ผู้จัดการรายวัน - พันธมิตรฯทั่วประเทศตอบรับเสียงนกหวีด เคลื่อนทัพเข้ากรุงร่วมไล่รัฐบาลหุ่นเชิด-ขายชาติ 26 ส.ค.นี้คึกคัก ขณะที่“รัฐตำรวจ”สนองสั่งตั่งด่านสกัดโดยอ้างตรวจจับยาเสพติด แต่พันธมิตรฯรู้ทันใช้แผนดาวกระจ่ายเข้ากรุงไม่หยุด "สุริยะใส" เผยกลุ่ม พธม.จะเข้ามาแบบกองทัพมดไม่ต่ำกว่า 5 แสนคน เชื่อหากไม่ถูกกลไกรัฐสกัดจะมาเป็นล้าน คาดคนทะลักจนต้องปิดถนน ย้ำจุดยืนเดิมขับไล่ รบ.หุ่นเชิด ยึดอหิงสา สันติ และอารยะขัดขืนขั้นสูงสุด “พิภพ” ย้ำจุดยืนนัดเป่านกหวีดครั้งสุดท้ายกดดันรัฐบาลลาออกทั้งคณะ ชี้บังอาจไม่สนองพระราชดำรัส เร่งลงทุนโครงการเมกะโปเจกต์หวังผลเลือกตั้งสมัยหน้า "43 สรส."ตบเท้าหยุดงาน 2 วันร่วมชุมนุมกับประชาชนไล่ทรราช
**"สุริยะใส"เชื่อคนทะลักกว่า5แสน
วานนี้ (24 ส.ค.) นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงาพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย แถลงว่า การชุมนุมวันที่ 26 ส.ค.นี้ได้มีการประสานกับเครือข่ายพันธมิตรฯทั่วประเทศโดยจะเข้ามาแบบกองทัพมด คือต่างคนต่างมาตั้งแต่คืนวันนี้เลยโดยเฉพาะภาคอีสานเบื้องต้นจะเข้ามาไม่ต่ำกว่า 5 แสนคน ซึ่งเราจะพยายามให้มากกว่าทุกครั้งในสังคมการเมืองไทย เนื่องจากขณะนี้บรรยากาศสุกงอม น่าจะได้ตัวเลขหลักล้าน หากไม่ถูกสกัดหรือกลไกรัฐเล่นงาน
“ช่วงเช้ามืดวันที่ 26 ส.ค.ต้องขออภัยประชาชนชาวกรุงเทพฯล่วงหน้า รวมถึงผู้ใช้เส้นทาง 4-5 เส้น ดังนี้ ถนนราชดำเนินตลอดทั้งเส้น ถนนอู่ทองใน ถนนราชวิถี ถนนศรีอยุธยา ถนนพิษณุโลก และถนนสามเสน เนื่องจากมีคนมาจำนวนมาก จนอาจจะต้องปิดถนนไปโดยปริยาย”
นายสุริยะใส กล่าวต่อว่า การชุมนุมครั้งนี้จะมีลักษณะพิเศษ 3 ประการ คือ 1.ธำรงค์จุดมุ่งหมายเดิมคือขับไล่รัฐบาลหุ่นเชิด 2.ยึดมั่นแนวทางอสิงสา สันติวิธี ปราศจากอาวุธ ขอยืนยันว่าความรุนแรงไม่เคยเกิดจากประชาชน 3.อารยะขัดขืนขั้นสูงสุดเป็นมาตรการที่รัฐไม่คิดว่าจะทำได้ แต่ประชาชนจะทำให้ดู
ผู้สื่อข่าวถามว่า มั่นใจแค่ไหนจะยุติได้ภายใน 1-2 วันผู้ประสานงานพันธมิตรฯกล่าวว่า ความมั่นใจเกิดขึ้นตั้งแต่เป่านกหวีดแล้วคนจะมาเป็นล้าน ส่วนจะทำอะไรต่อเป็นเรื่องของแกนนำที่จะตัดสินใจ ซึ่งไม่มีใครคาดการณ์อนาคตได้
**"43 สรส."ตบเท้าหยุดงาน2วัน
ขณะที่เวลา 19.00 น.นายสาวิทย์ แก้วหวาน เลขาธิการสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจ (สรส.) ขึ้นเวทีพันธมิตรฯเพื่ออ่านแถลงการณ์ของ สรส.ในการเข้าร่วมชุมนุมใหญ่กับพันธมิตรฯ สรุปได้ว่า ภายหลังจากการเป่านกหวีดครั้งใหญ่ของพันธมิตรฯ ทาง สรส.ซึ่งเป็นแนวร่วมการชุมนุมมาตลอดนั้น ขอประกาศเข้าร่วมการชุมนุมครั้งใหญ่กับพันธมิตรฯ เนื่องจากรัฐบาลในปัจจุบัน ซึ่งเป็นรัฐบาลหุ่นเชิดขายชาติของนายสมัคร สุนทรเวช ที่เป็นส่วนหนึ่งของระบอบทักษิณ ที่มีการเข้าไปหาผลประโยชน์จากรัฐวิสาหกิจด้วยการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ
ดังนั้น เพื่อเป็นการหยุดยั้งการแปรรูปรัฐวิสาหกิจของระบอบทักษิณ จึงขอให้ สมาชิกแรงงานรัฐวิสาหกิจเข้าร่วมการชุมนุมกับพันธมิตรฯด้วยการหยุดงาน 2 วันในวันที่ 26 และ 27 ส.ค.เพื่อร่วมชุมนุมกับประชาชน ซึ่งหากรัฐบาลยังไม่ลาออก ทาง สรส.จะยกระดับการชุมนุมถึงขั้นเด็ดขาดต่อไป
ทั้งนี้ นายสาวิทย์ กล่าวต่อว่า ทาง สรส.จะร่วมต่อสู้กับพันธมิตรฯต่อไปจนกว่าจะได้รับชัยชนะ โดยทั้ง 43 สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจจะเข้าร่วมชุมนุมกับพันธมิตรฯ จนถึงที่สุดเวลา 20.30 น. พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรฯขึ้นเวทีกล่าวถึงการชุมนุมใหญ่ในวันอังคารนี้ว่า รัฐบาลจะต้องลาออกอย่างแน่นอน ดังนั้น จึงถือเป็นโอกาสที่ดีในการมาใช้หนี้แผ่นดิน โดยในวันชุมนุมใหญ่นี้จะมีทั้งทหาร ตำรวจ ร่วมชุมนุมกันอย่างมากมาย
