ผู้จัดการรายวัน – พาโนราม่า อาศัยปีก อสมท. รุกตลาดต่างประเทศ ตั้งเป้า 5 ปี ต้องโกยรายได้จากการขายรายการสารคดีออกไปต่างประเทศเป็นหลัก สัดส่วนกว่า 40% จากปัจจุบันมีไม่ถึง 10% เสริมงานการผลิตสปอตโฆษณา จับตลาดหน่วยงานรัฐ เป้า 5 ปี ดันรายได้แตะ 150 ล้านบาท โต 25% จากปีนี้ลุ้นพลาดเป้าหมายที่ตั้งไว้ 100 ล้านบาท เหตุจากพิษเศรษฐกิจ
นายชนินทร์ ชมะโชติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พาโนราม่า เวิลด์ ไวด์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนเชิงรุกสร้างรายได้จากการขายรายการสารคดีให้กับตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้น พร้อมผลักดันบริษัทให้ก้าวขึ้นเป็นผู้ผลิตคอนเทนต์หรือคอนเทนส์โพรไวน์เดอร์ ในกลุ่ม สารคดี และสารคดีเชิงข่าว รายใหญ่ของภูมิภาคเอเชียอาคเนย์ และ เป็นอันดับ 4 ในภูมิภาคเอเชีย รองจาก ญี่ปุ่น จีน และ เกาหลี ตามลำดับ
แนวทางการดำเนินงานของบริษัท จะอาศัยเครือข่ายสถานีโทรทัศน์ และ เคเบิ้ลทีวีในเอเชียรวม 8 ประเทศ ที่เป็นพันธมิตรกับ บริษัท อสทม จำกัด (มหาชน) เป็นช่องทางในการนำรายการสารคดีที่บริษัทได้ผลิตขึ้นมาได้ไปออกอากาศ เช่น CCTV และ NHK เป็นต้น พร้อมหาพาร์ทเนอร์สนับสนุนรายการ ทั้งนี้เพราะ อสมท. เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทพาโนราม่าในสัดส่วน 49% พนักงาน อสมท.ถือหุ้น 41% และอีก 10% เป็นของกลุ่มผู้ก่อตั้งบริษัทพาโนราม่า นอกจากนั้น ยัง ใช้คอนเนคชั่นที่เป็นดิสทริบิวเตอร์ ที่ บริษัท ได้ติดต่อไว้ เมื่อครั้งไปออกบูธที่เมืองคานส์ ประเทศ ฝรั่งเศส เมื่อปี 2545 เป็นช่องทางนำรายการสารคดีของบริษัท ไปออกอากาศในประเทศนั้นๆด้วย โดยขณะนี้ที่ติดต่อไว้มี 4 ราย จากประเทศ อังกฤษ อเมริกา และ สิงคโปร์ เป็นต้น
“จากปริมาณสถานีโทรทัศน์ เคเบิ้ลทีวี ดาวเทียม สื่อออนไลน์ อินเทอร์เน็ต โทรศัพท์มือถือ ที่เพิ่มขึ้นมากมายในปัจจุบัน จึงเป็นโอกาสให้งานสารคดีที่บริษัทได้ผลิตขึ้นมานี้ มีตลาดเพิ่มขึ้น และ ด้วยประสบการณ์ชื่อเสียง ที่เราทำงานด้านนี้มา 16 ปี เป็นที่รู้จักในต่างประเทศ ซึ่งจะช่วยให้บริษัทสามารถสร้างรายได้จากต่างประเทศได้มากขึ้น เพราะ ในกลุ่มเอเชียอาคเนย์ ยังไม่มีผู้ผลิตรายการประเภทนี้ที่โดดเด่นเท่าเรา”
นอกจากนั้นยังเตรียมร่วมกับสำนักข่าวไทย เจรจากับสถานีโทรทัศน์ CBS ของ อเมริกา เพื่อขอร่วมเป็นผู้ผลิตสารคดีเชิงข่าว ในเอเชียอาคเนย์ ป้อนให้ CBS และ ออกอากาศทางโมเดิร์นไนน์ทีวี กำหนดเจรจาในสิ้นเดือนนี้
