ผู้จัดการรายวัน-“สันติ”ควง “โสภณ-วราวุธ”เข้าทำงานวันแรก ยันเร่งเดินหน้าโครงการรถไฟฟ้า ขยายสุวรรณภูมิเฟส2 ยอมรับปัญหาการเมือง กระทบความเชื่อมั่น โครงการใหญ่ชะงัก ส่วนแบ่งงานรอหลังรัฐบาลแถลงนโยบาย ด้าน“วราวุธ”พร้อมทำงานยันพรรคไม่ต่อรองแบ่งงาน
วานนี้ (29 ก.ย.) นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมพร้อมด้วย นายโสภณ ซารัมย์ และนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ได้เดินทางเข้าทำงานเป็นวันแรก โดยได้สักการะศาลท้าวมหาพรหมสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงคมนาคม โดยนายสันติ เปิดเผยว่า จะสานต่อนโยบายเดิมจากรัฐบาลชุดที่แล้ว โดยเฉพาะเร่งรัดโครงการรถไฟฟ้า 9 เส้นทาง ซึ่งเป็นความหวังของประชาชนโดยยอมรับว่า การทำให้ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนที่โปร่งใส ตรวจสอบได้ นั้นต้องผ่านกระบวนการต่าง ๆ หลายขั้นตอน ทำให้โครงการอาจล่าช้าไปบ้าง รวมถึงการเร่งรัดโครงการก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิเฟส 2 ให้เป็นไปตามแผน
นายสันติ ยอมรับว่า ปัญหาความไม่มั่นคงทางการเมืองที่ผ่านมาได้ส่งผลกระทบต่อการลงทุนให้ชะลอตัวลง โดยเฉพาะโครงการสำคัญ ๆ แต่เมื่อรัฐบาลได้กลับมาบริหารประเทศต่อแล้วสถานการณ์การเมืองน่าจะดีขึ้นก็ต้องเร่งสร้างความมั่นใจของนักลงทุนให้กลับมา โดยยืนยันว่านโยบายต่าง ของกระทรวงในการก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ มีแนวทางที่ชัดเจน ส่วนการแบ่งงานให้กับรัฐมนตรีช่วยนั้นจะหารือร่วมกันหลังจากที่รัฐบาลได้มีการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาแล้ว
นายวราวุธ กล่าวว่า มีความพร้อมในการทำงานไม่ว่าจะได้รับมอบหมายให้ดูแลงานด้านไหน เพราะได้ติดตามงานของกระทรวงคมนาคมซึ่งมีโครงการใหญ่มากมาก่อนหน้านี้บ้างจึงไม่หนักใจ ซึ่งการแบ่งงานนั้นเชื่อว่า รมว.คมนาคมจะพิจารณาตามความเหมาะสม ตนและพรรคชาติไทยไม่เคยเรียกร้องหรือต่อรอง เพราะจุดมุ่งหมายของการทำงานอยู่ที่ผลงานไม่ใช่จำนวนงานที่ได้
ส่วนกรณีที่นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย เคยเป็นอดีตรมว.คมนาคมและต้องทำงานร่วมกับข้าราชการที่มีอาวุโสกว่านั้น นายวราวุธกล่าวว่า ไม่รู้สึกกดดันหรือหนักใจ การทำงานเป็นไปตามสายการบังคับบัญชา และอาศัยความอ่อนน้อมถ่อมตน ส่วนท่านบรรหารนั้นทำให้ตนมีห้องสมุดหรือพจนานุกรมเล่มใหญ่ที่สามารถค้นคว้า เพื่อเป็นข้อมูลในการทำงาน
วานนี้ (29 ก.ย.) นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมพร้อมด้วย นายโสภณ ซารัมย์ และนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ได้เดินทางเข้าทำงานเป็นวันแรก โดยได้สักการะศาลท้าวมหาพรหมสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงคมนาคม โดยนายสันติ เปิดเผยว่า จะสานต่อนโยบายเดิมจากรัฐบาลชุดที่แล้ว โดยเฉพาะเร่งรัดโครงการรถไฟฟ้า 9 เส้นทาง ซึ่งเป็นความหวังของประชาชนโดยยอมรับว่า การทำให้ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนที่โปร่งใส ตรวจสอบได้ นั้นต้องผ่านกระบวนการต่าง ๆ หลายขั้นตอน ทำให้โครงการอาจล่าช้าไปบ้าง รวมถึงการเร่งรัดโครงการก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิเฟส 2 ให้เป็นไปตามแผน
นายสันติ ยอมรับว่า ปัญหาความไม่มั่นคงทางการเมืองที่ผ่านมาได้ส่งผลกระทบต่อการลงทุนให้ชะลอตัวลง โดยเฉพาะโครงการสำคัญ ๆ แต่เมื่อรัฐบาลได้กลับมาบริหารประเทศต่อแล้วสถานการณ์การเมืองน่าจะดีขึ้นก็ต้องเร่งสร้างความมั่นใจของนักลงทุนให้กลับมา โดยยืนยันว่านโยบายต่าง ของกระทรวงในการก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ มีแนวทางที่ชัดเจน ส่วนการแบ่งงานให้กับรัฐมนตรีช่วยนั้นจะหารือร่วมกันหลังจากที่รัฐบาลได้มีการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาแล้ว
นายวราวุธ กล่าวว่า มีความพร้อมในการทำงานไม่ว่าจะได้รับมอบหมายให้ดูแลงานด้านไหน เพราะได้ติดตามงานของกระทรวงคมนาคมซึ่งมีโครงการใหญ่มากมาก่อนหน้านี้บ้างจึงไม่หนักใจ ซึ่งการแบ่งงานนั้นเชื่อว่า รมว.คมนาคมจะพิจารณาตามความเหมาะสม ตนและพรรคชาติไทยไม่เคยเรียกร้องหรือต่อรอง เพราะจุดมุ่งหมายของการทำงานอยู่ที่ผลงานไม่ใช่จำนวนงานที่ได้
ส่วนกรณีที่นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย เคยเป็นอดีตรมว.คมนาคมและต้องทำงานร่วมกับข้าราชการที่มีอาวุโสกว่านั้น นายวราวุธกล่าวว่า ไม่รู้สึกกดดันหรือหนักใจ การทำงานเป็นไปตามสายการบังคับบัญชา และอาศัยความอ่อนน้อมถ่อมตน ส่วนท่านบรรหารนั้นทำให้ตนมีห้องสมุดหรือพจนานุกรมเล่มใหญ่ที่สามารถค้นคว้า เพื่อเป็นข้อมูลในการทำงาน
