รอยเตอร์ – สำนักข่าวรอยเตอร์คาดสถานการณ์การเมืองไทยที่อาจะเป็นไปได้ในระยะเวลาต่อจากนี้ไป ในสถานการณ์ที่สำนักข่าวแห่งนี้บอกว่า ทางกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยประกาศเพิ่มการรณรงค์ต่อต้านรัฐบาลยิ่งขึ้นอีกเมื่อวานนี้(8) ภายหลังถูกตำรวจปราบโหดจนทำให้เกิดความรุนแรงบนท้องถนนครั้งร้ายแรงที่สุดในรอบ 16 ปี
รอยเตอร์กล่าวว่า การคาดคะเนสถานการณ์ทั้งหมดเหล่านี้ ยังไม่มีความเป็นไปได้แบบใดเลย ที่จะสามารถเยียวยาความแตกร้าวในขั้นพื้นฐานระหว่างคนยากจนในชนบทและในเมืองที่สนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กับชนชั้นกลางในกรุงเทพฯซึ่งดูหมิ่นชิงชัง พ.ต.ท.ทักษิณ
สำหรับความเป็นไปได้ของสถานการณ์ที่รอยเตอร์คาดหมายไว้ มีดังนี้
**วิกฤตยืดเยื้อต่อไป ความรุนแรงปะทุเป็นพักๆ**
วิกฤตการณ์ทางการเมืองยังคงดำเนินต่อเนื่องไปอีกเป็นเดือนๆ โดยที่เกิดความรุนแรงตามท้องถนนขึ้นมาเป็นระยะๆ ขณะที่กลุ่มพันธมิตรฯมุ่งหาทางปล่อยหมัดเด็ดน็อกรัฐบาล และเป็นไปได้ว่าอาจเกิดปฏิกิริยาจากฝ่ายทหาร
กลุ่มพันธมิตรฯอาจพยายามใช้ความรุนแรงที่เกิดขึ้นเมื่อวันอังคาร(7) เพื่อล็อบบี้พนักงานในสังกัดสหภาพของรัฐวิสาหกิจด้านสาธารณูปโภคต่างๆ เพื่อเปิดปฏิบัติการสไตรก์, ทำให้การให้บริการเกิดความติดขัด, และเพิ่มแรงกดดันต่อรัฐบาล
พวกนักวิเคราะห์จำนวนมากเชื่อว่า นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีคนใหม่ จะอยู่ในตำแหน่งได้ไม่นาน ถึงแม้พวกพรรคร่วมรัฐบาลมีความเป็นไปได้ที่สุดที่จะใช้วิธีหานายกรัฐมนตรีขึ้นมาอีกคนหนึ่ง และพยายามฟันฝ่าผ่านการโจมตีของกลุ่มพันธมิตรฯ
**ทหารก่อการรัฐประหารยึดอำนาจ**
พล.อ.อนุพงศ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบกได้ปฏิเสธเรื่อยมาต่อข่าวลือเรื่องจะมีการปฏิวัติรัฐประหาร โดยเขายืนยันว่ากำลังทหารไม่ติดอาวุธที่เขาสั่งให้ออกมาประจำตามท้องถนนสายต่างๆ ของกรุงเทพฯในวันอังคารนั้น ก็เพื่อช่วยเหลือตำรวจในการรักษาความสงบเรียบร้อย
ผู้บัญชาการทหารบกผู้นี้กล่าวย้ำมาหลายครั้งว่า การปฏิวัติรัฐประหารจะไม่สามารถแก้ไขปัญหาทางการเมืองขั้นรากฐานต่างๆ ได้เลย โดยที่ปัญหาเหล่านี้ได้เลวร้ายลงนับแต่ที่ฝ่ายทหารขับไล่ พ.ต.ท.ทักษิณลงจากอำนาจเมื่อ 2 ปีก่อน
กระนั้นก็ตาม เมื่อมีการนองเลือดตามท้องถนนในกรุงเทพฯอย่างร้ายแรงกันมากขึ้น ก็ทำให้มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดการแทรกแซงของฝ่ายทหาร “เพื่อประโยชน์ของความสามัคคีของประเทศชาติ”
