ผู้จัดการรายวัน - แบงก์ชาติสกัดวิกฤตสหรัฐ-ยุโรปลามมาไทย เผยแบงก์พาณิชย์ไทยลงทุนต่างประเทศไม่ถึง 5 หมื่นล้านบาท หรือแค่ 1.26% ผู้ฝากเงินอย่าตื่นตระหนก รับรองเงินไม่สูญ
นายสรสิทธิ์ สุนทรเกศ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวถึงการลุกลามของวิกฤติสถาบันการเงินจากสหรัฐ ไปยังกลุ่มประเทศยุโรปว่า ไม่กระทบโดยตรงกับฐานะของระบบสถาบันการเงินไทยมากนัก เนื่องจากการลงทุนของระบบธนาคารพาณิชย์ไทยในสถาบันการเงินต่างชาติทั้งหมดเพียง 50,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 1.26% ของสินเชื่อและเงินลงทุนรวม 8.5 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลของประเทศต่างๆ มากกว่าครึ่ง ที่เหลือเป็นเงินลงทุนให้สินเชื่อ และพันธบัตรของสถาบันการเงินต่างประเทศ
จากข้อมูลดังกล่าว ธปท.สามารถให้ความมั่นใจในฐานะของภาพรวมธนาคารพาณิชย์ต่อผู้ฝากเงิน และลูกค้าของธนาคารพาณิชย์ได้ ส่วนกรณีที่รัฐบาล และธนาคารกลางแห่งชาติยุโรปทยอยปรับเพดานการประกันเงินฝาก จากการค้ำแบบจำกัดวงเงินเป็นให้ความคุ้มครองเต็มจำนวนนั้น ถือเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับผู้ฝากเงินของประเทศนั้นๆ
“ขณะนี้ระบบสถาบันการเงินของไทยยังมีความแข็งแกร่ง และไม่มีปัญหาในการรับประกันเงินฝาก เพราะขณะนี้สถาบันคุ้มครองเงินฝากของไทยรับประกันเงินฝากเต็มจำนวนอยู่แล้ว กว่าที่ค้ำประกันเงินฝากบัญชีละ 1 ล้านล้านบาท จะเริ่มอีก 3 ปีข้างหน้า แต่หากเกิดกรณีฉุกเฉินจริง เราก็สามารถทำเหมือนต่างประเทศ โดยเปลี่ยนการค้ำประกันเงินฝากจากบัญชีละ 1 ล้านบาทเป็นเต็มจำนวนได้เช่นกัน” นายสรสิทธิ์กล่าว.
นายสรสิทธิ์ สุนทรเกศ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวถึงการลุกลามของวิกฤติสถาบันการเงินจากสหรัฐ ไปยังกลุ่มประเทศยุโรปว่า ไม่กระทบโดยตรงกับฐานะของระบบสถาบันการเงินไทยมากนัก เนื่องจากการลงทุนของระบบธนาคารพาณิชย์ไทยในสถาบันการเงินต่างชาติทั้งหมดเพียง 50,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 1.26% ของสินเชื่อและเงินลงทุนรวม 8.5 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลของประเทศต่างๆ มากกว่าครึ่ง ที่เหลือเป็นเงินลงทุนให้สินเชื่อ และพันธบัตรของสถาบันการเงินต่างประเทศ
จากข้อมูลดังกล่าว ธปท.สามารถให้ความมั่นใจในฐานะของภาพรวมธนาคารพาณิชย์ต่อผู้ฝากเงิน และลูกค้าของธนาคารพาณิชย์ได้ ส่วนกรณีที่รัฐบาล และธนาคารกลางแห่งชาติยุโรปทยอยปรับเพดานการประกันเงินฝาก จากการค้ำแบบจำกัดวงเงินเป็นให้ความคุ้มครองเต็มจำนวนนั้น ถือเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับผู้ฝากเงินของประเทศนั้นๆ
“ขณะนี้ระบบสถาบันการเงินของไทยยังมีความแข็งแกร่ง และไม่มีปัญหาในการรับประกันเงินฝาก เพราะขณะนี้สถาบันคุ้มครองเงินฝากของไทยรับประกันเงินฝากเต็มจำนวนอยู่แล้ว กว่าที่ค้ำประกันเงินฝากบัญชีละ 1 ล้านล้านบาท จะเริ่มอีก 3 ปีข้างหน้า แต่หากเกิดกรณีฉุกเฉินจริง เราก็สามารถทำเหมือนต่างประเทศ โดยเปลี่ยนการค้ำประกันเงินฝากจากบัญชีละ 1 ล้านบาทเป็นเต็มจำนวนได้เช่นกัน” นายสรสิทธิ์กล่าว.