ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ – ในขณะที่เหตุการณ์ภายใน3 จ.ชายแดนใต้ยังไม่สงบ แต่การท่องเที่ยวเมืองเบตง กลับสวนกระแสขยายตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีโรงแรมผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด โดยเปิดให้บริการแล้ว 2 แห่ง และจ่อคิวอีก 2 แห่ง โดยบีโอไอไฟเขียวนักลงทุนมาเลเซียทุ่ม 44 ล้านผุดโรงแรม 100 ห้อง ส่วน อบจ.ยะลา ไม่น้อยหน้าลุยเองทุ่มงบกว่า 60 ล้าน สร้างรีสอร์ตในเบตง คาดเสร็จสิ้นปลายปีนี้ ด้าน ผอ.ททท. 3 จชต.พร้อมหนุนท่องเที่ยวเต็มที่ เตรียมศึกษาความเป็นไปได้โครงการเครื่องบินโดยสารขนาดเล็ก ขนาด 60-70 ที่นั่งบริการนักท่องเที่ยว กว่า 60 ล้าน
แม้ว่า 5 ปีของเหตุการณ์ความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนใต้จะส่งผลกระทบต่อความปลอดภัย แต่ในปีนี้พบว่านักลงทุนได้เล็งเห็นแนวโน้มโอกาสการท่องเที่ยวของ อ.เบตง จ.ยะลา ท่ามกลางวิกฤตไฟใต้ที่ล้อมรอบ จึงได้ลงทุนสร้างกิจการโรงแรมขนาด 100 ห้องรองรับนักท่องเที่ยว ด้วยเงินลงทุน 44 ล้านบาท ซึ่งถือหุ้นโดยนักลงทุนชาวมาเลเซีย 100% โดยโครงการดังกล่าวผ่านการอนุมัติจากศูนย์เศรษฐกิจการลงทุนภาคที่ 5 สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
นายอะหมาน หมัดอะดัม ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเขตภาคใต้เขต 3 (ปัตตานี ยะลา นราธิวาส) เปิดเผยว่า จากที่ BOI ได้อนุมัติให้มีการลงทุนก่อสร้างโรงแรมที่ เบตง จ.ยะลา แสดงให้เห็นว่าสถานการณ์ในเบตงดีขึ้น และมีความปลอดภัยดีกว่าที่อื่นใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ ในช่วงนี้โรงแรมทั่วทั้ง อ.เบตง ทั้ง 27 แห่ง มีนักท่องเที่ยวจองห้องพักเต็มตลอดช่วงเทศกาลฮารีรายอ แต่หากไม่อยู่ในช่วงเทศกาล โรงแรมจะอยู่ได้โดยอาศัยการจัดการประชุม หรือการสัมมนาขององค์กรในพื้นที่
“ในรอบปีนี้ นักลงทุนได้สนใจด้านการท่องเที่ยวที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยมีโรงแรม เปิดให้บริการอีก 2 แห่ง คือ โรงแรมแกรนด์มาดารินทร์ มีห้องพัก กว่า 100 ห้อง ราคาห้องละ 1,200 บาท และโรงแรมการ์เดนท์วิว มีห้องพัก 110 ห้อง ขณะที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดยะลา (อบจ.) กำลังดำเนินการก่อสร้างรีสอร์ต งบประมาณกว่า 60 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในปีนี้” นายอะหมาน กล่าวต่อและว่า
ในส่วนของนักท่องเที่ยว กลุ่มหลักยังคงเป็นชาวมาเลเซีย ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการที่รัฐบาลมาเลเซียส่งเสริมและสนับสนุนให้มีการท่องเที่ยว ประกอบกับเมืองเบตง ตั้งอยู่ติดชายแดนทำให้การเดินทางไปมาสะดวก ส่วนนักท่องเที่ยวชาวไทยนั้นมีน้อยมาก เนื่องมาจากเหตุสะเทือนขวัญกลุ่มคนร้ายได้ก่อเหตุจ่อยิงผู้โดยสารรถตู้โดยสารยะลา-หาดใหญ่ซึ่งเป็นเวลากว่า 1 ปีมาแล้ว แต่จนถึงปัจจุบันนักท่องเที่ยวชาวไทยไม่กล้าที่จะไปเที่ยวที่ จ.ยะลา
นายอะหมาน กล่าวว่า จุดเด่นของการท่องเที่ยวเมืองเบตง มีทั้งแหล่งท่องเที่ยวหลากหลาย เช่น อุโมงค์ปิยะมิตรซึ่งเป็นอุโมงค์ประวัติศาสตร์ในอดีต สวนดอกไม้เมืองหนาวเหมือนทางภาคเหนือ และอาหารการกินล้วนมีชื่อเสียงมายาวนาน เช่น ไก่เบตง, ผักน้ำ, หมี่เบตง และเคราหยก (หมูสามชั้น ส่วนใหญ่นิยมในหมู่คนจีน) ผลไม้ เช่น ทุเรียนบ้านพันธุ์ทิมพันมือ ซึ่งมีเนื้อหนา รสหวาน ต่างไปจากทุเรียนบ้านที่อื่น โดยนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียนิยมเหมารถทัวร์มาเพื่อชิมทุเรียนที่เบตงวันละหลายคัน ในช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม
ที่ผ่านมา ททท.ได้จัดกิจกรรมเพื่อประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวทุกปี เช่น กิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงคาราวานซึ่งมีขึ้นทุกปี ล่าสุดเมื่อวันที่ 17-19 สิงหาคม ที่ผ่านมา โดยมีนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียเข้าร่วมกิจกรรมกว่า 100 คน มีรถยนต์เข้าร่วมจำนวน 25 คัน
สำหรับแผนการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวเบตงในปี 2552 มีโครงการให้สื่อมวลชนและผู้ประกอบการของมาเลเซียเข้ามาดูสภาพความเป็นจริงของเมืองเบตง ว่ามีความปลอดภัยพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยว ก่อนจะให้กลุ่มนี้ กลับไปประชาสัมพันธ์นักท่องเที่ยวอีกต่อหนึ่ง และยังมีโครงการศึกษาความเป็นไปได้ของการลงทุนในพื้นที่ จัดให้มีเครื่องบินโดยสารขนาดเล็ก ขนาด 60-70 ที่นั่ง ไว้บริการนักท่องเที่ยว โดยมีงบประมาณกว่า 60 ล้าน แต่ทั้งหมดกำลังอยู่ในช่วงศึกษาความเป็นไปได้
นายอะหมาน กล่าวต่อด้วยว่า สำหรับภาพรวมการท่องเที่ยว 3 จังหวัดชายแดนใต้ในตอนนี้ยังถือว่าคงตัวอยู่ ซึ่งแต่ละจังหวัดก็ยังมีการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวกันอย่างต่อเนื่อง เช่น จังหวัดนราธิวาส มีการจัดงานของดีเมืองนราฯ ระหว่างวันที่ 21-25 กันยายน มีการประชันนกเขาชวา โดยผู้ชนะได้รับถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งได้เสด็จฯเป็นองค์ประธานในงานนี้ด้วย มีลองกอง กระจูด มาจำหน่ายในงานมากมาย ระหว่างวันที่ 23-25 ตุลาคม มีการจัดการแข่งขันเรือกอและ ซึ่งเป็นประเพณีอันเก่าแก่ของเมืองนราธิวาส โดยแข่งขันต่อหน้าพระที่นั่งพระบรมวงศานุวงศ์ ชิงถ้วยพระราชทาน