คณะกรรมการนโยบายทีวีไทย ทีวีสาธารณะ ร้อนวิชา ผุดโครงการใหญ่ หาฐานทัพใหม่ ภายใต้งบ 3,000 ล้านบาท ที่ต้องประหยัดให้ได้ในวาระ 4 ปี หลังเจอเหตุสัญญาเช่าพื้นที่จะหมดลงในปลายปีนี้ เผยนโยบายเร่งด่วน อีกข้อ ค้นหาผู้อำนวยการคนใหม่ สานต่อนโยบายคณะกรรมการชุดถาวร มุ่งการทำงานภายใต้กรอบ 4 ข้อ
ศาตราจารย์ เกริกเกียรติ พิพัฒน์เสรีธรรม ประธานกรรมการนโยบายองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะ หรือ ทีวีไทย ทีวีสาธารณะ เปิดเผยว่า หลังจากที่มีการประกาศรายชื่อคณะกรรมการถาวร 9 ท่านในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 1 ส.ค.ที่ผ่านมา และวานนี้(5ส.ค.)ถือเป็นการทำงานวันแรก ซึ่งได้มีการประชุมวางกรอบการทำงาน และปรึกษาหารือในเรื่องต่างๆ
ทางคณะกรรมการ 9 ท่าน มองว่า องค์การแห่งนี้เป็นทีวีสาธารณะที่ต้องมีการทำงานนำเสนอข้อมูลข่าวสารเที่ยงตรง เป็นกลาง และเป็นธรรม ภายใต้กรอบการทำงาน 4 ข้อ คือ 1.อิสระ 2.รับผิดชอบต่อสังคม 3.ทำงานอย่างมืออาชีพ 4.ยึดเอาความถูกต้อง มุ่งผลประโยชน์ของสาธารณะเป็นหลัก ภายใต้หลักการทำงานธรรมาภิบาลและตรวจสอบการทำงานได้
ส่วนภาระกิจเร่งด่วน คือ 1.หาสถานที่การทำงานใหม่ เนื่องจากพบว่าในเดือนพ.ย.นี้จะหมดสัญญาเช่าพื้นที่ที่ตึกชินวัตร 3 ซึ่งทางคณะกรรมการถาวรฯ มองว่าควรจะมีสถานที่การทำงานให้สมศักด์ศรีของความเป็นทีวีสาธารณะ จึงได้เกิดโครงการที่จะหาสถานที่ตั้งของทีวีสาธารณะขึ้น โดยจะต้องทำให้ได้ ในวาระการทำงาน 4 ปีหลังจากนี้ โดยประเมินว่าใช้งบกว่า 3,000 บาท ทั้งการซื้อที่ดิน การก่อสร้างและการจัดซื้ออุปกรณ์เพิ่ม จากปัจจุบันอุปกรณ์ที่ส่งต่อจากทีไอทีวีเดิมสามารถใช้งาน 60%
งบที่จะนำมาใช้มาจากงบประมาณที่ทางทีวีสาธารณะได้มาจากภาษีเหล้าและบุหรี่ ที่จัดสรรงบให้มาปีละ 2,000 บาท ซึ่งทางองค์การจะต้องประหยัดให้ได้ปีละ 300-500 ล้านบาท จึงจะสามารถลงทุนหาสถานที่ทำงานแห่งใหม่ได้ จากปัจจุบันสถานีโทรทัศน์ทีวีไทย ทีวีสาธารณะ มีรายได้เดือนละ 150 ล้านบาท หรือเฉลี่ยปีละ 1,800 ล้านบาท เป็นรายได้ทรงตัวในแต่ละปี เพราะไม่สามารถหารายได้เพิ่มจากโฆษณาได้ โดยมีพนักงานรวมกว่า 900 ราย
2.การสรรหาผู้อำนวยการสถานีคนใหม่ ในระยะ 120 วัน หลังจากที่คณะกรรมการถาวร 9 ท่านเข้ามาทำงาน โดยวานนี้(5 ส.ค.) ได้ประชุม เพื่อหาข้อสรุปในการวางกฎ กติกา กรอบ คุณสมบัติ และระยะเวลาการเปิดรับสมัครผู้อำนวยการคนใหม่ และ3.การวางกฎเกณฑ์และแนวทางต่างๆในการทำงานในทุกระดับตั้งแต่ระดับผู้บริหารลงมา รวมถึงการวางยุทธศาสตร์ขององค์การว่าจะไปในทิศทางใด
"ก่อนหน้านี้นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวว่า ทีวีสาธารณะได้งบจากรัฐบาลปีละ 2,000 ล้านบาท มาใช้พัฒนาองค์การ ขอชี้แจงว่า งบดังกล่าวมาจากภาษีของประชาชน ไม่ใช่จากรัฐบาลโดยตรง ซึ่งถือเป็นความเข้าใจที่ผิดของผู้มีอำนาจ ในเรื่องการทำงานขององค์การทีวีสาธารณะที่ไม่ถูกต้อง แต่หากประชาชนเข้าใจ ก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว"