**"พิภพ"ย้ำจุดยืนเป่าครั้งสุดท้าย
นายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรฯยืนยันถึงการชุมนุมใหญ่ในวันอังคารนี้ว่าไม่เกี่ยวข้องกับวันคล้ายวันเกิด พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ แต่เป็นการกดดันเพื่อให้รัฐบาลลาออก หลังพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำรัส สถานะทางการเงินของประเทศ แต่รัฐบาลกลับไม่ปฏิบัติตาม พยายามลงทุนโครงการใหญ่เกินความจำเป็นเพื่อสะสมทุนในการเลือกตั้งครั้งหน้า อีกทั้งยังมีคำสั่งจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังไปยังกรมสรรพากรให้คืนเงินจำนวน 76,000 ล้านบาทที่ถูกอายัดเพื่อช่วยเหลือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี“การชุมนุมในวันอังคารนี้จะเป็นไปด้วยความสงบ สันติ ซึ่งจะทำให้รัฐบาลเกิดความหวั่นไหวอย่างแน่นอน” นายพิภพ กล่าว
นายพิภพ ยังระบุด้วยว่า นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวโดยไม่มีข้อเท็จจริงกรณีที่ออกมาอ้างว่า อาคารรัฐสภาได้คืนสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์แล้ว ซึ่งเป็นการเชื่อมโยงสถาบันเข้ามาเกี่ยวข้อง ทั้งนี้ กระบวนการก่อสร้างรัฐสภาแห่งใหม่ ไม่ใช่แนวทางประชาธิปไตย เพราะละเมิดรัฐธรรมนูญ ถือเป็นรัฐบาลระบอบเผด็จการที่มาจากการเลือกตั้ง
**”สมเกียรติ”เผยบุกโยธินวันนี้
นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ แกนนำพันธมิตรฯขึ้นเวทีปราศรัย โดยกล่าวถึงวันชุมนุมครั้งใหญ่เพื่อขับไล่รัฐบาลขายชาติว่า ในวันจันทร์ที่ 25 ส.ค.นี้ถือเป็นวันสุกดิบ เพราะในช่วงเช้าเราจะเคลื่อนขบวนไปยัง ร.ร.โยธินบูรณะ เนื่องจากรัฐบาลกำลังจะสร้างรัฐสภาแห่งใหม่ ส่วนการเป่านกหวีดครั้งสุดท้ายนั้น เนื่องจากเราไม่ต้องการให้ชาติล่มจม เพราะรัฐบาลชุดนี้ โดยเรื่องที่เราต้องออกมาต่อต้าน เพราะรัฐบาลชุดนี้กอบโกยทรัพยากรของชาติและท้าทายสถาบันหลักของชาติ เรื่องแรก คือ ระบอบทักษิณได้ทิ้งมรดก และถูกระบอบทักษิณกลืนกินเกือบหมด โดยเฉพาะการ 13 โครงการ ซึ่ง คตส.ตรวจพบการโกงชาติบ้านเมือง 1.8 แสนล้านบาท ซึ่งถ้ารวมความเสียหายทั้งสิ้น ระบอบทักษิณปล้นชาติไป 2 แสนล้านบาท“คดีแรก พ.ต.ท.ทักษิณ จะถูกชี้ชะตานอีกไม่กี่วัน เมื่อถึงวันนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ ก็จะเปลี่ยนสถานะไปเป็นนักโทษหนีคุก” นายสมเกียรติ กล่าว
**"สนธิ" ลั่นสัญญาณนกหวีดใหญ่
เวลาประมาณ 21.05 น. นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯขึ้นเวทีโดยกล่าวถึงการสวมเสื้อสีเหลือง "เราจะสู้เพื่อในหลวง" ในการต่อสู้กับระบอบทักษิณเมื่อปี 2549 เพราะในช่วงนั้นยอมรับว่ามีกลุ่มคนที่จ้องทำลายพ่อหลวงของเรา โดยเฉพาะกลุ่มของอดีตนายกฯทักษิณและบริวาร โดยพบว่าคนเหล่านี้มีการเหยียบย่ำจาบจ้วงมาตลอด ตั้งแต่ปี 2544 และในที่สุดตนเองจึงได้ลุกขึ้นมาต่อสู้พร้อมกับประชาชน
นายสนธิ ตั้งข้อสังเกตว่า เมื่อช่วงปี 2548 เรามักจะได้เห็นเสื้อที่มีคำว่า "เรารักในหลวง" แต่สถานการณ์ขณะนั้นหากจะบอกว่ารักพ่อหลวงอย่างเดียวคงไม่พอ เราต้องสู้เพื่อพระองค์ท่านด้วย เพราะพระองค์ท่านทรงเมตตา และเปี่ยมไปด้วยทศพิศราชธรรม เปรียบเหมือนกับเทวดาที่คอยห่วงใยพสกนิกร แต่ท่านทรงอยู่ในฐานะที่ไม่ทรงพูดอะไรได้
นอกจากนั้น ก่อนหน้านี้สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้เคยทรงเล่าเรื่องพระไตรปิฎก ตอนที่พระพุทธเจ้าจะแสดงโอวาทปาติโมกข์ แต่ทรงนิ่งเงียบ ไม่สามารถกระทำได้ กระทั่งพระอานนท์ กล่าวเตือนเป็นครั้งที่ 3 ก็ทรงบอกว่า ดูก่อนพุทธบริษัททั้งหลาย เราไม่สามารถแสดงโอวาทปาติโมกข์ได้ เพราะมีพระทุศีลหนึ่งองค์อยู่ในที่นี้ แต่ไม่สามารถแสดงออกได้ ดังนั้น พระโมคลานะซึ่งเป็นพระที่ทรงอิทธิฤทธิ์ จึงใช้ฌานนั่งเห็น จึงไปบอกพระทุศีลว่า ท่านมีศีลไม่ครบแล้วพระโมคัลลานะจึงไปกระชากแขนออกไป จึงสามารถแสดงโอวาทปาติโมกข์ได้
