เอเอฟพี/รอยเตอร์ – สหรัฐฯส่งเครื่องบินทหารลำเลียงความช่วยเหลือมนุษยธรรม เข้าไปยังจอร์เจียเมื่อวานนี้(14) ส่วนรัฐมนตรีต่างประเทศ คอนโดลีซซา ไรซ์ ก็ออกเดินทางไปกรุงปารีสและกรุงทลิบิซี เพื่อแสดงการสนับสนุนจอร์เจีย ทางด้านรัสเซียตอบโต้ด้วยการประกาศตัวเป็นผู้ค้ำประกันให้แก่ 2 แคว้นกบฏในจอร์เจียที่จะเลือกอนาคตของตัวเอง
ประธานาธิบจอร์จ บุชแห่งสหรัฐฯ ได้ออกมาแถลงข่าวที่ทำเนียบขาวในวันพุธ(13) พร้อมกับรัฐมนตรีต่างประเทศไรซ์ และรัฐมนตรีกลาโหมโรเบิร์ต เกตส์ โดยเรียกร้องให้รัสเซียยุติวิกฤตการณ์ครั้งนี้และยอมทำตามข้อตกลงหยุดยิง รวมทั้งถอนทหารออกจากจอร์เจียด้วย
“สหรัฐฯ ยืนอยู่ข้างรัฐบาลประชาธิปไตยของจอร์เจียที่มาจากการเลือกตั้ง เราขอยืนยันว่าอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของจอร์เจียจะต้องได้รับความเคารพ”
ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกัน ประธานาธิบดีบุชได้พูดคุยกับประธานาธิบดีมิเฮอิล ซาคัชวิลี แห่งจอร์เจีย และได้สั่งการให้จัดส่งสิ่งของบรรเทาทุกข์ไปยังกรุงทบิลิซิโดยทางเครื่องบินทหารของสหรัฐฯ
ในวันเดียวกัน ไรซ์ยังออกเดินทางมุ่งสู่กรุงปารีส เพื่อหารือกับประธานาธิบดีนิโกลาส์ ซาโกซี ซึ่งแสดงบทบาทเป็นผู้นำในการไกล่เกลี่ยระหว่างรัสเซียกับจอร์เจีย จากนั้นเธอมีกำหนดเดินทางต่อไปยังกรุงทลิลิซีของจอร์เจียอีกด้วย
ทางด้านประธานาธิบดี ดมิตรี เมดเวเดฟ ของรัสเซีย วานนี้ได้พบปะกับพวกผู้นำของอับฮาเซีย และเซาท์ออสซีเชีย 2 แคว้นกบฏที่ประกาศแยกตัวเป็นอิสระจากจอร์เจีย และกลายเป็นชนวนที่ทำให้เกิดสงครามระหว่างจอร์เจียกับรัสเซียในคราวนี้ โดยเขาประกาศว่า รัสเซียสนับสนุนอีกทั้งจะเป็นผู้ค้ำประกันการตัดสินใจเกี่ยวกับอนาคตของประชาชนในแคว้นทั้งสอง ไม่ว่าจะออกมาในทางใด คำพูดดังกล่าวนี้ เห็นชัดว่าหมายถึงการหนุนหลังการแยกตัวเป็นอิสระของ 2 ดินแดนนี้นั่นเอง
ประธานาธิบดีเมดเวเดฟเป็นผู้สั่งยุติการบุกโจมตีของจอร์เจียเมื่อวันอังคาร(12) จากนั้นประธานาธิบดีซาร์โกซีของฝรั่งเศสก็ดำเนินการเจรจาจนทั้งเมดเวเดฟและประธานาธิบดีซาคัชวิลีของจอร์เจีย ยอมรับ “หลักการ” ของข้อตกลงหยุดยิง
แต่วอชิงตันและทบิลิซียังคงกล่าวหาว่า มอสโกไม่ได้ยุติศึกจริงและได้ส่งกำลังบุกโจมตีต่อไป
