ผู้จัดการรายวัน - นายกรัฐมนตรีนำพสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่าทั่วประเทศจุดเทียนชัยถวายพระพร "สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ” เนื่องในวโรกาสทรงเจริญพระชนมายุ 76 พรรษา 12 สิงหาคม ขณะที่ประชาชนหลายหมื่นคนทะลักร่วมพันธมิตรฯถวายพระพรที่สะพานมัฆวานฯจนแน่น พร้อมเปล่งเสียง"ทรงพระเจริญ"กึกก้อง ทุกหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ตื่นตัวสนองพระราชเสาวนีย์ “ผบ.ทบ.” น้อมรับพระราชดำรัสฯ เร่งแก้ปัญหาภาคใต้เพื่อนำไปสู่สันติสุขและปลูกป่า “ผู้ว่าฯ กทม.” พร้อมเชิญชวนคนกรุงเทพฯ ปลูกต้นไม้เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียว “ครูใต้” ลั่นขอยืนหยัดทำหน้าที่เรือจ้างจนนาทีสุดท้ายตอบแทนพระคุณ "แม่ของแผ่นดิน"
วานนี้ (12 ส.ค.) สำนักพระราชวังได้จัดสถานที่ให้ลงนามถวายพระพรสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม ไว้ที่ศาลาสหทัยสมาคมภายในพระบรมมหาราชวัง ซึ่งตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมานายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยภริยา ตลอดจนคณะรัฐมนตรี ผู้บัญชาการทุกเหล่าทัพ ข้าราชการจากกระทรวงต่างๆ ตัวแทนพรรคการเมือง ทูตานุทูต ได้ทยอยมาลงนามถวายพระพรอย่างไม่ขาดสาย ทั้งนี้ ผู้ลงนามถวายพระพรจะได้รับหนังสือบรรยายบทสวดมนต์ เป็นที่ระลึก ส่วนประชาชนทั่วไป ได้ทยอยมาลงนามถวายพระพรเต็นท์หน้าพระบรมมหาราชวัง
จากนั้นเวลา 19.19 น. ที่บริเวณมณฑลพิธีท้องสนามหลวง นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยคุณหญิงสุรัตน์ สุนทรเวช ภริยา นำรัฐมนตรี ข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน จุดเทียนชัย และกล่าวคำถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 76 พรรษา โดยสถานีโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ ได้ถ่ายทอดสัญญาณไปทั่วประเทศ เพื่อให้พสกนิกรไทยพร้อมใจจุดเทียนชัยถวายพระพร พร้อมกันทั่วประเทศ
ปชช.หลายหมื่นร่วมวันแม่กับ พธม.
ส่วนทางด้านบรรยากาศบริเวณที่ชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยวานนี้ ซึ่งได้จัดกิจกรรมวันแม่ ในโอกาสวันแม่แห่งชาติ ตั้งแต่ช่วงเช้าถึงบ่าย แม้จะมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ยังมีประชาชนที่ใส่เสื้อสีฟ้า ทยอยเดินทางมาร่วมงานอย่างไม่ขาดสาย ขณะที่ แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ก็ได้มีการปราศรัยบนเวทีในเรื่องราวที่เกี่ยวกับการเทิดพระเกียรติ และพระราชกรณียกิจของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ โดยงดเรื่องการเมือง
จากนั้นเวลา 19.55 น.แกนนำพันธมิตรฯ ทั้ง 5 คนได้ขึ้นเวทีร่วมจุดเทียนชับถวายพระพรกับผู้ร่วมชุมนุมจำนวนหลายหมื่นคนที่บริเวณสะพานมัฆวานฯ โดยนายสนธิ ลิ้มทองกุล 1 ใน 5 แกนนำพันธมิตรฯ ได้นำประชาชนกล่าวคำถวายพระพร เนื่องในมหามงคลสมัยวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ (อ่านในกรอบหน้า 2)
หลังจากนั้น ผู้เข้าร่วมชุมนุมได้ร่วมกันกล่าวคำว่า “ทรงพระเจริญ” พร้อมกัน 9 ครั้งจนเสียงดังกึงก้องไปทั่วบริเวณสะพานมัฆวานฯ จากนั้นผู้เข้าร่วมชุมนุมได้ร่วมกันร้องเพลงสดุดีมหาราชา ตามด้วยการจุดพลุไฟเฉลิมพระเกียรติ อย่างสวยงามตระการตา
ตามด้วยบรรเลงเปียโนประกอบการร้องเพลงโดย "ณัฐ" และ"พวงเดือน ยนตรรักษ์" ซึ่งอัญเชิญเพลงพระราชนิพนธ์"แก้วตาขวัญใจ" มาขับร้อง ตามด้วยเพลงภาษาฝรั่งเศส "La Vie En Rose" หรือ "ชีวิตฉันโรยด้วยกลีบกุหลาบ" หลังจากนั้นวงดนตรีเพื่อชีวิต"แฮมเมอร์" ขั้นร้องเพลง"แม่" และเพลงเทิดพระเกียรติ "แม่ของแผ่นดิน"
คนกรุงร่วมทำบุญตักบาตร
สำหรับกิจกรรมตั้งแต่ช่วงเช้าวานนี้ เริ่มที่ กทม.เวลา 07.00 น.นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) นำข้าราชการ พ่อค้าและประชาชนร่วมบุญตักบาตรพระสงฆ์จำนวน 577 รูป และถวายภัตตาหารเช้าแด่พระสมณศักดิ์ 10 รูป เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ 12 สิงหาคม ซึ่ง กทม.ร่วมกับมูลนิธิ 5 ธันวามหาราช องค์กรภาครัฐและเอกชน จัดงานขึ้น ณ ท้องสนามหลวงโดยมีนักเรียนกรมศิลปากร 177 คน ร่วมสวดสดุดีทำนองสรภัญญะเฉลิมพระเกียรติ
นายอภิรักษ์ กล่าวว่า กทม.จะเร่งปฏิบัติภารกิจเพื่อสนองพระราชดำรัสของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เช่น การฟื้นฟูสภาพแวดล้อมให้กลับคืนสู่สภาพเดิมเหมือนเช่นในอดีต โดยเฉพาะที่พระองค์ทรงเป็นห่วงเรื่องของป่าไม้ที่ถูกทำลาย การฟื้นสภาพแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ถือเป็นแม่น้ำสายหลักของชาติ และการธำรงรักษาไว้ ซึ่งประวัติศาสตร์ของชาติไทย โดย กทม.จะทำการบรรจุหลักสูตรเกี่ยวกับประวัติศาสตร์สำหรับการเรียนการสอนให้กับโรงเรียนในสังกัด กทม.เพื่อให้นักเรียนได้ซึมซับและรับรู้ความเป็นมาของตนเองตั้งแต่โบราณ
