xs
xsm
sm
md
lg

จำคุก"สมุนแม้ว"รื้อเวที พธม. แฉเกมผุด“ระบอบสมัคร”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน/ภูมิภาค - กรรมติดจรวด ศาลมหาสารคามพิพากษาจำคุก 2 โจ๋ถ่อยลิ่วล้อ ส.ส.พรรคพลังประชาชนที่รับจ้างวานป่วนรื้อเวทีพันธมิตรฯ ไม่รอลงอาญาคนละ 6 เดือน ด้านวิปรัฐบาลเดินหน้ายื่นแก้ รธน.หลัง 18 ส.ค. เชื่อทันสมัยประชุมนี้ ด้าน “ปชป.”ค้านระบุหากไม่แก้พร้อมกันทั้งฉบับเกิดปัญหาแน่ พันธมิตรฯ เตือนรัฐบาลเตรียมรับมือสุญญากาศ จับตา “หมัก” เร่งหาเงินจากเมกะโปรเจกต์สร้างระบอบตัวเอง

จากกรณีที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจังหวัดมหาสารคาม ได้ตั้งเวทีใหญ่เมื่อวันที่ 23 กรกฏาคม 2551 ที่บริเวณตลาดไนท์บาร์ซา หน้าโรงเรียนอนุบาลมหาสารคาม ซึ่งขณะกำลังตั้งเวทีและเครื่องเสียงอยู่นั้น ได้มีกลุ่มต่อต้านพันธมิตรฯ บุกเข้ารื้อเวทีทำให้ทรัพย์สินได้รับความเสียหายและมีการขว้างปาวัตถุสิ่งของและก้อนหินตลอดจนยิงหนังสติ๊กใส่กลุ่มผู้ชุมนุมจนทำให้เกิดการบาดเจ็บขึ้นตามที่เป็นข่าวไปแล้วนั้น

ต่อมา รศ.ดร.สุทธิพงศ์ หกสุวรรณ ประธานสมาพันธ์นักวิชาการเพื่อประชาธิปไตย ในฐานะผู้รับผิดชอบเวทีและเครื่องเสียงของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจังหวัดมหาสารคามได้เข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ท.สมเดช วรรณพฤกษ์ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองมหาสารคาม เพื่อเรียกร้องค่าเสียหายที่เวทีถูกทำลายจำนวน 10,000 บาท

กระทั่งได้มีกลุ่มวัยรุ่นที่ลงมือรื้อเวทีได้เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในเวลาต่อมาจำนวน 6 คน ซึ่งเป็นกลุ่มวัยรุ่นที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการสอบสวนและส่งสำนวนให้กับทางอัยการจังหวัดมหาสารคามเพื่อส่งฟ้องศาลต่อไปแล้ว ซึ่งทางศาลจังหวัดมหาสารคามได้นัดสืบเสาะและได้นัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 20 สิงหาคม 2551

อย่างไรก็ตาม ต่อมาเมื่อวันที่ 5 ส.ค. ได้มีผู้ต้องหาในคดีร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ได้เข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองมหาสารคาม อีกจำนวน 2 คน คือ นายธงชัย ตะติยะสุนทร อายุ 20 ปี บ้านเลขที่ 43 ม.7 ต. มะค่า อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม และนายพิชิต ช่างยันต์ อายุ 37 ปี บ้านเลขที่ 211 ม.1 ต.มะค่า อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม

โดย พ.ต.ท.ณรงค์ฤทธิ์ สุริยะ รองผกก.(สส.) สภ.มหาสารคาม หัวหน้าพนักงานสอบสวน ได้ทำการสอบสวนแล้วและได้ส่งไปยังพนักงานอัยการจังหวัดมหาสารคาม เพื่อฟ้องต่อศาลจังหวัดมหาสารคาม ซึ่งล่าสุดศาลจังหวัดมหาสารคาม ได้มีคำพิพากษาจำคุกผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ๆ ละ 6 เดือน โดยไม่รอลงอาญา

วิปรัฐบาลเดินหน้าแก้ รธน.18 ส.ค.

