นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต. กล่าวถึงกรณีการพิจารณายุบพรรคชาติไทย และพรรคมัฌชิมาธิไตย ที่ล่าช้าว่า ต้องไปถามอัยการสูงสุดว่า ทำไมช้า ทำไมยังไม่ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ ทั้งที่ กกต.ได้ส่งเรื่องให้เรียบร้อยหมดแล้ว ไม่เกี่ยวกับกกต.แล้ว ภายหลังที่ กกต.และตัวแทนอัยการสูงสุดได้มีมติแล้วว่า ให้อัยการเสนอเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณายุบทั้ง 2 พรรค ซึ่งขั้นตอนนี้ ในกฎหมายไม่ได้กำหนดระยะเวลาให้ปฏิบัติไว้
"เพราะฉะนั้นตอนนี้เป็นเรื่องของเขาแล้ว และหากมีคนเห็นว่า ความล่าช้านี้ ส่งผลให้เกิดความเสียหายอย่างหนึ่งอย่างใดขึ้นมา และมีคนไปร้อง มาตรา 157 กกต.ก็ไม่เกี่ยว เป็นหน้าที่ของอัยการที่จะต้องชี้แจง ตอนนี้ก็ต้องระวังแล้วกันว่าจะมีใครไปร้อง ม. 157 กับอัยการสูงสุดหรือไม่ ต้องระวังกันเอง กกต.ไม่เกี่ยวแล้ว หมดหน้าที่ของกกต.ไปแล้ว"
นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธานกกต. กล่าวถึงกรณีคณะอนุกรรมการสอบสวนสำนวนร้องคัดค้านการเลือกตั้งนายวิฑูรย์ นามบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ มีการลาออกไป 2 คนจาก 5 คน ในขณะที่กกต.มีมติให้อนุฯชุดดังกล่าวสอบเพิ่มอีก 7 ปาก ในเวลา 15 วันว่า หลังจากที่มีข่าวว่า กรรมการในชุดอนุสอบสวนของนายสุธน แสงสายัณห์ ประธานอนุฯ ได้มีการลาออกไป 2 คนจาก 5 คนนั้น กกต.อยู่ระหว่างการพิจารณาแต่งตั้งกรรมการเพิ่มเติม โดยนางสดศรี สัตยธรรม กกต. ได้เสนอมา 1 คน แต่ กกต.ยังไม่ได้พิจารณา ส่วนอีก 1 คน อยู่ระหว่างตนพิจารณาเสนอชื่อ ทั้งนี้ กรรมการชุดนี้ ที่เหลืออยู่สามารถดำเนินการสอบสวนไปได้ ระหว่างนี้ไม่จำเป็นต้องรอกรรมการที่จะตั้งเพิ่มขึ้นใหม่ เนื่องจากยังไม่มีความชัดเจนว่า จะได้ตัวบุคคลเมื่อไร
"ผมมองการสอบพยานเพิ่ม 7 ปากไม่ใช่เรื่องที่จะหนักหนาอะไร ก็ต้องแล้วแต่กรรมการว่าจะมีความเห็นเพิ่มเติมมาใหม่หรือไม่ เพราะฉะนั้นต้องรอผลการสอบสวนทั้งหมดก่อน"
ด้านนายสุธน กล่าวว่า ขณะนี้คณะกรรมการก็จะดำเนินการสอบสวนเพิ่มเติมตามที่กกต.มีมติออกมา ทางอนุกรรมการไม่มีปัญหา หากสอบเสร็จผลสอบออกมาอย่างไร ก็จะเสนอไปตามนั้น โดยอนุฯ จะแนบผลการสอบสวนเพิ่มเติมประกอบผลการสอบสวนครั้งที่ผ่านมาให้กกต.พิจารณา
"ไม่ต้องรื้อใหม่ แค่สอบเพิ่มแล้วก็ให้กกต. ทั้ง 5 ท่าน จะไปพิจารณา ซึ่งเบื้องตนก็เห็นว่าจะเชิญพยานทั้ง 7ปากมาสอบในสัปดาห์หน้า น่าจะใช้เวลาประมาณ 2 วัน จากนั้นก็จะพิจารณาสรุปสำนวนส่งให้กกต."