"เปรียบเช่นเดียวกับในยุคนี้ ดังนั้น ในวันที่ 26 ส.ค.นี้พวกเราที่นั่งกันอยู่ในที่นี้จะขอเป็นพระโมคัลลานะ เดินไปกระชากแขนคนชั่วออกจากแผ่นดินไทย เพราะหากเปรียบแล้ว พ่อหลวงของเรา ก็เปรียบเหมือนพระพุทธเจ้า ที่ไม่สามารถทรงพูดอะไรได้ ตั้งแต่ปี 2544 พระองค์ท่านทรงเจอแต่เรื่องที่ถูกใส่ร้ายจ้องทำลายล้าง แต่ท่านก็ไม่เคยตรัสให้พวกเราทราบสักคำ"
**ศรีสะเกษนับหมื่นแยกเข้ากรุง
ด้านความเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯทั่วประเทศในจังหวัดต่างๆ มีความคึกคักอย่างมาก หลัง
จากมีการเป่านกหวีดของ 5 แกนนำพันธมิตรฯก็ได้มีการเคลื่อนกำลังประชาชนเข้ากรุงเทพฯ เพื่อร่วมชุมนุมในวันอังคารนี้อย่างไม่หยุดสายโดยเดินทางเข้ามาในรูปแบบดาวกระจ่ายเพื่อหลบหลีกการสกัดกั้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
นายอรุณศักดิ์ โอชารส แกนนำพันธมิตรฯศรีสะเกษ เปิดเผยว่า เครือข่ายพันธมิตรฯศรีสะเกษได้เดินทางเข้ากรุงเทพฯแล้วตั้งแต่เช้าวานนี้ (24 ส.ค.) โดยใช้วิธีการทยอยกันเดินทางเข้าไปในรูปแบบดาวกระจ่าย เพื่อเป็นการป้องกันการสกัดกั้นจากส่วนราชการที่เกี่ยวข้องและกลุ่มคนระบอบทักษิณที่ชั่วร้าย จากการประเมินในเบื้องต้นของแกนนำทุกพื้นที่คาดว่าจะมีเครือข่ายกลุ่มพันธมิตรฯ และประชาชนชาวศรีสะเกษเดินทางเข้าไปร่วมชุมนุมในครั้งนี้นับ 10,000 คน พร้อมกับได้มีการเตรียมพร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น รวมถึงการชุมนุมใหญ่ขับไล่รัฐบาลที่ยืดเยื้อด้วย
นางสำเนียง สุภัณพจน์ ประธานสมัชชาประชาชนภาคอีสานจังหวัดบุรีรัมย์ เผยว่า เมื่อคืนวันที่ 23 ส.ค.ชาวบุรีรัมย์กลุ่มแรกได้เดินทางไปแล้วประมาณ 300 คน และเมื่อคืนวันที่ 24 ส.ค.เดินทางไปสมทบอีกส่วนหนึ่ง และจะเดินทางไปสมทบอีกในวันนี้ โดยใช้วิธีการแยกย้ายกันเดินทาง
**ขอนแก่นกว่าพันทะลักเข้ากรุง
ส่วนที่ จ.ขอนแก่นมีความคึกคักเป็นพิเศษ โดยกลุ่มแกนนำพันธมิตรฯ พ่อค้า นักธุรกิจใน จ.ขอนแก่น ได้ระดมทุนลงขันเพื่อเช่ารถบัสไว้คอยบริการประชาชนที่จะเดินทางเข้าไปร่วมชุมนุมใหญ่ในวันอังคารนี้ร่วม 10 คัน ขณะที่มีประชาชนมาลงชื่อแจ้งความประสงค์ขอเดินทางเข้าร่วมชุมนุมด้วยเป็นจำนวนมาก ในจำนวนนี้ไม่นับรวมชาวขอนแก่นในแต่ละอำเภอที่เดินทางไปกันเอง ทั้งนี้ คาดว่าในส่วนของ จ.ขอนแก่นนั้นจะมีผู้เดินทางเข้าร่วมชุมนุมในครั้งนี้ราว 2,000-3,000 คน
นายสมภพ บุนนาค 1 ในแกนนำพันธมิตรฯขอนแก่น กล่าวว่า การรวมตัวขับไล่รัฐบาลหุ่นเชิดครั้งนี้คึกคักมาก เป็นเพราะประชาชนทนไม่ได้แล้วกับพฤติกรรมของรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ตั้งแต่นายสมัคร เข้ามาบริการประเทศไม่เคยพูดถึงการแก้ไขปัญหาของชาติที่เป็นรูปธรรม แต่กลับกระตือรือร้นที่จะทำทุกอย่างเพื่อช่วยเหลืออดีตนายกฯและพวกพ้อง ที่ติดบ่วงการเมืองและมีคดีติดตัวมากมาย
**เผยคนอีสานหลายหมื่นเข้าร่วม
ด้าน ทพ.ศุภผล เอี่ยมเมธาวี เลขาธิการสมัชชาประชาชนภาคอีสาน 19 จังหวัด และประธานกลุ่มภาคีมวลชนคนโคราชรักประชาธิปไตย เปิดเผยว่า การระดมพลเข้าไปร่วมชุมนุมใหญ่ครั้งนี้ ทางสมัชชาประชาชนฯ และองค์กรเครือข่ายพันธมิตรฯในภาคอีสานอีสานทุกจังหวัด ได้ประชุมหารือและจัดเตรียมการทุกอย่างไว้เรียบร้อยแล้ว โดยประเมินเบื้องต้นคาดว่าจะมีประชาชนภาคอีสานในทุกจังหวัดเดินทางเข้าร่วมหลายหมื่นคน โดยกระจายตัวกันเดินทางเข้าไป ในส่วนของ จ.นครราชสีมานั้นจะเดินทางกันในวันนี้ (25 ส.ค.) แต่อย่างไรก็ตาม ส่วนหนึ่งได้ทยอยเดินทางล่วงหน้าไปร่วมชุมนุมแล้วตั้งแต่วันที่ 24 ส.ค.
