สภาฯผ่านกม.ประชามติหลังแก้จากที่กกต.เสนอ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร วานนี้ (28 ส.ค.) ซึ่งมี พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม ได้พิจารณารายงานของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการออกเสียงประชามติ พ.ศ... สภาผู้แทนราษฎร ทั้งนี้สามาระสำคัญของร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้อยู่ที่ มาตรา 8 ที่ร่างของ กมธ.บุว่า การออกเสียงที่จะถือว่า มีข้อยุติในเรื่องที่จัดทำประชามติต้องมีผู้มาออกเสียงเป็นจำนวนเสียงข้างมาก ของผู้มีสิทธิออกเสียง และมีจำนวนเสียงเกินกว่ากึ่งหนึ่งของผู้มาออกเสียงในเรื่องที่จัดทำประชามตินั้น ต่างจากร่างเดิมที่กำหนดให้ใช้เสียงเกินกึ่งหนึ่งของผู้มีสิทธิ ออกเสียง ซึ่งเสียงส่วนใหญ่ของที่ประชุมได้ลงมติเห็นชอบตามร่างของกมธ.ด้วยคะแนน 205 ต่อ 35 งดออกเสียง 5
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการอภิปรายในมาตรานี้ ส.ส.พรรคพลังประชาชน ส่วนใหญ่อภิปรายพาดพิงไปถึงการทำหน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่เป็นผู้เสนอร่าง พ.ร.บ.นี้ว่า มีสองมาตรฐานในการปฏิบัติหน้าที่ กรณีการให้ใบเหลือง และใบแดง ที่พรรคประชาธิปัตย์ไม่ถูกใบแดงทั้งที่กรณีการจ่ายเงินซื้อเสียงของหัวคะแนนผู้สมัครพรรคประชาธิปัตย์กลับได้เพียงใบเหลือง และยังมีกรณีของนายวิทูรย์ นามบุตร ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ อีกที่มีข่าวว่าจะหลุดจากใบแดง ทำให้ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์
โดยนายวิฑูรย์อภิปรายว่า มีการพูดโจมตีตนมากสำนวนยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของ กกต. และการโจมตีเรื่องการซื้อเสียงนั้นไม่เป็นความจริง ส่วนนายศุภชัย ศรีหล้า ส.ส.อุบลราชธานี พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้มีภูมิคุ้มกันอะไร ภูมิคุ้มกันของพรรคประชาธิปัตย์คือการไม่ทุจริต การเลือกตั้ง ไม่เหมือนกับกรณีของบางพรรคที่ถูกใบแดง ซึ่งเป็นไปตามกรรมที่ทำไว้
จากนั้นในการพิจารณา มาตรา 33 เรื่องการคัดค้านการออกเสียง ที่ประชุม เห็นชอบตามร่าง กมธ.ที่ให้สิทธิในการยื่นคัดค้านการออกเสียงต่อ กกต.ภายใน 48 ชั่วโมง จากที่ร่างเดิมกำหนดให้ร้องคัดค้านเพียงภายใน 24 ชั่วโมง นับแต่การลงคะแนนสิ้นสุดลง ภายหลังการอภิปรายนานกว่า 2 ชั่วโมง ที่ประชุมได้ลงมติเห็นชอบ ร่างพ.ร.บ.นี้ตามร่างของกมธ.ด้วยคะแนนเสียงเอกฉันท์ 267 เสียง