ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ – สนามบินเชียงรายฝัน ทุนจีนผุดเอนเตอร์เทนเมนต์ชายแดนสามเหลี่ยมทองคำ ช่วยฟื้นยุคทองการบิน เพิ่มยอดคนเดินทางเข้า หลังสถิติคนเดินทางผ่านเข้า-ออกปีนี้ลด แถมสารพัดสายการบินประกาศลด-เลิกบินเข้าเชียงราย เร่งพัฒนาขยายหลุมจอด-ที่จอดรถเพิ่ม
นายประเทือง ศรขำ ผู้อำนวยการการท่าอากาศยานสากล จ.เชียงราย เปิดเผยว่า การขยายตัวของการลงทุนในพื้นที่ชายแดนเพื่อนบ้าน บริเวณสามเหลี่ยมทองคำ รวมถึงโครงข่ายคมนาคมเชื่อมโยงไทย พม่า ลาว จีน ใต้กรอบสี่เหลี่ยมเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเป็นถนนอาร์ 3 เอ ที่แล้วเสร็จ – สะพานข้ามแม่น้ำโขงเชื่อม อ.เชียงของ จ.เชียงราย กับถนน อาร์ 3 เอ ที่เมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว(สปป.ลาว )ที่สามารถเดินทางทะลุเข้าจีนได้
ตลอดจนการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ของกลุ่มทุนจีน ในนาม บริษัท ดอกงิ้วคำ จำกัด ที่เข้ามาเช่าพื้นที่บริเวณบ้านต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว (ตรงข้าม อ.เชียงแสน) กว่า 5,168.75 ไร่ พัฒนาเป็นเขตเศรษฐกิจและแหล่งท่องเที่ยวครบวงจรอาเซียนสามเหลี่ยมทองคำ มูลค่า 69,280,000 เหรียญสหรัฐ กำหนดเปิดบริการเบื้องต้นตั้งแต่ปี 2552 เป็นต้นไป
นอกจากนี้ บริษัท จิ่วโจว อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ได้สร้างโรงแรมสูง 8 ชั้น 300 ห้อง วงเงินกว่า 500 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีกลุ่มทุนอื่นๆ อีกหลายราย เช่น เกาหลีใต้ที่เข้าไปลงทุนในฝั่ง สปป.ลาว ตรงกันข้าม อ.เชียงของ เพื่อสร้างกาสิโนแห่งใหม่ จะทำให้ยอดการเดินทางเข้าเชียงรายคึกคักขึ้นในระยะยาวแน่นอน
เขาเชื่อว่า นักท่องเที่ยวอาจจะเดินทางมาเชียงราย ด้วยเครื่องบินมากขึ้น เพื่อเข้าไปใช้บริการเอนเตอร์เทนเมนต์ที่สามเหลี่ยมทองคำ โดยเฉพาะจะมีนักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางลงมายังชายแดนไทยเพื่อท่องเที่ยวในประเทศไทยมากขึ้นด้วย ดังนั้นตั้งแต่ปี 2552 นี้เป็นต้นไปจึงคาดว่าสถานการณ์จะกระเตื้องขึ้น และกลายเป็นปีทองของการบินอีกครั้ง
ดังนั้น ท่าอากาศยานสากล จ.เชียงราย จึงมีแผนพัฒนาขึ้นรองรับ ด้วยลงเพิ่มหลุมจอดจากเดิม 4 หลุมเป็น 6 หลุมโดยจะเปิดให้บริการตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2551 เป็นต้นไป นอกจากนี้มีการปรับปรุงลานจอดรถยนต์จากเดิมรับรถยนต์ได้เพียง 200 คัน ให้เป็น 470 คันด้วย
จากสถิติจำนวนผู้โดยสารที่ใช้บริการที่ท่าอากาศยานเชียงราย ในรอบครึ่งปี 51 พบว่า มีผู้โดยสารจำนวนประมาณ 350,000 คน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีผู้โดยสารจำนวนประมาณ 300,000 คน แต่จากการประเมินคาดว่าตั้งแต่ช่วงครึ่งปีหลังของปี 2551 เป็นต้นไปจำนวนผู้โดยสารที่ใช้บริการอาจลดลง
ทั้งนี้ เพราะสายการบินหลายสายลดจำนวนเที่ยวบิน หรือบางรายได้หยุดทำการบิน ทั้งการบินไทยได้ลดเที่ยวบินลงจากเดิมวันละ 3 เที่ยวบินเป็น 2 เที่ยวบิน ไทยแอร์เอเชียจากเดิม 3 เที่ยวบินเป็น 1 เที่ยวบิน ส่วนสายการบินนกแอร์ปรากฏ ว่าเดิมให้บริการจากเชียงราย-กรุงเทพฯ วันละ 3 เที่ยวบินได้ยกเลิกทุกเที่ยวแล้ว เหลือเพียงสายการบินระยะสั้นคือ เอสจีเอที่ให้บริการจากเชียงราย-เชียงใหม่ อยู่วันละ 2 เที่ยวบิน ซึ่งคาดว่าจะทำให้จำนวนผู้โดยสารในปี 2551 ลดต่ำลงกว่าปี 2550 ซึ่งมีผู้โดยสารประมาณ 750,000 บาท ประมาณ 5% แต่เชื่อว่าช่วงปลายปีหรือในเดือนตุลาคม เป็นต้นไปจำนวนผู้โดยสารเพิ่มมากขึ้นบ้าง เพราะเป็นฤดูท่องเที่ยว