ด้านนายวิฑูรย์ นามบุตร ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า วันนี้ (18 ก.ย.) เวลา 15.00 น. ตนพร้อมด้วยนายศุภชัย ศรีหล้า นายวุฒิพงษ์ นามบุตร ส.ส.อุบลราชธานี และนายวิทวัส พันธ์นิกุล อดีตผู้สมัคร ส.ส.อุบลราชธานี พรรคประชาธิปัตย์ จะเดินทางไปยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรม จาก กกต. ในกรณีที่อนุกรรมการ เลื่อนการลงมติในการพิจารณาคดีทุจริตในการเลือกตั้งของพวกตนทั้ง 4 คน พร้อมให้สอบพยานเพิ่มเติมอีก 7 ปาก เนื่องจากคาดว่า อนุกรรมการ ของกกต. อาจจะเพิ่มประเด็นสอบสวนเพิ่มเติมอีก
ทั้งนี้ หากอนุกรรมการลงมติโดยไม่สอบสวนเพิ่มเติม เชื่อว่าพวกตนทั้ง 4 คน จะไม่มีใครถูกตัดสิทธิในการเลือกตั้ง หรือได้ใบแดง เนื่องจากสำนวนการพิจารณาคดีนี้ ที่อนุกรรมการของกกต.อุบลราชธานี ซึ่งทำมาจะเสร็จสิ้นกระบวนความแล้ว ปรากฏว่า ไม่มีใครถูกให้ใบแดง
"ที่ต้องไปยื่นร้องขอความเป็นธรรม เนื่องจากคดีนี้เลื่อนการลงมติมาหลายครั้งแล้ว จึงเกรงว่า อาจจะมีการเพิ่มประเด็นที่จะไต่สวนเพิ่มเติม ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นจริง ตนก็พยามจะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ โดยนำพยานมาต่อสู้คดีไปตามกระบวนการ"
นายวิฑูรย์ กล่าวด้วยว่า จะขอให้อนุกรรมการ ให้โอกาสกับทางตนได้เข้าชี้แจงเพิ่มด้วย หากมีการพาดพิง ซึ่งที่ต้องเดินทางมา กกต.ในวันนี้ เนื่องจากมีข่าวว่า ทางนายสมบัติ รัตโน ผู้ร้องจะเดินทางมาให้ปากคำที่ กกต. ตามคำเชิญของอนุกรรมการสอบสวน
"เพราะฉะนั้นตอนนี้เป็นเรื่องของเขาแล้ว และหากมีคนเห็นว่า ความล่าช้านี้ ส่งผลให้เกิดความเสียหายอย่างหนึ่งอย่างใดขึ้นมา และมีคนไปร้อง มาตรา 157 กกต.ก็ไม่เกี่ยว เป็นหน้าที่ของอัยการที่จะต้องชี้แจง ตอนนี้ก็ต้องระวังแล้วกันว่าจะมีใครไปร้อง ม. 157 กับอัยการสูงสุดหรือไม่ ต้องระวังกันเอง กกต.ไม่เกี่ยวแล้ว หมดหน้าที่ของกกต.ไปแล้ว"
นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธานกกต. กล่าวถึงกรณีคณะอนุกรรมการสอบสวนสำนวนร้องคัดค้านการเลือกตั้งนายวิฑูรย์ นามบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ มีการลาออกไป 2 คนจาก 5 คน ในขณะที่กกต.มีมติให้อนุฯชุดดังกล่าวสอบเพิ่มอีก 7 ปาก ในเวลา 15 วันว่า หลังจากที่มีข่าวว่า กรรมการในชุดอนุสอบสวนของนายสุธน แสงสายัณห์ ประธานอนุฯ ได้มีการลาออกไป 2 คนจาก 5 คนนั้น กกต.อยู่ระหว่างการพิจารณาแต่งตั้งกรรมการเพิ่มเติม โดยนางสดศรี สัตยธรรม กกต. ได้เสนอมา 1 คน แต่ กกต.ยังไม่ได้พิจารณา ส่วนอีก 1 คน อยู่ระหว่างตนพิจารณาเสนอชื่อ ทั้งนี้ กรรมการชุดนี้ ที่เหลืออยู่สามารถดำเนินการสอบสวนไปได้ ระหว่างนี้ไม่จำเป็นต้องรอกรรมการที่จะตั้งเพิ่มขึ้นใหม่ เนื่องจากยังไม่มีความชัดเจนว่า จะได้ตัวบุคคลเมื่อไร
