ผู้จัดการรายวัน- ผลพวงวิกฤติการเงินสหรัฐฯฉุดราคาน้ำมันโลกร่วงส่งผลให้ค่าการตลาดผู้ค้าน้ำมันในประเทศเริ่มผงกหัวดีขึ้นจากสัปดาห์ก่อนที่หดหนัก ลุ้นตลาดสิงคโปร์หากลดลงจะมีผลให้ราคาขายปลีกปรับลดทันที 1-2 วันนี้ เผยระยะสั้นน้ำมันดิบจะผันผวนหนักแต่ภาพรวมคาดว่าจะแกว่งตัว90-100 เหรียญฯต่อบาร์เรล
นายวิทยา หวังจิตรารักษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท. เปิดเผยว่า ราคาขายปลีกน้ำมันของไทยจะปรับลดลงหรือไม่คงต้องติดตามราคาน้ำมันสำเร็จรูปปิดตลาดสิงคโปร์ใน 1-2 วันนี้หากลดลงก็มีโอกาสสูงซึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาปตท.ไม่ได้ทำการปรับขึ้นราคาขายปลีกแม้ว่าค่าการตลาดจะลดต่ำเหลือเพียง 20-30 สตางค์ต่อลิตรเท่านั้นทั้งที่ปกติค่าการตลาดที่เหมาะสมควรอยู่ระดับ 1.50 บาทต่อลิตร
“ คงต้องติดตามน้ำมันสำเร็จรูปสิงคโปร์ปิดตลาด 1-2 วันว่าจะลดลงตามน้ำมันดิบตลาดโลกมากน้อยเพียงใดหลังจากที่ตลาดเวสต์เท็กซัส ปรับลดลง 10.52 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล ปิดที่ 96.37 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรลเมื่อวันที่ 29 ก.ย.เพราะวิตกกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐที่ใหญ่เป็นอันดับ 1 ของโลก ว่าจะเป็นอย่างไรหลังจากสภาคองเกรสไม่อนุมัติแผนกู้วิกฤติการเงินมูลค่า 7 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ทำให้นักลงทุนวิตกแล้วเทขาย”นายวิทยากล่าว
นายมนูญ ศิริวรรณ ผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำมันกล่าวว่า ราคาน้ำมันขณะนี้คงจะผันผวนไปตามแนวทางการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของสหรัฐฯชัดเจนจึงจะทราบทิศทางของราคาน้ำมันที่แน่นอนได้ ดังนั้นระยะสั้นคงผันผวนค่อนข้างมาก อย่างไรก็ตามภาพรวมเศรษฐกิจสหรัฐฯจะชะลอตัวแน่นอนดังนั้นการใช้น้ำมันคงลดลงระดับหนึ่งแต่ก็จะต้องติดตามท่าทีของกลุ่มประเทศผู้ผลิตและส่งออกน้ำมันหรือโอเปกในเดือนธ.ค.ว่าจะตัดสินใจลดการผลิตลงหรือไม่ ซึ่งเห็นว่าราคาน้ำมันสิ้นปีน่าจะแกว่งตัวระดับ 80-90 เหรียญต่อบาร์เรล
“ราคาขายปลีกในไทยค่าการตลาดเฉลี่ยอยู่ที่ 1.70 บาทต่อลิตรดังนั้นหากราคาสิงคโปร์ปรับลดลงวันที่ 30 ก.ย. อีกต่อเนื่องเชื่อว่าจะเห็นโอกาสลดราคาลงได้มาก”นายมนูญกล่าว
รายงานข่าวจากบมจ.ไทยออยล์ แจ้งว่า วันที่ 29 ก.ย.ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสที่ตลาดนิวยอร์ก ส่งมอบเดือน พ.ย. ปรับลดลงถึง 10.52 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล ปิดที่ 96.37 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล โดยตลาดมีความกังวลว่า ปัญหาวิกฤติการเงินในสหรัฐฯ ที่ไม่ได้รับการช่วยเหลือจากรัฐบาลนั้น จะส่งผลให้เศรษฐกิจของสหรัฐฯ เข้าสู่ภาวะถดถอย และทำให้ความต้องการใช้น้ำมันปรับลดลงด้วย ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่ามีผลให้น้ำมันดิบยิ่งลดลงอีก
ส่วน ราคาน้ำมันดิบดูไบปรับลดลง 1.64 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล ปิดที่ 93.54 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล ราคาน้ำมันเบนซินที่ตลาดสิงคโปร์ ปรับลดลง 2.00 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล ปิดที่ 106.68 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล ในขณะที่ราคาน้ำมันดีเซลที่ตลาดสิงคโปร์ ปรับลดลง 4.09 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล ปิดที่ 116.69 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