หลังจากทำบุญตักบาตรแล้วนายอภิรักษ์ ได้ไปร่วมงานฉลองครอบรอบ 1 ปี โครงการ“รักษ์เจ้าพระยา”โดยนายอภิรักษ์ และประชาชนที่ร่วมงานร่วมกันปล่อยปลา 99,999 ตัวลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณสวนสันติชัยปราการ ทั้งนี้ นายอภิรักษ์ กล่าวว่า หลังจากที่ กทม.รณรงค์รักษาแม่น้ำเจ้าพระยา มีการตรวจวัดคุณภาพน้ำตลอด 24 ชั่วโมง พบว่ามีสารปนเปื้อนในแม่น้ำเจ้าพระยาน้อยลง แต่ กทม.ยังคงต้องเฝ้าระวังในบริเวณที่มีโรงงานอุตสาหกรรมและมีชุมชนหนาแน่นเพื่อปรับปรุงคุณภาพน้ำให้ดีขึ้น
ต่อมานายอภิรักษ์ ได้ไปเป็นประธานเปิดโครงการ “จากหนึ่งถึงสี่ล้านสานฝันเมืองสวย” ณ สวนเบญจกิติ เขตคลองเตย โดยนายอภิรักษ์ ได้ปลูกต้นไม้ต้นที่ 4 ล้านคือ ต้นกันเกรา เพื่อถวายเป็นราชสักการะแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี
ผบ.ทบ.น้อมรับพระราชเสาวนีย์
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.กล่าวว่า สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงเป็นห่วงสถานการณ์ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งประชาชนและเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานอยู่ พระองค์ทรงให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานและประชาชนให้สถานการณ์ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้สงบลงโดยเร็วซึ่งเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายพยายามทุ่มเทในการช่วยกันคลี่คลายให้สถานการณ์ดีขึ้น โดยแนวทางการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่มุ่งปฏิบัติตามแนวทางพระราชทาน คือ เข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา รวมถึงการให้ความร่วมมือของประชาชนในการทำให้สถานการณ์คลี่คลายและเกิดความสงบสุขโดยเร็ว ทั้งนี้ ตั้งอยู่บนพื้นฐานของกฎหมายเป็นหลัก มาตรการดังกล่าวถือว่าเป็นแนวทางที่ดี ทำให้ประชาชนส่วนใหญ่มีความเข้าใจในส่วนราชการและให้ความร่วมมือกับส่วนราชการมากขึ้น ช่วยให้สถานการณ์การก่อการร้ายสามารถคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น
นอกจากนี้สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ทรงชื่นชมกองทัพบกถึงการปฏิบัติงาน ทั้งในเรื่องการทำงานเกี่ยวกับสาธารณะ การอนุรักษ์ป่าและแหล่งน้ำ การปฏิบัติหน้าที่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นสิ่งที่กองทัพบกจะน้อมรับไว้เพื่อนำไปปฏิบัติให้เกิดเป็นรูปธรรม
สนองพระราชเสาวนีย์อนุรักษ์ป่า
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ประธานกรรมการมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัดจัดพิธีทำบุญมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ณ อาคารสำนักงานใหม่ กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ กรุงเทพฯ เพื่อเป็นสิริมงคลแก่อาคารสำนักงานใหม่ประกอบด้วยพิธีสงฆ์ พิธีถวายเรื่องราชสักการะ ถวายราชสดุดี ถวายพระพรชัยมงคลหน้าพระบรมสาทิสลักษณ์ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และปลูกต้นไม้เฉลิมพระเกียรติฯ
พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า มูลนิธิฯจะสนองพระราชเสาวนีย์ในการร่วมกันอนุรักษ์ป่าไม้มีจุดมุ่งหมายให้คนอยู่ร่วมกับป่าและสัตว์ป่าได้ ยอมรับว่า เวลานี้มีการบุกรุกป่ามากโดยเฉพาะป่าใกล้กรุงเทพฯจะพยายามป้องกันอย่างดีที่สุด เพื่อรักษาป่าต้นน้ำลำธารและทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญจะปลุกจิตสำนึกของคนในพื้นที่ให้ช่วยกันดูแลป่าด้วย
ขณะที่ พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ผบ.สส.เป็นประธานในการจัดงานเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่กองบัญชาการกองทัพไทย เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล โดยกิจกรรมที่กองบัญชาการกองทัพไทยจัดขึ้น เช่น การถวายพระพรชัยมงคลและพิธีวางพานพุ่มถวายราชสักการะและถวายราชสดุดีเบื้องหน้าพระบรมสาทิสลักษณ์ฯ
นอกจากนี้ กองทัพไทย ยังได้จัดกิจกรรมโครงการปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ 760 ไร่ มีระยะเวลาดำเนินการระหว่างวันเดือนมิถุนายนด้วย
เชียงใหม่ร่วมจัดกิจกรรมคึกคัก
ส่วนบรรยากาศในจังหวัดต่างๆ ทั่วทุกภาคก็มีการจัดกิจกรรมทางศาสนาเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล และสนองพระราชเสาวนีย์ของพระองค์ท่านเช่นกัน โดยที่ จ.เชียงใหม่ นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้นำพสกนิกรทุกหมู่เหล่าร่วมกิจกรรมในงานพิธีเฉลิมพระเกียรติ 12 สิงหามหาราชินี ประจำปี 2551 เพื่อแสดงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยช่วงเช้าได้มีพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 77 รูปที่ข่วงประตูท่าแพ หลังจากนั้นได้มีพิธีลงนามถวายพระพรชัยมงคลและถวายราชสดุดี ณ หอประชุมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และมีพิธีถวายราชสักการะและจุดเทียนชัยถวายพระพร ณ หอประชุมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ในช่วงค่ำ
