ผู้จัดการรายวัน – ผู้ถือหุ้นไทยธนาคารไฟเขียวเพิ่มทุน พร้อมขอเปิดทางขายราคาต่ำกว่าราคาพาร์ หวังดังเงินกองทุนแตะ 15-16% เพิ่มความสามารถในการแข่งขันและรองรับเกณฑ์ Basel 2 แจงยังรอคลังไฟเขียวขยายเพดานต่างชาติถือหุ้นเกิน 49% เพื่อให้ CIMB Bank เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหม่
วานนี้ ( 3 ก.ย.) ธนาคารไทยธนาคาร จำกัด (มหาชน) หรือ BT ได้จัดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 2/2551 ขึ้น โดยมีวาระเพื่อพิจารณาทั้งหมด 6 วาระ สำหรับบรรยากาศในการประชุมฯนั้น ส่วนใหญ่ผู้ถือหุ้นจะซักถามถึงประเด็นการเพิ่มทุนและการกำหนดราคาเพิ่มทุนว่าเป็นอย่างไร รวมถึงความคืบหน้าการเข้าซื้อหุ้นของ CIMB Bank จากกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน
นายพีรศิลป์ ศุภผลศิริ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยธนาคาร กล่าวว่า ที่ประชุมได้มีมติอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 25,030.13 ล้านบาท เป็น 50,060.25 ล้านบาท โดยเป็นการออกหุ้นใหม่จำนวน 6,674.70 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 3.75 บาท และเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนจำนวนหุ้นที่ผู้ถือหุ้นแต่ละรายถืออยู่ในอัตรา 1 หุ้นเดิม ต่อ 1 หุ้นใหม่ โดยให้สามารถขายหุ้นเพิ่มทุนต่ำกว่ามูลค่าหุ้นที่จดทะเบียน (พาร์) ไว้ (3.75 บาท) และราคาเสนอขายดังกล่าวจะไม่ต่ำกว่าหุ้นละ 0.66 บาท
ทั้งนี้ การออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้ดำเนินการภายหลังจากการซื้อหุ้นของธนาคารโดย CIMB Bank จากกองทุนฟื้นฟูฯ และหากในกรณีที่ธนาคารได้รับแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรจากกองทุนฟื้นฟูฯว่าการซื้อขายหุ้นธนาคารระหว่าง CIMB Bank และกองทุนฟื้นฟูฯไม่เกิดขึ้นให้คณะกรรมการธนาคารมีอำนาจดำเนินการออกและการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของธนาคารให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนจำนวนหุ้นซึ่งผู้ถือหุ้นแต่ละรายถืออยู่ต่อไป
โดยการเพิ่มทุนจดทะเบียนนี้เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงและแข็งแกร่งให้แก่ธนาคารและเพื่อให้การดำเนินธุรกิจมีความสามารถในการแข่งขันที่สูงขึ้น รวมถึงเพื่อให้เงินกองทุนของธนาคารมีความเพียงพอเพื่อรองรับการขยายธุรกิจของธนาคารและเพื่อรองรับการเสนอขายหุ้นต่อผู้ถือหุ้นเดิมของธนาคาร
"ราคาที่ 0.66 บาทนั้น เป็นการกำหนดราคาขั้นต่ำตามกฎหมายเท่านั้น แต่ตอนนี้เรายังไม่ได้กำหนดราคาว่าจะเป็นเท่าไหร่ ที่ประชุมนี้ก็แค่ขออนุมัติไว้ก่อนเพื่อความคล่องตัว ส่วนราคาจะเป็นเท่าไหร่คงจะต้องหารือกับผู้ที่เกี่ยวข้อง ผู้ถือหุ้นเก่าและผู้ถือหุ้นใหม่ และสาเหตุที่เพิ่มทุนนี้ก็เพื่อให้เงินกองทุนของแบงก์ดีกว่านี้ ตอนนี้บางช่วงก็สูงกว่าเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) บางช่วงก็ต่ำกว่า