นายวิทยา หวังจิตรารักษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท. เปิดเผยว่า ราคาขายปลีกน้ำมันของไทยจะปรับลดลงหรือไม่คงต้องติดตามราคาน้ำมันสำเร็จรูปปิดตลาดสิงคโปร์ใน 1-2 วันนี้หากลดลงก็มีโอกาสสูงซึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาปตท.ไม่ได้ทำการปรับขึ้นราคาขายปลีกแม้ว่าค่าการตลาดจะลดต่ำเหลือเพียง 20-30 สตางค์ต่อลิตรเท่านั้นทั้งที่ปกติค่าการตลาดที่เหมาะสมควรอยู่ระดับ 1.50 บาทต่อลิตร
“ คงต้องติดตามน้ำมันสำเร็จรูปสิงคโปร์ปิดตลาด 1-2 วันว่าจะลดลงตามน้ำมันดิบตลาดโลกมากน้อยเพียงใดหลังจากที่ตลาดเวสต์เท็กซัส ปรับลดลง 10.52 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล ปิดที่ 96.37 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรลเมื่อวันที่ 29 ก.ย.เพราะวิตกกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐที่ใหญ่เป็นอันดับ 1 ของโลก ว่าจะเป็นอย่างไรหลังจากสภาคองเกรสไม่อนุมัติแผนกู้วิกฤติการเงินมูลค่า 7 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ทำให้นักลงทุนวิตกแล้วเทขาย”นายวิทยากล่าว
นายมนูญ ศิริวรรณ ผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำมันกล่าวว่า ราคาน้ำมันขณะนี้คงจะผันผวนไปตามแนวทางการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของสหรัฐฯชัดเจนจึงจะทราบทิศทางของราคาน้ำมันที่แน่นอนได้ ดังนั้นระยะสั้นคงผันผวนค่อนข้างมาก อย่างไรก็ตามภาพรวมเศรษฐกิจสหรัฐฯจะชะลอตัวแน่นอนดังนั้นการใช้น้ำมันคงลดลงระดับหนึ่งแต่ก็จะต้องติดตามท่าทีของกลุ่มประเทศผู้ผลิตและส่งออกน้ำมันหรือโอเปกในเดือนธ.ค.ว่าจะตัดสินใจลดการผลิตลงหรือไม่ ซึ่งเห็นว่าราคาน้ำมันสิ้นปีน่าจะแกว่งตัวระดับ 80-90 เหรียญต่อบาร์เรล
“ราคาขายปลีกในไทยค่าการตลาดเฉลี่ยอยู่ที่ 1.70 บาทต่อลิตรดังนั้นหากราคาสิงคโปร์ปรับลดลงวันที่ 30 ก.ย. อีกต่อเนื่องเชื่อว่าจะเห็นโอกาสลดราคาลงได้มาก”นายมนูญกล่าว
รายงานข่าวจากบมจ.ไทยออยล์ แจ้งว่า วันที่ 29 ก.ย.ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสที่ตลาดนิวยอร์ก ส่งมอบเดือน พ.ย. ปรับลดลงถึง 10.52 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล ปิดที่ 96.37 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล โดยตลาดมีความกังวลว่า ปัญหาวิกฤติการเงินในสหรัฐฯ ที่ไม่ได้รับการช่วยเหลือจากรัฐบาลนั้น จะส่งผลให้เศรษฐกิจของสหรัฐฯ เข้าสู่ภาวะถดถอย และทำให้ความต้องการใช้น้ำมันปรับลดลงด้วย ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่ามีผลให้น้ำมันดิบยิ่งลดลงอีก
ส่วน ราคาน้ำมันดิบดูไบปรับลดลง 1.64 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล ปิดที่ 93.54 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล ราคาน้ำมันเบนซินที่ตลาดสิงคโปร์ ปรับลดลง 2.00 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล ปิดที่ 106.68 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล ในขณะที่ราคาน้ำมันดีเซลที่ตลาดสิงคโปร์ ปรับลดลง 4.09 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล ปิดที่ 116.69 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