ที่ศาลาประชาคม นายปรีชา เรืองจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร นำเหล่าข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน นักเรียน นักศึกษากว่า 1,000 คน ร่วมพิธีตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง แต่พระภิกษุสงฆ์ สามเณร วัดท่าหลวงพระอารามหลวง 77 รูป จากนั้นนายปรีชา ได้ถวายพานพุ่มเงิน พุ่มทอง และกล่าวเทิดพระเกียรติราชสดุดีต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์
ขณะเดียวกันที่ศาลากลางจังหวัดอุตรดิตถ์ นายธวัชชัย ฟักอังกูร ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ พร้อมด้วยส่วนราชการ นักเรียน นักศึกษา พ่อค้าประชาชาชนทุกหมู่เหล่า ทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง แด่พระภิกษุสงฆ์ทรงสมศักดิ์จำนวน 77 รูป เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล ขณะเดียวกันทางจังหวัดได้จัดสถานที่บริเวณศาลาประชาคมจังหวัดเพื่อเปิดโอกาสให้พสกนิกร ร่วมลงนามถวายพระพร โดยมีประชาชนทยอยเดินทางมาร่วมลงนามอย่างต่อเนื่อง
ชาวอีสานทำบุญถวายพระราชกุศล
ที่บริเวณหน้าลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา ข้าราชการ และประชาชนชาวโคราชกว่า 500 คนร่วมกันทำพิธีตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง แก่พระสงฆ์จาก 5 วัดในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา 99 รูป เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล แด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ด้วยความสำนึกในพระราชกรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อปวงชนชาวไทยตลอดมา โดยข้าวสารอาหารแห้งที่ได้จากการตักบาตรครั้งนี้ ส่วนหนึ่งจะนำไปบริจาคให้แก่สถานสงเคราะห์คนพิการในจังหวัดนครราชสีมา เพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายของทางสถานสงเคราะห์อีกทางหนึ่ง
ส่วนที่ลานน้ำพุ ริมบึงแก่นนคร อ.เมือง จ.ขอนแก่น นายเจตน์ ธนวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดฯเป็นประธานทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 177 รูป เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล ท่ามกลางสายฝนโปรยปรายลงมาอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับนายสันทัด จัตุชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ได้นำพสกนิกรทุกหมู่เหล่าร่วม 10,000 คน พร้อมใจกันแต่งกายด้วยชุดขาวนำข้าวสารอาหารแห้งมาร่วมทำบุญตักบาตรพระภิกษุสามเณร 1,200 รูปที่บริเวณถนนหน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัด โดยจะนำข้าวสารอาหารแห้ง และสิ่งของ ที่ได้รับจากการทำบุญตักบาตรในครั้งนี้ไปช่วยเหลือพระสงฆ์ 266 วัดและข้าราชการทหาร ตำรวจ ครูที่ปฏิบัติหน้าที่ใน 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้
ขณะที่เด็กนักเรียนกว่า 500 คนที่ จ.กาฬสินธุ์ ร่วมกันปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติฯ สนองพระราชดำรัสสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่บริเวณหนองหลวง บ้านโคกกลาง อ.ท่าคันโท
กองทัพเรือปล่อยเต่าลงทะเล
ด้าน พล.ร.ท.สุพจน์ พฤกษา ผู้บัญชาการกองเรือภาคที่ 3 พร้อมข้าราชการ และประชาชนในพื้นที่ ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต ร่วมพิธีถวายพระพรชัยมงคล และปล่อยพันธุ์เต่าทะเล อายุประมาณ 4-8 เดือน 477 ตัว ทั้งเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล แด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถและเพื่อเพิ่มจำนวนประชากรเต่าทะเลที่ใกล้จะสูญพันธุ์ให้มากขึ้น
ส่วนที่ค่ายวิภาวดีรังสิต จังหวัดทหารบกสุราษฎร์ธานี ทหารร่วมกับแม่บ้านและลูกหลานข้าราชการทหารพร้อมใจกันปลูกต้นไม้ในพื้นที่ว่างบริเวณศูนย์เรียนรู้ตามโครงการพลิกผืนป่าด้วยพระบารมี
ส่วนที่ จ.ตรัง ที่บริเวณลานหน้าศาลากลางจังหวัดตรัง หลังเก่า นายอานนท์ มนัสวานิช ผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธานในการทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 78 รูป เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล โดยมีนางจรูญศรี มนัสวานิช นายกเหล่ากาชาดจังหวัดฯ หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ ตำรวจ ทหาร พนักงานรัฐวิสาหกิจ นักเรียน นักศึกษา ผู้นำชุมชน ลูกเสือชาวบ้าน กลุ่มพลังมวลชน พ่อค้า ประชาชนชาวจังหวัดตรัง ต่างพร้อมใจสวมใสเสื้อสีฟ้ามาร่วมทำบุญตักบาตรกว่า 1,000 คน
ที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดสงขลา นายสนธิ เตชานันท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดฯ เป็นประธานพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ ถวายเป็นพระราชกุศล โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ ตำรวจ ทหาร พ่อค้า ประชาชน นำอาหารคาวหวาน ข้าวสารอาหารแห้ง มาร่วมในพิธีทำบุญตักบาตรอย่างคับคั่ง เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่มีต่อพระองค์ท่าน
นราฯทำบุญวันแม่-จนท.ดูแลเข้ม
ที่ จ.นราธิวาส บริเวณสวนกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ อ.เมืองนราธิวาส นายการัณย์ ศุภกิจวิเลขการ ผู้ว่าราชการจังหวัดฯ ได้นำหัวหน้าส่วนราชการ พ่อค้า และประชาชนกว่า 500 คนร่วมทำบุญตักบาตรเนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ โดยผู้ว่าราชการจังหวัดฯ ได้ร่วมจุดเทียนบูชาพระรัตนตรัย ก่อนที่พระสงฆ์จะให้ศีลและถวายพระพร
นอกจากนี้ ทางจังหวัดฯ ยังได้จัดพิธีถวายพระพรชัยมงคลที่บริเวณพลับพลาเฉลิมพระเกียรติครองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี ริมแม่น้ำบางนรา อ.เมืองนราธิวาส เพื่อให้เหล่าข้าราชการและประชาชนในพื้นที่ได้ร่วมลงนามถวายพระพร และร่วมกล่าวสดุดีเฉลิมพระเกียรติถวายพระเกียรติถวายพระพรชัยมงคล
ส่วนด้านการดูแลความปลอดภัยตั้งแต่ช่วงเช้ามีการดูแลความปลอดภัยรอบๆ บริเวณสวนกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์อย่างแน่นหนา ทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร อีกทั้งมีการตั้งจุดตรวจลอยคอยตรวจตราบุคคลที่เข้าออกในตัวเมือง รวมถึงมีการจัดชุดออกลาดตระเวนเป็นระยะเพื่อที่จะดูแลความปลอดภัย โดยเฉพาะในช่วงค่ำซึ่งจะมีพิธีจุดเทียนถวายพระพรด้วย
มุสลิมยะลาสวดดุอาร์ถวายพระพร
ส่วนที่สำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดยะลา นายธีระ มินทราศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา พร้อมด้วยคณะรองผู้ว่าราชการจังหวัดฯ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดฯ หัวหน้าส่วนราชการ ตลอดจนหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ นักเรียน นักศึกษา และประชาชนที่นับถือศาสนาอิสลาม โต๊ะครู โต๊ะอิหม่าม ผู้นำศาสนากว่า 1,000 คน ร่วมกันทำพิธีสวดดุอาร์ถวายพระพร เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหามหาราชินี
ส่วนที่มัสยิดกลางอำเภอเบตง จ.ยะลา นายนพดล สองเมือง นายอำเภอเบตง เป็นประธานกล่าวนำถวายพระพรชัยมงคลเนื่องในงานมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหา โดยมีคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดยะลา สาขาเบตง บรรดาอิหม่าม ผู้นำศาสนา ข้าราชการ นักเรียน และประชาชนชาวไทยที่นับถือศาสนาอิสลามกว่า 150 คน พร้อมใจกันร่วมขอดูอาร์ถวายพระพรแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ซึ่งการรวมตัวชุมนุมของพี่น้องมุสลิมในครั้งนี้เพื่อแสดงความจงรักภักดีในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหา ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถที่ทรงมีต่อประชาชนชาวไทย
นายซัมซูเด็ง มะมิง ประธานชมรมครูโรงเรียนตาดีกา อ.เบตง กล่าวว่า ตนและครอบครัวและพี่น้องชาวมุสลิมทุกคนต่างมีความรู้สึกซาบซึ้ง ที่ได้เกิดมาบนผืนแผ่นดินไทยที่มีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงครองราชย์เป็นทั้งพ่อและแม่ของปวงชนชาวไทย เราฐานะเป็นลูกของแผ่นดิน ก็ควรทำความดี หันหน้าเข้าหากันร่วมกันพัฒนาประเทศให้มีความสงบสุข เพื่อถวายแด่พ่อและแม่ของแผ่นดิน
ปัตตานีจัดพิธีสดุดีเฉลิมพระเกียรติฯ
ด้านนายภาณุ อุทัยรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี พร้อมพสกนิกรชาว จ.ปัตตานี ได้ร่วมพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 77 รูปเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่บริเวณลานศิลปวัฒนธรรม ฝั่งตรงข้ามศาลากลางจังหวัดปัตตานี นอกจากนี้ได้มอบโคแก่เกษตรกรตามโครงการธนาคารโค-กระบือเพื่อเกษตรกรรมตามพระราชดำริและพิธีมอบเกียรติบัตร ให้แก่หมู่บ้าน ชุมชนปลอดพืชกระท่อม เพื่อแก้ปัญหายาเสพติดถวายเป็นพระราชกุศลด้วย
ส่วนที่สำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี ได้จัดกิจกรรมชาวไทยมุสลิม เฉลิมพระเกียรติ และถวายพระพร เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหา ซึ่งเป็นกิจกรรมสำคัญจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อให้ชาวไทยมุสลิมได้ร่วมแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ กิจกรรมสำคัญเช่นการบรรยายพิเศษเรื่อง “บทบาทของแม่ในหลักการและทัศนะของอิสลาม” และการจัดพิธีกล่าวสดุดีเฉลิมพระเกียรติฯ 12 สิงหา มหาราชินี
แม่พิมพ์ใต้ลั่นสู้เพื่อแม่ของแผ่นดิน
นายสงวน อินทรักษ์ ประธานสมาพันครูจังหวัดนราธิวาส เปิดเผยว่า วันนี้สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์สร้างศูนย์ครูหรือหมู่บ้านครู และพระราชทานความช่วยเหลือด้านความปลอดภัยโดยให้ทหารที่ปลดเกณฑ์ ให้เขามาเป็นผู้อารักขาซึ่งเป็นขวัญกำลังใจ ที่ทำให้เพื่อนครูในจังหวัดชายแดนภาคใต้สามารถทำหน้าที่ตามปณิธานและอุมการณ์ของแม่พิมพ์ ได้อย่างเต็มที่ เรายังมีกำลังใจและขวัญที่ดีในการปฏิบัติหน้าที่อยู่ได้เพราะบารมีของแม่แห่งแผ่นดิน และชีวิตนี้ขอน้อมถวายเพื่อพระองค์ท่านจนกว่าจะหาไม่โดยเฉพาะขอยืนหยัดทำหน้าที่ครูในพื้นที่นี้ให้ดีที่สุด
