ศูนย์ข่าวหาดใหญ่-หนังสือพิมพ์มาเลเซียฉบับภาษาจีนตีข่าวการชุมนุมยึดทำเนียบฯของพันธมิตรฯอย่างต่อเนื่อง หลังส่งนักข่าวเกาะติดสถานการณ์ ระบุการชุมนุมมีแต่ความสวยงามเปรียบเหมือนศิลปะ ชี้ยึดหลักสันติ อหิงสา ตามระบอบประชาธิปไตย อัดรัฐบาลไทยหนุนหลัง นปก.เชื่อหากไม่เคลื่อนไปหาเรื่องความรุนแรงก็ไม่เกิด เผยนักท่องเที่ยวชาวมาเลย์อยากเข้ามาสัมผัสบรรยากาศการชุมนุมทั้งที่ "หาดใหญ่-สะพานมัฆวานฯ-ทำเนียบฯ" ภาคธุรกิจเล็งจัดกรุ๊ปทัวร์พลิกวิกฤตเป็นโอกาส ตอกกลับเหตุเศรษฐกิจใต้ซบเซาเพราะปัญหาความไม่สงบที่หมักหมมมานานไม่ใช่เกิดจากการชุมนุมไล่รัฐบาล
จากกรณีการชุมนุมประท้วงขับไล่รัฐบาลของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่มีมาอย่างต่อเนื่องนั้น นายวิทยา ลิ่ม ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์มาเลเซีย ฉบับภาษาจีน 'หนานหยางซังเป้า' ประจำประเทศไทย เปิดเผยว่า การชุมนุมประท้วงของกลุ่มพันธมิตรฯเป็นที่สนใจของประชาชนและนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นประเทศที่มีอาณาเขตติดต่อกันและประชาชนรวมทั้งนักท่องเที่ยวของทั้ง 2 ประเทศก็มีการเดินทางไปมาหาสู่กันอยู่ตลอดเวลา
โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียเชื้อสายจีนที่นิยมเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่ภาคใต้ของไทย ทำให้มีนักข่าวหนังสือพิมพ์ฉบับภาษาจีนหลายฉบับ เช่น 'กวงหัวยึเป้า' 'ซิงจิวยึเป้า' 'หนานหยางซังเป้า' และ 'จุงปั๊วเป้า' ได้ส่งผู้สื่อข่าวมาติดตามความเคลื่อนไหวในการชุมนุมขับไล่รัฐบาลทั้งในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ณ ลานประวัติศาสตร์ หน้าสถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่ ซึ่งขับเคลื่อนโดย 'พันธมิตรสงขลาเพื่อประชาธิปไตย' และการชุมนุมที่กรุงเทพฯ ทั้งที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ ถ.ราชดำเนินนอก และภายในทำเนียบรัฐบาล
นายวิทยา กล่าวว่า เดิมทีนั้นนักท่องเที่ยวและประชาชนชาวมาเลเซียยังไม่รู้ข้อมูลที่แน่ชัดว่า การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ เป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์อะไรและกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงมีรูปแบบการชุมนุมและการบริหารจัดการกันอย่างไร จึงทำให้ประชาชนเกิดความกังวลและไม่มั่นใจที่จะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในเมืองไทย
"นักข่าวมาเลย์เขามาสอบถามกับเรา เราก็พยายามให้ข้อมูลกับเขาในเบื้องต้นว่าพันธมิตรฯ ประท้วงขับไล่นายกฯใส่เสื้อสีเหลืองบ่งบอกความจงรักภักดีต่อในหลวง นักท่องเที่ยวที่เข้ามาปลอดภัยไม่ต้องห่วง จากนั้นก็แนะนำให้เขาไปศึกษาด้วยตัวเองที่กรุงเทพฯ เขาก็ไปที่สะพานมัฆวานฯ ไปเก็บภาพบรรยากาศต่างๆ ที่ทำเนียบฯ ไปกินนอนอยู่ที่นั่นหลายวัน สิ่งที่เราเห็นเขาสื่อผ่านหนังสือพิมพ์ภาษาจีนหลายฉบับคือ เรื่องราวของความรัก ความสามัคคีของคนไทย โดยเฉพาะที่ทำเนียบฯเขาทึ่งที่ได้เห็นคนไทยแสดงออกถึงสิทธิตามระบอบประชาธิปไตยอย่างสันติอหิงสาปราศจากอาวุธ และชื่นชอบกับมือตบที่ผู้ชุมนุมใช้เป็นเครื่องมือรณรงค์เรียกร้องความเป็นธรรม ได้เห็นการจัดการที่มีระบบระเบียบ มีห้องน้ำ เต็นท์พยาบาลสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เห็นน้ำใจคนไทยที่บริจาคสิ่งของและเงินให้พันธมิตรฯ เขาชื่นชมในพลังอันบริสุทธิ์ของประชาชนชาวไทย โดยสรุปเขาเขียนข่าวว่าการชุมนุมของพันธมิตรฯมีแต่ความสวยงามตามระบอบประชาธิปไตยและไม่ใช่ผู้ก่อความรุนแรง"