นายสามารถ แก้วมีชัย ประธานวิปรัฐบาล กล่าวก่อนการประชุมวิปรัฐบาลว่า รัฐบาลจะเสนอร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ หลังวันที่ 18 ส.ค. หลังจากที่ คณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาปัญหาการบังคับใช้เพื่อแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550 พิจารณาเสร็จ ซึ่งจะสามารถแก้ไขได้ภายใน สมัยประชุมรัฐสภานี้แน่นอน เพราะจะแก้เฉพาะในประเด็นที่ความคิดเห็นตกผลึก ไม่มีปัญหาไปก่อน แต่ประเด็นไหนมีปัญหาต้องศึกษาต่อก็ผ่านไปก่อนหากรอแก้ไขทั้งฉบับก็คงไม่ได้แก้ไข แต่นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ประธานวิปฝ่ายค้าน เห็นว่าควรแก้ไปพร้อมๆ กันหากเป็นเช่นนั้นปัญหาง่ายๆ ก็จะพลอยติดไปด้วย ฉะนั้นเมื่อรัฐธรรมนูญไม่ได้ห้ามว่าให้ยื่นแก้ไขได้กี่ครั้งเราก็คิดว่าส่วนไหนง่ายเข้าใจกันแล้วก็ให้แก้ไปก่อน

สำหรับ รัฐธรรมนูญ มาตรา 63 เกี่ยวกับสิทธิการชุมนุมที่นายกรัฐมนตรีผลักดันให้แก้ไขนั้น นายสามารถ กล่าวว่า วิปรัฐบาลยังไม่ได้มีการพูดกัน และเป็นความบังเอิญที่นายกรัฐมนตรีพูดเรื่องนี้แล้วสอดคล้องกับจังหวะที่นายจุมพฏ บุญใหญ่ ส.ส.สกลนคร พรรคพลังประชาชน ยื่นร่างพ.ร.บ.จัดระเบียบการชุมนุมในที่สาธารณะพอดี ซึ่งวิปรัฐบาลยังไม่เห็นรายละเอียด ดังนั้นในวันที่ 6 ส.ค.เชิญนายจุมพฏ มาชี้แจง

วิปฝ่ายค้านต้านเร่งแก้ รธน.

ด้านนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องทำเป็นระบบ เพราะรัฐธรรมนูญไม่ใช่เรื่องของนักการเมืองเท่านั้น แต่กระทบทั้งสังคม เพราะหากแก้เรื่องใดเรื่องหนึ่งจะกระทบกับหมวดอื่นๆของรัฐธรรมนูญทั้งหมด การเสนอแก้เป็นสองขยักอย่างที่วิปรัฐบาลจะทำจะสร้างปัญหามากกว่าที่จะแก้ทั้งฉบับ ซึ่งฝ่ายค้านพูดชัดเจนว่า ถ้าต้องแก้ก็เห็นด้วย แต่ควรจะรอผลการศึกษาของคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษารัฐธรรมนูญฯก่อนก็จะเห็นชัดว่าประเด็นใดบ้างที่ควรแก้ไข และเกี่ยวพันกับมาตราใดบ้างก็จะเกิดความรอบคอบมากกว่า

แฉแอบแก้โทษหวังฟัน พธม.