**รัฐบาลสั่งตำรวจลุยปราบปรามการประท้วง**
การเคลื่อนกำลังเข้าปราบปรามกลุ่มพันธมิตรฯผู้ทำการประท้วงตั้งแนวกีดขวางด้านนอกของรัฐสภาเมื่อวันอังคาร ถือเป็นการตอบโต้อย่างรุนแรงที่สุดของตำรวจต่อการรณรงค์ตามท้องถนนคราวนี้ การปะทะปราบปรามที่เกิดขึ้นทำให้คนไทยจำนวนมากตระหนกตกใจ และเร่งให้รองนายกรัฐมนตรีผู้หนึ่งแสดงความรับผิดชอบและลาออกจากตำแหน่ง
ไม่น่าเป็นไปได้ที่รัฐบาลจะออกคำสั่งอีกครั้งให้กำลังรักษาความมั่นคงเดินหน้าปราบปรามกลุ่มพันธมิตรฯอย่างรุนแรงอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเอาตัวผู้ประท้วงเหล่านี้ออกมาจากทำเนียบรัฐบาล ซึ่งพวกเขาเข้ายึดไว้ตั้งแต่ปลายเดือนสิงหาคม
การบุกถล่มพื้นที่ประท้วง ซึ่งมีสตรีวัยกลางคนนั่งอยู่เคียงข้างเยาวชนที่ติดอาวุธด้วยไม้, ไม้กอล์ฟ, และท่อนเหล็ก เป็นไปได้ว่าน่าจะทำให้เกิดการบาดเจ็บล้มตายอย่างมาก ซึ่งจะจุดชนวนทำให้สาธารณชนวงกว้างรู้สึกรับไม่ได้
**ศาลสั่งยุบพรรครัฐบาล**
คณะกรรมการการเลือกตั้งได้ลงความเห็นไปแล้วว่า พรรคพลังประชาชน (พปช.) มีความผิดฐานซื้อเสียง และหากศาลฎีกาเห็นชอบด้วย พรรคนี้ก็จะถูกยุบ
การถูกยุบพรรค หมายความว่าตัวบุคคลระดับสูงของ พปช.จะถูกห้ามยุ่งเกี่ยวกับการเมือง ทว่า ส.ส.ส่วนใหญ่ของพรรคสามารถรอดตัว เพียงด้วยการย้ายไปอยู่กับพรรคเพื่อไทย ซึ่งเตรียมเอาไว้แล้ว
ตราบเท่าที่พวกพรรคร่วมรัฐบาลยังเกาะกันเหนียวแน่น ก็จะไม่มีเหตุให้ต้องจัดการเลือกตั้งใหม่ แต่ถ้าเกิดมีการเลือกตั้งขึ้นมา ก็เชื่อกันว่าพรรคเพื่อไทยจะชนะ เนื่องจากยังคงได้เสียงจากทางชนบทซึ่งสนับสนุนทักษิณ
ยังไม่มีกำหนดวันเวลาชัดเจนว่าทางศาลจะมีคำตัดสินเรื่องนี้ออกมาเมื่อใด แต่นักวิเคราะห์บางคนคาดหมายว่าน่าจะในราวต้นปีหน้า
**การรณรงค์ของพันธมิตรฯฝ่อลงไป**
ไม่มีใครทราบว่าใครคือผู้ให้การหนุนหลังจริงๆ ของกลุ่มพันธมิตรฯ ซึ่งยอมรับเองว่าต้องใช้จ่ายวันละประมาณ 1 ล้านบาท ทว่านักวิเคราะห์ส่วนใหญ่เชื่อว่า กลุ่มพันธมิตรฯมีเงินทุนแน่นหนาและมีสายสัมพันธ์ที่ดี
พวกปากเสียงของกลุ่มพันธมิตรฯพูดอยู่เสมอว่าจะต่อสู้ต่อไปจนกว่าพวกของทักษิณจะถูกกำจัดออกไปจากระบบการเมือง แต่ขบวนการนี้ก็กำลังเผชิญแรงต่อต้านจากการเรียกร้อง “การเมืองใหม่”