“สำหรับการเดินทางนั้นมีหลายรูปแบบ ทั้งเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว รถตู้ รถบัส รถโดยสารประจำทาง และรถไฟ เป็นต้น เพื่อหลีกเลี่ยงและป้องกันการสกัดกั้นของรัฐบาลและกลุ่มคนระบอบทักษิณ รวมทั้งมีการระดมกำลังพลสำรองของภาคอีสานไว้อีกส่วนหนึ่งเพื่อรองรับสถานการณ์ที่อาจเปลี่ยนแปลง โดยมีศูนย์กลางการประสานงานอยู่ที่โคราช” ทพ.ศุภผล กล่าว
**ตร.ตาก-กำแพงฯตั้งด่านสกัด
ส่วนที่ จ.ตากนั้น พ.ต.อ.รชต สืบสายอ้น รอง ผบก.ภ.จว.ตาก ได้มีคำสั่งด่วนไปยังสถานีตำรวจภูธรทุกแห่งในพื้นที่ฝั่งตะวันออกบนทางหลวงหมายเลข 1 ถนนพหลโยธิน ระหว่างลำปาง-ตาก และตาก-กำแพงเพชร ซึ่งเป็นเส้นทางสายหลักที่จะเข้าสู่กรุงเทพฯให้ทุกสถานีตำรวจภูธรในพื้นที่ดังกล่าว ร่วมกันตั้งด่านโดยใช้คำสั่งการตั้งจุดตรวจจุดสกัดยาเสพติดเพื่อป้องกันการเดินทางเข้ากรุงเทพฯของกลุ่มพันธมิตรฯ และประชาชน ที่จะเดินทางเข้าไปร่วมชุมนุมใหญ่ที่จะมีขึ้นในวันอังคารนี้
มีรายงานว่า ได้มีคำสั่งในเพิ่มความเข้มข้นในการปฏิบัติงานมากกว่าเดิมโดยให้เรียกตรวจค้นรถที่บรรทุกผู้โดยสารจำนวนมาก ทั้งรถยนต์โดยสารไม่ประจำทาง รถตู้ และรถยนต์ส่วนตัว ภายใต้คำสั่งตรวจค้นยาเสพติดเช่นกัน เพื่อชะลอการเดินทางเข้ากรุงเทพฯของกลุ่มพันธมิตรฯและประชาชน
**อัด ตร.อย่าใช้วิชามารแล้วกัน
น.ส.นิตยา กุระคาน แกนนำพันธมิตรฯตาก เผยว่า ในการเดินทางของเราจะยังคงเดินทางในรูปแบบดาวกระจายใช้รถยนต์ส่วนตัวและรถตู้เป็นหลักและบางส่วนได้เดินทางไปแล้วในช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ ซึ่งตอนนี้ทราบว่าในพื้นที่ จ.ตาก และจังหวัดทางภาคเหนือมีการตั้งด่านตรวจของตำรวจมากขึ้น แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาที่จะสามารถสกัดกั้นการเดินทางของพวกเรา“การใช้มาตรการตั้งด่านตรวจยาเสพติดเพื่อสกัดพันธมิตรฯของตำรวจนั้น เราต้องยอมรับว่าพากเขาต้องทำเพื่อเอาใจนาย หากไม่ทำอะไรเลยเดี๋ยวก็ถูกเล่นงาน แต่ก็ไม่ควรใช้วิชามารสันดานดิบเหมือนตำรวจอ่างทองที่ใช้ตะปูเรือใบโปรยดักรถโดยสารของพันธมิตรฯให้ได้รับความเสียหายเหมือนครั้งที่ผ่านมาก็แล้วกัน” น.ส.นิตยา กล่าว
**คาดภาคใต้เข้ากรุง3-4หมื่นคน
ส่วนทางด้านเครือข่ายยามเฝ้าแผ่นดินฯและพันธมิตรฯภูเก็ตกว่า 1,500 คน ได้เดินทางออกจากบริเวณหน้าศาลเจ้ากิ้วเทียนเก้ง ปลายแหลมสะพานหิน อ.เมืองภูเก็ต ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งจอโปรเจกเตอร์ถ่ายทอดสด เข้ากรุงเทพฯแล้วตั้งแต่เวลา 08.00 น.วานนี้ ด้วยรถบัส 5 คัน และรถตู้อีกจำนวนหนึ่ง
ขณะที่กลุ่มพันธมิตรฯสงขลา และพันธมิตรหลายจังหวัดในภาคใต้กว่า 1,000 คนได้ออกเดินทางจากสถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่แล้วเมื่อเย็นวนนี้ ด้วยขบวนรถเร็ว 172 สุไหงโก-ลก-กรุงเทพฯ กว่า 7 โบกี้โดยคาดผ้าสีส้มเป็นสัญลักษณ์ นอกจากนี้ ในระหว่างทางยังมีพันธมิตรฯร่วมโดยสารรถไฟในขบวนเดียวกันเดินทางเข้ามาชุมนุมด้วย เช่น พัทลุง, ทุ่งสง, สุราษฎร์ธานี และชุมพร
นายโอสถ สุวรรณเศวต กรรมการพันธมิตรฯ 14 จังหวัดภาคใต้ เผยว่า ขณะนี้พันธมิตรฯ 14 จังหวัดภาคใต้ที่ได้เดินทางล่วงหน้าไปแล้วมีประมาณ 10,000 คน โดยกระจายกันเดินทางในรูปแบบต่างๆ ดังนั้น เมื่อรวมแล้วทั้ง 14 จังหวัดภาคใต้คาดว่าการชุมนุมครั้งนี้น่าจะมี 3-4 หมื่นคน
**คาดมวลชน ตอ.ร่วมหลายหมื่น
นายสมชาย กีรติยาพงษ์ แกนนำพันธมิตรฯชลบุรี เผยถึงการประชุมกลุ่มแกนนำพันธมิตรฯจากพื้นที่ต่างๆ ในจังหวัดภาคตะวันออกเมื่อวันที่ 23 ส.ค.ที่ผ่านมาว่า จากการประเมินในเบื้องต้นในส่วนของภาคตะวันออก คาดว่าน่าจะมีผู้เดินทางไปร่วมชุมนุมครั้งนี้ด้วยหลายหมื่นคน โดยเฉพาะในส่วนของ จ.ชลบุรีนั้นเราได้มีการประสานไปยังแกนนำอำเภอ และตำบลต่างๆ เพื่อชักชวนให้ประชาชนเดินทางไปร่วมชุมนุมกันให้มากที่สุด เพราะถือว่าเป็นการเสียสละเพื่อส่วนรวมของประเทศ
ด้านนายประสิทธิ์ กาลานุกาล 1 ในแกนนำพันธมิตรฯชลบุรี เผยว่า ทางพันธมิตรฯชลบุรีได้เตรียมรถบัสฟรีไว้บริการประชาชนหลายคัน และหากมีประชาชนไปร่วมชุมนุมเพิ่มมากขึ้นก็จะมีรถบัสสำรองให้อีก