นายประเทือง ศรขำ ผู้อำนวยการการท่าอากาศยานสากล จ.เชียงราย เปิดเผยว่า การขยายตัวของการลงทุนในพื้นที่ชายแดนเพื่อนบ้าน บริเวณสามเหลี่ยมทองคำ รวมถึงโครงข่ายคมนาคมเชื่อมโยงไทย พม่า ลาว จีน ใต้กรอบสี่เหลี่ยมเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเป็นถนนอาร์ 3 เอ ที่แล้วเสร็จ – สะพานข้ามแม่น้ำโขงเชื่อม อ.เชียงของ จ.เชียงราย กับถนน อาร์ 3 เอ ที่เมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว(สปป.ลาว )ที่สามารถเดินทางทะลุเข้าจีนได้
ตลอดจนการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ของกลุ่มทุนจีน ในนาม บริษัท ดอกงิ้วคำ จำกัด ที่เข้ามาเช่าพื้นที่บริเวณบ้านต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว (ตรงข้าม อ.เชียงแสน) กว่า 5,168.75 ไร่ พัฒนาเป็นเขตเศรษฐกิจและแหล่งท่องเที่ยวครบวงจรอาเซียนสามเหลี่ยมทองคำ มูลค่า 69,280,000 เหรียญสหรัฐ กำหนดเปิดบริการเบื้องต้นตั้งแต่ปี 2552 เป็นต้นไป
นอกจากนี้ บริษัท จิ่วโจว อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ได้สร้างโรงแรมสูง 8 ชั้น 300 ห้อง วงเงินกว่า 500 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีกลุ่มทุนอื่นๆ อีกหลายราย เช่น เกาหลีใต้ที่เข้าไปลงทุนในฝั่ง สปป.ลาว ตรงกันข้าม อ.เชียงของ เพื่อสร้างกาสิโนแห่งใหม่ จะทำให้ยอดการเดินทางเข้าเชียงรายคึกคักขึ้นในระยะยาวแน่นอน
เขาเชื่อว่า นักท่องเที่ยวอาจจะเดินทางมาเชียงราย ด้วยเครื่องบินมากขึ้น เพื่อเข้าไปใช้บริการเอนเตอร์เทนเมนต์ที่สามเหลี่ยมทองคำ โดยเฉพาะจะมีนักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางลงมายังชายแดนไทยเพื่อท่องเที่ยวในประเทศไทยมากขึ้นด้วย ดังนั้นตั้งแต่ปี 2552 นี้เป็นต้นไปจึงคาดว่าสถานการณ์จะกระเตื้องขึ้น และกลายเป็นปีทองของการบินอีกครั้ง
ดังนั้น ท่าอากาศยานสากล จ.เชียงราย จึงมีแผนพัฒนาขึ้นรองรับ ด้วยลงเพิ่มหลุมจอดจากเดิม 4 หลุมเป็น 6 หลุมโดยจะเปิดให้บริการตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2551 เป็นต้นไป นอกจากนี้มีการปรับปรุงลานจอดรถยนต์จากเดิมรับรถยนต์ได้เพียง 200 คัน ให้เป็น 470 คันด้วย
จากสถิติจำนวนผู้โดยสารที่ใช้บริการที่ท่าอากาศยานเชียงราย ในรอบครึ่งปี 51 พบว่า มีผู้โดยสารจำนวนประมาณ 350,000 คน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีผู้โดยสารจำนวนประมาณ 300,000 คน แต่จากการประเมินคาดว่าตั้งแต่ช่วงครึ่งปีหลังของปี 2551 เป็นต้นไปจำนวนผู้โดยสารที่ใช้บริการอาจลดลง
ทั้งนี้ เพราะสายการบินหลายสายลดจำนวนเที่ยวบิน หรือบางรายได้หยุดทำการบิน ทั้งการบินไทยได้ลดเที่ยวบินลงจากเดิมวันละ 3 เที่ยวบินเป็น 2 เที่ยวบิน ไทยแอร์เอเชียจากเดิม 3 เที่ยวบินเป็น 1 เที่ยวบิน ส่วนสายการบินนกแอร์ปรากฏ ว่าเดิมให้บริการจากเชียงราย-กรุงเทพฯ วันละ 3 เที่ยวบินได้ยกเลิกทุกเที่ยวแล้ว เหลือเพียงสายการบินระยะสั้นคือ เอสจีเอที่ให้บริการจากเชียงราย-เชียงใหม่ อยู่วันละ 2 เที่ยวบิน ซึ่งคาดว่าจะทำให้จำนวนผู้โดยสารในปี 2551 ลดต่ำลงกว่าปี 2550 ซึ่งมีผู้โดยสารประมาณ 750,000 บาท ประมาณ 5% แต่เชื่อว่าช่วงปลายปีหรือในเดือนตุลาคม เป็นต้นไปจำนวนผู้โดยสารเพิ่มมากขึ้นบ้าง เพราะเป็นฤดูท่องเที่ยว