นายประสิทธิ์ เมฆสุวรรณ ที่ปรึกษาสมาพันธ์ครู 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวว่า ครูทุกคนต่างซาบซึ้งในน้ำพระทัยของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่พระองค์ทรงห่วงใยชีวิต และความเป็นอยู่ของครูในพื้นที่อย่างใกล้ชิดนับตั้งแต่เกิดความไม่สงบ จึงขอทำหน้าที่ครูให้ดีที่สุดเพื่อให้สมกับความช่วยเหลือ ที่ได้รับพระราชทานมาโดยตลอด และทุกครั้งที่เกิดปัญหาพระองค์ท่านทรงโอบอุ้มครูชายแดนภาคใต้ทุกคน ชีวิตที่เหลือจากนี้จะขออุทิศและทำหน้าที่ให้เต็มความสามารถ เพื่อทดแทนพระคุณแม่ของแผ่นดิน
วานนี้ (12 ส.ค.) สำนักพระราชวังได้จัดสถานที่ให้ลงนามถวายพระพรสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม ไว้ที่ศาลาสหทัยสมาคมภายในพระบรมมหาราชวัง ซึ่งตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมานายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยภริยา ตลอดจนคณะรัฐมนตรี ผู้บัญชาการทุกเหล่าทัพ ข้าราชการจากกระทรวงต่างๆ ตัวแทนพรรคการเมือง ทูตานุทูต ได้ทยอยมาลงนามถวายพระพรอย่างไม่ขาดสาย ทั้งนี้ ผู้ลงนามถวายพระพรจะได้รับหนังสือบรรยายบทสวดมนต์ เป็นที่ระลึก ส่วนประชาชนทั่วไป ได้ทยอยมาลงนามถวายพระพรเต็นท์หน้าพระบรมมหาราชวัง
จากนั้นเวลา 19.19 น. ที่บริเวณมณฑลพิธีท้องสนามหลวง นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยคุณหญิงสุรัตน์ สุนทรเวช ภริยา นำรัฐมนตรี ข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน จุดเทียนชัย และกล่าวคำถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 76 พรรษา โดยสถานีโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ ได้ถ่ายทอดสัญญาณไปทั่วประเทศ เพื่อให้พสกนิกรไทยพร้อมใจจุดเทียนชัยถวายพระพร พร้อมกันทั่วประเทศ
ปชช.หลายหมื่นร่วมวันแม่กับ พธม.
ส่วนทางด้านบรรยากาศบริเวณที่ชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยวานนี้ ซึ่งได้จัดกิจกรรมวันแม่ ในโอกาสวันแม่แห่งชาติ ตั้งแต่ช่วงเช้าถึงบ่าย แม้จะมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ยังมีประชาชนที่ใส่เสื้อสีฟ้า ทยอยเดินทางมาร่วมงานอย่างไม่ขาดสาย ขณะที่ แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ก็ได้มีการปราศรัยบนเวทีในเรื่องราวที่เกี่ยวกับการเทิดพระเกียรติ และพระราชกรณียกิจของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ โดยงดเรื่องการเมือง
จากนั้นเวลา 19.55 น.แกนนำพันธมิตรฯ ทั้ง 5 คนได้ขึ้นเวทีร่วมจุดเทียนชับถวายพระพรกับผู้ร่วมชุมนุมจำนวนหลายหมื่นคนที่บริเวณสะพานมัฆวานฯ โดยนายสนธิ ลิ้มทองกุล 1 ใน 5 แกนนำพันธมิตรฯ ได้นำประชาชนกล่าวคำถวายพระพร เนื่องในมหามงคลสมัยวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ (อ่านในกรอบหน้า 2)
หลังจากนั้น ผู้เข้าร่วมชุมนุมได้ร่วมกันกล่าวคำว่า “ทรงพระเจริญ” พร้อมกัน 9 ครั้งจนเสียงดังกึงก้องไปทั่วบริเวณสะพานมัฆวานฯ จากนั้นผู้เข้าร่วมชุมนุมได้ร่วมกันร้องเพลงสดุดีมหาราชา ตามด้วยการจุดพลุไฟเฉลิมพระเกียรติ อย่างสวยงามตระการตา
ตามด้วยบรรเลงเปียโนประกอบการร้องเพลงโดย "ณัฐ" และ"พวงเดือน ยนตรรักษ์" ซึ่งอัญเชิญเพลงพระราชนิพนธ์"แก้วตาขวัญใจ" มาขับร้อง ตามด้วยเพลงภาษาฝรั่งเศส "La Vie En Rose" หรือ "ชีวิตฉันโรยด้วยกลีบกุหลาบ" หลังจากนั้นวงดนตรีเพื่อชีวิต"แฮมเมอร์" ขั้นร้องเพลง"แม่" และเพลงเทิดพระเกียรติ "แม่ของแผ่นดิน"
คนกรุงร่วมทำบุญตักบาตร
สำหรับกิจกรรมตั้งแต่ช่วงเช้าวานนี้ เริ่มที่ กทม.เวลา 07.00 น.นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) นำข้าราชการ พ่อค้าและประชาชนร่วมบุญตักบาตรพระสงฆ์จำนวน 577 รูป และถวายภัตตาหารเช้าแด่พระสมณศักดิ์ 10 รูป เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ 12 สิงหาคม ซึ่ง กทม.ร่วมกับมูลนิธิ 5 ธันวามหาราช องค์กรภาครัฐและเอกชน จัดงานขึ้น ณ ท้องสนามหลวงโดยมีนักเรียนกรมศิลปากร 177 คน ร่วมสวดสดุดีทำนองสรภัญญะเฉลิมพระเกียรติ
นายอภิรักษ์ กล่าวว่า กทม.จะเร่งปฏิบัติภารกิจเพื่อสนองพระราชดำรัสของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เช่น การฟื้นฟูสภาพแวดล้อมให้กลับคืนสู่สภาพเดิมเหมือนเช่นในอดีต โดยเฉพาะที่พระองค์ทรงเป็นห่วงเรื่องของป่าไม้ที่ถูกทำลาย การฟื้นสภาพแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ถือเป็นแม่น้ำสายหลักของชาติ และการธำรงรักษาไว้ ซึ่งประวัติศาสตร์ของชาติไทย โดย กทม.จะทำการบรรจุหลักสูตรเกี่ยวกับประวัติศาสตร์สำหรับการเรียนการสอนให้กับโรงเรียนในสังกัด กทม.เพื่อให้นักเรียนได้ซึมซับและรับรู้ความเป็นมาของตนเองตั้งแต่โบราณ
หลังจากทำบุญตักบาตรแล้วนายอภิรักษ์ ได้ไปร่วมงานฉลองครอบรอบ 1 ปี โครงการ“รักษ์เจ้าพระยา”โดยนายอภิรักษ์ และประชาชนที่ร่วมงานร่วมกันปล่อยปลา 99,999 ตัวลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณสวนสันติชัยปราการ ทั้งนี้ นายอภิรักษ์ กล่าวว่า หลังจากที่ กทม.รณรงค์รักษาแม่น้ำเจ้าพระยา มีการตรวจวัดคุณภาพน้ำตลอด 24 ชั่วโมง พบว่ามีสารปนเปื้อนในแม่น้ำเจ้าพระยาน้อยลง แต่ กทม.ยังคงต้องเฝ้าระวังในบริเวณที่มีโรงงานอุตสาหกรรมและมีชุมชนหนาแน่นเพื่อปรับปรุงคุณภาพน้ำให้ดีขึ้น
