เอเอฟพี - ประธานาธิบดี ฮูโก ชาเวซ ของเวเนซุเอลา สั่งขับเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำกรุงคารากัสออกนอกประเทศเมื่อคืนวันพฤหัสบดี (11) พร้อมขู่จะระงับการส่งออกน้ำมันไปยังอเมริกา ในวันเดียวกันนี้ ชาเวซยังได้ตอกย้ำเรื่องที่เครื่องบินทิ้งระเบิดทางยุทธศาสตร์ตู - 160 ของรัสเซียจำนวน 2 ลำ เพิ่งมาประจำการอยู่ที่เวเนซุเอลา
ประธานาธิบดีชาเวซออกคำสั่งขับไล่เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ แพททริค ดัดบี ออกจากประเทศภายใน 72 ชั่วโมง โดยเป็นมาตรการที่ผู้นำเวเนซุเอลาอธิบายว่าคือ การกระทำเพื่อความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกับโบลิเวีย ซึ่งเป็นพันธมิตรของเวเนซุเอลา
"เริ่มตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ทูตสหรัฐฯ มีเวลา 72 ชั่วโมงที่จะออกจากเวเนซุเอลา" ชาเวซกล่าวต่อสาธารณชนที่เมืองท่าปวยร์โต กาเบลโล ซึ่งห่างจากทางตะวันตกของกรุงคารากัสราว 120 กิโลเมตร
ผู้นำเวเนซุเอลากล่าวว่า มาตรการดังกล่าวเป็น การแสดงถึง "ความสามัคคี" กับรัฐบาลของประธานาธิบดีอีโว โมราเลส แห่งโบลิเวีย ซึ่งก็สั่งขับเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ พ้นประเทศตั้งแต่วันพุธที่ผ่านมา (10) จากนั้นวอชิงตันตอบโต้ด้วยการขับไล่เอกอัครราชทูตโบลิเวียประจำสหรัฐฯ ออกนอกประเทศในวันต่อมา (11)
พร้อมกันนี้ ชาเวซยังขู่จะระงับการส่งออกน้ำมันไปยังอเมริกา ซึ่งถือเป็นลูกค้าหลัก หากอเมริกันโจมตีรัฐบาลของเขา
หากวอชิงตัน "ดำเนินมาตรการก้าวร้าวต่อเวเนซุเอลา ก็จะไม่มีน้ำมันสำหรับประชาชนชาวสหรัฐฯ" ชาเวซกล่าว
ความขัดแย้งทางการทูตระหว่างสหรัฐฯ กับผู้นำหัวเอียงซ้ายในอเมริกา เริ่มต้นเมื่อผู้นำโบลิเวียสั่งขับฟิลิป โกลด์เบิร์ก เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ออกจากประเทศ หลังจากประธานาธิบดีโมราเลส ซึ่งเป็นไม้เบื่อไม้เมากับสหรัฐฯ กล่าวหาว่า โกลด์เบิร์กอยู่เบื้องหลังการสู้รบรุนแรงภายในโบลิเวีย ด้วยการสนับสนุนกลุ่มผู้ต่อต้านรัฐบาล ทำให้สหรัฐฯ กริ้วโกรธและตอบโต้ด้วยการขับทูตโบลิเวีย
ในวันเดียวกับที่ชาเวซสั่งขับทูตสหรัฐฯ เขาได้แถลงเปิดโปงแผนรัฐประหารยึดอำนาจของคณะทหารทั้งที่เกษียณแล้วและที่ยังปฏิบัติหน้าที่อยู่ โดยอ้างว่า แผนดังกล่าวเป็นความเห็นชอบของสหรัฐฯ
อัยการทหารกล่าวว่า เจ้าหน้าที่ 2 คน จะถูกดำเนินคดีในข้อหายุยงให้เกิดการกบฏ ซึ่งต้องระวางโทษจำคุก 5 ถึง 10 ปี
นอกจากนี้ ยังมีเจ้าหน้าที่คนอื่น ๆ อีก 8 คนถูกควบคุมตัว ฐานมีส่วนพัวพันกับแผนการดังกล่าว โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวน อัยการกล่าว