รัฐมนตรีต่างประเทศ เซอร์เก ลาฟรอฟ ของรัสเซีย แถลงที่มอสโกวานนี้ ระบุว่าระหว่างพูดคุยทางโทรศัพท์กับไรซ์ในวันพุธ เขาปฏิเสธเรื่องที่บอกว่ารัสเซียละเมิดข้อตกลงหยุดยิง นอกจากนั้นเขายังปฏิเสธเจาะจงถึงรายงานข่าวที่ว่า ทหารและขบวนรถถังของหมีขาวยังคงเคลื่อนทัพมุ่งสู่กรุงทบิลิซี ตลอดจนเข้าปล้นเมืองโกรี ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงทบิลิซิไปทางตะวันออกราว 60 กิโลเมตร อีกทั้งยังอยู่ติดกับเซาท์ออสซีเชีย และเป็นทางผ่านของถนนสายหลักระหว่างจอร์เจียฝั่งตะวันออกกับฝั่งตะวันตก
ลาฟรอฟยังกล่าวโจมตีสหรัฐฯอย่างขมขื่น โดยกล่าวว่าวอชิงตันจะต้องเลือกเอาระหว่าง ความสัมพันธ์ “ที่ค่อนข้างเสมือนจริง”กับทบิลิซี และ “การเป็นหุ้นส่วน (กับมอสโก) ในการจัดการกับปัญหาต่างๆ ที่จำเป็นต้องอาศัยปฏิบัติการร่วมกัน”
อนึ่ง สำนักข่าวรอยเตอร์และเอเอฟพีรายงานวานนี้โดยอ้างทั้งประจักษ์พยาน ตลอดจนผู้สื่อข่าวของตนพบเห็นเอง ระบุว่ากำลังพลและยานยนต์ทหารของรัสเซียมีการเคลื่อนไหวในหลายๆ เมืองของจอร์เจีย อาทิ โกรี, เมืองท่าโปตี, เมืองซักดิดี ซึ่งอยู่ทางตะวันตกของจอร์เจีย
แต่เอเอฟพีบอกว่า ตามข้อตกลงหยุดยิงที่ทำกันในวันอังคาร กองทหารรัสเซียมีสิทธิที่จะ “ปฏิบัติตามมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยเพิ่มเติม” ในระหว่างที่รอการทำความตกลงเกี่ยวกับกลไกรักษาสันติภาพระหว่างประเทศ
ก่อนหน้านี้ พลตรีวยาเชสลาฟ โบริซอฟ ผู้บัญชาการทหารระดับสูงคนหนึ่งของรัสเซียกล่าวในคืนวันพุธว่า รัสเซียจะส่งมอบการดูแลเมืองโกรีและพื้นที่ให้แก่กองกำลังของจอร์เจียในอีก 2 วันข้างหน้า
ประธานาธิบจอร์จ บุชแห่งสหรัฐฯ ได้ออกมาแถลงข่าวที่ทำเนียบขาวในวันพุธ(13) พร้อมกับรัฐมนตรีต่างประเทศไรซ์ และรัฐมนตรีกลาโหมโรเบิร์ต เกตส์ โดยเรียกร้องให้รัสเซียยุติวิกฤตการณ์ครั้งนี้และยอมทำตามข้อตกลงหยุดยิง รวมทั้งถอนทหารออกจากจอร์เจียด้วย
“สหรัฐฯ ยืนอยู่ข้างรัฐบาลประชาธิปไตยของจอร์เจียที่มาจากการเลือกตั้ง เราขอยืนยันว่าอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของจอร์เจียจะต้องได้รับความเคารพ”
ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกัน ประธานาธิบดีบุชได้พูดคุยกับประธานาธิบดีมิเฮอิล ซาคัชวิลี แห่งจอร์เจีย และได้สั่งการให้จัดส่งสิ่งของบรรเทาทุกข์ไปยังกรุงทบิลิซิโดยทางเครื่องบินทหารของสหรัฐฯ
ในวันเดียวกัน ไรซ์ยังออกเดินทางมุ่งสู่กรุงปารีส เพื่อหารือกับประธานาธิบดีนิโกลาส์ ซาโกซี ซึ่งแสดงบทบาทเป็นผู้นำในการไกล่เกลี่ยระหว่างรัสเซียกับจอร์เจีย จากนั้นเธอมีกำหนดเดินทางต่อไปยังกรุงทลิลิซีของจอร์เจียอีกด้วย
