ศาลพระโขนงสั่งจำคุกสาวแบงก์กรุงเทพ 492 ปี คดีทุจริตเบิกเงินลูกค้าเข้าบัญชีตัวเองกว่า 65 ล้าน รับสารภาพ เหลือติด 200 กว่าปี แต่ติดจริงตามกฎหมายได้แค่ 20 ปี พร้อมคืนเงินผู้เสียหาย
วานนี้ (26 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลจังหวัดพระโขนง ถ.สรรพาวุธ ได้มีคำพิพากษาคดีหมายเลขดำ ที่ 7801/51 ที่พนักงานอัยการศาลจังหวัดพระโขนง เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง น.ส.ศุภรัสมิ์ พิพิธทวีวงษ์ อดีตพนักงานฝ่ายบัญชี ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) สาขาสี่แยกบางนา เป็นจำเลย ในความผิดฐานร่วมกันลักทรัพย์ของนายจ้าง หรือที่อยู่ในความครอบครองของนายจ้าง เอาไปเสียซึ่งเอกสารผู้อื่น, ร่วมกันปลอมเอกสารสิทธิ ปลอมและใช้ตั๋วเงิน ใช้เอกสารสิทธิปลอม
คดีนี้ฟ้องโจทก์ระบุความผิดจำเลยสรุปว่า ระหว่างเดือนต.ค.49 - ก.ค.50 จำเลยได้ร่วมกับพวกปลอมแปลงเอกสารสิทธิ โดยนำใบถอนเงินของธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ของบริษัท กรีนสยาม มาร์เก็ตติ้ง จำกัด, บริษัท แชมเปี้ยน มาร์เก็ตติ้ง จำกัด, นายศิริพจน์ พงศ์ปรีชา และธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) สาขาสี่แยกบางนา ผู้เสียหายทั้ง 4 ราย โดยจำเลยได้ถอนเงินจากผู้เสียหาย เข้าในบัญชีตนเองโดยทุจริตรวม 123 ครั้ง เป็นเงิน 65,867,775 บาท ขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยตามความผิดและให้ชดใช้ค่าเสียหายด้วย
ศาลพิเคราะห์คำเบิกความ และพยานหลักฐานจากการนำสืบของฝ่ายโจทก์และจำเลยแล้ว เห็นว่า จำเลยมีพฤติการณ์เจตนาทุจริตจริง ประกอบกับจำเลยให้การรับสารภาพ จึงพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย ฐานใช้เอกสารสิทธิปลอม จำนวน 109 กระทง กระทงละ 4 ปี รวมจำคุก 436 ปี ลงโทษฐานใช้ตั๋วเงินปลอม กระทงละ 4 ปี จำนวน 14 กระทง รวมจำคุก 56 ปี
รวมจำคุกจำเลยทั้งสิ้น 492 ปี จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง เหลือจำคุก 246 ปี แต่คงให้จำคุกจำเลยไว้ 20 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91 (2) และให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายจำนวน 65,867,775 บาท แก่ผู้เสียหายด้วย
วานนี้ (26 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลจังหวัดพระโขนง ถ.สรรพาวุธ ได้มีคำพิพากษาคดีหมายเลขดำ ที่ 7801/51 ที่พนักงานอัยการศาลจังหวัดพระโขนง เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง น.ส.ศุภรัสมิ์ พิพิธทวีวงษ์ อดีตพนักงานฝ่ายบัญชี ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) สาขาสี่แยกบางนา เป็นจำเลย ในความผิดฐานร่วมกันลักทรัพย์ของนายจ้าง หรือที่อยู่ในความครอบครองของนายจ้าง เอาไปเสียซึ่งเอกสารผู้อื่น, ร่วมกันปลอมเอกสารสิทธิ ปลอมและใช้ตั๋วเงิน ใช้เอกสารสิทธิปลอม
คดีนี้ฟ้องโจทก์ระบุความผิดจำเลยสรุปว่า ระหว่างเดือนต.ค.49 - ก.ค.50 จำเลยได้ร่วมกับพวกปลอมแปลงเอกสารสิทธิ โดยนำใบถอนเงินของธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ของบริษัท กรีนสยาม มาร์เก็ตติ้ง จำกัด, บริษัท แชมเปี้ยน มาร์เก็ตติ้ง จำกัด, นายศิริพจน์ พงศ์ปรีชา และธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) สาขาสี่แยกบางนา ผู้เสียหายทั้ง 4 ราย โดยจำเลยได้ถอนเงินจากผู้เสียหาย เข้าในบัญชีตนเองโดยทุจริตรวม 123 ครั้ง เป็นเงิน 65,867,775 บาท ขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยตามความผิดและให้ชดใช้ค่าเสียหายด้วย
ศาลพิเคราะห์คำเบิกความ และพยานหลักฐานจากการนำสืบของฝ่ายโจทก์และจำเลยแล้ว เห็นว่า จำเลยมีพฤติการณ์เจตนาทุจริตจริง ประกอบกับจำเลยให้การรับสารภาพ จึงพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย ฐานใช้เอกสารสิทธิปลอม จำนวน 109 กระทง กระทงละ 4 ปี รวมจำคุก 436 ปี ลงโทษฐานใช้ตั๋วเงินปลอม กระทงละ 4 ปี จำนวน 14 กระทง รวมจำคุก 56 ปี
รวมจำคุกจำเลยทั้งสิ้น 492 ปี จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง เหลือจำคุก 246 ปี แต่คงให้จำคุกจำเลยไว้ 20 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91 (2) และให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายจำนวน 65,867,775 บาท แก่ผู้เสียหายด้วย