นายวิทยา กล่าวอีกว่า กรณีที่กลุ่มผู้ใส่เสื้อสีแดง หรือกลุ่มแนวร่วมประชาชนต่อต้านเผด็จการหรือ นปก.เคลื่อนขบวนมาที่สะพานมัฆวานฯ จนเกิดการปะทะกับการ์ดของกลุ่มพันธมิตรฯ นั้น ผู้สื่อข่าวชาวมาเลเซีย ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ด้วยได้ระบุว่ากรณีดังกล่าวหากกลุ่ม นปก.ยึดหลักการชุมนุมอย่างสันติ อหิงสา เหมือนกับกลุ่มพันธมิตรฯ เหตุการณ์ความรุนแรงก็จะไม่เกิดขึ้น ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและไม่มีใครถูกทำร้ายจนถึงแก่ชีวิต
"เขามองว่าถ้า นปก.ไม่ยกพวกไปหาเรื่องกลุ่มพันธมิตรฯ ก่อนเหตุการณ์ความรุนแรงก็จะไม่เกิด เขาบอกว่ากลุ่ม นปก.ส่วนใหญ่อยู่ในอาการเมาสุรา ในขณะที่การ์ดของกลุ่มพันธมิตรฯ ไม่ได้เมาสุรา และที่สำคัญเขาบอกว่าถ้ารัฐบาลไทยไม่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ความรุนแรงครั้งนั้นก็จะไม่เกิดขึ้น และเขายังรู้ด้วยว่าพวก นปก.ถูกจ้างมา"
นายวิทยา กล่าวว่า หลังจากที่หนังสือพิมพ์มาเลเซียฉบับภาษาจีนได้รายงานข่าวความเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรฯ ออกไปอย่างต่อเนื่องทำให้นักท่องเที่ยวไม่มีความกังวลอีกต่อไป โดยพบว่าหลายคนต้องการเข้ามาเยี่ยมชมและให้กำลังใจกลุ่มผู้ชุมนุมที่ทำเนียบฯ โดยในขณะนี้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวหลายคนมีแนวคิดที่จะพลิกวิกฤตเป็นโอกาสด้วยการจัดทัวร์นำนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียเข้ามาเยี่ยมชมการชุมนุมอย่างสันติของกลุ่มพันธมิตรฯ ทั้งที่ อ.หาดใหญ่ ที่สะพานมัฆวานฯ และที่ทำเนียบฯ
"ตอนนี้หลายฝ่ายโดยเฉพาะผู้นำในส่วนต่างๆ ไล่มาตั้งแต่รัฐบาลจนถึงระดับท้องถิ่นกลับมองว่าการชุมนุมของพันธมิตรฯ คือ ความรุนแรงส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวโดยเฉพาะในส่วนของ อ.หาดใหญ่ แต่ในความเป็นจริงแล้วช่วงโลว์ซีซันนักท่องเที่ยวจะลดลงตามปกติ และเมื่อวันที่ 29-31 สิงหาคม พบว่ามีนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียเข้ามาจำนวนมากจนห้องพักของโรงแรมทุกโรงแรมถูกจองเต็มหมด ทั้งที่มีการชุมนุมของพันธมิตรฯ แต่ทำไมนักท่องเที่ยวยังเข้ามาได้ แสดงว่าเขาเข้าใจและไม่ได้กังวลในเรื่องนี้ ไม่เหมือนกับที่ฝ่ายรัฐบาลพยายามโจมตี
ด้านนายชวรัตน์ อิ่มเอิบ ผู้ประกอบการร้านอาหารไทยในรัฐเปอร์ลิส ประเทศมาเลเซีย กล่าวว่า ช่วงแรกๆ ในการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียยังเข้าใจแบบผิดๆ ถูกๆ จนกระทั่งข่าวการชุมนุมถูกเผยแพร่โดยหนังสือพิมพ์มาเลเซียทำให้เขาเข้าใจและไม่มีความกังวลใจอีก