**หมักอ้างทำบ้านเมืองสงบสุข
ด้านนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวในรายการสนทนาประสาสมัครว่า วันนี้กลุ่มพันธมิตรฯเขาก็เป่านกหวีดกันอีกแล้วเพื่อจะเอารัฐบาลออกให้ได้ โดยกลุ่มพันธมิตรฯระบุว่ารัฐบาลมีความผิดบริหารบ้านเมืองอีก 1 วันก็บรรลัยวายวอดแล้ว และเขาใช้คำว่าฉิบหายด้วย ดังนั้นจะเอากันจะระดมกันเข้ามา แต่ตนขอให้ดูนะว่าอย่างนี้บ้านเมืองไม่มีความสงบสุขหรอกครับถ้าเป็นแบบนี้
**อภิสิทธิ์ เชื่อ"หมัก"ไม่ลาออก
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า โดยส่วนตัวมั่นใจว่านายสมัคร จะไม่ลาออก เพราะที่ผ่านมาข้อเรียกร้องที่น้อยกว่านี้นายกฯไม่ได้สนอง โดยเฉพาะเวลาเกิดขึ้นจากการเคลื่อนไหวชุมนุม จึงมองไม่ออกว่าจะมีเหตุผลใดที่นายกรัฐมนตรีจะมาตอบสนองในเงื่อนไขนี้ และการเปลี่ยนแปลงอะไรก็ตามจะต้องอยู่ในกรอบของกฎหมาย เมื่อนายกรัฐมนตรีบอกว่าไม่ยุบสภา ไม่ลาออก และยังมีเสียงข้างมากในสภาสนับสนุนอยู่ ก็เชื่อว่าจะยังไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงอะไร ส่วนที่ห่วงว่าจะเกิดการชุมนุมเรียกร้องและมีการปะทะกันรุนแรงนั้น ทุกฝ่ายก็ต้องช่วยกันเพื่อไม่ให้มีการปะทะ
**"สุริยะใส"เชื่อคนทะลักกว่า5แสน
วานนี้ (24 ส.ค.) นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงาพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย แถลงว่า การชุมนุมวันที่ 26 ส.ค.นี้ได้มีการประสานกับเครือข่ายพันธมิตรฯทั่วประเทศโดยจะเข้ามาแบบกองทัพมด คือต่างคนต่างมาตั้งแต่คืนวันนี้เลยโดยเฉพาะภาคอีสานเบื้องต้นจะเข้ามาไม่ต่ำกว่า 5 แสนคน ซึ่งเราจะพยายามให้มากกว่าทุกครั้งในสังคมการเมืองไทย เนื่องจากขณะนี้บรรยากาศสุกงอม น่าจะได้ตัวเลขหลักล้าน หากไม่ถูกสกัดหรือกลไกรัฐเล่นงาน
“ช่วงเช้ามืดวันที่ 26 ส.ค.ต้องขออภัยประชาชนชาวกรุงเทพฯล่วงหน้า รวมถึงผู้ใช้เส้นทาง 4-5 เส้น ดังนี้ ถนนราชดำเนินตลอดทั้งเส้น ถนนอู่ทองใน ถนนราชวิถี ถนนศรีอยุธยา ถนนพิษณุโลก และถนนสามเสน เนื่องจากมีคนมาจำนวนมาก จนอาจจะต้องปิดถนนไปโดยปริยาย”
นายสุริยะใส กล่าวต่อว่า การชุมนุมครั้งนี้จะมีลักษณะพิเศษ 3 ประการ คือ 1.ธำรงค์จุดมุ่งหมายเดิมคือขับไล่รัฐบาลหุ่นเชิด 2.ยึดมั่นแนวทางอสิงสา สันติวิธี ปราศจากอาวุธ ขอยืนยันว่าความรุนแรงไม่เคยเกิดจากประชาชน 3.อารยะขัดขืนขั้นสูงสุดเป็นมาตรการที่รัฐไม่คิดว่าจะทำได้ แต่ประชาชนจะทำให้ดู
ผู้สื่อข่าวถามว่า มั่นใจแค่ไหนจะยุติได้ภายใน 1-2 วันผู้ประสานงานพันธมิตรฯกล่าวว่า ความมั่นใจเกิดขึ้นตั้งแต่เป่านกหวีดแล้วคนจะมาเป็นล้าน ส่วนจะทำอะไรต่อเป็นเรื่องของแกนนำที่จะตัดสินใจ ซึ่งไม่มีใครคาดการณ์อนาคตได้
**"43 สรส."ตบเท้าหยุดงาน2วัน
ขณะที่เวลา 19.00 น.นายสาวิทย์ แก้วหวาน เลขาธิการสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจ (สรส.) ขึ้นเวทีพันธมิตรฯเพื่ออ่านแถลงการณ์ของ สรส.ในการเข้าร่วมชุมนุมใหญ่กับพันธมิตรฯ สรุปได้ว่า ภายหลังจากการเป่านกหวีดครั้งใหญ่ของพันธมิตรฯ ทาง สรส.ซึ่งเป็นแนวร่วมการชุมนุมมาตลอดนั้น ขอประกาศเข้าร่วมการชุมนุมครั้งใหญ่กับพันธมิตรฯ เนื่องจากรัฐบาลในปัจจุบัน ซึ่งเป็นรัฐบาลหุ่นเชิดขายชาติของนายสมัคร สุนทรเวช ที่เป็นส่วนหนึ่งของระบอบทักษิณ ที่มีการเข้าไปหาผลประโยชน์จากรัฐวิสาหกิจด้วยการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ
ดังนั้น เพื่อเป็นการหยุดยั้งการแปรรูปรัฐวิสาหกิจของระบอบทักษิณ จึงขอให้ สมาชิกแรงงานรัฐวิสาหกิจเข้าร่วมการชุมนุมกับพันธมิตรฯด้วยการหยุดงาน 2 วันในวันที่ 26 และ 27 ส.ค.เพื่อร่วมชุมนุมกับประชาชน ซึ่งหากรัฐบาลยังไม่ลาออก ทาง สรส.จะยกระดับการชุมนุมถึงขั้นเด็ดขาดต่อไป
ทั้งนี้ นายสาวิทย์ กล่าวต่อว่า ทาง สรส.จะร่วมต่อสู้กับพันธมิตรฯต่อไปจนกว่าจะได้รับชัยชนะ โดยทั้ง 43 สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจจะเข้าร่วมชุมนุมกับพันธมิตรฯ จนถึงที่สุดเวลา 20.30 น. พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรฯขึ้นเวทีกล่าวถึงการชุมนุมใหญ่ในวันอังคารนี้ว่า รัฐบาลจะต้องลาออกอย่างแน่นอน ดังนั้น จึงถือเป็นโอกาสที่ดีในการมาใช้หนี้แผ่นดิน โดยในวันชุมนุมใหญ่นี้จะมีทั้งทหาร ตำรวจ ร่วมชุมนุมกันอย่างมากมาย
