ผู้จัดการรายวัน – ตลาดหนังสือ ตั้งแผนรับยอดขายตก “สถาพรบุ๊คส์” ชูอินเอร์เน็ตเพิ่มยอด มัดใจหนอนหนังสือวัยรุ่น เผยต.ค. ผุด “สำนักพิมพ์ บี ไบรท์ บาย เฟิสต์”ลุยตลาดหนังสือกลุ่มพัฒนาตัวเอง สิ้นปีมั่นใจรายได้เติบโต 15%
นายวรพันธ์ โลกิตสถาพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท สถาพรบุ๊คส์ จำกัด เปิดเผยว่า แนวโน้มตลาดหนังสือปีนี้คาดว่าจะเติบโตไม่เกิน 5-6% ใกล้เคียงกับค่าจีดีพีของประเทศ จึงมองว่าไม่เลวร้ายเท่าไรนัก ขณะที่ในส่วนของสถาพรบุ๊คส์ครึ่งปีที่ผ่านมามียอดขายเติบโตที่ 9% ต่ำกว่าเป้าเล็กน้อย สาเหตุมาจากลูกค้าใช้จ่ายในการซื้อหนังสือลดลงต่อครั้งประมาณ 20% แต่จำนวนผู้อ่านกลับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆจึงทำให้รายได้ยังดีอยู่ หรือทั้งปีมองว่าจะมีรายได้เติบโตขึ้น 15%
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯพบว่านิวมีเดีย เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่ช่วยเสริมและกระตุ้นให้มีจำนวนผู้อ่านมากยิ่งขึ้น ดังนั้นตั้งแต่ปี 2550 ที่ผ่านมา ทางบริษัทฯได้ให้ความสำคัญกับเว็บไซต์ www.satapornbooks.com ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนสมาชิกกว่า 30,000 คน แต่ทางบริษัทฯมองว่าช่องทางนี้ควรที่จะมีความเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา จึงได้ลงทุนพัฒนาหน้าเว็บไซต์ใหม่อีกครั้ง คาดว่าช่วงต้นเดือนต.ค.ที่จะถึงนี้ จะเปิดให้บริการได้ พร้อมทั้งเพิ่มกิจกรรมใหม่ๆ ให้ผู้อ่านมีส่วนร่วมมากยิ่งขึ้น มั่นใจว่าจากเดิมที่เว็บไซต์จะช่วยเพิ่มจำนวนผู้อ่านและจำนวนยอดขายได้วย จากปัจจุบันยอดขายจากเว็บไซต์อยู่ที่ 2-3% ของยอดขายหนังสือทั้งหมด คาดว่าไม่เกิน 3 ปี จะมีสัดส่วนสูงขึ้นเป็น 20% ได้
“นิวมีเดีย หรืออินเทอร์เน็ต เป็นเครื่องมือที่มาเสริมธุรกิจสำนักพิมพ์ และเป็นเทรนด์ใหม่ที่หลายๆสำนักพิมพ์ให้ความสนใจและพัฒนาขึ้นมาควบคู่กันด้วย จากเดิมที่มองว่าจะกระทบกับธุรกิจสิ่งพิมพ์ อาจจะเป็นสิ่งพิมพ์เฉพาะกลุ่มลงไป เช่น หนังสือพิมพ์ แต่สำหรับวรรณกรรม และนิยายแล้ว ถือเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการซื้อหนังสือเพื่ออ่านต่อไป หลังจากที่ติดตามอ่านจากทางเว็บไซด์แล้ว”
นอกจากนี้บริษัทฯยังให้ความสำคัญกับการตลาดทั้งทางด้านบีโลว์เดอะไลน์ อีเว้นท์ต่างๆ และการจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่านตามโรงเรียน ซึ่งทั้งกิจกรรมทั้งหมดและการพัฒนาเว็บไซต์ ปีนี้บริษัทฯใช้งบประมาณไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท สูงกว่าปีก่อนเล็กน้อย
ล่าสุดแนวโน้มตลาดหนังสือกลุ่มพัฒนาตนเองมาแรงตั้งแต่ปีที่ผ่านมา ดังนั้นในเดือนต.ค.นี้ บริษัทฯจะเปิดตัวสำนักพิมพ์ใหม่คือ สำนักพิมพ์ บี ไบรท์ บาย เฟิรสต์( Be Bright by first magazine) ซึ่งไม่ได้ใช้การลงทุนมากนัก ใช้พนักงานเดิมที่มีอยู่ ขณะที่หนังสือที่จะออกมานั้น จะเป็นประเภทฮาวทู วางแผนวางจำหน่ายเดือนละ 2 เล่ม คาดว่าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี หรือปีหน้าคาดว่าบริษัทฯจะมีรายได้โตจากปีนี้ถึง 30%
ปัจจุบันสถาพรบุ๊คส์ มีหนังสือจำหน่าย 3 ประเภท คือ 1.วรรณกรรมเยาวชนแฟนตาซี เป็นฐานใหญ่ สัดส่วนรายได้ 50% 2.นิยายแนววัยรุ่น 30% และ 3.งานเขียนเชิงสารคดี 20% ซึ่งแนวโน้มหนังสือวรรณกรรมเยาวชนและนิยายวัยรุ่นยังเติบโตได้ดีอยู่ไม่ต่ำกว่า 10% เทียบกับครึ่งปีแรกของปี 2550 ที่ผ่านมา ส่วนสำนักพิมพ์ในเครือได้แก่ พิมพ์คำสำนักพิมพ์ สำนักพิมพ์สถาพรบุ๊คส์ สำนักพิมพ์ปริ๊นเซส สำนักพิมพ์ Z-girl สำนักพิมพ์เพชรการเรือน สำนักพิมพ์ Sugar Beat และล่าสุดกับ สำนักพิมพ์ บี ไบรท์ บาย เฟิรสต์ ที่จะเปิดตัวในเดือนต.ค.นี้