ทั้งนี้รายได้ของบริษัท จะมาจาก 3 ธุรกิจ หลัก ได้แก่ 1.การผลิตรายการทีวี 2.ผลิตงานสารคดี และ 3.งานโปรเจคอื่นๆ โดยปีก่อนมีรายได้รวม 75 ล้านบาท เป็นรายได้จากสารคดีเกือบ 25% และ ปีนี้ ตั้งเป้ามีรายได้ที่ 100 ล้านบาท มาจากรายการสารคดี 25% แบ่งเป็นรายได้จากต่างประเทศไม่ถึง 10% แต่เป้าหมายดังกล่าวอาจไม่ได้ตามหวัง เพราะปัญหาด้านเศรษฐกิจ หลายบริษัทลดงบประมาณ ที่ใช้สนับสนุนรายการต่างๆ แต่บริษัทจัดทำแผนงาน 5 ปีต้องเติบโต 25% หรือ ปีละอย่างน้อย 10% มีรายได้รวมไม่น้อยกว่า 150 ล้านบาท มาจากกลุ่มรายการสารคดีประมาณ 75% ในที่นี้จะเป็นรายได้จากต่างประเทศราว 40% ส่วนปีหน้า ตั้งเป้ารายได้ที่ 100 ล้านบาท สัดส่วนมาจากกลุ่มสารคดี 50% โดยสัดส่วนรายได้
****ดันต้มยำกุ้งเปิดวิถีชีวิตคนไทย***
นายชนินทร์ กล่าวว่า ปัจจุบัน การทำงานของ บริษัทเปลี่ยนไป สามารถหาพันธมิตรร่วมสนับสนุนรายการได้ก่อนที่จะทำการผลิต ทั้งนี้เป็นเพราะอานิสงส์จากการทำสารคดี ตามรอยพระพุทธเจ้า ที่นำเสนอออกสู่สายตาประชาชนทั้งในประเทศและต่างประเทศไปแล้ว ทำให้ บริษัทมีทุนที่จะผลิตรายการสารคดีในเรื่องอื่นๆต่อไป ซึ่งขณะนี้บริษัทได้เริ่มผลิตไปบ้างแล้ว ทุกรายการที่ผลิตจะออกอากาศในประเทศไทยก่อนจึงนำไปขายให้ต่างประเทศ ล่าสุด เดือนกันยายนนี้ เปิดตัวสารคดี “แผ่นดินสุวรรณภูมิ”ถ่ายทำใน 8 ประเทศ แปลเป็น 7 ภาษา ออกอากาศทาง ช่อง 9 โมเดิร์นไนน์ ปลายปีมีสารคดีเฉลิมพระเกียรติฯ
ส่วนปีหน้า จะมีสารคดีอีกไม่น้อยกว่า 4-5 เรื่อง ทยอยออกอากาศ เช่น สารคดีเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ,ทะเลไทย ,โกลเบิ้ล วอมมิ่ง ,ข้าวไทย และ ไทยแลนด์อินไซน์ เป็นต้น โดยในสารคดีไทยแลนด์อินไซน์นี้ จะนำเสนอวิถีชีวิตประเทศไทย ใน 12 เรื่องหลัก บอกเล่าความเป็นมา ของวิถีชีวิตคนไทย เช่น ต้มยำกุ้ง งานแกะสลัดไม้สัก สมุนไพรไทย ศูนย์ศิลปาชีพฯ หุ่นละครโรงเล็ก โจหลุยส์ และ หุ่นกระบอก เป็นต้น โดยจะของงบประมาณจากกระทรวงวัฒนธรรม เป็นผู้สนับสนุน เพราะทุกเรื่องจะนำออกขายไปต่างประเทศด้วย
***ขยายงานทำสื่อครบวงจร***
อย่างไรก็ตาม บริษัทได้ขยายงานด้านผลิตสปอตโฆษณา ในระบบ HD หรือระบบความคมชัดสูง เทียบชั้นได้กับการถ่ายทำด้วยฟิล์ม โดยจะผลิตสื่ออย่างครบวงจร ลูกค้าเป้าหมาย คือ องค์กรและหน่วยงานรัฐ และเอกชน ซึ่งกลุ่มงานนี้ จะเริ่มสร้างรายได้ตั้งแต่ครึ่งปีหลังนี้เป็นต้นไป
นอกจากนั้น บริษัทมีแผนผลิตบุคลากรเพื่อรองรับการขยายงานด้านสารคดีให้แก่องค์กร และป้อนตลาด เพราะมองว่าในอนาคต รายการสารคดี จะเติบโตต่อเนื่อง เริ่มจากปลายปีนี้ จัดประกวดให้นักศึกษาทำสารคดี “เฟิร์สทสเต็บเรียลิตี้” ปีหน้า เปิดตัวหลักสูตรฝึกอบรมงานด้านสารคดี โดยจะทำเป็นรูปแบบอคาเดมี่ มี 40 วิชา ที่จะสอน เปิดรับรุ่นละ 25 คน เวลาเรียน 1 ปี
4200
