ผู้จัดการรายวัน – วีระศักดิ์ ปิ๊งไอเดียแยกชนชั้น ตามบัตรเฟิร์สคลาสและบิสสิเนสคลาส แยกจาก อีโคโนมีคลาส ที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง เตรียมหารือ ทอท. บินไทย และ ททท. ลดเวลาการรอ
นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ได้นัดหารือกับ บมจ.ท่าอากาศยานไทย(ทอท) บมจ.การบินไทย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) และ สมาคมบริษัทสายการบิน เพื่อเสนอแนวคิดแยกช่องทางด่านตรวจคนเข้าเมือง โดยแยกช่องผ่านทางสำหรับผู้โดยสารชั้นหนึ่ง(เฟิร์สคลาส) และ ชั้นธุรกิจ(บิสสิเนสคลาส) ออกมาต่างหากเป็นช่องการบริการพิเศษ หรือ ฟาสต์แทรก แยกจากผู้โดยสารชั้นประหยัด(อีโคโนมี คลาส) เพื่อผู้โดยสารใน 2 กลุ่มแรกจะได้รับบริการที่สะดวกและเร็วขึ้น เพราะมีจำนวนน้อยกว่าผู้โดยสารชั้นประหยัด
โดยวิธีปฎิบัติจะบริการแก่ผู้โดยสารของทุกสายการบิน ไม่เลือกปฎิบัติเฉพาะการบินไทย เพื่อความสะดวกแก่ผู้เดินทางทุกคน จะได้รับบริการที่เหมาะสมในแต่ละกลุ่ม ทั้งนี้โดยเฉลี่ยของทุกสายการบิน จะมีผู้โดยสารกลุ่มเฟิร์สคลาส และ บิสสิเนสคลาสรวมกันได้ประมาณ 20% ของผู้โดยสารใน 1 เที่ยวบิน
“เชื่อว่าวิธีนี้ จะช่วยให้ภาพลักษณ์การบริการของสนามบินดีขึ้น เพราะผู้โดยสารไม่ต้องเสียเวลาในขั้นตอนตรวจคนเข้าเมืองนานจนเกินไป ซึ่งหากแยกผู้โดยสารชั้นเฟิร์สคลาดและ บิสสิเนสคลาส ออกมา ก็จะทำให้ ช่องทางของชั้นประหยัดก็สั้นลง ลดการรอได้ด้วย”
อย่างไรก็ตาม การบริการพิเศษที่แยกออกมานี้ มั่นใจจะไม่ซ้ำซ้อนกับบริการของบริษัทไทยแลนด์พริวิเลจการ์ด ที่ให้บริการแก่ผู้ถือบัตรอีลิท เพราะหน้าที่หลักของอีลิทแท้จริงคือการสร้างโอกาสทางธุรกิจ ด้วยการเชิญชวน สนับสนุนให้สมาชิกข้ามาลลทุนในประเทศไทย ส่วนบริการฟารสต์แทรก ก็เป็นบริการที่เสริมเข้ามาอำนวยความสะดวกให้แก่สมาชิกเช่นกัน
นายวีระศักดิ์ กล่าวอีกว่า มีแนวคิดจะสนับสนุนให้ประเทศไทย สมาคมสมาพันธ์ภาพยนตร์แห่งชาติ ให้จัดงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพ มากกว่า 1 ครั้งต่อปี เพราะเป็นงานที่อยู่ในกระแสนิยม และ สามารถสร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศไทย รวมถึงสะท้อนให้เห็นศักยภาพของวอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของไทยด้วย รูปแบบ อาจจัดเป็นงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพ 1 ครั้งใหญ่ และ จัดเป็นเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติ แยกย่อยออกมา โดยแบ่งเป็นแต่ละประเภทของภาพยนตร์
สำหรับประเภทที่กำลังอยู่ในความสนใจของผู้ชม ได้แก่ เทศกาลภาพยนตร์ตลก เพราะที่ผ่านมาภาพยนตร์ตลกของประเทศไทยมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง และ เนื้อหาก็ช่วยสร้างบรรยากาศผ่อนคลาย โดยผู้จัดงาน มองว่า สมาคมสมาพันธ์ภาพยนตร์จะเป็นผู้จัดได้ดี เพราะมีความเชี่ยวชาญ ส่วน ททท.ก็ทำหน้าที่เป็นผู้สนับสนุน เหมือน งานเทศกาลภายนตร์นานาชาติ เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา
นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ได้นัดหารือกับ บมจ.ท่าอากาศยานไทย(ทอท) บมจ.การบินไทย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) และ สมาคมบริษัทสายการบิน เพื่อเสนอแนวคิดแยกช่องทางด่านตรวจคนเข้าเมือง โดยแยกช่องผ่านทางสำหรับผู้โดยสารชั้นหนึ่ง(เฟิร์สคลาส) และ ชั้นธุรกิจ(บิสสิเนสคลาส) ออกมาต่างหากเป็นช่องการบริการพิเศษ หรือ ฟาสต์แทรก แยกจากผู้โดยสารชั้นประหยัด(อีโคโนมี คลาส) เพื่อผู้โดยสารใน 2 กลุ่มแรกจะได้รับบริการที่สะดวกและเร็วขึ้น เพราะมีจำนวนน้อยกว่าผู้โดยสารชั้นประหยัด
โดยวิธีปฎิบัติจะบริการแก่ผู้โดยสารของทุกสายการบิน ไม่เลือกปฎิบัติเฉพาะการบินไทย เพื่อความสะดวกแก่ผู้เดินทางทุกคน จะได้รับบริการที่เหมาะสมในแต่ละกลุ่ม ทั้งนี้โดยเฉลี่ยของทุกสายการบิน จะมีผู้โดยสารกลุ่มเฟิร์สคลาส และ บิสสิเนสคลาสรวมกันได้ประมาณ 20% ของผู้โดยสารใน 1 เที่ยวบิน
“เชื่อว่าวิธีนี้ จะช่วยให้ภาพลักษณ์การบริการของสนามบินดีขึ้น เพราะผู้โดยสารไม่ต้องเสียเวลาในขั้นตอนตรวจคนเข้าเมืองนานจนเกินไป ซึ่งหากแยกผู้โดยสารชั้นเฟิร์สคลาดและ บิสสิเนสคลาส ออกมา ก็จะทำให้ ช่องทางของชั้นประหยัดก็สั้นลง ลดการรอได้ด้วย”
อย่างไรก็ตาม การบริการพิเศษที่แยกออกมานี้ มั่นใจจะไม่ซ้ำซ้อนกับบริการของบริษัทไทยแลนด์พริวิเลจการ์ด ที่ให้บริการแก่ผู้ถือบัตรอีลิท เพราะหน้าที่หลักของอีลิทแท้จริงคือการสร้างโอกาสทางธุรกิจ ด้วยการเชิญชวน สนับสนุนให้สมาชิกข้ามาลลทุนในประเทศไทย ส่วนบริการฟารสต์แทรก ก็เป็นบริการที่เสริมเข้ามาอำนวยความสะดวกให้แก่สมาชิกเช่นกัน
นายวีระศักดิ์ กล่าวอีกว่า มีแนวคิดจะสนับสนุนให้ประเทศไทย สมาคมสมาพันธ์ภาพยนตร์แห่งชาติ ให้จัดงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพ มากกว่า 1 ครั้งต่อปี เพราะเป็นงานที่อยู่ในกระแสนิยม และ สามารถสร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศไทย รวมถึงสะท้อนให้เห็นศักยภาพของวอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของไทยด้วย รูปแบบ อาจจัดเป็นงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพ 1 ครั้งใหญ่ และ จัดเป็นเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติ แยกย่อยออกมา โดยแบ่งเป็นแต่ละประเภทของภาพยนตร์
สำหรับประเภทที่กำลังอยู่ในความสนใจของผู้ชม ได้แก่ เทศกาลภาพยนตร์ตลก เพราะที่ผ่านมาภาพยนตร์ตลกของประเทศไทยมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง และ เนื้อหาก็ช่วยสร้างบรรยากาศผ่อนคลาย โดยผู้จัดงาน มองว่า สมาคมสมาพันธ์ภาพยนตร์จะเป็นผู้จัดได้ดี เพราะมีความเชี่ยวชาญ ส่วน ททท.ก็ทำหน้าที่เป็นผู้สนับสนุน เหมือน งานเทศกาลภายนตร์นานาชาติ เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา
