ผู้จัดการรายวัน - อธิบดีกรมบังคับคดีระบุ ปัญหาความไม่สงบ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ หนุนให้ยอดการจำหน่ายทรัพย์จังหวัดใกล้เคียงขยับสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เหตุประชาชนตัดสินใจย้ายที่อยู่อาศัยหนีความเดือนร้อน เผยเฉพาะสงขลาสัดส่วนการย้ายเข้าตั้งรกรากใหม่สูงถึง 60% ด้านสำนักงานบังคับคดีจ.ตรัง ยอดจำหน่ายทรัพย์ 3 ไตรมาสแรกปีงบประมาณ 51 สูงถึง 473 ล้านบาท จากเป้าหมาย 442 ล้านบาท
นายสิรวัต จันทรัฐ อธิบดีกรมบังคับคดี เปิดเผยถึงการขยายตัวของตลาดที่อยู่อาศัยและการซื้อขายทรัพย์ทางภาคใต้ว่า จากเหตุการณ์ความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้ส่งผลให้ประชาชนในจังหวัดปัตตานี , ยะลา และนราธิวาส ได้เคลื่อนย้ายการอยู่อาศัยมายังจังหวัดข้างเคียงเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะจังหวัดสงขลา มีสัดส่วนการย้ายเข้ามาตั้งรกรากใหม่สูงถึง50-60% ของจำนวนประชาการที่มีการย้ายถิ่นที่อยู่อาศัย รองลงมาคือจังหวัดตรัง มีสัดส่วนการย้ายเข้ามา 10-15% ส่วนที่เหลือจะกระจายไปยังจังหวัดอื่นๆ เช่น กระบี่ พังงา เป็นต้น
" จากการย้านถิ่นฐานดังกล่าว ส่งผลให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดใกล้เคียง มีอัตราการขยายตัวเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะในอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ที่มีอัตราการขยายตัวสูงที่สุด นอกจากนี้ จำนวนการเข้าประมูลทรัพย์กับสำนักงานบังคับคดีจังหวัดตรัง ยังได้รับอิทธิพลจากการย้ายถิ่นฐานของประชาชน3จังหวัดชายแดนภาคใต้ ส่งผลให้มีประชาชนเข้ามาประมูลซื้อทรัพย์ที่นำออกมาขายทอดตลาดเพิ่มขึ้นต่อเนื่องด้วย "นายสิรวัตกล่าว
ปัจจุบันสำนักงานบังคับคดีจ.ตรัง มียอดคดีที่ต้องรับผิดชอบจำนวน 725 คดี คิดเป็นมูลค่า 1,700 ล้านบาท โดยในปีงบประมาณ 2551 (ต.ค.50-ก.ย.51) ทางสำนักงานฯได้รับเป้าหมายจากส่วนกลางในการผลักดันทรัพย์ออกไปอยู่ที่ 442 ล้านบาท โดยในช่วง 3 ไตรมาสของปีงบประมาณ51 สามารถจำหน่ายทรัพย์ออกไปได้แล้ว 473 ล้านบาท ส่งผลให้อัตราการเติบโตของยอดจำหน่ายทรัพย์ตลอดปีงบประมาณจะขยายตัวกว่า 106% เมื่อเทียบกับปีงบประมาณที่ผ่านมา
สำหรับเป้าหมายรวมของการจำหน่ายทรัพย์ของกรมบังคับคดีในปีงบประมาณ 51 อยู่ที่ 1.1 แสนล้านบาท โดยปัจจุบันผลักดันทรัพย์ออกไปได้แล้ว 87,000 ล้านบาท คาดว่าตลอดปีงบประมาณจะสามารถทำได้ตามเป้าหมาย
นายสิรวัต จันทรัฐ อธิบดีกรมบังคับคดี เปิดเผยถึงการขยายตัวของตลาดที่อยู่อาศัยและการซื้อขายทรัพย์ทางภาคใต้ว่า จากเหตุการณ์ความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้ส่งผลให้ประชาชนในจังหวัดปัตตานี , ยะลา และนราธิวาส ได้เคลื่อนย้ายการอยู่อาศัยมายังจังหวัดข้างเคียงเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะจังหวัดสงขลา มีสัดส่วนการย้ายเข้ามาตั้งรกรากใหม่สูงถึง50-60% ของจำนวนประชาการที่มีการย้ายถิ่นที่อยู่อาศัย รองลงมาคือจังหวัดตรัง มีสัดส่วนการย้ายเข้ามา 10-15% ส่วนที่เหลือจะกระจายไปยังจังหวัดอื่นๆ เช่น กระบี่ พังงา เป็นต้น
" จากการย้านถิ่นฐานดังกล่าว ส่งผลให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดใกล้เคียง มีอัตราการขยายตัวเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะในอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ที่มีอัตราการขยายตัวสูงที่สุด นอกจากนี้ จำนวนการเข้าประมูลทรัพย์กับสำนักงานบังคับคดีจังหวัดตรัง ยังได้รับอิทธิพลจากการย้ายถิ่นฐานของประชาชน3จังหวัดชายแดนภาคใต้ ส่งผลให้มีประชาชนเข้ามาประมูลซื้อทรัพย์ที่นำออกมาขายทอดตลาดเพิ่มขึ้นต่อเนื่องด้วย "นายสิรวัตกล่าว
ปัจจุบันสำนักงานบังคับคดีจ.ตรัง มียอดคดีที่ต้องรับผิดชอบจำนวน 725 คดี คิดเป็นมูลค่า 1,700 ล้านบาท โดยในปีงบประมาณ 2551 (ต.ค.50-ก.ย.51) ทางสำนักงานฯได้รับเป้าหมายจากส่วนกลางในการผลักดันทรัพย์ออกไปอยู่ที่ 442 ล้านบาท โดยในช่วง 3 ไตรมาสของปีงบประมาณ51 สามารถจำหน่ายทรัพย์ออกไปได้แล้ว 473 ล้านบาท ส่งผลให้อัตราการเติบโตของยอดจำหน่ายทรัพย์ตลอดปีงบประมาณจะขยายตัวกว่า 106% เมื่อเทียบกับปีงบประมาณที่ผ่านมา
สำหรับเป้าหมายรวมของการจำหน่ายทรัพย์ของกรมบังคับคดีในปีงบประมาณ 51 อยู่ที่ 1.1 แสนล้านบาท โดยปัจจุบันผลักดันทรัพย์ออกไปได้แล้ว 87,000 ล้านบาท คาดว่าตลอดปีงบประมาณจะสามารถทำได้ตามเป้าหมาย