ผู้จัดการรายวัน – พาโนราม่า อาศัยปีก อสมท. รุกตลาดต่างประเทศ ตั้งเป้า 5 ปี ต้องโกยรายได้จากการขายรายการสารคดีออกไปต่างประเทศเป็นหลัก สัดส่วนกว่า 40% จากปัจจุบันมีไม่ถึง 10% เสริมงานการผลิตสปอตโฆษณา จับตลาดหน่วยงานรัฐ เป้า 5 ปี ดันรายได้แตะ 150 ล้านบาท โต 25% จากปีนี้ลุ้นพลาดเป้าหมายที่ตั้งไว้ 100 ล้านบาท เหตุจากพิษเศรษฐกิจ
นายชนินทร์ ชมะโชติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พาโนราม่า เวิลด์ ไวด์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนเชิงรุกสร้างรายได้จากการขายรายการสารคดีให้กับตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้น พร้อมผลักดันบริษัทให้ก้าวขึ้นเป็นผู้ผลิตคอนเทนส์(Contents) หรือคอนเทนส์โพรไวน์เดอร์ ในกลุ่ม สารคดี และสารคดีเชิงข่าว รายใหญ่ของภูมิภาคเอเชียอาคเนย์ และ เป็นอันดับ 4 ในภูมิภาคเอเชีย รองจาก ญี่ปุ่น จีน และ เกาหลี ตามลำดับ
แนวทางการดำเนินงานของบริษัท จะอาศัยเครื่องข่ายสถานีโทรทัศน์ และ เคเบิ้ลทีวีในเอเชียรวม 8 ประเทศ ที่เป็นพันธมิตรกับ บริษัท อสทม จำกัด มหาชน เป็นช่องทางในการนำรายการสารคดีที่บริษัทได้ผลิตขึ้นมาได้ไปออกอากาศ เช่น CCTV และ NHK เป็นต้น พร้อมหาพาร์ทเนอร์สนับสนุนรายการ ทั้งนี้เพราะ อสมท. เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทพาโนราม่าในสัดส่วน 49% พนักงาน อสมท.ถือหุ้น 41% และอีก 10% เป็นของกลุ่มผู้ก่อตั้งบริษัทพาโนราม่า นอกจากนั้น ยัง ใช้คอนเนคชั่นที่เป็นดิสสิบิวเตอร์ ที่ บริษัท ได้ติดต่อไว้ เมื่อครั้งไปออกบูธที่เมืองคาน ประเทศ ฝรั่งเศส เมื่อปี 2545 เป็นช่องทางนำรายการสารคดีของบริษัท ไปออกอากาศในประเทศนั้นๆด้วย โดยขณะนี้ที่ติดต่อไว้มี 4 ราย จากประเทศ อังกฤษ อเมริกา และ สิงคโปร์ เป็นต้น
“จากปริมาณสถานีโทรทัศน์ เคเบิ้ลทีวี ดาวเทียม สื่อออนไลน์ อินเทอร์เน็ต โทรศัพท์มือถือ ที่เพิ่มขึ้นมากมายในปัจจุบัน จึงเป็นโอกาสให้งานสารคดีที่บริษัทได้ผลิตขึ้นมานี้ มีตลาดเพิ่มขึ้น และ ด้วยประสบการณ์ชื่อเสียง ที่เราทำงานด้านนี้มา 16 ปี เป็นที่รู้จักในต่างประเทศ ซึ่งจะช่วยให้บริษัทสามารถสร้างรายได้จากต่างประเทศได้มากขึ้น เพราะ ในกลุ่มเอเชียอาคเนย์ ยังไม่มีผู้ผลิตรายการประเภทนี้ที่โดดเด่นเท่าเรา”
นอกจากนั้นยังเตรียมร่วมกับสำนักข่าวไทย เจรจากับสถานีโทรทัศน์ CBS ของ อเมริกา เพื่อขอร่วมเป็นผู้ผลิตสารคดีเชิงข่าว ในเอเชียอาคเนย์ ป้อนให้ CBS และ ออกอากาศทางโมเดิร์นไนน์ทีวี กำหนดเจรจาในสิ้นเดือนนี้