ขึ้น ๆ ลง ๆ แต่ถ้า CIMB Bank เข้ามาและเพิ่มทุนจบก็คงจะขึ้นมาอยู่ที่ 15-16% ส่วนค่าเฉลี่ยของระบบแบงก์อยู่ที่ 12-13% ซึ่งการที่เราต้องการให้เงินกองทุนอยู่ที่ 15-16% นั้นก็เพื่อรองรับการใช้เกณฑ์ Basel 2 ส่วนที่ไม่ใช้แนวทางการลดทุนนั้นเนื่องจากคิดว่าวิธีนี้ดีและรวดเร็วที่สุดแล้ว ส่วนเงินเพิ่มทุนรอบนี้จะเพียงพอไปถึงเมื่อไหร่ตอบไม่ได้"
สำหรับความคืบหน้าของการเข้าซื้อหุ้นธนาคารโดย CIMB Bank จากกองทุนฟื้นฟูฯ นั้น ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการรอกระทรวงการคลังอนุมัติการขยายเพดานการถือหุ้นของนิติบุคคลที่ไม่ใช่สัญชาติไทยให้เกินกว่า 49% อยู่ ซึ่งไม่สามารถจะกำหนดได้ว่าจะได้รับคำตอบเมื่อไหร่แม้ได้มีการติดตามอยู่ตลอด
แต่จากเงื่อนไขด้านเวลาขายหุ้นธนาคารของกองทุนฟื้นฟูฯ ให้ CIMB Bank ว่าจะทำภายใน 180 วันนับจากวันที่ทำสัญญาขายหุ้นลงวันที่ 20 มิ.ย. 2551นั้น หากทางกระทรวงการคลังไม่สามารถจะให้คำตอบได้ทันกำหนดก็อาจจะต้องมีการหารือกันเกี่ยวกับเงื่อนเวลาอีกครั้ง
นางวาทนันทน์ พีเทอร์สิค กรรมการ ธนาคารไทยธนาคาร ซึ่งเป็นตัวแทนจากผู้ถือหุ้นกลุ่ม TPG Newbridge กล่าวว่า การเพิ่มทุนครั้งนี้ทาง TPG Newbridge คงจะดำเนินการเหมือนกับผู้ถือหุ้นทั่วไป และยังคงทำงานกับธนาคารไทยธนาคาร และปรับปรุงในด้านต่าง ๆ ตามนโยบาย ส่วนการเข้าซื้อหุ้นธนาคารของ CIMB Bank นั้นก็คงต้องดูว่าจะทำสำเร็จในเวลาหรือไม่
สำหรับการเมืองของไทยตอนนี้ก็น่าเป็นห่วงแต่ก็หวังว่ารัฐจะเห็นประโยชน์ของผู้ถือหุ้นและความมั่นคงของสถาบันการเงิน
วานนี้ ( 3 ก.ย.) ธนาคารไทยธนาคาร จำกัด (มหาชน) หรือ BT ได้จัดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 2/2551 ขึ้น โดยมีวาระเพื่อพิจารณาทั้งหมด 6 วาระ สำหรับบรรยากาศในการประชุมฯนั้น ส่วนใหญ่ผู้ถือหุ้นจะซักถามถึงประเด็นการเพิ่มทุนและการกำหนดราคาเพิ่มทุนว่าเป็นอย่างไร รวมถึงความคืบหน้าการเข้าซื้อหุ้นของ CIMB Bank จากกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน
นายพีรศิลป์ ศุภผลศิริ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยธนาคาร กล่าวว่า ที่ประชุมได้มีมติอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 25,030.13 ล้านบาท เป็น 50,060.25 ล้านบาท โดยเป็นการออกหุ้นใหม่จำนวน 6,674.70 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 3.75 บาท และเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนจำนวนหุ้นที่ผู้ถือหุ้นแต่ละรายถืออยู่ในอัตรา 1 หุ้นเดิม ต่อ 1 หุ้นใหม่ โดยให้สามารถขายหุ้นเพิ่มทุนต่ำกว่ามูลค่าหุ้นที่จดทะเบียน (พาร์) ไว้ (3.75 บาท) และราคาเสนอขายดังกล่าวจะไม่ต่ำกว่าหุ้นละ 0.66 บาท