ต่อมานายอภิรักษ์ ได้ไปเป็นประธานเปิดโครงการ “จากหนึ่งถึงสี่ล้านสานฝันเมืองสวย” ณ สวนเบญจกิติ เขตคลองเตย โดยนายอภิรักษ์ ได้ปลูกต้นไม้ต้นที่ 4 ล้านคือ ต้นกันเกรา เพื่อถวายเป็นราชสักการะแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี
ผบ.ทบ.น้อมรับพระราชเสาวนีย์
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.กล่าวว่า สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงเป็นห่วงสถานการณ์ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งประชาชนและเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานอยู่ พระองค์ทรงให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานและประชาชนให้สถานการณ์ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้สงบลงโดยเร็วซึ่งเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายพยายามทุ่มเทในการช่วยกันคลี่คลายให้สถานการณ์ดีขึ้น โดยแนวทางการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่มุ่งปฏิบัติตามแนวทางพระราชทาน คือ เข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา รวมถึงการให้ความร่วมมือของประชาชนในการทำให้สถานการณ์คลี่คลายและเกิดความสงบสุขโดยเร็ว ทั้งนี้ ตั้งอยู่บนพื้นฐานของกฎหมายเป็นหลัก มาตรการดังกล่าวถือว่าเป็นแนวทางที่ดี ทำให้ประชาชนส่วนใหญ่มีความเข้าใจในส่วนราชการและให้ความร่วมมือกับส่วนราชการมากขึ้น ช่วยให้สถานการณ์การก่อการร้ายสามารถคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น
นอกจากนี้สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ทรงชื่นชมกองทัพบกถึงการปฏิบัติงาน ทั้งในเรื่องการทำงานเกี่ยวกับสาธารณะ การอนุรักษ์ป่าและแหล่งน้ำ การปฏิบัติหน้าที่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นสิ่งที่กองทัพบกจะน้อมรับไว้เพื่อนำไปปฏิบัติให้เกิดเป็นรูปธรรม
สนองพระราชเสาวนีย์อนุรักษ์ป่า
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ประธานกรรมการมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัดจัดพิธีทำบุญมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ณ อาคารสำนักงานใหม่ กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ กรุงเทพฯ เพื่อเป็นสิริมงคลแก่อาคารสำนักงานใหม่ประกอบด้วยพิธีสงฆ์ พิธีถวายเรื่องราชสักการะ ถวายราชสดุดี ถวายพระพรชัยมงคลหน้าพระบรมสาทิสลักษณ์ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และปลูกต้นไม้เฉลิมพระเกียรติฯ
พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า มูลนิธิฯจะสนองพระราชเสาวนีย์ในการร่วมกันอนุรักษ์ป่าไม้มีจุดมุ่งหมายให้คนอยู่ร่วมกับป่าและสัตว์ป่าได้ ยอมรับว่า เวลานี้มีการบุกรุกป่ามากโดยเฉพาะป่าใกล้กรุงเทพฯจะพยายามป้องกันอย่างดีที่สุด เพื่อรักษาป่าต้นน้ำลำธารและทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญจะปลุกจิตสำนึกของคนในพื้นที่ให้ช่วยกันดูแลป่าด้วย
ขณะที่ พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ผบ.สส.เป็นประธานในการจัดงานเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่กองบัญชาการกองทัพไทย เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล โดยกิจกรรมที่กองบัญชาการกองทัพไทยจัดขึ้น เช่น การถวายพระพรชัยมงคลและพิธีวางพานพุ่มถวายราชสักการะและถวายราชสดุดีเบื้องหน้าพระบรมสาทิสลักษณ์ฯ
นอกจากนี้ กองทัพไทย ยังได้จัดกิจกรรมโครงการปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ 760 ไร่ มีระยะเวลาดำเนินการระหว่างวันเดือนมิถุนายนด้วย
เชียงใหม่ร่วมจัดกิจกรรมคึกคัก
ส่วนบรรยากาศในจังหวัดต่างๆ ทั่วทุกภาคก็มีการจัดกิจกรรมทางศาสนาเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล และสนองพระราชเสาวนีย์ของพระองค์ท่านเช่นกัน โดยที่ จ.เชียงใหม่ นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้นำพสกนิกรทุกหมู่เหล่าร่วมกิจกรรมในงานพิธีเฉลิมพระเกียรติ 12 สิงหามหาราชินี ประจำปี 2551 เพื่อแสดงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยช่วงเช้าได้มีพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 77 รูปที่ข่วงประตูท่าแพ หลังจากนั้นได้มีพิธีลงนามถวายพระพรชัยมงคลและถวายราชสดุดี ณ หอประชุมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และมีพิธีถวายราชสักการะและจุดเทียนชัยถวายพระพร ณ หอประชุมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ในช่วงค่ำ
ที่ศาลาประชาคม นายปรีชา เรืองจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร นำเหล่าข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน นักเรียน นักศึกษากว่า 1,000 คน ร่วมพิธีตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง แต่พระภิกษุสงฆ์ สามเณร วัดท่าหลวงพระอารามหลวง 77 รูป จากนั้นนายปรีชา ได้ถวายพานพุ่มเงิน พุ่มทอง และกล่าวเทิดพระเกียรติราชสดุดีต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์