สถานีโทรทัศน์แห่งชาติของเวเนซุเอลา ออกอากาศบันทึกบทสนทนาที่อ้างว่าเป็นของเจ้าหน้าที่ทหารระดับอาวุโสที่ปลดเกษียณอายุราชการแล้ว 3 คน ขณะกำลังวางแผนถล่มทำเนียบประธานาธิบดีในกรุงคารากัส และจะระเบิดเครื่องบินส่วนตัวของประธานาธิบดี
"ดูซะ อย่าแม้แต่คิดลงมือรัฐประหาร หรือทำอะไรบ้า ๆ เช่นนี้อีก ผมเตือนคุณแล้ว ผมไม่ใช่ฮูโก ชาเวซเมื่อปี 2002" ผู้นำเวเนซุเอกล่าว โดยอ้างถึงการรัฐประหารอันล้มเหลวในเดือนเมษายนปี 2002 เมื่อครั้งนั้นเขาถูกขับจากตำแหน่งเป็นเวลา 2 วัน ก่อนที่ฝูงชนผู้ประท้วงจะเรียกร้องให้ปล่อยตัวและคืนอำนาจให้เขา
"ผมไม่สงสัยเลยว่า สหรัฐฯ เป็นผู้อยู่เบื้องหลังแผนวางระเบิดทำเนียบประธานาธิบดี" ชาเวซกล่าว พร้อมทั้งเตือนด้วยว่า "ช่วงเวลาอันแสนจะยากลำบาก" กำลังรอเวเนซุเอลาอยู่เบื้องหน้า
ชาเวซกล่าวต่อว่า พวกที่อยู่เบื้องหลังแผนปฏิวัติครั้งล่าสุดนี้ เป็นส่วนหนึ่งของพรรคการเมืองฝ่ายค้านที่สิ้นหวัง และ"จักรวรรดิอเมริกา" ที่นำโดยประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุชของสหรัฐฯ
วันเดียวกัน (11) ประธานาธิบดีชาเวซยังกล่าวถึง การประจำการของเครื่องบินทิ้งระเบิดทางยุทธศาสตร์ตู - 160 ของรัสเซียจำนวน 2 ลำ ที่เวเนซุเอลาว่า เป็น "คำเตือน" ไปยัง "จักรวรรดิ" สหรัฐฯ
"นี่เป็นคำเตือน รัสเซียอยู่ข้างเรา.. เราเป็นพันธมิตรทางยุทธศาสตร์กัน" ชาเวซกล่าว "นี่คือข้อความถึงสหรัฐฯ เวเนซุเอลาไม่ได้ยากจนและโดดเดี่ยวอีกต่อไปแล้ว"
เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (10) ชาเวซแถลงว่า เครื่องบินทิ้งระเบิด 2 ลำ มาประจำการที่เวเนซุเอลาเพื่อ "ฝึกบิน" และ เขาก็จะเป็นผู้ขับเครื่องบินลำหนึ่งด้วยตนเอง
ประธานาธิบดีชาเวซออกคำสั่งขับไล่เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ แพททริค ดัดบี ออกจากประเทศภายใน 72 ชั่วโมง โดยเป็นมาตรการที่ผู้นำเวเนซุเอลาอธิบายว่าคือ การกระทำเพื่อความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกับโบลิเวีย ซึ่งเป็นพันธมิตรของเวเนซุเอลา
"เริ่มตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ทูตสหรัฐฯ มีเวลา 72 ชั่วโมงที่จะออกจากเวเนซุเอลา" ชาเวซกล่าวต่อสาธารณชนที่เมืองท่าปวยร์โต กาเบลโล ซึ่งห่างจากทางตะวันตกของกรุงคารากัสราว 120 กิโลเมตร
ผู้นำเวเนซุเอลากล่าวว่า มาตรการดังกล่าวเป็น การแสดงถึง "ความสามัคคี" กับรัฐบาลของประธานาธิบดีอีโว โมราเลส แห่งโบลิเวีย ซึ่งก็สั่งขับเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ พ้นประเทศตั้งแต่วันพุธที่ผ่านมา (10) จากนั้นวอชิงตันตอบโต้ด้วยการขับไล่เอกอัครราชทูตโบลิเวียประจำสหรัฐฯ ออกนอกประเทศในวันต่อมา (11)
พร้อมกันนี้ ชาเวซยังขู่จะระงับการส่งออกน้ำมันไปยังอเมริกา ซึ่งถือเป็นลูกค้าหลัก หากอเมริกันโจมตีรัฐบาลของเขา
หากวอชิงตัน "ดำเนินมาตรการก้าวร้าวต่อเวเนซุเอลา ก็จะไม่มีน้ำมันสำหรับประชาชนชาวสหรัฐฯ" ชาเวซกล่าว