**"พิภพ"ย้ำจุดยืนเป่าครั้งสุดท้าย
นายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรฯยืนยันถึงการชุมนุมใหญ่ในวันอังคารนี้ว่าไม่เกี่ยวข้องกับวันคล้ายวันเกิด พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ แต่เป็นการกดดันเพื่อให้รัฐบาลลาออก หลังพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำรัส สถานะทางการเงินของประเทศ แต่รัฐบาลกลับไม่ปฏิบัติตาม พยายามลงทุนโครงการใหญ่เกินความจำเป็นเพื่อสะสมทุนในการเลือกตั้งครั้งหน้า อีกทั้งยังมีคำสั่งจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังไปยังกรมสรรพากรให้คืนเงินจำนวน 76,000 ล้านบาทที่ถูกอายัดเพื่อช่วยเหลือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี“การชุมนุมในวันอังคารนี้จะเป็นไปด้วยความสงบ สันติ ซึ่งจะทำให้รัฐบาลเกิดความหวั่นไหวอย่างแน่นอน” นายพิภพ กล่าว
นายพิภพ ยังระบุด้วยว่า นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวโดยไม่มีข้อเท็จจริงกรณีที่ออกมาอ้างว่า อาคารรัฐสภาได้คืนสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์แล้ว ซึ่งเป็นการเชื่อมโยงสถาบันเข้ามาเกี่ยวข้อง ทั้งนี้ กระบวนการก่อสร้างรัฐสภาแห่งใหม่ ไม่ใช่แนวทางประชาธิปไตย เพราะละเมิดรัฐธรรมนูญ ถือเป็นรัฐบาลระบอบเผด็จการที่มาจากการเลือกตั้ง
**”สมเกียรติ”เผยบุกโยธินวันนี้
นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ แกนนำพันธมิตรฯขึ้นเวทีปราศรัย โดยกล่าวถึงวันชุมนุมครั้งใหญ่เพื่อขับไล่รัฐบาลขายชาติว่า ในวันจันทร์ที่ 25 ส.ค.นี้ถือเป็นวันสุกดิบ เพราะในช่วงเช้าเราจะเคลื่อนขบวนไปยัง ร.ร.โยธินบูรณะ เนื่องจากรัฐบาลกำลังจะสร้างรัฐสภาแห่งใหม่ ส่วนการเป่านกหวีดครั้งสุดท้ายนั้น เนื่องจากเราไม่ต้องการให้ชาติล่มจม เพราะรัฐบาลชุดนี้ โดยเรื่องที่เราต้องออกมาต่อต้าน เพราะรัฐบาลชุดนี้กอบโกยทรัพยากรของชาติและท้าทายสถาบันหลักของชาติ เรื่องแรก คือ ระบอบทักษิณได้ทิ้งมรดก และถูกระบอบทักษิณกลืนกินเกือบหมด โดยเฉพาะการ 13 โครงการ ซึ่ง คตส.ตรวจพบการโกงชาติบ้านเมือง 1.8 แสนล้านบาท ซึ่งถ้ารวมความเสียหายทั้งสิ้น ระบอบทักษิณปล้นชาติไป 2 แสนล้านบาท“คดีแรก พ.ต.ท.ทักษิณ จะถูกชี้ชะตานอีกไม่กี่วัน เมื่อถึงวันนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ ก็จะเปลี่ยนสถานะไปเป็นนักโทษหนีคุก” นายสมเกียรติ กล่าว
**"สนธิ" ลั่นสัญญาณนกหวีดใหญ่
เวลาประมาณ 21.05 น. นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯขึ้นเวทีโดยกล่าวถึงการสวมเสื้อสีเหลือง "เราจะสู้เพื่อในหลวง" ในการต่อสู้กับระบอบทักษิณเมื่อปี 2549 เพราะในช่วงนั้นยอมรับว่ามีกลุ่มคนที่จ้องทำลายพ่อหลวงของเรา โดยเฉพาะกลุ่มของอดีตนายกฯทักษิณและบริวาร โดยพบว่าคนเหล่านี้มีการเหยียบย่ำจาบจ้วงมาตลอด ตั้งแต่ปี 2544 และในที่สุดตนเองจึงได้ลุกขึ้นมาต่อสู้พร้อมกับประชาชน
นายสนธิ ตั้งข้อสังเกตว่า เมื่อช่วงปี 2548 เรามักจะได้เห็นเสื้อที่มีคำว่า "เรารักในหลวง" แต่สถานการณ์ขณะนั้นหากจะบอกว่ารักพ่อหลวงอย่างเดียวคงไม่พอ เราต้องสู้เพื่อพระองค์ท่านด้วย เพราะพระองค์ท่านทรงเมตตา และเปี่ยมไปด้วยทศพิศราชธรรม เปรียบเหมือนกับเทวดาที่คอยห่วงใยพสกนิกร แต่ท่านทรงอยู่ในฐานะที่ไม่ทรงพูดอะไรได้
นอกจากนั้น ก่อนหน้านี้สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้เคยทรงเล่าเรื่องพระไตรปิฎก ตอนที่พระพุทธเจ้าจะแสดงโอวาทปาติโมกข์ แต่ทรงนิ่งเงียบ ไม่สามารถกระทำได้ กระทั่งพระอานนท์ กล่าวเตือนเป็นครั้งที่ 3 ก็ทรงบอกว่า ดูก่อนพุทธบริษัททั้งหลาย เราไม่สามารถแสดงโอวาทปาติโมกข์ได้ เพราะมีพระทุศีลหนึ่งองค์อยู่ในที่นี้ แต่ไม่สามารถแสดงออกได้ ดังนั้น พระโมคลานะซึ่งเป็นพระที่ทรงอิทธิฤทธิ์ จึงใช้ฌานนั่งเห็น จึงไปบอกพระทุศีลว่า ท่านมีศีลไม่ครบแล้วพระโมคัลลานะจึงไปกระชากแขนออกไป จึงสามารถแสดงโอวาทปาติโมกข์ได้
"เปรียบเช่นเดียวกับในยุคนี้ ดังนั้น ในวันที่ 26 ส.ค.นี้พวกเราที่นั่งกันอยู่ในที่นี้จะขอเป็นพระโมคัลลานะ เดินไปกระชากแขนคนชั่วออกจากแผ่นดินไทย เพราะหากเปรียบแล้ว พ่อหลวงของเรา ก็เปรียบเหมือนพระพุทธเจ้า ที่ไม่สามารถทรงพูดอะไรได้ ตั้งแต่ปี 2544 พระองค์ท่านทรงเจอแต่เรื่องที่ถูกใส่ร้ายจ้องทำลายล้าง แต่ท่านก็ไม่เคยตรัสให้พวกเราทราบสักคำ"
