตามของ ร.ต.อ.เฉลิม ก็ได้รับคำตอบว่า ร.ต.อ.เฉลิม เดินทางไปรัฐสภา เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. แต่ไม่สามารถเข้าไปได้ เนื่องจากกลุ่มพันธมิตรฯปิดล้อมสภาอยู่ จึงได้ขับรถยนต์ กลับมากที่กระทรวงสาธารณสุข เมื่อเวลาประมาณ 11.45 น. หลังจากนั้นก็เรียกประชุมที่ปรึกษารมต. และ อยู่ที่กระทรวงตลอดทั้งวัน
**รองปธ.สภารับ 3 ส.ส.ไม่ได้ประชุม
นายสามารถ แก้วมีชัย รองปธ.สภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 กล่าวถึง การตรวจสอบองค์ประชุม เมื่อวันที่ 7 ต.ค. ที่ผ่านมาว่า หลังจากที่ได้มีการตรวจสอบด้วยตัวเอง พบว่ามี 3 ส.ส. ไม่ได้เซ็นชื่อเข้าประชุมจริง โดยเป็น ส.ส.จากพรรคพลังประชาชน 2 คน และพรรคร่วมรัฐบาล 1 คน แต่ไม่กระทบต่อองค์ประชุมในการรับทราบนโยบายรัฐบาล เพราะมีผู้เข้าประชุมทั้งสิ้น 320 คน หากหักออกไป 3 คน จะเหลือ 317 คน ซึ่งเกินกึ่งหนึ่งขององค์ประชุมคือ 311 เสียง ดังนั้นจึงไม่เข้าเงื่อนไขที่พรรคประชาธิปัตย์ จะยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยได้
นายสามารถ ยังกล่าวถึงการกดบัตรแทนกัน ว่า แม้จะผิดข้อบังคับของที่ประชุมสภา แต่ถือว่าเป็นความผิดเฉพาะตัว ตามประมวลจริยธรรม โดยมีโทษเพียงแค่ตำหนิ ตักเตือน และประณามในที่ประชุมเท่านั้น
รองประธานสภาฯ กล่าวถึงกรณีที่วิปรัฐบาลเสนอให้ประชุมสภาสัปดาห์หน้าตามปกติว่า นายชัย ชิดชอบ ประธานสภา ได้เห็นชอบให้มีการประชุมสภาตามปกติ จนกว่าจะปิดสมัยประชุมวันที่ 28 พ.ย. โดยเริ่มตั้งแต่วันพุธที่ 22 ต.ค.นี้
เมื่อถามว่า วิปรัฐบาลเตรียมเกณฑ์ชาวบ้านมารักษาความปลอดภัยให้ ส.ส.ในการประชุมสภานายสามารถ กล่าวว่า เป็นความเห็นของวิปรัฐบาล แต่คงไม่ถึงขนาดนั้น เนื่องจากเป็นการประชุมสภาตามปกติ ไม่มีวาระพิเศษเหมือนกับวันที่รัฐบาลแถลงนโยบาย เพราะไม่อยากให้บ้านเมืองมีปัญหาถึงขนาดต้องเกณฑ์กำลังนอกราชการมาคุ้มกัน เพื่อรักษาความปลอดภัยให้ส.ส. แต่หากมีการปิดล้อมสภาอีก ก็ปีนกำแพงหนีไปอีกรอบ ก็เท่านั้น
**อยากได้บันทึกประชุมครม.ก็ไปขอเอง
นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รมว.เกษตรฯ กล่าวถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ จะขอบันทึกการประชุมครม.เมื่อกลางดึกวันที่ 6 ต.ค.ที่ผ่านมา เพราะเชื่อว่าในการประชุมครม.วันดังกล่าวอาจมีแผนสลายการชุมนุม ว่า ถ้าอยากได้ข้อมูล ก็ให้ทำหนังสือไปยังสำนักเลขานุการครม.เอง เพราะที่ผ่านมาในการประชุมครม.ทุกครั้ง ก็มีการเปิดเผยข้อมูลไว้อยู่แล้ว อยากได้ ก็ไปขอเอาเอง
" ถ้าพรรคประชาธิปัตย์อยากได้ ก็ให้ทำหนังสือขอเองซิ ไม่ใช่มาพูดแบบนี้" นายสมศักดิ์ กล่าวอย่างมีอารมณ์
