xs
xsm
sm
md
lg

เค.ซี.เฟรชรุกตลาดผักสดพร้อมทาน รับพรบ.ฯเกิด-ส่งออกยุโรปชะลอ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เค.ซี.เฟรช สบช่องพรบ.คุ้มครองผู้บริโภคสินค้าไม่ปลอดภัยบังคับใช้ปีหน้า กระทบห้างฯ ซูเปอร์มาร์เก็ต เข้มงวดมาตรฐานสินค้า รุกปั้นแบรนด์เค.ซี.เฟรช ชูความเป็นพรีเมียมขยายตลาดผักสดในประเทศ ส่ง 12 เมนู เอ็กซ์คูลซีฟท็อปส์ รับเทศกาลกินเจ หวังการเติบโตภายในประเทศทดแทนตลาดยุโรปชะลอหลังได้รับผลกระทบเศรษฐกิจอเมริกา ไตรมาสสี่โต 20% สิ้นปีกวาด 400 ล้านบาท

นายชูศักดิ์ ชื่นประโยชน์ ประธานกรรมการ บริษัท กำแพงแสน คอมเมอร์เชียล จำกัด ผู้ผลิตและส่งออกผลิตภัณฑ์ผักและผลไม้สดแบรนด์เค.ซี.เฟรช เปิดเผยว่า บริษัทวางแผนรุกขยายธุรกิจภายในประเทศมากขึ้น หลังจากที่ผ่านมาจะมุ่งเน้นการส่งออกเป็นหลัก ได้เแก่ อังกฤษ สวีเดน รัสเซีย ฯลฯ ในสัดส่วน 75% ส่วนภายในประเทศสัดส่วน 25% ทั้งนี้เป็นเพราะปีหน้านี้ พรบ.คุ้มครองผู้บริโภคที่ว่าด้วยความรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นจากสินค้าที่ไม่ปลอดภัย จะมีผลบังคับใช้ในเดือนกุมภาพันธ์ นี้

โดยพรบ.ดังกล่าว จะมีผลทำให้ห้างสรรพสินค้า ซูเปอร์มาร์เก็ต โมเดิร์นเทรด ภัตราคาร โรงแรม จะเริ่มให้ความสำคัญการนำสินค้าเข้ามาทำจำหน่ายต้องมีมาตรฐานมากยิ่งขึ้น เพื่อรองรับกับการร้องเรียนของผู้บริโภค ดังนั้นบริษัทจึงเห็นโอกาสดังกล่าว อีกทั้งตลาดผักสดโดยรวมของประเทศไทยมีมูลค่าร่วมกว่าแสนล้านบาท ขณะเดียวกันพฤติกรรมของผู้บริโภคไทยใส่ใจในเรื่องสุขภาพ ต้องการความสะดวกสบาย มีห่วงใยความปลอดภัยจากสารเคมี และมีการเลือกซื้อสินค้าที่มีแบรนด์มากขึ้น

ล่าสุดบริษัทจึงได้เปิดผลิตภัณฑ์ผักสดพร้อมปรุง"KC Fresh Ready to Cook" ระดับพรีเมียมราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 39บาทขึ้นไป เจาะกลุ่มเป้าหมายคนเมือง โดยได้นำจำหน่ายผ่านช่องทางท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต ในลักษณะเอ็กซ์คูลซีฟและจัดโปรโมชั่นในช่วงเทศกาลกินเจปีนี้ เพื่อสร้างการรับรู้ของแบรนด์ จากนั้นจะเริ่มกระจายสินค้าผ่านทางซูเปอร์มาร์เก็ต อาทิ วิล่า ฟู้ดส์แลนด์ และเดอะมอลล์ ภัตราคาร โรงแรม ส่วนปีหน้านี้จะขยายช่องทางจำหน่ายผ่านทางโรงพยาบาล ขณะเดียวกันยังพิจารณาเปิดชอปภายใต้แบรนด์เค.ซีงเฟรช ในอนาคต

สำหรับจุดขายของผลิตภัณฑ์เน้นที่ความสะอาด ปลอดภัย และไร้สารปนเปื้อย ซึ่งในช่วงแรกนำร่อง 12 เมนู ได้แก่ ชุดแกงส้มผักรวม ชุดผัดผักหวาน ชุดยำคะน้า ชุดแกงป่า เป็นต้น จากปัจจุบันบริษัทมีสินค้าเรือธงที่สร้างรายได้ คือ เบบี้ สลัด ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างเจรจาหาพันธมิตรผลิตน้ำสลัด ทั้งนี้จากการดำเนินการตลาดในเชิงรุกคาดว่าในปีหน้านี้สัดส่วนรายได้ในประเทศจะเพิ่มจาก 25% เป็น 50% ส่วนต่างประเทศเหลือจาก 75% เป็น 50%

นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ปีหน้านี้บริษัทได้เตรียมขยายตลาดไปยังจีน ส่วนประเทศญี่ปุ่นเน้นส่งออกผลไม้ อย่างไรก็ตามจากผลพวงภาวะเศรษฐกิจในประเทศอเมริกา ส่งผลกระทบต่อสภาพเศรษฐกิจในยุโรปซึ่งเป็นตลาดหลักส่งออกของบริษัทไปด้วย โดยเฉพาะประเทศอังกฤษ ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการเฝ้าระวัง เพื่อรองรับกับภาวะดังกล่าว บริษัทจะส่งออกตลาดที่ไม่ได้รับผลกระทบ เช่น รัสเซีย สวีเดน และสแกนดิเนเวีย

สำหรับในช่วงไตรมาสสุดท้ายบริษัทตั้งเป้าเติบโต 20% ส่วนผลประกอบการปีนี้ตั้งเป้า 400 ล้านบาท แบ่งเป็น ภายในประเทศ 100 ล้านบาท และต่างประเทศ 300 ล้านบาท และปีหน้าตั้งเป้ารายได้ภายในประเทศเพิ่มเป็น 200 ล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น