**ศรีสะเกษนับหมื่นแยกเข้ากรุง
ด้านความเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯทั่วประเทศในจังหวัดต่างๆ มีความคึกคักอย่างมาก หลัง
จากมีการเป่านกหวีดของ 5 แกนนำพันธมิตรฯก็ได้มีการเคลื่อนกำลังประชาชนเข้ากรุงเทพฯ เพื่อร่วมชุมนุมในวันอังคารนี้อย่างไม่หยุดสายโดยเดินทางเข้ามาในรูปแบบดาวกระจ่ายเพื่อหลบหลีกการสกัดกั้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
นายอรุณศักดิ์ โอชารส แกนนำพันธมิตรฯศรีสะเกษ เปิดเผยว่า เครือข่ายพันธมิตรฯศรีสะเกษได้เดินทางเข้ากรุงเทพฯแล้วตั้งแต่เช้าวานนี้ (24 ส.ค.) โดยใช้วิธีการทยอยกันเดินทางเข้าไปในรูปแบบดาวกระจ่าย เพื่อเป็นการป้องกันการสกัดกั้นจากส่วนราชการที่เกี่ยวข้องและกลุ่มคนระบอบทักษิณที่ชั่วร้าย จากการประเมินในเบื้องต้นของแกนนำทุกพื้นที่คาดว่าจะมีเครือข่ายกลุ่มพันธมิตรฯ และประชาชนชาวศรีสะเกษเดินทางเข้าไปร่วมชุมนุมในครั้งนี้นับ 10,000 คน พร้อมกับได้มีการเตรียมพร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น รวมถึงการชุมนุมใหญ่ขับไล่รัฐบาลที่ยืดเยื้อด้วย
นางสำเนียง สุภัณพจน์ ประธานสมัชชาประชาชนภาคอีสานจังหวัดบุรีรัมย์ เผยว่า เมื่อคืนวันที่ 23 ส.ค.ชาวบุรีรัมย์กลุ่มแรกได้เดินทางไปแล้วประมาณ 300 คน และเมื่อคืนวันที่ 24 ส.ค.เดินทางไปสมทบอีกส่วนหนึ่ง และจะเดินทางไปสมทบอีกในวันนี้ โดยใช้วิธีการแยกย้ายกันเดินทาง
**ขอนแก่นกว่าพันทะลักเข้ากรุง
ส่วนที่ จ.ขอนแก่นมีความคึกคักเป็นพิเศษ โดยกลุ่มแกนนำพันธมิตรฯ พ่อค้า นักธุรกิจใน จ.ขอนแก่น ได้ระดมทุนลงขันเพื่อเช่ารถบัสไว้คอยบริการประชาชนที่จะเดินทางเข้าไปร่วมชุมนุมใหญ่ในวันอังคารนี้ร่วม 10 คัน ขณะที่มีประชาชนมาลงชื่อแจ้งความประสงค์ขอเดินทางเข้าร่วมชุมนุมด้วยเป็นจำนวนมาก ในจำนวนนี้ไม่นับรวมชาวขอนแก่นในแต่ละอำเภอที่เดินทางไปกันเอง ทั้งนี้ คาดว่าในส่วนของ จ.ขอนแก่นนั้นจะมีผู้เดินทางเข้าร่วมชุมนุมในครั้งนี้ราว 2,000-3,000 คน
นายสมภพ บุนนาค 1 ในแกนนำพันธมิตรฯขอนแก่น กล่าวว่า การรวมตัวขับไล่รัฐบาลหุ่นเชิดครั้งนี้คึกคักมาก เป็นเพราะประชาชนทนไม่ได้แล้วกับพฤติกรรมของรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ตั้งแต่นายสมัคร เข้ามาบริการประเทศไม่เคยพูดถึงการแก้ไขปัญหาของชาติที่เป็นรูปธรรม แต่กลับกระตือรือร้นที่จะทำทุกอย่างเพื่อช่วยเหลืออดีตนายกฯและพวกพ้อง ที่ติดบ่วงการเมืองและมีคดีติดตัวมากมาย
**เผยคนอีสานหลายหมื่นเข้าร่วม
ด้าน ทพ.ศุภผล เอี่ยมเมธาวี เลขาธิการสมัชชาประชาชนภาคอีสาน 19 จังหวัด และประธานกลุ่มภาคีมวลชนคนโคราชรักประชาธิปไตย เปิดเผยว่า การระดมพลเข้าไปร่วมชุมนุมใหญ่ครั้งนี้ ทางสมัชชาประชาชนฯ และองค์กรเครือข่ายพันธมิตรฯในภาคอีสานอีสานทุกจังหวัด ได้ประชุมหารือและจัดเตรียมการทุกอย่างไว้เรียบร้อยแล้ว โดยประเมินเบื้องต้นคาดว่าจะมีประชาชนภาคอีสานในทุกจังหวัดเดินทางเข้าร่วมหลายหมื่นคน โดยกระจายตัวกันเดินทางเข้าไป ในส่วนของ จ.นครราชสีมานั้นจะเดินทางกันในวันนี้ (25 ส.ค.) แต่อย่างไรก็ตาม ส่วนหนึ่งได้ทยอยเดินทางล่วงหน้าไปร่วมชุมนุมแล้วตั้งแต่วันที่ 24 ส.ค.
“สำหรับการเดินทางนั้นมีหลายรูปแบบ ทั้งเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว รถตู้ รถบัส รถโดยสารประจำทาง และรถไฟ เป็นต้น เพื่อหลีกเลี่ยงและป้องกันการสกัดกั้นของรัฐบาลและกลุ่มคนระบอบทักษิณ รวมทั้งมีการระดมกำลังพลสำรองของภาคอีสานไว้อีกส่วนหนึ่งเพื่อรองรับสถานการณ์ที่อาจเปลี่ยนแปลง โดยมีศูนย์กลางการประสานงานอยู่ที่โคราช” ทพ.ศุภผล กล่าว
**ตร.ตาก-กำแพงฯตั้งด่านสกัด
ส่วนที่ จ.ตากนั้น พ.ต.อ.รชต สืบสายอ้น รอง ผบก.ภ.จว.ตาก ได้มีคำสั่งด่วนไปยังสถานีตำรวจภูธรทุกแห่งในพื้นที่ฝั่งตะวันออกบนทางหลวงหมายเลข 1 ถนนพหลโยธิน ระหว่างลำปาง-ตาก และตาก-กำแพงเพชร ซึ่งเป็นเส้นทางสายหลักที่จะเข้าสู่กรุงเทพฯให้ทุกสถานีตำรวจภูธรในพื้นที่ดังกล่าว ร่วมกันตั้งด่านโดยใช้คำสั่งการตั้งจุดตรวจจุดสกัดยาเสพติดเพื่อป้องกันการเดินทางเข้ากรุงเทพฯของกลุ่มพันธมิตรฯ และประชาชน ที่จะเดินทางเข้าไปร่วมชุมนุมใหญ่ที่จะมีขึ้นในวันอังคารนี้