"นักข่าวรายงานว่าการประท้วงในประเทศไทยเหมือนศิลปะอย่างหนึ่งไม่มีอะไรรุนแรงเพราะใช้หลักสันติ หลังจากหนังสือพิมพ์ลงข่าวเขาก็เข้าใจและพร้อมสนับสนุน เป็นเรื่องตลกที่ผู้นำบางคนบอกว่าพันธมิตรฯ ชุมนุมทำให้เศรษฐกิจแย่ เขาไม่รู้หรือว่าเศรษฐกิจหาดใหญ่มันแย่อยู่แล้วตั้งแต่เกิดความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เราอยากให้มีผุ้ประสานงานที่ชัดเจนเพื่อนำนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้ามาศึกษาการชุมนุมของคนไทยทั้งที่หาดใหญ่และที่ทำเนียบเพราะเขาอยากเข้ามาเพียงแต่ไม่มีผู้ประสานงาน" นายชวรัตน์ กล่าว
จากกรณีการชุมนุมประท้วงขับไล่รัฐบาลของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่มีมาอย่างต่อเนื่องนั้น นายวิทยา ลิ่ม ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์มาเลเซีย ฉบับภาษาจีน 'หนานหยางซังเป้า' ประจำประเทศไทย เปิดเผยว่า การชุมนุมประท้วงของกลุ่มพันธมิตรฯเป็นที่สนใจของประชาชนและนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นประเทศที่มีอาณาเขตติดต่อกันและประชาชนรวมทั้งนักท่องเที่ยวของทั้ง 2 ประเทศก็มีการเดินทางไปมาหาสู่กันอยู่ตลอดเวลา
โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียเชื้อสายจีนที่นิยมเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่ภาคใต้ของไทย ทำให้มีนักข่าวหนังสือพิมพ์ฉบับภาษาจีนหลายฉบับ เช่น 'กวงหัวยึเป้า' 'ซิงจิวยึเป้า' 'หนานหยางซังเป้า' และ 'จุงปั๊วเป้า' ได้ส่งผู้สื่อข่าวมาติดตามความเคลื่อนไหวในการชุมนุมขับไล่รัฐบาลทั้งในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ณ ลานประวัติศาสตร์ หน้าสถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่ ซึ่งขับเคลื่อนโดย 'พันธมิตรสงขลาเพื่อประชาธิปไตย' และการชุมนุมที่กรุงเทพฯ ทั้งที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ ถ.ราชดำเนินนอก และภายในทำเนียบรัฐบาล
นายวิทยา กล่าวว่า เดิมทีนั้นนักท่องเที่ยวและประชาชนชาวมาเลเซียยังไม่รู้ข้อมูลที่แน่ชัดว่า การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ เป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์อะไรและกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงมีรูปแบบการชุมนุมและการบริหารจัดการกันอย่างไร จึงทำให้ประชาชนเกิดความกังวลและไม่มั่นใจที่จะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในเมืองไทย
"นักข่าวมาเลย์เขามาสอบถามกับเรา เราก็พยายามให้ข้อมูลกับเขาในเบื้องต้นว่าพันธมิตรฯ ประท้วงขับไล่นายกฯใส่เสื้อสีเหลืองบ่งบอกความจงรักภักดีต่อในหลวง นักท่องเที่ยวที่เข้ามาปลอดภัยไม่ต้องห่วง จากนั้นก็แนะนำให้เขาไปศึกษาด้วยตัวเองที่กรุงเทพฯ เขาก็ไปที่สะพานมัฆวานฯ ไปเก็บภาพบรรยากาศต่างๆ ที่ทำเนียบฯ ไปกินนอนอยู่ที่นั่นหลายวัน สิ่งที่เราเห็นเขาสื่อผ่านหนังสือพิมพ์ภาษาจีนหลายฉบับคือ เรื่องราวของความรัก ความสามัคคีของคนไทย โดยเฉพาะที่ทำเนียบฯเขาทึ่งที่ได้เห็นคนไทยแสดงออกถึงสิทธิตามระบอบประชาธิปไตยอย่างสันติอหิงสาปราศจากอาวุธ และชื่นชอบกับมือตบที่ผู้ชุมนุมใช้เป็นเครื่องมือรณรงค์เรียกร้องความเป็นธรรม ได้เห็นการจัดการที่มีระบบระเบียบ มีห้องน้ำ เต็นท์พยาบาลสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เห็นน้ำใจคนไทยที่บริจาคสิ่งของและเงินให้พันธมิตรฯ เขาชื่นชมในพลังอันบริสุทธิ์ของประชาชนชาวไทย โดยสรุปเขาเขียนข่าวว่าการชุมนุมของพันธมิตรฯมีแต่ความสวยงามตามระบอบประชาธิปไตยและไม่ใช่ผู้ก่อความรุนแรง"