นายวรพันธ์ โลกิตสถาพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท สถาพรบุ๊คส์ จำกัด เปิดเผยว่า แนวโน้มตลาดหนังสือปีนี้คาดว่าจะเติบโตไม่เกิน 5-6% ใกล้เคียงกับค่าจีดีพีของประเทศ จึงมองว่าไม่เลวร้ายเท่าไรนัก ขณะที่ในส่วนของสถาพรบุ๊คส์ครึ่งปีที่ผ่านมามียอดขายเติบโตที่ 9% ต่ำกว่าเป้าเล็กน้อย สาเหตุมาจากลูกค้าใช้จ่ายในการซื้อหนังสือลดลงต่อครั้งประมาณ 20% แต่จำนวนผู้อ่านกลับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆจึงทำให้รายได้ยังดีอยู่ หรือทั้งปีมองว่าจะมีรายได้เติบโตขึ้น 15%
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯพบว่านิวมีเดีย เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่ช่วยเสริมและกระตุ้นให้มีจำนวนผู้อ่านมากยิ่งขึ้น ดังนั้นตั้งแต่ปี 2550 ที่ผ่านมา ทางบริษัทฯได้ให้ความสำคัญกับเว็บไซต์ www.satapornbooks.com ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนสมาชิกกว่า 30,000 คน แต่ทางบริษัทฯมองว่าช่องทางนี้ควรที่จะมีความเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา จึงได้ลงทุนพัฒนาหน้าเว็บไซต์ใหม่อีกครั้ง คาดว่าช่วงต้นเดือนต.ค.ที่จะถึงนี้ จะเปิดให้บริการได้ พร้อมทั้งเพิ่มกิจกรรมใหม่ๆ ให้ผู้อ่านมีส่วนร่วมมากยิ่งขึ้น มั่นใจว่าจากเดิมที่เว็บไซต์จะช่วยเพิ่มจำนวนผู้อ่านและจำนวนยอดขายได้วย จากปัจจุบันยอดขายจากเว็บไซต์อยู่ที่ 2-3% ของยอดขายหนังสือทั้งหมด คาดว่าไม่เกิน 3 ปี จะมีสัดส่วนสูงขึ้นเป็น 20% ได้
“นิวมีเดีย หรืออินเทอร์เน็ต เป็นเครื่องมือที่มาเสริมธุรกิจสำนักพิมพ์ และเป็นเทรนด์ใหม่ที่หลายๆสำนักพิมพ์ให้ความสนใจและพัฒนาขึ้นมาควบคู่กันด้วย จากเดิมที่มองว่าจะกระทบกับธุรกิจสิ่งพิมพ์ อาจจะเป็นสิ่งพิมพ์เฉพาะกลุ่มลงไป เช่น หนังสือพิมพ์ แต่สำหรับวรรณกรรม และนิยายแล้ว ถือเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการซื้อหนังสือเพื่ออ่านต่อไป หลังจากที่ติดตามอ่านจากทางเว็บไซด์แล้ว”
นอกจากนี้บริษัทฯยังให้ความสำคัญกับการตลาดทั้งทางด้านบีโลว์เดอะไลน์ อีเว้นท์ต่างๆ และการจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่านตามโรงเรียน ซึ่งทั้งกิจกรรมทั้งหมดและการพัฒนาเว็บไซต์ ปีนี้บริษัทฯใช้งบประมาณไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท สูงกว่าปีก่อนเล็กน้อย
ล่าสุดแนวโน้มตลาดหนังสือกลุ่มพัฒนาตนเองมาแรงตั้งแต่ปีที่ผ่านมา ดังนั้นในเดือนต.ค.นี้ บริษัทฯจะเปิดตัวสำนักพิมพ์ใหม่คือ สำนักพิมพ์ บี ไบรท์ บาย เฟิรสต์( Be Bright by first magazine) ซึ่งไม่ได้ใช้การลงทุนมากนัก ใช้พนักงานเดิมที่มีอยู่ ขณะที่หนังสือที่จะออกมานั้น จะเป็นประเภทฮาวทู วางแผนวางจำหน่ายเดือนละ 2 เล่ม คาดว่าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี หรือปีหน้าคาดว่าบริษัทฯจะมีรายได้โตจากปีนี้ถึง 30%
ปัจจุบันสถาพรบุ๊คส์ มีหนังสือจำหน่าย 3 ประเภท คือ 1.วรรณกรรมเยาวชนแฟนตาซี เป็นฐานใหญ่ สัดส่วนรายได้ 50% 2.นิยายแนววัยรุ่น 30% และ 3.งานเขียนเชิงสารคดี 20% ซึ่งแนวโน้มหนังสือวรรณกรรมเยาวชนและนิยายวัยรุ่นยังเติบโตได้ดีอยู่ไม่ต่ำกว่า 10% เทียบกับครึ่งปีแรกของปี 2550 ที่ผ่านมา ส่วนสำนักพิมพ์ในเครือได้แก่ พิมพ์คำสำนักพิมพ์ สำนักพิมพ์สถาพรบุ๊คส์ สำนักพิมพ์ปริ๊นเซส สำนักพิมพ์ Z-girl สำนักพิมพ์เพชรการเรือน สำนักพิมพ์ Sugar Beat และล่าสุดกับ สำนักพิมพ์ บี ไบรท์ บาย เฟิรสต์ ที่จะเปิดตัวในเดือนต.ค.นี้