ทั้งนี้รายได้ของบริษัท จะมาจาก 3 ธุรกิจ หลัก ได้แก่ 1.การผลิตรายการทีวี 2.ผลิตงานสารคดี และ 3.งานโปรเจคอื่นๆ โดยปีก่อนมีรายได้รวม 75 ล้านบาท เป็นรายได้จากสารคดีเกือบ 25% และ ปีนี้ ตั้งเป้ามีรายได้ที่ 100 ล้านบาท มาจากรายการสารคดี 25% แบ่งเป็นรายได้จากต่างประเทศไม่ถึง 10% แต่เป้าหมายดังกล่าวอาจไม่ได้ตามหวัง เพราะปัญหาด้านเศรษฐกิจ หลายบริษัทลดงบประมาณ ที่ใช้สนับสนุนรายการต่างๆ แต่บริษัทจัดทำแผนงาน 5 ปีต้องเติบโต 25% หรือ ปีละอย่างน้อย 10% มีรายได้รวมไม่น้อยกว่า 150 ล้านบาท มาจากกลุ่มรายการสารคดีประมาณ 75% ในที่นี้จะเป็นรายได้จากต่างประเทศราว 40% ส่วนยปีหน้า ตั้งเป้ารายได้ที่ 100 ล้านบาท สัดส่วนมาจากกลุ่มสารคดี 50% โดยสัดส่วนรายได้
****ดันต้มยำกุ้งเปิดวิถีชีวิตคนไทย***
นายชนินทร์ กล่าวว่า ปัจจุบัน การทำงานของ บริษัทเปลี่ยนไป สามารถหาพันธมิตรร่วมสนับสนุนรายการได้ก่อนที่จะทำการผลิต ทั้งนี้เป็นเพราะอานิสงส์จากการทำสารคดี ตามรอยพระพุทเจ้า ที่นำเสนอออกสู่สายตาประชาชนทั้งในประเทศและต่างประเทศไปแล้ว ทำให้ บริษัทมีทุนที่จะผลิตรายการสารคดีในเรื่องอื่นๆต่อไป ซึ่งขณะนี้ บริษัท ได้เริ่มผลิตไปบ้างแล้ว ทุกรายการที่ผลิตจะออกอากาศในประเทศไทยก่อนจึงนำไปขายให้ต่างประเทศ ล่าสุด เดือนกันยายนนี้ เปิดตัวสารคดี “แผ่นดินสุวรรณภูมิ”ถ่ายทำใน 8 ประเทศ แปลเป็น 7 ภาษา ออกอากาศทาง ช่อง 9 โมเดิร์นไนน์ ปลายปีมีสารคดีเฉลิมพระเกียรติฯ
ส่วนปีหน้า จะมีสารคดีอีกไม่น้อยกว่า 4-5 เรื่อง ทยอยออกอากาศ เช่น สารคดีเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ,ทะเลไทย ,โกลเบิ้ล วอมมิ่ง ,ข้าวไทย และ ไทยแลนด์อินไซน์ เป็นต้น โดยในสารคดีไทยแลนด์อินไซน์นี้ จะนำเสนอวิถีชีวิจประเทศไทย ใน 12 เรื่องหลัก บอกเล่าความเป็นมา ของวิถีชีวิตคนไทย เช่น ต้มยำกุ้ง งานแกะสลัดไม้สัก สมุนไพรไทย ศูนย์ศิลปาชีพฯ หุ่นละครเ,ก โจหลุยส์ และ หุ่นกระบอก เป็นต้น โดยจะของงบประมาณจากกระทรวงวัฒนธรรม เป็นผู้สนับสนุน เพราะทุกเรื่องจะนำออกขายไปต่างประเทศด้วย
“วัฒนธรรมและวิถีชีวิตของคนไทย ยังเป็นที่สนใจของชาวต่างชาติ เห็นได้จากนักท่องเที่ยว ที่ชื่นชอบวิถีชีวิตและอาหารไทย แต่ เรายังไม่มีการนำเสนออย่างถูกต้อง ไม่เหมือนประเทศเกาหลี ที่เขาทำสารคดีเกี่ยวกับอาหาร สร้างภาพยนตร์แดจังกึม จนเป็นที่โด่งดังทั่วโลก ซึ่งต้มยำกุ้งของเราก็สามารถทำได้เช่นกัน”
***ขยายงานทำสื่อครบวงจร***
อย่างไรก็ตาม บริษัทได้ขยายงานด้านผลิตสปอร์ตโฆษณา ในระบบ HD หรือระบบความคมชัดสูง เทียบชั้นได้กับการถ่ายทำด้วยฟิล์ม โดยจะผลิตสื่ออย่างครบวงจร ลูกค้าเป้าหมาย คือ องค์กรและหน่วยงานรัฐ และเอกชน ซึ่งกลุ่มงานนี้ จะเริ่มสร้างรายได้ตั้งแต่ครึ่งปีหลังนี้เป็นต้นไป
นอกจากนั้น บริษัท มีแผนผลิตบุคลากรเพื่อรองรับการขยายงานด้านสารคดีให้แก่องค์กร และป้อนตลาด เพราะมองว่าในอนาคต รายการสารคดี จะเติบโตต่อเนื่อง เริ่มจากปลายปีนี้ จัดประกวดให้นักศึกษาทำสารคดี “เฟิร์สสเต็บเรียลลิตี้” ปีหน้า เปิดตัวหลักสูตรฝึกอบรมงานด้านสารคดี โดยจะทำเป็นรูปแบบอคาเดมี่ มี 40 วิชา ที่จะสอน เปิดรับรุ่นละ 25 คน เวลาเรียน 1 ปี
นายชนินทร์ ชมะโชติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พาโนราม่า เวิลด์ ไวด์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนเชิงรุกสร้างรายได้จากการขายรายการสารคดีให้กับตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้น พร้อมผลักดันบริษัทให้ก้าวขึ้นเป็นผู้ผลิตคอนเทนต์หรือคอนเทนส์โพรไวน์เดอร์ ในกลุ่ม สารคดี และสารคดีเชิงข่าว รายใหญ่ของภูมิภาคเอเชียอาคเนย์ และ เป็นอันดับ 4 ในภูมิภาคเอเชีย รองจาก ญี่ปุ่น จีน และ เกาหลี ตามลำดับ
แนวทางการดำเนินงานของบริษัท จะอาศัยเครือข่ายสถานีโทรทัศน์ และ เคเบิ้ลทีวีในเอเชียรวม 8 ประเทศ ที่เป็นพันธมิตรกับ บริษัท อสทม จำกัด (มหาชน) เป็นช่องทางในการนำรายการสารคดีที่บริษัทได้ผลิตขึ้นมาได้ไปออกอากาศ เช่น CCTV และ NHK เป็นต้น พร้อมหาพาร์ทเนอร์สนับสนุนรายการ ทั้งนี้เพราะ อสมท. เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทพาโนราม่าในสัดส่วน 49% พนักงาน อสมท.ถือหุ้น 41% และอีก 10% เป็นของกลุ่มผู้ก่อตั้งบริษัทพาโนราม่า นอกจากนั้น ยัง ใช้คอนเนคชั่นที่เป็นดิสทริบิวเตอร์ ที่ บริษัท ได้ติดต่อไว้ เมื่อครั้งไปออกบูธที่เมืองคานส์ ประเทศ ฝรั่งเศส เมื่อปี 2545 เป็นช่องทางนำรายการสารคดีของบริษัท ไปออกอากาศในประเทศนั้นๆด้วย โดยขณะนี้ที่ติดต่อไว้มี 4 ราย จากประเทศ อังกฤษ อเมริกา และ สิงคโปร์ เป็นต้น
“จากปริมาณสถานีโทรทัศน์ เคเบิ้ลทีวี ดาวเทียม สื่อออนไลน์ อินเทอร์เน็ต โทรศัพท์มือถือ ที่เพิ่มขึ้นมากมายในปัจจุบัน จึงเป็นโอกาสให้งานสารคดีที่บริษัทได้ผลิตขึ้นมานี้ มีตลาดเพิ่มขึ้น และ ด้วยประสบการณ์ชื่อเสียง ที่เราทำงานด้านนี้มา 16 ปี เป็นที่รู้จักในต่างประเทศ ซึ่งจะช่วยให้บริษัทสามารถสร้างรายได้จากต่างประเทศได้มากขึ้น เพราะ ในกลุ่มเอเชียอาคเนย์ ยังไม่มีผู้ผลิตรายการประเภทนี้ที่โดดเด่นเท่าเรา”
นอกจากนั้นยังเตรียมร่วมกับสำนักข่าวไทย เจรจากับสถานีโทรทัศน์ CBS ของ อเมริกา เพื่อขอร่วมเป็นผู้ผลิตสารคดีเชิงข่าว ในเอเชียอาคเนย์ ป้อนให้ CBS และ ออกอากาศทางโมเดิร์นไนน์ทีวี กำหนดเจรจาในสิ้นเดือนนี้
ทั้งนี้รายได้ของบริษัท จะมาจาก 3 ธุรกิจ หลัก ได้แก่ 1.การผลิตรายการทีวี 2.ผลิตงานสารคดี และ 3.งานโปรเจคอื่นๆ โดยปีก่อนมีรายได้รวม 75 ล้านบาท เป็นรายได้จากสารคดีเกือบ 25% และ ปีนี้ ตั้งเป้ามีรายได้ที่ 100 ล้านบาท มาจากรายการสารคดี 25% แบ่งเป็นรายได้จากต่างประเทศไม่ถึง 10% แต่เป้าหมายดังกล่าวอาจไม่ได้ตามหวัง เพราะปัญหาด้านเศรษฐกิจ หลายบริษัทลดงบประมาณ ที่ใช้สนับสนุนรายการต่างๆ แต่บริษัทจัดทำแผนงาน 5 ปีต้องเติบโต 25% หรือ ปีละอย่างน้อย 10% มีรายได้รวมไม่น้อยกว่า 150 ล้านบาท มาจากกลุ่มรายการสารคดีประมาณ 75% ในที่นี้จะเป็นรายได้จากต่างประเทศราว 40% ส่วนปีหน้า ตั้งเป้ารายได้ที่ 100 ล้านบาท สัดส่วนมาจากกลุ่มสารคดี 50% โดยสัดส่วนรายได้
****ดันต้มยำกุ้งเปิดวิถีชีวิตคนไทย***
นายชนินทร์ กล่าวว่า ปัจจุบัน การทำงานของ บริษัทเปลี่ยนไป สามารถหาพันธมิตรร่วมสนับสนุนรายการได้ก่อนที่จะทำการผลิต ทั้งนี้เป็นเพราะอานิสงส์จากการทำสารคดี ตามรอยพระพุทธเจ้า ที่นำเสนอออกสู่สายตาประชาชนทั้งในประเทศและต่างประเทศไปแล้ว ทำให้ บริษัทมีทุนที่จะผลิตรายการสารคดีในเรื่องอื่นๆต่อไป ซึ่งขณะนี้บริษัทได้เริ่มผลิตไปบ้างแล้ว ทุกรายการที่ผลิตจะออกอากาศในประเทศไทยก่อนจึงนำไปขายให้ต่างประเทศ ล่าสุด เดือนกันยายนนี้ เปิดตัวสารคดี “แผ่นดินสุวรรณภูมิ”ถ่ายทำใน 8 ประเทศ แปลเป็น 7 ภาษา ออกอากาศทาง ช่อง 9 โมเดิร์นไนน์ ปลายปีมีสารคดีเฉลิมพระเกียรติฯ
ส่วนปีหน้า จะมีสารคดีอีกไม่น้อยกว่า 4-5 เรื่อง ทยอยออกอากาศ เช่น สารคดีเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ,ทะเลไทย ,โกลเบิ้ล วอมมิ่ง ,ข้าวไทย และ ไทยแลนด์อินไซน์ เป็นต้น โดยในสารคดีไทยแลนด์อินไซน์นี้ จะนำเสนอวิถีชีวิตประเทศไทย ใน 12 เรื่องหลัก บอกเล่าความเป็นมา ของวิถีชีวิตคนไทย เช่น ต้มยำกุ้ง งานแกะสลัดไม้สัก สมุนไพรไทย ศูนย์ศิลปาชีพฯ หุ่นละครโรงเล็ก โจหลุยส์ และ หุ่นกระบอก เป็นต้น โดยจะของงบประมาณจากกระทรวงวัฒนธรรม เป็นผู้สนับสนุน เพราะทุกเรื่องจะนำออกขายไปต่างประเทศด้วย
***ขยายงานทำสื่อครบวงจร***
อย่างไรก็ตาม บริษัทได้ขยายงานด้านผลิตสปอตโฆษณา ในระบบ HD หรือระบบความคมชัดสูง เทียบชั้นได้กับการถ่ายทำด้วยฟิล์ม โดยจะผลิตสื่ออย่างครบวงจร ลูกค้าเป้าหมาย คือ องค์กรและหน่วยงานรัฐ และเอกชน ซึ่งกลุ่มงานนี้ จะเริ่มสร้างรายได้ตั้งแต่ครึ่งปีหลังนี้เป็นต้นไป
นอกจากนั้น บริษัทมีแผนผลิตบุคลากรเพื่อรองรับการขยายงานด้านสารคดีให้แก่องค์กร และป้อนตลาด เพราะมองว่าในอนาคต รายการสารคดี จะเติบโตต่อเนื่อง เริ่มจากปลายปีนี้ จัดประกวดให้นักศึกษาทำสารคดี “เฟิร์สทสเต็บเรียลิตี้” ปีหน้า เปิดตัวหลักสูตรฝึกอบรมงานด้านสารคดี โดยจะทำเป็นรูปแบบอคาเดมี่ มี 40 วิชา ที่จะสอน เปิดรับรุ่นละ 25 คน เวลาเรียน 1 ปี
4200
ผู้จัดการรายวัน – พาโนราม่า อาศัยปีก อสมท. รุกตลาดต่างประเทศ ตั้งเป้า 5 ปี ต้องโกยรายได้จากการขายรายการสารคดีออกไปต่างประเทศเป็นหลัก สัดส่วนกว่า 40% จากปัจจุบันมีไม่ถึง 10% เสริมงานการผลิตสปอตโฆษณา จับตลาดหน่วยงานรัฐ เป้า 5 ปี ดันรายได้แตะ 150 ล้านบาท โต 25% จากปีนี้ลุ้นพลาดเป้าหมายที่ตั้งไว้ 100 ล้านบาท เหตุจากพิษเศรษฐกิจ
นายชนินทร์ ชมะโชติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พาโนราม่า เวิลด์ ไวด์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนเชิงรุกสร้างรายได้จากการขายรายการสารคดีให้กับตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้น พร้อมผลักดันบริษัทให้ก้าวขึ้นเป็นผู้ผลิตคอนเทนส์(Contents) หรือคอนเทนส์โพรไวน์เดอร์ ในกลุ่ม สารคดี และสารคดีเชิงข่าว รายใหญ่ของภูมิภาคเอเชียอาคเนย์ และ เป็นอันดับ 4 ในภูมิภาคเอเชีย รองจาก ญี่ปุ่น จีน และ เกาหลี ตามลำดับ
แนวทางการดำเนินงานของบริษัท จะอาศัยเครื่องข่ายสถานีโทรทัศน์ และ เคเบิ้ลทีวีในเอเชียรวม 8 ประเทศ ที่เป็นพันธมิตรกับ บริษัท อสทม จำกัด มหาชน เป็นช่องทางในการนำรายการสารคดีที่บริษัทได้ผลิตขึ้นมาได้ไปออกอากาศ เช่น CCTV และ NHK เป็นต้น พร้อมหาพาร์ทเนอร์สนับสนุนรายการ ทั้งนี้เพราะ อสมท. เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทพาโนราม่าในสัดส่วน 49% พนักงาน อสมท.ถือหุ้น 41% และอีก 10% เป็นของกลุ่มผู้ก่อตั้งบริษัทพาโนราม่า นอกจากนั้น ยัง ใช้คอนเนคชั่นที่เป็นดิสสิบิวเตอร์ ที่ บริษัท ได้ติดต่อไว้ เมื่อครั้งไปออกบูธที่เมืองคาน ประเทศ ฝรั่งเศส เมื่อปี 2545 เป็นช่องทางนำรายการสารคดีของบริษัท ไปออกอากาศในประเทศนั้นๆด้วย โดยขณะนี้ที่ติดต่อไว้มี 4 ราย จากประเทศ อังกฤษ อเมริกา และ สิงคโปร์ เป็นต้น
“จากปริมาณสถานีโทรทัศน์ เคเบิ้ลทีวี ดาวเทียม สื่อออนไลน์ อินเทอร์เน็ต โทรศัพท์มือถือ ที่เพิ่มขึ้นมากมายในปัจจุบัน จึงเป็นโอกาสให้งานสารคดีที่บริษัทได้ผลิตขึ้นมานี้ มีตลาดเพิ่มขึ้น และ ด้วยประสบการณ์ชื่อเสียง ที่เราทำงานด้านนี้มา 16 ปี เป็นที่รู้จักในต่างประเทศ ซึ่งจะช่วยให้บริษัทสามารถสร้างรายได้จากต่างประเทศได้มากขึ้น เพราะ ในกลุ่มเอเชียอาคเนย์ ยังไม่มีผู้ผลิตรายการประเภทนี้ที่โดดเด่นเท่าเรา”
นอกจากนั้นยังเตรียมร่วมกับสำนักข่าวไทย เจรจากับสถานีโทรทัศน์ CBS ของ อเมริกา เพื่อขอร่วมเป็นผู้ผลิตสารคดีเชิงข่าว ในเอเชียอาคเนย์ ป้อนให้ CBS และ ออกอากาศทางโมเดิร์นไนน์ทีวี กำหนดเจรจาในสิ้นเดือนนี้
ทั้งนี้รายได้ของบริษัท จะมาจาก 3 ธุรกิจ หลัก ได้แก่ 1.การผลิตรายการทีวี 2.ผลิตงานสารคดี และ 3.งานโปรเจคอื่นๆ โดยปีก่อนมีรายได้รวม 75 ล้านบาท เป็นรายได้จากสารคดีเกือบ 25% และ ปีนี้ ตั้งเป้ามีรายได้ที่ 100 ล้านบาท มาจากรายการสารคดี 25% แบ่งเป็นรายได้จากต่างประเทศไม่ถึง 10% แต่เป้าหมายดังกล่าวอาจไม่ได้ตามหวัง เพราะปัญหาด้านเศรษฐกิจ หลายบริษัทลดงบประมาณ ที่ใช้สนับสนุนรายการต่างๆ แต่บริษัทจัดทำแผนงาน 5 ปีต้องเติบโต 25% หรือ ปีละอย่างน้อย 10% มีรายได้รวมไม่น้อยกว่า 150 ล้านบาท มาจากกลุ่มรายการสารคดีประมาณ 75% ในที่นี้จะเป็นรายได้จากต่างประเทศราว 40% ส่วนยปีหน้า ตั้งเป้ารายได้ที่ 100 ล้านบาท สัดส่วนมาจากกลุ่มสารคดี 50% โดยสัดส่วนรายได้