ความขัดแย้งทางการทูตระหว่างสหรัฐฯ กับผู้นำหัวเอียงซ้ายในอเมริกา เริ่มต้นเมื่อผู้นำโบลิเวียสั่งขับฟิลิป โกลด์เบิร์ก เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ออกจากประเทศ หลังจากประธานาธิบดีโมราเลส ซึ่งเป็นไม้เบื่อไม้เมากับสหรัฐฯ กล่าวหาว่า โกลด์เบิร์กอยู่เบื้องหลังการสู้รบรุนแรงภายในโบลิเวีย ด้วยการสนับสนุนกลุ่มผู้ต่อต้านรัฐบาล ทำให้สหรัฐฯ กริ้วโกรธและตอบโต้ด้วยการขับทูตโบลิเวีย
ในวันเดียวกับที่ชาเวซสั่งขับทูตสหรัฐฯ เขาได้แถลงเปิดโปงแผนรัฐประหารยึดอำนาจของคณะทหารทั้งที่เกษียณแล้วและที่ยังปฏิบัติหน้าที่อยู่ โดยอ้างว่า แผนดังกล่าวเป็นความเห็นชอบของสหรัฐฯ
อัยการทหารกล่าวว่า เจ้าหน้าที่ 2 คน จะถูกดำเนินคดีในข้อหายุยงให้เกิดการกบฏ ซึ่งต้องระวางโทษจำคุก 5 ถึง 10 ปี
นอกจากนี้ ยังมีเจ้าหน้าที่คนอื่น ๆ อีก 8 คนถูกควบคุมตัว ฐานมีส่วนพัวพันกับแผนการดังกล่าว โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวน อัยการกล่าว
สถานีโทรทัศน์แห่งชาติของเวเนซุเอลา ออกอากาศบันทึกบทสนทนาที่อ้างว่าเป็นของเจ้าหน้าที่ทหารระดับอาวุโสที่ปลดเกษียณอายุราชการแล้ว 3 คน ขณะกำลังวางแผนถล่มทำเนียบประธานาธิบดีในกรุงคารากัส และจะระเบิดเครื่องบินส่วนตัวของประธานาธิบดี
"ดูซะ อย่าแม้แต่คิดลงมือรัฐประหาร หรือทำอะไรบ้า ๆ เช่นนี้อีก ผมเตือนคุณแล้ว ผมไม่ใช่ฮูโก ชาเวซเมื่อปี 2002" ผู้นำเวเนซุเอกล่าว โดยอ้างถึงการรัฐประหารอันล้มเหลวในเดือนเมษายนปี 2002 เมื่อครั้งนั้นเขาถูกขับจากตำแหน่งเป็นเวลา 2 วัน ก่อนที่ฝูงชนผู้ประท้วงจะเรียกร้องให้ปล่อยตัวและคืนอำนาจให้เขา
"ผมไม่สงสัยเลยว่า สหรัฐฯ เป็นผู้อยู่เบื้องหลังแผนวางระเบิดทำเนียบประธานาธิบดี" ชาเวซกล่าว พร้อมทั้งเตือนด้วยว่า "ช่วงเวลาอันแสนจะยากลำบาก" กำลังรอเวเนซุเอลาอยู่เบื้องหน้า
ชาเวซกล่าวต่อว่า พวกที่อยู่เบื้องหลังแผนปฏิวัติครั้งล่าสุดนี้ เป็นส่วนหนึ่งของพรรคการเมืองฝ่ายค้านที่สิ้นหวัง และ"จักรวรรดิอเมริกา" ที่นำโดยประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุชของสหรัฐฯ
วันเดียวกัน (11) ประธานาธิบดีชาเวซยังกล่าวถึง การประจำการของเครื่องบินทิ้งระเบิดทางยุทธศาสตร์ตู - 160 ของรัสเซียจำนวน 2 ลำ ที่เวเนซุเอลาว่า เป็น "คำเตือน" ไปยัง "จักรวรรดิ" สหรัฐฯ
"นี่เป็นคำเตือน รัสเซียอยู่ข้างเรา.. เราเป็นพันธมิตรทางยุทธศาสตร์กัน" ชาเวซกล่าว "นี่คือข้อความถึงสหรัฐฯ เวเนซุเอลาไม่ได้ยากจนและโดดเดี่ยวอีกต่อไปแล้ว"
เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (10) ชาเวซแถลงว่า เครื่องบินทิ้งระเบิด 2 ลำ มาประจำการที่เวเนซุเอลาเพื่อ "ฝึกบิน" และ เขาก็จะเป็นผู้ขับเครื่องบินลำหนึ่งด้วยตนเอง