นายสาทิตย์ กล่าวว่า เนื้อหาในร่างพ.ร.บ.จัดระเบียบการชุมนุมฯที่ ส.ส.พรรคพลังประชาชนเสนอเข้าสภาขัดต่อรัฐธรรมนูญ 2550 เชื่อว่าการเสนอกฎหมายฉบับนี้เข้ามาเพื่อจัดการกับกลุ่มพันธมิตรฯ และกลุ่มต่างๆ ที่อยู่ตรงข้ามกับรัฐบาล

"เมื่อวันที่ 30 พ.ค.นายจุมพฏ บุญใหญ่ ส.ส.สกลนคร พรรคพลังประชาชน ผู้ซึ่งเสนอร่างพ.ร.บ.จัดระเบียบการชุมนุมฯ ได้เสนอร่างแก้ไขบทลงโทษทางอาญาเพิ่มเติม ในมาตรา 112 ที่ระบุว่า ผู้ใดหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือ ผู้สำเร็จราชการแทน ต้องระวางโทษจำคุก 3 ปี ถึง 5 ปี โดยเพิ่มในมาตรา 112/1 ว่า ผู้ใดรู้ว่ามีการกระทำผิดตามมาตรา 112 ไม่นำความเข้าแจ้งต่อพนักงานสอบสวน แต่กลับนำความไปกล่าวหรือไขข่าวแพร่หลลายต่อธารกำนัลหรือประชาชนว่ามีการกระทำผิดเช่นนั้นเกิดขึ้นเพื่อหวังผลการเมือง โดยประการที่น่าจะทำให้ผู้อื่นนั้นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง ต้องระวางโทษดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา 112 นั้น ตนเห็นว่า การเขียนกฎหมายดังกล่าวอาจจะทำให้เกิดปัญหา และมีจุดมุ่งหมายเพื่อไปจัดการกรณีที่ ผู้ที่กล่าวหาคนในรัฐบาลว่ามีพฤติกรรมหมิ่นพระบรมฯ ก่อนหน้านี้คือ นายจักรภพ เพ็ญแข"

นายสาทิตย์ กล่าวว่า ตนไม่แน่ใจว่าร่างกฎหมายนี้ผ่านมติพรรคพลังประชาชน หรือไม่ ถ้าผ่านแปลว่ารัฐบาลได้ใช้อำนาจของตัวเองเพื่อออกกฎหมายเอาผิดคนที่ไม่เห็นด้วย ซึ่งขัดต่อหลักนิติธรรมในการปกครองแบบนิติรัฐ เรื่องนี้สอดรับกระแสข่าวที่จะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญในหมวดพระมหากษัตริย์

เดินหน้า กม.คุมม็อบทำขัดแย้ง

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่เอาด้วยกับร่าง พ.ร.บ.จัดระเบียบการชุมนุมฯแน่นอน เพราะการชุมนุมถือเป็น สิทธิเบื้องต้นของประชาชน ซึ่งในสังคมโลกทุกประเทศก็เปิดพื้นที่ให้ประชาชนชุมนุม
 
"ถ้าไม่ให้ชุมนุมที่ถนนก็ไม่ทราบว่าจะชุมนุมที่ไหน และคุณสมัคร สุนทรเวช ก็บอกเองว่า รัฐบาลจะยอมถอยและไม่สร้างความขัดแย้งเอง ดังนั้นอย่าดีแต่ปาก หากรัฐบาลยังเดินหน้าก็จะถือว่าเป็นการสร้างความขัดแย้งเพิ่มขึ้น ซึ่งถือว่าขัดกับโครงการ 116 จากวันแม่ถึงวันพ่อที่ต้องการสร้างความสมานฉันท์ให้เกิดขึ้นภายในชาติ รัฐบาลต้องไม่เอาเรื่องที่สร้างความขัดแย้งเข้าสู่สภา"
 
"จุรินทร์"ชี้ต้องขยายเวลา

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า กรณีที่นายสามารถ แก้วมีชัย ประธานวิปรัฐบาล ยืนยันจะยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญ หลังวันที่ 18 ส.ค.โดยไม่รอผลการศึกษาของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯนั้น ตนในฐานะกรรมาธิการฯชุดดังกล่าว ไม่รู้สึกแปลกใจ เพราะเป็นทราบกันดีว่า เป้าหมายของรัฐบาลคือเร่งรัดแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะแก้มาตราที่เกี่ยวข้องกับคดีการทุจริตสมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร โดยตั้งกรรมาธิการฯขึ้นเพื่อลดกระแสการแก้รัฐธรรมนูญเพื่อตนเองเท่านั้น