ขณะเดียวกันที่ศาลากลางจังหวัดอุตรดิตถ์ นายธวัชชัย ฟักอังกูร ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ พร้อมด้วยส่วนราชการ นักเรียน นักศึกษา พ่อค้าประชาชาชนทุกหมู่เหล่า ทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง แด่พระภิกษุสงฆ์ทรงสมศักดิ์จำนวน 77 รูป เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล ขณะเดียวกันทางจังหวัดได้จัดสถานที่บริเวณศาลาประชาคมจังหวัดเพื่อเปิดโอกาสให้พสกนิกร ร่วมลงนามถวายพระพร โดยมีประชาชนทยอยเดินทางมาร่วมลงนามอย่างต่อเนื่อง
ชาวอีสานทำบุญถวายพระราชกุศล
ที่บริเวณหน้าลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา ข้าราชการ และประชาชนชาวโคราชกว่า 500 คนร่วมกันทำพิธีตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง แก่พระสงฆ์จาก 5 วัดในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา 99 รูป เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล แด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ด้วยความสำนึกในพระราชกรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อปวงชนชาวไทยตลอดมา โดยข้าวสารอาหารแห้งที่ได้จากการตักบาตรครั้งนี้ ส่วนหนึ่งจะนำไปบริจาคให้แก่สถานสงเคราะห์คนพิการในจังหวัดนครราชสีมา เพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายของทางสถานสงเคราะห์อีกทางหนึ่ง
ส่วนที่ลานน้ำพุ ริมบึงแก่นนคร อ.เมือง จ.ขอนแก่น นายเจตน์ ธนวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดฯเป็นประธานทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 177 รูป เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล ท่ามกลางสายฝนโปรยปรายลงมาอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับนายสันทัด จัตุชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ได้นำพสกนิกรทุกหมู่เหล่าร่วม 10,000 คน พร้อมใจกันแต่งกายด้วยชุดขาวนำข้าวสารอาหารแห้งมาร่วมทำบุญตักบาตรพระภิกษุสามเณร 1,200 รูปที่บริเวณถนนหน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัด โดยจะนำข้าวสารอาหารแห้ง และสิ่งของ ที่ได้รับจากการทำบุญตักบาตรในครั้งนี้ไปช่วยเหลือพระสงฆ์ 266 วัดและข้าราชการทหาร ตำรวจ ครูที่ปฏิบัติหน้าที่ใน 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้
ขณะที่เด็กนักเรียนกว่า 500 คนที่ จ.กาฬสินธุ์ ร่วมกันปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติฯ สนองพระราชดำรัสสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่บริเวณหนองหลวง บ้านโคกกลาง อ.ท่าคันโท
กองทัพเรือปล่อยเต่าลงทะเล
ด้าน พล.ร.ท.สุพจน์ พฤกษา ผู้บัญชาการกองเรือภาคที่ 3 พร้อมข้าราชการ และประชาชนในพื้นที่ ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต ร่วมพิธีถวายพระพรชัยมงคล และปล่อยพันธุ์เต่าทะเล อายุประมาณ 4-8 เดือน 477 ตัว ทั้งเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล แด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถและเพื่อเพิ่มจำนวนประชากรเต่าทะเลที่ใกล้จะสูญพันธุ์ให้มากขึ้น
ส่วนที่ค่ายวิภาวดีรังสิต จังหวัดทหารบกสุราษฎร์ธานี ทหารร่วมกับแม่บ้านและลูกหลานข้าราชการทหารพร้อมใจกันปลูกต้นไม้ในพื้นที่ว่างบริเวณศูนย์เรียนรู้ตามโครงการพลิกผืนป่าด้วยพระบารมี
ส่วนที่ จ.ตรัง ที่บริเวณลานหน้าศาลากลางจังหวัดตรัง หลังเก่า นายอานนท์ มนัสวานิช ผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธานในการทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 78 รูป เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล โดยมีนางจรูญศรี มนัสวานิช นายกเหล่ากาชาดจังหวัดฯ หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ ตำรวจ ทหาร พนักงานรัฐวิสาหกิจ นักเรียน นักศึกษา ผู้นำชุมชน ลูกเสือชาวบ้าน กลุ่มพลังมวลชน พ่อค้า ประชาชนชาวจังหวัดตรัง ต่างพร้อมใจสวมใสเสื้อสีฟ้ามาร่วมทำบุญตักบาตรกว่า 1,000 คน
ที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดสงขลา นายสนธิ เตชานันท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดฯ เป็นประธานพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ ถวายเป็นพระราชกุศล โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ ตำรวจ ทหาร พ่อค้า ประชาชน นำอาหารคาวหวาน ข้าวสารอาหารแห้ง มาร่วมในพิธีทำบุญตักบาตรอย่างคับคั่ง เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่มีต่อพระองค์ท่าน
นราฯทำบุญวันแม่-จนท.ดูแลเข้ม
ที่ จ.นราธิวาส บริเวณสวนกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ อ.เมืองนราธิวาส นายการัณย์ ศุภกิจวิเลขการ ผู้ว่าราชการจังหวัดฯ ได้นำหัวหน้าส่วนราชการ พ่อค้า และประชาชนกว่า 500 คนร่วมทำบุญตักบาตรเนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ โดยผู้ว่าราชการจังหวัดฯ ได้ร่วมจุดเทียนบูชาพระรัตนตรัย ก่อนที่พระสงฆ์จะให้ศีลและถวายพระพร