**พระเจ้าอยู่หัวทรงคลี่คลายความขัดแย้ง**
ชาวไทยเคารพรักพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระองค์นี้ดังหนึ่งสมมุติเทพ และในช่วง 60 ปีแห่งการครองราชย์ พระองค์การก็ได้ทรงคลี่คลายความขัดแย้งอยู่หลายครั้ง
รอยเตอร์กล่าวว่า การคาดคะเนสถานการณ์ทั้งหมดเหล่านี้ ยังไม่มีความเป็นไปได้แบบใดเลย ที่จะสามารถเยียวยาความแตกร้าวในขั้นพื้นฐานระหว่างคนยากจนในชนบทและในเมืองที่สนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กับชนชั้นกลางในกรุงเทพฯซึ่งดูหมิ่นชิงชัง พ.ต.ท.ทักษิณ
สำหรับความเป็นไปได้ของสถานการณ์ที่รอยเตอร์คาดหมายไว้ มีดังนี้
**วิกฤตยืดเยื้อต่อไป ความรุนแรงปะทุเป็นพักๆ**
วิกฤตการณ์ทางการเมืองยังคงดำเนินต่อเนื่องไปอีกเป็นเดือนๆ โดยที่เกิดความรุนแรงตามท้องถนนขึ้นมาเป็นระยะๆ ขณะที่กลุ่มพันธมิตรฯมุ่งหาทางปล่อยหมัดเด็ดน็อกรัฐบาล และเป็นไปได้ว่าอาจเกิดปฏิกิริยาจากฝ่ายทหาร
กลุ่มพันธมิตรฯอาจพยายามใช้ความรุนแรงที่เกิดขึ้นเมื่อวันอังคาร(7) เพื่อล็อบบี้พนักงานในสังกัดสหภาพของรัฐวิสาหกิจด้านสาธารณูปโภคต่างๆ เพื่อเปิดปฏิบัติการสไตรก์, ทำให้การให้บริการเกิดความติดขัด, และเพิ่มแรงกดดันต่อรัฐบาล
พวกนักวิเคราะห์จำนวนมากเชื่อว่า นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีคนใหม่ จะอยู่ในตำแหน่งได้ไม่นาน ถึงแม้พวกพรรคร่วมรัฐบาลมีความเป็นไปได้ที่สุดที่จะใช้วิธีหานายกรัฐมนตรีขึ้นมาอีกคนหนึ่ง และพยายามฟันฝ่าผ่านการโจมตีของกลุ่มพันธมิตรฯ
**ทหารก่อการรัฐประหารยึดอำนาจ**
พล.อ.อนุพงศ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบกได้ปฏิเสธเรื่อยมาต่อข่าวลือเรื่องจะมีการปฏิวัติรัฐประหาร โดยเขายืนยันว่ากำลังทหารไม่ติดอาวุธที่เขาสั่งให้ออกมาประจำตามท้องถนนสายต่างๆ ของกรุงเทพฯในวันอังคารนั้น ก็เพื่อช่วยเหลือตำรวจในการรักษาความสงบเรียบร้อย
ผู้บัญชาการทหารบกผู้นี้กล่าวย้ำมาหลายครั้งว่า การปฏิวัติรัฐประหารจะไม่สามารถแก้ไขปัญหาทางการเมืองขั้นรากฐานต่างๆ ได้เลย โดยที่ปัญหาเหล่านี้ได้เลวร้ายลงนับแต่ที่ฝ่ายทหารขับไล่ พ.ต.ท.ทักษิณลงจากอำนาจเมื่อ 2 ปีก่อน
กระนั้นก็ตาม เมื่อมีการนองเลือดตามท้องถนนในกรุงเทพฯอย่างร้ายแรงกันมากขึ้น ก็ทำให้มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดการแทรกแซงของฝ่ายทหาร “เพื่อประโยชน์ของความสามัคคีของประเทศชาติ”