ทั้งนี้ การออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้ดำเนินการภายหลังจากการซื้อหุ้นของธนาคารโดย CIMB Bank จากกองทุนฟื้นฟูฯ และหากในกรณีที่ธนาคารได้รับแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรจากกองทุนฟื้นฟูฯว่าการซื้อขายหุ้นธนาคารระหว่าง CIMB Bank และกองทุนฟื้นฟูฯไม่เกิดขึ้นให้คณะกรรมการธนาคารมีอำนาจดำเนินการออกและการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของธนาคารให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนจำนวนหุ้นซึ่งผู้ถือหุ้นแต่ละรายถืออยู่ต่อไป
โดยการเพิ่มทุนจดทะเบียนนี้เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงและแข็งแกร่งให้แก่ธนาคารและเพื่อให้การดำเนินธุรกิจมีความสามารถในการแข่งขันที่สูงขึ้น รวมถึงเพื่อให้เงินกองทุนของธนาคารมีความเพียงพอเพื่อรองรับการขยายธุรกิจของธนาคารและเพื่อรองรับการเสนอขายหุ้นต่อผู้ถือหุ้นเดิมของธนาคาร
"ราคาที่ 0.66 บาทนั้น เป็นการกำหนดราคาขั้นต่ำตามกฎหมายเท่านั้น แต่ตอนนี้เรายังไม่ได้กำหนดราคาว่าจะเป็นเท่าไหร่ ที่ประชุมนี้ก็แค่ขออนุมัติไว้ก่อนเพื่อความคล่องตัว ส่วนราคาจะเป็นเท่าไหร่คงจะต้องหารือกับผู้ที่เกี่ยวข้อง ผู้ถือหุ้นเก่าและผู้ถือหุ้นใหม่ และสาเหตุที่เพิ่มทุนนี้ก็เพื่อให้เงินกองทุนของแบงก์ดีกว่านี้ ตอนนี้บางช่วงก็สูงกว่าเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) บางช่วงก็ต่ำกว่า ขึ้น ๆ ลง ๆ แต่ถ้า CIMB Bank เข้ามาและเพิ่มทุนจบก็คงจะขึ้นมาอยู่ที่ 15-16% ส่วนค่าเฉลี่ยของระบบแบงก์อยู่ที่ 12-13% ซึ่งการที่เราต้องการให้เงินกองทุนอยู่ที่ 15-16% นั้นก็เพื่อรองรับการใช้เกณฑ์ Basel 2 ส่วนที่ไม่ใช้แนวทางการลดทุนนั้นเนื่องจากคิดว่าวิธีนี้ดีและรวดเร็วที่สุดแล้ว ส่วนเงินเพิ่มทุนรอบนี้จะเพียงพอไปถึงเมื่อไหร่ตอบไม่ได้"
สำหรับความคืบหน้าของการเข้าซื้อหุ้นธนาคารโดย CIMB Bank จากกองทุนฟื้นฟูฯ นั้น ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการรอกระทรวงการคลังอนุมัติการขยายเพดานการถือหุ้นของนิติบุคคลที่ไม่ใช่สัญชาติไทยให้เกินกว่า 49% อยู่ ซึ่งไม่สามารถจะกำหนดได้ว่าจะได้รับคำตอบเมื่อไหร่แม้ได้มีการติดตามอยู่ตลอด
แต่จากเงื่อนไขด้านเวลาขายหุ้นธนาคารของกองทุนฟื้นฟูฯ ให้ CIMB Bank ว่าจะทำภายใน 180 วันนับจากวันที่ทำสัญญาขายหุ้นลงวันที่ 20 มิ.ย. 2551นั้น หากทางกระทรวงการคลังไม่สามารถจะให้คำตอบได้ทันกำหนดก็อาจจะต้องมีการหารือกันเกี่ยวกับเงื่อนเวลาอีกครั้ง
นางวาทนันทน์ พีเทอร์สิค กรรมการ ธนาคารไทยธนาคาร ซึ่งเป็นตัวแทนจากผู้ถือหุ้นกลุ่ม TPG Newbridge กล่าวว่า การเพิ่มทุนครั้งนี้ทาง TPG Newbridge คงจะดำเนินการเหมือนกับผู้ถือหุ้นทั่วไป และยังคงทำงานกับธนาคารไทยธนาคาร และปรับปรุงในด้านต่าง ๆ ตามนโยบาย ส่วนการเข้าซื้อหุ้นธนาคารของ CIMB Bank นั้นก็คงต้องดูว่าจะทำสำเร็จในเวลาหรือไม่
สำหรับการเมืองของไทยตอนนี้ก็น่าเป็นห่วงแต่ก็หวังว่ารัฐจะเห็นประโยชน์ของผู้ถือหุ้นและความมั่นคงของสถาบันการเงิน