นอกจากนี้ ทางจังหวัดฯ ยังได้จัดพิธีถวายพระพรชัยมงคลที่บริเวณพลับพลาเฉลิมพระเกียรติครองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี ริมแม่น้ำบางนรา อ.เมืองนราธิวาส เพื่อให้เหล่าข้าราชการและประชาชนในพื้นที่ได้ร่วมลงนามถวายพระพร และร่วมกล่าวสดุดีเฉลิมพระเกียรติถวายพระเกียรติถวายพระพรชัยมงคล
ส่วนด้านการดูแลความปลอดภัยตั้งแต่ช่วงเช้ามีการดูแลความปลอดภัยรอบๆ บริเวณสวนกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์อย่างแน่นหนา ทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร อีกทั้งมีการตั้งจุดตรวจลอยคอยตรวจตราบุคคลที่เข้าออกในตัวเมือง รวมถึงมีการจัดชุดออกลาดตระเวนเป็นระยะเพื่อที่จะดูแลความปลอดภัย โดยเฉพาะในช่วงค่ำซึ่งจะมีพิธีจุดเทียนถวายพระพรด้วย
มุสลิมยะลาสวดดุอาร์ถวายพระพร
ส่วนที่สำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดยะลา นายธีระ มินทราศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา พร้อมด้วยคณะรองผู้ว่าราชการจังหวัดฯ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดฯ หัวหน้าส่วนราชการ ตลอดจนหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ นักเรียน นักศึกษา และประชาชนที่นับถือศาสนาอิสลาม โต๊ะครู โต๊ะอิหม่าม ผู้นำศาสนากว่า 1,000 คน ร่วมกันทำพิธีสวดดุอาร์ถวายพระพร เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหามหาราชินี
ส่วนที่มัสยิดกลางอำเภอเบตง จ.ยะลา นายนพดล สองเมือง นายอำเภอเบตง เป็นประธานกล่าวนำถวายพระพรชัยมงคลเนื่องในงานมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหา โดยมีคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดยะลา สาขาเบตง บรรดาอิหม่าม ผู้นำศาสนา ข้าราชการ นักเรียน และประชาชนชาวไทยที่นับถือศาสนาอิสลามกว่า 150 คน พร้อมใจกันร่วมขอดูอาร์ถวายพระพรแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ซึ่งการรวมตัวชุมนุมของพี่น้องมุสลิมในครั้งนี้เพื่อแสดงความจงรักภักดีในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหา ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถที่ทรงมีต่อประชาชนชาวไทย
นายซัมซูเด็ง มะมิง ประธานชมรมครูโรงเรียนตาดีกา อ.เบตง กล่าวว่า ตนและครอบครัวและพี่น้องชาวมุสลิมทุกคนต่างมีความรู้สึกซาบซึ้ง ที่ได้เกิดมาบนผืนแผ่นดินไทยที่มีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงครองราชย์เป็นทั้งพ่อและแม่ของปวงชนชาวไทย เราฐานะเป็นลูกของแผ่นดิน ก็ควรทำความดี หันหน้าเข้าหากันร่วมกันพัฒนาประเทศให้มีความสงบสุข เพื่อถวายแด่พ่อและแม่ของแผ่นดิน
ปัตตานีจัดพิธีสดุดีเฉลิมพระเกียรติฯ
ด้านนายภาณุ อุทัยรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี พร้อมพสกนิกรชาว จ.ปัตตานี ได้ร่วมพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 77 รูปเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่บริเวณลานศิลปวัฒนธรรม ฝั่งตรงข้ามศาลากลางจังหวัดปัตตานี นอกจากนี้ได้มอบโคแก่เกษตรกรตามโครงการธนาคารโค-กระบือเพื่อเกษตรกรรมตามพระราชดำริและพิธีมอบเกียรติบัตร ให้แก่หมู่บ้าน ชุมชนปลอดพืชกระท่อม เพื่อแก้ปัญหายาเสพติดถวายเป็นพระราชกุศลด้วย
ส่วนที่สำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี ได้จัดกิจกรรมชาวไทยมุสลิม เฉลิมพระเกียรติ และถวายพระพร เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหา ซึ่งเป็นกิจกรรมสำคัญจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อให้ชาวไทยมุสลิมได้ร่วมแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ กิจกรรมสำคัญเช่นการบรรยายพิเศษเรื่อง “บทบาทของแม่ในหลักการและทัศนะของอิสลาม” และการจัดพิธีกล่าวสดุดีเฉลิมพระเกียรติฯ 12 สิงหา มหาราชินี
แม่พิมพ์ใต้ลั่นสู้เพื่อแม่ของแผ่นดิน
นายสงวน อินทรักษ์ ประธานสมาพันครูจังหวัดนราธิวาส เปิดเผยว่า วันนี้สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์สร้างศูนย์ครูหรือหมู่บ้านครู และพระราชทานความช่วยเหลือด้านความปลอดภัยโดยให้ทหารที่ปลดเกณฑ์ ให้เขามาเป็นผู้อารักขาซึ่งเป็นขวัญกำลังใจ ที่ทำให้เพื่อนครูในจังหวัดชายแดนภาคใต้สามารถทำหน้าที่ตามปณิธานและอุมการณ์ของแม่พิมพ์ ได้อย่างเต็มที่ เรายังมีกำลังใจและขวัญที่ดีในการปฏิบัติหน้าที่อยู่ได้เพราะบารมีของแม่แห่งแผ่นดิน และชีวิตนี้ขอน้อมถวายเพื่อพระองค์ท่านจนกว่าจะหาไม่โดยเฉพาะขอยืนหยัดทำหน้าที่ครูในพื้นที่นี้ให้ดีที่สุด
นายประสิทธิ์ เมฆสุวรรณ ที่ปรึกษาสมาพันธ์ครู 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวว่า ครูทุกคนต่างซาบซึ้งในน้ำพระทัยของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่พระองค์ทรงห่วงใยชีวิต และความเป็นอยู่ของครูในพื้นที่อย่างใกล้ชิดนับตั้งแต่เกิดความไม่สงบ จึงขอทำหน้าที่ครูให้ดีที่สุดเพื่อให้สมกับความช่วยเหลือ ที่ได้รับพระราชทานมาโดยตลอด และทุกครั้งที่เกิดปัญหาพระองค์ท่านทรงโอบอุ้มครูชายแดนภาคใต้ทุกคน ชีวิตที่เหลือจากนี้จะขออุทิศและทำหน้าที่ให้เต็มความสามารถ เพื่อทดแทนพระคุณแม่ของแผ่นดิน