ทางด้านประธานาธิบดี ดมิตรี เมดเวเดฟ ของรัสเซีย วานนี้ได้พบปะกับพวกผู้นำของอับฮาเซีย และเซาท์ออสซีเชีย 2 แคว้นกบฏที่ประกาศแยกตัวเป็นอิสระจากจอร์เจีย และกลายเป็นชนวนที่ทำให้เกิดสงครามระหว่างจอร์เจียกับรัสเซียในคราวนี้ โดยเขาประกาศว่า รัสเซียสนับสนุนอีกทั้งจะเป็นผู้ค้ำประกันการตัดสินใจเกี่ยวกับอนาคตของประชาชนในแคว้นทั้งสอง ไม่ว่าจะออกมาในทางใด คำพูดดังกล่าวนี้ เห็นชัดว่าหมายถึงการหนุนหลังการแยกตัวเป็นอิสระของ 2 ดินแดนนี้นั่นเอง
ประธานาธิบดีเมดเวเดฟเป็นผู้สั่งยุติการบุกโจมตีของจอร์เจียเมื่อวันอังคาร(12) จากนั้นประธานาธิบดีซาร์โกซีของฝรั่งเศสก็ดำเนินการเจรจาจนทั้งเมดเวเดฟและประธานาธิบดีซาคัชวิลีของจอร์เจีย ยอมรับ “หลักการ” ของข้อตกลงหยุดยิง
แต่วอชิงตันและทบิลิซียังคงกล่าวหาว่า มอสโกไม่ได้ยุติศึกจริงและได้ส่งกำลังบุกโจมตีต่อไป
รัฐมนตรีต่างประเทศ เซอร์เก ลาฟรอฟ ของรัสเซีย แถลงที่มอสโกวานนี้ ระบุว่าระหว่างพูดคุยทางโทรศัพท์กับไรซ์ในวันพุธ เขาปฏิเสธเรื่องที่บอกว่ารัสเซียละเมิดข้อตกลงหยุดยิง นอกจากนั้นเขายังปฏิเสธเจาะจงถึงรายงานข่าวที่ว่า ทหารและขบวนรถถังของหมีขาวยังคงเคลื่อนทัพมุ่งสู่กรุงทบิลิซี ตลอดจนเข้าปล้นเมืองโกรี ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงทบิลิซิไปทางตะวันออกราว 60 กิโลเมตร อีกทั้งยังอยู่ติดกับเซาท์ออสซีเชีย และเป็นทางผ่านของถนนสายหลักระหว่างจอร์เจียฝั่งตะวันออกกับฝั่งตะวันตก
ลาฟรอฟยังกล่าวโจมตีสหรัฐฯอย่างขมขื่น โดยกล่าวว่าวอชิงตันจะต้องเลือกเอาระหว่าง ความสัมพันธ์ “ที่ค่อนข้างเสมือนจริง”กับทบิลิซี และ “การเป็นหุ้นส่วน (กับมอสโก) ในการจัดการกับปัญหาต่างๆ ที่จำเป็นต้องอาศัยปฏิบัติการร่วมกัน”
อนึ่ง สำนักข่าวรอยเตอร์และเอเอฟพีรายงานวานนี้โดยอ้างทั้งประจักษ์พยาน ตลอดจนผู้สื่อข่าวของตนพบเห็นเอง ระบุว่ากำลังพลและยานยนต์ทหารของรัสเซียมีการเคลื่อนไหวในหลายๆ เมืองของจอร์เจีย อาทิ โกรี, เมืองท่าโปตี, เมืองซักดิดี ซึ่งอยู่ทางตะวันตกของจอร์เจีย
แต่เอเอฟพีบอกว่า ตามข้อตกลงหยุดยิงที่ทำกันในวันอังคาร กองทหารรัสเซียมีสิทธิที่จะ “ปฏิบัติตามมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยเพิ่มเติม” ในระหว่างที่รอการทำความตกลงเกี่ยวกับกลไกรักษาสันติภาพระหว่างประเทศ
ก่อนหน้านี้ พลตรีวยาเชสลาฟ โบริซอฟ ผู้บัญชาการทหารระดับสูงคนหนึ่งของรัสเซียกล่าวในคืนวันพุธว่า รัสเซียจะส่งมอบการดูแลเมืองโกรีและพื้นที่ให้แก่กองกำลังของจอร์เจียในอีก 2 วันข้างหน้า