นายวิทยา กล่าวอีกว่า กรณีที่กลุ่มผู้ใส่เสื้อสีแดง หรือกลุ่มแนวร่วมประชาชนต่อต้านเผด็จการหรือ นปก.เคลื่อนขบวนมาที่สะพานมัฆวานฯ จนเกิดการปะทะกับการ์ดของกลุ่มพันธมิตรฯ นั้น ผู้สื่อข่าวชาวมาเลเซีย ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ด้วยได้ระบุว่ากรณีดังกล่าวหากกลุ่ม นปก.ยึดหลักการชุมนุมอย่างสันติ อหิงสา เหมือนกับกลุ่มพันธมิตรฯ เหตุการณ์ความรุนแรงก็จะไม่เกิดขึ้น ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและไม่มีใครถูกทำร้ายจนถึงแก่ชีวิต
"เขามองว่าถ้า นปก.ไม่ยกพวกไปหาเรื่องกลุ่มพันธมิตรฯ ก่อนเหตุการณ์ความรุนแรงก็จะไม่เกิด เขาบอกว่ากลุ่ม นปก.ส่วนใหญ่อยู่ในอาการเมาสุรา ในขณะที่การ์ดของกลุ่มพันธมิตรฯ ไม่ได้เมาสุรา และที่สำคัญเขาบอกว่าถ้ารัฐบาลไทยไม่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ความรุนแรงครั้งนั้นก็จะไม่เกิดขึ้น และเขายังรู้ด้วยว่าพวก นปก.ถูกจ้างมา"
นายวิทยา กล่าวว่า หลังจากที่หนังสือพิมพ์มาเลเซียฉบับภาษาจีนได้รายงานข่าวความเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรฯ ออกไปอย่างต่อเนื่องทำให้นักท่องเที่ยวไม่มีความกังวลอีกต่อไป โดยพบว่าหลายคนต้องการเข้ามาเยี่ยมชมและให้กำลังใจกลุ่มผู้ชุมนุมที่ทำเนียบฯ โดยในขณะนี้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวหลายคนมีแนวคิดที่จะพลิกวิกฤตเป็นโอกาสด้วยการจัดทัวร์นำนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียเข้ามาเยี่ยมชมการชุมนุมอย่างสันติของกลุ่มพันธมิตรฯ ทั้งที่ อ.หาดใหญ่ ที่สะพานมัฆวานฯ และที่ทำเนียบฯ
"ตอนนี้หลายฝ่ายโดยเฉพาะผู้นำในส่วนต่างๆ ไล่มาตั้งแต่รัฐบาลจนถึงระดับท้องถิ่นกลับมองว่าการชุมนุมของพันธมิตรฯ คือ ความรุนแรงส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวโดยเฉพาะในส่วนของ อ.หาดใหญ่ แต่ในความเป็นจริงแล้วช่วงโลว์ซีซันนักท่องเที่ยวจะลดลงตามปกติ และเมื่อวันที่ 29-31 สิงหาคม พบว่ามีนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียเข้ามาจำนวนมากจนห้องพักของโรงแรมทุกโรงแรมถูกจองเต็มหมด ทั้งที่มีการชุมนุมของพันธมิตรฯ แต่ทำไมนักท่องเที่ยวยังเข้ามาได้ แสดงว่าเขาเข้าใจและไม่ได้กังวลในเรื่องนี้ ไม่เหมือนกับที่ฝ่ายรัฐบาลพยายามโจมตี
ด้านนายชวรัตน์ อิ่มเอิบ ผู้ประกอบการร้านอาหารไทยในรัฐเปอร์ลิส ประเทศมาเลเซีย กล่าวว่า ช่วงแรกๆ ในการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียยังเข้าใจแบบผิดๆ ถูกๆ จนกระทั่งข่าวการชุมนุมถูกเผยแพร่โดยหนังสือพิมพ์มาเลเซียทำให้เขาเข้าใจและไม่มีความกังวลใจอีก
"นักข่าวรายงานว่าการประท้วงในประเทศไทยเหมือนศิลปะอย่างหนึ่งไม่มีอะไรรุนแรงเพราะใช้หลักสันติ หลังจากหนังสือพิมพ์ลงข่าวเขาก็เข้าใจและพร้อมสนับสนุน เป็นเรื่องตลกที่ผู้นำบางคนบอกว่าพันธมิตรฯ ชุมนุมทำให้เศรษฐกิจแย่ เขาไม่รู้หรือว่าเศรษฐกิจหาดใหญ่มันแย่อยู่แล้วตั้งแต่เกิดความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เราอยากให้มีผุ้ประสานงานที่ชัดเจนเพื่อนำนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้ามาศึกษาการชุมนุมของคนไทยทั้งที่หาดใหญ่และที่ทำเนียบเพราะเขาอยากเข้ามาเพียงแต่ไม่มีผู้ประสานงาน" นายชวรัตน์ กล่าว