"ผมมองการสอบพยานเพิ่ม 7 ปากไม่ใช่เรื่องที่จะหนักหนาอะไร ก็ต้องแล้วแต่กรรมการว่าจะมีความเห็นเพิ่มเติมมาใหม่หรือไม่ เพราะฉะนั้นต้องรอผลการสอบสวนทั้งหมดก่อน"
ด้านนายสุธน กล่าวว่า ขณะนี้คณะกรรมการก็จะดำเนินการสอบสวนเพิ่มเติมตามที่กกต.มีมติออกมา ทางอนุกรรมการไม่มีปัญหา หากสอบเสร็จผลสอบออกมาอย่างไร ก็จะเสนอไปตามนั้น โดยอนุฯ จะแนบผลการสอบสวนเพิ่มเติมประกอบผลการสอบสวนครั้งที่ผ่านมาให้กกต.พิจารณา
"ไม่ต้องรื้อใหม่ แค่สอบเพิ่มแล้วก็ให้กกต. ทั้ง 5 ท่าน จะไปพิจารณา ซึ่งเบื้องตนก็เห็นว่าจะเชิญพยานทั้ง 7ปากมาสอบในสัปดาห์หน้า น่าจะใช้เวลาประมาณ 2 วัน จากนั้นก็จะพิจารณาสรุปสำนวนส่งให้กกต."
ด้านนายวิฑูรย์ นามบุตร ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า วันนี้ (18 ก.ย.) เวลา 15.00 น. ตนพร้อมด้วยนายศุภชัย ศรีหล้า นายวุฒิพงษ์ นามบุตร ส.ส.อุบลราชธานี และนายวิทวัส พันธ์นิกุล อดีตผู้สมัคร ส.ส.อุบลราชธานี พรรคประชาธิปัตย์ จะเดินทางไปยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรม จาก กกต. ในกรณีที่อนุกรรมการ เลื่อนการลงมติในการพิจารณาคดีทุจริตในการเลือกตั้งของพวกตนทั้ง 4 คน พร้อมให้สอบพยานเพิ่มเติมอีก 7 ปาก เนื่องจากคาดว่า อนุกรรมการ ของกกต. อาจจะเพิ่มประเด็นสอบสวนเพิ่มเติมอีก
ทั้งนี้ หากอนุกรรมการลงมติโดยไม่สอบสวนเพิ่มเติม เชื่อว่าพวกตนทั้ง 4 คน จะไม่มีใครถูกตัดสิทธิในการเลือกตั้ง หรือได้ใบแดง เนื่องจากสำนวนการพิจารณาคดีนี้ ที่อนุกรรมการของกกต.อุบลราชธานี ซึ่งทำมาจะเสร็จสิ้นกระบวนความแล้ว ปรากฏว่า ไม่มีใครถูกให้ใบแดง
"ที่ต้องไปยื่นร้องขอความเป็นธรรม เนื่องจากคดีนี้เลื่อนการลงมติมาหลายครั้งแล้ว จึงเกรงว่า อาจจะมีการเพิ่มประเด็นที่จะไต่สวนเพิ่มเติม ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นจริง ตนก็พยามจะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ โดยนำพยานมาต่อสู้คดีไปตามกระบวนการ"
นายวิฑูรย์ กล่าวด้วยว่า จะขอให้อนุกรรมการ ให้โอกาสกับทางตนได้เข้าชี้แจงเพิ่มด้วย หากมีการพาดพิง ซึ่งที่ต้องเดินทางมา กกต.ในวันนี้ เนื่องจากมีข่าวว่า ทางนายสมบัติ รัตโน ผู้ร้องจะเดินทางมาให้ปากคำที่ กกต. ตามคำเชิญของอนุกรรมการสอบสวน