xs
xsm
sm
md
lg

SECC เล็งร่วมประมูลโครงการเช่ารถเมล์ CNG

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน - SECC เล็งเข้าร่วมประมูลโครงการเช่ารถเมล์ CNG หลังเตรียมความพร้อมมานานกว่า 1 ปี พร้อมระดมทุน 500 ล้านหุ้น มั่นใจพร้อมเข้าร่วมประมูล โครงการเช่ารถยนต์โดยสาร ซึ่งใช้เครื่องยนต์ที่ใช้ก๊าซธรรมชาติ (CNG) ด้วยพันมิตรทางยานยนต์ 2-3 ราย รวมถึงจัดตั้งบริษัทเอสอีซีซี โฮลดิ้ง จำกัด รองรับงาน ซึ่งได้ออกหุ้นเพิ่มทุนล็อตใหม่อีกกว่า 500 ล้านหุ้นราคาหุ้นละ 2.10 บาท หลัง ครม.ไฟเขียวอนุมัติโครงการ

นายสมพงษ์ วิทยารักษ์สรรค์ ประธานกรรมการบริษัท เอส.อี.ซี.ออโต้เซลส์ แอนด์ เซอร์วิส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (SECC) เปิดเผยว่าหลังจากที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติโครงการเช่ารถยนต์โดยสาร ซึ่งใช้เครื่องยนต์ที่ใช้ก๊าซธรรมชาติ (CNG) ไปเมื่อวันที่ 2 ก.ย.ที่ผ่านมา ได้อนุมัติ โครงการให้ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เช่ารถยนต์โดยสารซึ่งใช้เครื่องยนต์ที่ใช้ก๊าซธรรมชาติ(CNG) เป็นเชื้อเพลิงจากเอกชน เบื้องต้น จำนวน 4,000 คัน โดยใช้วิธีให้เอกชนเข้าร่วมเสนอราคาค่าเช่าทางอิเล็กทรอนิกส์ (E-AUCTION) มูลค่าประมาณ 6-7 หมื่นล้านบาท ด้วยสัญญาเป็นเวลา 10 ปี

โดยบริษัทมั่นใจว่าบริษัทฯ มีความพร้อมในการเข้าร่วมประมูล ซึ่งได้เตรียมพร้อมมานานกว่า 1 ปี ซึ่งมีพันธมิตรในตลาดยานยนต์ประมาณ 2-3 ราย และบริษัท เอสอีซีซี โฮลดิ้ง จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย เพื่อเข้าร่วมประมูลงาน

ทั้งนี้ บริษัทได้ตั้งงบประมาณการลงทุนครั้งไว้ที่ประมาณ 1,400 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น เงินลงทุนจากการออกหุ้นเงินเพิ่มทุนในครั้งก่อนประมาณ 900 ล้านบาท และเงินจากการระดมทุน ซึ่งบริษัทได้ออกหุ้นเพิ่มทุน 500 ล้านหุ้นในคราวเดียวหรือหลายคราว ในราคาหุ้นละ 2.10 บาท ซึ่งเสนอขายนักลงทุนแบบเฉพาะเจาะจง (PP) โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะเลือกบริษัทใดมาเป็นพันธมิตรร่วมทุน

" คาดว่ารายได้จากธุรกิจนี้จะอยู่ที่ 1.5 แสนบาทต่อเดือน หรือ 6 พันล้านต่อปีล้าน และเราต้องมีกำไรจากการลงทุนไม่ต่ำกว่า 10 % จึงจะเข้าร่วมประมูล แต่ก็ต้องรองเงื่อนไขในการประมูล (TOR) ก่อนว่าจะออกมาในรูปแบบใด " นายสมพงษ์กล่าว

นายสมพงษ์ กล่าวต่อว่า สภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัวในปัจจุบัน เพราะสถานการณ์ทางการเมืองที่ไม่แน่นอน ส่งผลกระทบต่อธุรกิจยานยนต์ของบริษัทฯ ทำให้บริษัทต้องลดค่าใช้จ่ายในส่วนต่างๆ จากเดิมกว่าร้อยละ 60 รวมถึงปรับกลยุทธ์ในการขาย จากที่เคยเน้นการโฆษณาเพื่อกระตุ้นยอดการขายเป็นหลัก เบนมาทำตลาดแบบทางตรงแทน เน้นด้วยบริการหลังการขายแทนกลยุทธ์การลดราคา รวมถึงการทำกิจกรรมเพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทฯกับผู้บริโภคแทน
กำลังโหลดความคิดเห็น