xs
xsm
sm
md
lg

แนะตั้งสภาช่างผมรับเอฟทีเอชลาชลเดือดซื้อแฟรนไชส์คืน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน – ชลาชล ชี้สถานการณ์ธุรกิจร้านทำผมส่อเค้าแย่ หลังเอฟทีเอเอื้อให้ผู้ประกอบการต่างประเทศแห่ผุดร้าน รายเล็กขาดไลเซนส์อ่วม แนะตั้งสภาช่างผม ยกระดับเปิดหลักสูตรปริญญาตรี ล่าสุดทุ่มงบ 6 ล้านบาท แตไลน์แชมพูและครีมนวดพรีเมียมชลาชลลงตลาด ลั่นเตรียมส่งออกเซาท์อีสเอเชีย พร้อมโกอินเตอร์ขายโนฮาวด์-เทรนนิ่งร้านทำผม สิ้นปีนี้โกยรายได้มากกว่า 120 ล้านบาท

นายสมศักดิ์ ชลาชล ประธานกรรมการ ชลาชลกรุ๊ป เปิดเผยว่า สถานการณ์ธุรกิจร้านทำผมในประเทศไทยเริ่มได้รับผลกระทบจากการเปิดเขตเสรีทางการค้าหรือเอฟทีเอ เนื่องจากมีผู้ประกอบการจากต่างประเทศเข้ามาดำเนินธุรกิจร้านทำผมในประเทศไทยมากขึ้น โดยเฉพาะเกาหลี ส่งผลให้ร้านทำผมขนาดเล็กของคนไทยเริ่มได้รับผลกระทบ เพราะไม่มีไลเซนส์ ซึ่งทางรอด คือ ผู้ประกอบการร้านทำผมต้องมีการจัดตั้งสภาของช่างทำผม เพื่อเป็นกำแพงสกัดผู้ประกอบการต่างประเทศเข้ามาดำเนินการในประเทศไทย เช่นเดียวกับในต่างประเทศทำ นอกจากนี้ต้องมีการยกระดับการเรียนการสอนอาชีพทำผมในหลักสูตรปริญญาตรี

ล่าสุดได้ทุ่มงบ 6 ล้านบาท เปิดตัวแชมพูและครีมนวดผมภายใต้แบรนด์”ชลาชล” คอนเซปต์”แฮร์ สไตล์ลิส” โดยเป็นแชมพูระดับพรีเมียมเพื่อการผ่อนคลาย ซึ่งให้บริษัทไมลอทท์ แลบบอราทอรีส์ จำกัด เป็นผู้ผลิต นำร่องจำนวน 2 หมื่นขวด ในช่วงแรกจำหน่ายผ่านร้านทำผมในชลาชลกรุ๊ป 17 สาขา ได้แก่ ซาลอน เดอ แบงคอก 1 สาขา ,ซาลอน ดู กูรู 2 สาขา ,คิวคัท 5 สาขา และชลาชล 7 สาขา จำหน่ายราคา 280-290 บาท เมื่อเทียบกับแชมพูพรีเมียมราคา 300-400 บาท โดยบริษัทได้เตรียมจัดกิจกรรมโรดโชว์ต่างๆ เพื่อสร้างการรับรู้ ซึ่งหากประสบความสำเร็จ ในปีหน้าจะวางจำหน่ายผ่านช่องทางอื่นๆ ต่อไป ทั้งนี้ในปีแรกคาดว่าจะคุ้มทุน

นอกจากนี้ยังวางแผนส่งออกแชมพูและครีมนวดไปจำหน่ายในเซาส์อีสเอเชีย ส่วนธุรกิจร้านทำผมจะเป็นลักษณะการขายโนฮาวด์หรือการเทรนนิ่ง เนื่องจากการไปเปิดร้านทำผมในต่างประเทศเป็นเรื่องยาก โดยได้นำร่องที่ประเทศเวียดนามแล้ว เมื่อปีที่ผ่านมา และมีความสนใจจะเข้าไปเปิดตลาดในประเทศจีน ส่วนการทำตลาดภายในประเทศ ล่าสุดได้ปรับคอนเซปต์ร้านทำผมใหม่จาก”แฮร์ สตูดิโอ” มาเป็น “เอนเตอร์เทนเมนต์ ซาลอน” ที่สาขารัชโยธิน โดยการทุ่มงบ 7-8 ล้านบาท นำเทคโนโลยีเข้ามาเสริมในธุรกิจ เปิดบริการดาวน์โหลดต่างๆ เพื่อรองรับกับไลฟ์สไตล์ของกลุ่มคนรุ่นใหม่

ส่วนการปรับตัวเพื่อรองรับกับภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว เน้นด้านการบริการทำให้ผลประกอบการในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา ไม่ได้รับผลกระทบ โดยอัตราการใช้บริการ 500 บาทต่อหัวต่อคน นอกจากนี้บริษัทยังได้ซื้อแฟรนไชส์ชลาชลคืนทั้งหมดในปีที่ผ่านมา เพื่อนำกลับมาบริหารจัดการใหม่ และปีนี้วางแผนเปิดสาขาใหม่ที่เซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ สำหรับผลประกอบการปีนี้บริษัทตั้งเป้าเกิน 120 ล้านบาท จากในปีที่ผ่านมามีรายได้ 120 ล้านบาท โดยมีลูกค้าหมุนเวียนกว่า 100 คนต่อวันต่อสาขา หรือรวมทั้งหมด 17 สาขา ราว 6 หมื่นคนต่อเดือน
กำลังโหลดความคิดเห็น