มีรายงานว่า ได้มีคำสั่งในเพิ่มความเข้มข้นในการปฏิบัติงานมากกว่าเดิมโดยให้เรียกตรวจค้นรถที่บรรทุกผู้โดยสารจำนวนมาก ทั้งรถยนต์โดยสารไม่ประจำทาง รถตู้ และรถยนต์ส่วนตัว ภายใต้คำสั่งตรวจค้นยาเสพติดเช่นกัน เพื่อชะลอการเดินทางเข้ากรุงเทพฯของกลุ่มพันธมิตรฯและประชาชน
**อัด ตร.อย่าใช้วิชามารแล้วกัน
น.ส.นิตยา กุระคาน แกนนำพันธมิตรฯตาก เผยว่า ในการเดินทางของเราจะยังคงเดินทางในรูปแบบดาวกระจายใช้รถยนต์ส่วนตัวและรถตู้เป็นหลักและบางส่วนได้เดินทางไปแล้วในช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ ซึ่งตอนนี้ทราบว่าในพื้นที่ จ.ตาก และจังหวัดทางภาคเหนือมีการตั้งด่านตรวจของตำรวจมากขึ้น แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาที่จะสามารถสกัดกั้นการเดินทางของพวกเรา“การใช้มาตรการตั้งด่านตรวจยาเสพติดเพื่อสกัดพันธมิตรฯของตำรวจนั้น เราต้องยอมรับว่าพากเขาต้องทำเพื่อเอาใจนาย หากไม่ทำอะไรเลยเดี๋ยวก็ถูกเล่นงาน แต่ก็ไม่ควรใช้วิชามารสันดานดิบเหมือนตำรวจอ่างทองที่ใช้ตะปูเรือใบโปรยดักรถโดยสารของพันธมิตรฯให้ได้รับความเสียหายเหมือนครั้งที่ผ่านมาก็แล้วกัน” น.ส.นิตยา กล่าว
**คาดภาคใต้เข้ากรุง3-4หมื่นคน
ส่วนทางด้านเครือข่ายยามเฝ้าแผ่นดินฯและพันธมิตรฯภูเก็ตกว่า 1,500 คน ได้เดินทางออกจากบริเวณหน้าศาลเจ้ากิ้วเทียนเก้ง ปลายแหลมสะพานหิน อ.เมืองภูเก็ต ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งจอโปรเจกเตอร์ถ่ายทอดสด เข้ากรุงเทพฯแล้วตั้งแต่เวลา 08.00 น.วานนี้ ด้วยรถบัส 5 คัน และรถตู้อีกจำนวนหนึ่ง
ขณะที่กลุ่มพันธมิตรฯสงขลา และพันธมิตรหลายจังหวัดในภาคใต้กว่า 1,000 คนได้ออกเดินทางจากสถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่แล้วเมื่อเย็นวนนี้ ด้วยขบวนรถเร็ว 172 สุไหงโก-ลก-กรุงเทพฯ กว่า 7 โบกี้โดยคาดผ้าสีส้มเป็นสัญลักษณ์ นอกจากนี้ ในระหว่างทางยังมีพันธมิตรฯร่วมโดยสารรถไฟในขบวนเดียวกันเดินทางเข้ามาชุมนุมด้วย เช่น พัทลุง, ทุ่งสง, สุราษฎร์ธานี และชุมพร
นายโอสถ สุวรรณเศวต กรรมการพันธมิตรฯ 14 จังหวัดภาคใต้ เผยว่า ขณะนี้พันธมิตรฯ 14 จังหวัดภาคใต้ที่ได้เดินทางล่วงหน้าไปแล้วมีประมาณ 10,000 คน โดยกระจายกันเดินทางในรูปแบบต่างๆ ดังนั้น เมื่อรวมแล้วทั้ง 14 จังหวัดภาคใต้คาดว่าการชุมนุมครั้งนี้น่าจะมี 3-4 หมื่นคน
**คาดมวลชน ตอ.ร่วมหลายหมื่น
นายสมชาย กีรติยาพงษ์ แกนนำพันธมิตรฯชลบุรี เผยถึงการประชุมกลุ่มแกนนำพันธมิตรฯจากพื้นที่ต่างๆ ในจังหวัดภาคตะวันออกเมื่อวันที่ 23 ส.ค.ที่ผ่านมาว่า จากการประเมินในเบื้องต้นในส่วนของภาคตะวันออก คาดว่าน่าจะมีผู้เดินทางไปร่วมชุมนุมครั้งนี้ด้วยหลายหมื่นคน โดยเฉพาะในส่วนของ จ.ชลบุรีนั้นเราได้มีการประสานไปยังแกนนำอำเภอ และตำบลต่างๆ เพื่อชักชวนให้ประชาชนเดินทางไปร่วมชุมนุมกันให้มากที่สุด เพราะถือว่าเป็นการเสียสละเพื่อส่วนรวมของประเทศ
ด้านนายประสิทธิ์ กาลานุกาล 1 ในแกนนำพันธมิตรฯชลบุรี เผยว่า ทางพันธมิตรฯชลบุรีได้เตรียมรถบัสฟรีไว้บริการประชาชนหลายคัน และหากมีประชาชนไปร่วมชุมนุมเพิ่มมากขึ้นก็จะมีรถบัสสำรองให้อีก
**หมักอ้างทำบ้านเมืองสงบสุข
ด้านนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวในรายการสนทนาประสาสมัครว่า วันนี้กลุ่มพันธมิตรฯเขาก็เป่านกหวีดกันอีกแล้วเพื่อจะเอารัฐบาลออกให้ได้ โดยกลุ่มพันธมิตรฯระบุว่ารัฐบาลมีความผิดบริหารบ้านเมืองอีก 1 วันก็บรรลัยวายวอดแล้ว และเขาใช้คำว่าฉิบหายด้วย ดังนั้นจะเอากันจะระดมกันเข้ามา แต่ตนขอให้ดูนะว่าอย่างนี้บ้านเมืองไม่มีความสงบสุขหรอกครับถ้าเป็นแบบนี้
**อภิสิทธิ์ เชื่อ"หมัก"ไม่ลาออก
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า โดยส่วนตัวมั่นใจว่านายสมัคร จะไม่ลาออก เพราะที่ผ่านมาข้อเรียกร้องที่น้อยกว่านี้นายกฯไม่ได้สนอง โดยเฉพาะเวลาเกิดขึ้นจากการเคลื่อนไหวชุมนุม จึงมองไม่ออกว่าจะมีเหตุผลใดที่นายกรัฐมนตรีจะมาตอบสนองในเงื่อนไขนี้ และการเปลี่ยนแปลงอะไรก็ตามจะต้องอยู่ในกรอบของกฎหมาย เมื่อนายกรัฐมนตรีบอกว่าไม่ยุบสภา ไม่ลาออก และยังมีเสียงข้างมากในสภาสนับสนุนอยู่ ก็เชื่อว่าจะยังไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงอะไร ส่วนที่ห่วงว่าจะเกิดการชุมนุมเรียกร้องและมีการปะทะกันรุนแรงนั้น ทุกฝ่ายก็ต้องช่วยกันเพื่อไม่ให้มีการปะทะ