****ดันต้มยำกุ้งเปิดวิถีชีวิตคนไทย***
นายชนินทร์ กล่าวว่า ปัจจุบัน การทำงานของ บริษัทเปลี่ยนไป สามารถหาพันธมิตรร่วมสนับสนุนรายการได้ก่อนที่จะทำการผลิต ทั้งนี้เป็นเพราะอานิสงส์จากการทำสารคดี ตามรอยพระพุทเจ้า ที่นำเสนอออกสู่สายตาประชาชนทั้งในประเทศและต่างประเทศไปแล้ว ทำให้ บริษัทมีทุนที่จะผลิตรายการสารคดีในเรื่องอื่นๆต่อไป ซึ่งขณะนี้ บริษัท ได้เริ่มผลิตไปบ้างแล้ว ทุกรายการที่ผลิตจะออกอากาศในประเทศไทยก่อนจึงนำไปขายให้ต่างประเทศ ล่าสุด เดือนกันยายนนี้ เปิดตัวสารคดี “แผ่นดินสุวรรณภูมิ”ถ่ายทำใน 8 ประเทศ แปลเป็น 7 ภาษา ออกอากาศทาง ช่อง 9 โมเดิร์นไนน์ ปลายปีมีสารคดีเฉลิมพระเกียรติฯ
ส่วนปีหน้า จะมีสารคดีอีกไม่น้อยกว่า 4-5 เรื่อง ทยอยออกอากาศ เช่น สารคดีเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ,ทะเลไทย ,โกลเบิ้ล วอมมิ่ง ,ข้าวไทย และ ไทยแลนด์อินไซน์ เป็นต้น โดยในสารคดีไทยแลนด์อินไซน์นี้ จะนำเสนอวิถีชีวิจประเทศไทย ใน 12 เรื่องหลัก บอกเล่าความเป็นมา ของวิถีชีวิตคนไทย เช่น ต้มยำกุ้ง งานแกะสลัดไม้สัก สมุนไพรไทย ศูนย์ศิลปาชีพฯ หุ่นละครเ,ก โจหลุยส์ และ หุ่นกระบอก เป็นต้น โดยจะของงบประมาณจากกระทรวงวัฒนธรรม เป็นผู้สนับสนุน เพราะทุกเรื่องจะนำออกขายไปต่างประเทศด้วย
“วัฒนธรรมและวิถีชีวิตของคนไทย ยังเป็นที่สนใจของชาวต่างชาติ เห็นได้จากนักท่องเที่ยว ที่ชื่นชอบวิถีชีวิตและอาหารไทย แต่ เรายังไม่มีการนำเสนออย่างถูกต้อง ไม่เหมือนประเทศเกาหลี ที่เขาทำสารคดีเกี่ยวกับอาหาร สร้างภาพยนตร์แดจังกึม จนเป็นที่โด่งดังทั่วโลก ซึ่งต้มยำกุ้งของเราก็สามารถทำได้เช่นกัน”
***ขยายงานทำสื่อครบวงจร***
อย่างไรก็ตาม บริษัทได้ขยายงานด้านผลิตสปอร์ตโฆษณา ในระบบ HD หรือระบบความคมชัดสูง เทียบชั้นได้กับการถ่ายทำด้วยฟิล์ม โดยจะผลิตสื่ออย่างครบวงจร ลูกค้าเป้าหมาย คือ องค์กรและหน่วยงานรัฐ และเอกชน ซึ่งกลุ่มงานนี้ จะเริ่มสร้างรายได้ตั้งแต่ครึ่งปีหลังนี้เป็นต้นไป
นอกจากนั้น บริษัท มีแผนผลิตบุคลากรเพื่อรองรับการขยายงานด้านสารคดีให้แก่องค์กร และป้อนตลาด เพราะมองว่าในอนาคต รายการสารคดี จะเติบโตต่อเนื่อง เริ่มจากปลายปีนี้ จัดประกวดให้นักศึกษาทำสารคดี “เฟิร์สสเต็บเรียลลิตี้” ปีหน้า เปิดตัวหลักสูตรฝึกอบรมงานด้านสารคดี โดยจะทำเป็นรูปแบบอคาเดมี่ มี 40 วิชา ที่จะสอน เปิดรับรุ่นละ 25 คน เวลาเรียน 1 ปี