**รัฐบาลสั่งตำรวจลุยปราบปรามการประท้วง**
การเคลื่อนกำลังเข้าปราบปรามกลุ่มพันธมิตรฯผู้ทำการประท้วงตั้งแนวกีดขวางด้านนอกของรัฐสภาเมื่อวันอังคาร ถือเป็นการตอบโต้อย่างรุนแรงที่สุดของตำรวจต่อการรณรงค์ตามท้องถนนคราวนี้ การปะทะปราบปรามที่เกิดขึ้นทำให้คนไทยจำนวนมากตระหนกตกใจ และเร่งให้รองนายกรัฐมนตรีผู้หนึ่งแสดงความรับผิดชอบและลาออกจากตำแหน่ง
ไม่น่าเป็นไปได้ที่รัฐบาลจะออกคำสั่งอีกครั้งให้กำลังรักษาความมั่นคงเดินหน้าปราบปรามกลุ่มพันธมิตรฯอย่างรุนแรงอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเอาตัวผู้ประท้วงเหล่านี้ออกมาจากทำเนียบรัฐบาล ซึ่งพวกเขาเข้ายึดไว้ตั้งแต่ปลายเดือนสิงหาคม
การบุกถล่มพื้นที่ประท้วง ซึ่งมีสตรีวัยกลางคนนั่งอยู่เคียงข้างเยาวชนที่ติดอาวุธด้วยไม้, ไม้กอล์ฟ, และท่อนเหล็ก เป็นไปได้ว่าน่าจะทำให้เกิดการบาดเจ็บล้มตายอย่างมาก ซึ่งจะจุดชนวนทำให้สาธารณชนวงกว้างรู้สึกรับไม่ได้
**ศาลสั่งยุบพรรครัฐบาล**
คณะกรรมการการเลือกตั้งได้ลงความเห็นไปแล้วว่า พรรคพลังประชาชน (พปช.) มีความผิดฐานซื้อเสียง และหากศาลฎีกาเห็นชอบด้วย พรรคนี้ก็จะถูกยุบ
การถูกยุบพรรค หมายความว่าตัวบุคคลระดับสูงของ พปช.จะถูกห้ามยุ่งเกี่ยวกับการเมือง ทว่า ส.ส.ส่วนใหญ่ของพรรคสามารถรอดตัว เพียงด้วยการย้ายไปอยู่กับพรรคเพื่อไทย ซึ่งเตรียมเอาไว้แล้ว
ตราบเท่าที่พวกพรรคร่วมรัฐบาลยังเกาะกันเหนียวแน่น ก็จะไม่มีเหตุให้ต้องจัดการเลือกตั้งใหม่ แต่ถ้าเกิดมีการเลือกตั้งขึ้นมา ก็เชื่อกันว่าพรรคเพื่อไทยจะชนะ เนื่องจากยังคงได้เสียงจากทางชนบทซึ่งสนับสนุนทักษิณ
ยังไม่มีกำหนดวันเวลาชัดเจนว่าทางศาลจะมีคำตัดสินเรื่องนี้ออกมาเมื่อใด แต่นักวิเคราะห์บางคนคาดหมายว่าน่าจะในราวต้นปีหน้า
**การรณรงค์ของพันธมิตรฯฝ่อลงไป**
ไม่มีใครทราบว่าใครคือผู้ให้การหนุนหลังจริงๆ ของกลุ่มพันธมิตรฯ ซึ่งยอมรับเองว่าต้องใช้จ่ายวันละประมาณ 1 ล้านบาท ทว่านักวิเคราะห์ส่วนใหญ่เชื่อว่า กลุ่มพันธมิตรฯมีเงินทุนแน่นหนาและมีสายสัมพันธ์ที่ดี
พวกปากเสียงของกลุ่มพันธมิตรฯพูดอยู่เสมอว่าจะต่อสู้ต่อไปจนกว่าพวกของทักษิณจะถูกกำจัดออกไปจากระบบการเมือง แต่ขบวนการนี้ก็กำลังเผชิญแรงต่อต้านจากการเรียกร้อง “การเมืองใหม่”
**พระเจ้าอยู่หัวทรงคลี่คลายความขัดแย้ง**
ชาวไทยเคารพรักพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระองค์นี้ดังหนึ่งสมมุติเทพ และในช่วง 60 ปีแห่งการครองราชย์ พระองค์การก็ได้ทรงคลี่คลายความขัดแย้งอยู่หลายครั้ง