“ผมเห็นว่าเบื้องต้นควรจะขยายเวลาการศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญออกไปอีก 30 วัน เนื่องจากคณะอนุกรรมาธิการชุดที่ 3 ซึ่งศึกษาในหมวดที่ 3 เรื่องที่เกี่ยวกับรัฐมนตรี รัฐสภา และศาล ยังศึกษาไม่เสร็จ เพราะต้องพิจารณาเป็นรายมาตรา นอกจากนี้ยังต้องฟังความเห็นจากผู้ที่เกี่ยวข้องด้วย”

แฉระบอบสมัครใกล้เกิด  

นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวถึงกรณีที่ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ระบุว่า มีกระบวนการเตรียมร่างรัฐธรรมนูญไว้แล้ว หากมีการยึดอำนาจภายใน 3 วัน 7 วัน ว่า เราไม่เห็นด้วยกับการทำรัฐประหาร ฉีกรัฐธรรมนูญ แต่วันนี้ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี กลับมาพูดถึงเรื่องรัฐบาลแห่งชาติ ทั้งนี้ น่าจะมีการถกเถียงกัน เพราะไม่มีอะไรรับประกัน ว่า หากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดรัฐบาลชุดนี้ กรณีปราสาทเขาพระวิหาร ซึ่งอาจจะทำให้เกิดสุญญากาศขึ้นได้”

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า จุดเริ่มต้นรัฐบาลแห่งชาติเป็นอย่างไร นายสุริยะใส กล่าวว่า หากมีสุญญากาศเกิดขึ้น เช่น ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดของรัฐบาล ทำให้ต้องยุติการทำหน้าที่ และพรรคพลังประชาชนไม่สามารถหาตัวแทนมาแทนนายสมัครได้ ซึ่งจะทำให้อาจจะต้องมีการงดใช้รัฐธรรมนูญบางมาตรา เพื่อเปิดให้คนนอกมาเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่ง พล.อ.ชวลิต ก็เหมือนรู้เกมจึงออกมาเสนอเรื่องรัฐบาลแห่งชาติ

การที่รัฐบาลยังคงลากสถานการณ์ไว้แบบนี้ ก็เผื่อหวังผลช่วย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รวมทั้งรอจัดโผโยกย้ายนายทหาร ซึ่งภายในเดือน ส.ค.ก็จะจบ ซึ่งไม่รู้ว่าสุดท้ายแล้ว เกมนี้เพื่อทักษิณ หรือสถาปนาระบอบสมัคร เพราะมีข่าวทั้งเรื่องการเรียกค่าหัวคิว หรือการเตรียมเมกะโปรเจกต์ต่างๆ เพื่อหาทุนไว้จัดตั้งพรรคใหม่ ดังนั้น การที่ นายสมัคร บอกว่า จะอยู่ 4 ปี และก็กลับมาอีก 4 ปี อาจจะไม่ใช่เรื่องตลกอีกแล้ว เห็นได้จากสถานีโทรทัศน์ NBT วันนี้ ก็หันมากอดนายสมัคร และ ทิ้ง พ.ต.ท.ทักษิณ แล้ว

นอกจากนี้ ตนยังทราบข่าวมาว่า มีการหาที่ทำการพรรคใหม่มาอีกแล้ว ซึ่งเป็นตึก 14 ชั้น แถวถนนพระราม 4 นอกจากนี้ ยังทราบมาอีกว่า ที่ภาคอีสานมีการพูดกันมากว่ามีการพยายามจะออกพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) นิรโทษกรรม 111 อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ทิ้งเอาไว้ จากนั้นก็จะยุบสภาหนี เพราะขณะนี้คนของระบอบทักษิณ เรียกว่า หมดหน้าตักแล้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น