สำหรับเรื่องสภาผู้ชม จะมีข้อสรุปอีกครั้งถึงรูปแบบ และทางองค์การยังจะมีการจัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมา เพื่อดูแลรับฟังเรื่องร้องทุกข์จากประชาชน
ทั้งนี้สิ่งที่คณะกรรมการชุดชั่วคราวทำแล้วดีจะมีการสานต่อ เช่น สัญจรรับฟังความคิดเห็น แต่คงไม่ได้เจาะลึกเท่าชุดชั่วคราว ส่วนแผนที่ทีวีสาธารณะจะทำต่อไปจะยังคงเดินหน้าอยู่ อาทิ เรื่องของคลื่นวิทยุ หรือ ทีวีดิจิตอล ซึ่งยังต้องรอให้กฎหมายเกิดขึ้นก่อน
เพิ่มเวลาข่าว -ทำสถานีข่าว 3 จังหวัดภาคใต้
นายเทพชัย หย่อง รักษาการผู้อำนวยการ สถานีโทรทัศน์ ไทยพีบีเอส หรือ ทีวีไทย ทีวีสาธารณะ กล่าวว่า ทางสถานีฯได้มีการปรับผังเวลาข่าวเพิ่ม 30 นาทีในช่วงข่าวดึกจากเดิม 23.00-24.00น. เป็น 23.30-24.30น.แทน โดยจะเป็นนำไฮไลท์ข่าวที่สำคัญของวัน มานำเสนอเพิ่มอีกครั้ง ซึ่งเป็นแผนที่วางไว้อยู่แล้ว ไม่เกี่ยวข้องกับการที่ฟรีทีวีบางช่องมีการปรับผังรายการข่าวในระยะนี้
นอกจากนี้ทางสถานีฯ มีแผนที่จะทำรายการโทรทัศน์ 3 จ.ชายแดนภาคใต้โดยเฉพาะ โดยอีก 2 เดือนเริ่มออกอากาศ รูปแบบรายการจะเป็นลักษณะรายการข่าวที่มีภาษาท้องถิ่นประกอบผ่านสถานีข่าวภูมิภาค โดยทางเทคนิค อาจจะเป็นการออกอากาศเฉพาะ 3 จ.ชายแดนภาคใต้
สำหรับรายชื่อของคณะกรรมการถาวรฯทั้ง 9 ท่าน ประกอบด้วย 1.ศาตราจารย์ เกริกเกียรติ พิพัฒน์เสรีธรรม ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการถาวรฯ 2.นายแพทย์ พลเดช ปิ่นประทีป 3.นายกมล กมลตระกูล 4.นายจอน อึ้งภากรณ์ 5.นายสมชัย สุวรรณบรรณ 6.นางสาวอรศรี งามวิทยาพงศ์ 7.นางจินตนา พันธุ์ฟัก 8.นางมัทนา หอมลออ และ9.นางเอื้อจิต วิโรจน์ไตรรัตน์
ศาตราจารย์ เกริกเกียรติ พิพัฒน์เสรีธรรม ประธานกรรมการนโยบายองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะ หรือ ทีวีไทย ทีวีสาธารณะ เปิดเผยว่า หลังจากที่มีการประกาศรายชื่อคณะกรรมการถาวร 9 ท่านในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 1 ส.ค.ที่ผ่านมา และวานนี้(5ส.ค.)ถือเป็นการทำงานวันแรก ซึ่งได้มีการประชุมวางกรอบการทำงาน และปรึกษาหารือในเรื่องต่างๆ
ทางคณะกรรมการ 9 ท่าน มองว่า องค์การแห่งนี้เป็นทีวีสาธารณะที่ต้องมีการทำงานนำเสนอข้อมูลข่าวสารเที่ยงตรง เป็นกลาง และเป็นธรรม ภายใต้กรอบการทำงาน 4 ข้อ คือ 1.อิสระ 2.รับผิดชอบต่อสังคม 3.ทำงานอย่างมืออาชีพ 4.ยึดเอาความถูกต้อง มุ่งผลประโยชน์ของสาธารณะเป็นหลัก ภายใต้หลักการทำงานธรรมาภิบาลและตรวจสอบการทำงานได้
ส่วนภาระกิจเร่งด่วน คือ 1.หาสถานที่การทำงานใหม่ เนื่องจากพบว่าในเดือนพ.ย.นี้จะหมดสัญญาเช่าพื้นที่ที่ตึกชินวัตร 3 ซึ่งทางคณะกรรมการถาวรฯ มองว่าควรจะมีสถานที่การทำงานให้สมศักด์ศรีของความเป็นทีวีสาธารณะ จึงได้เกิดโครงการที่จะหาสถานที่ตั้งของทีวีสาธารณะขึ้น โดยจะต้องทำให้ได้ ในวาระการทำงาน 4 ปีหลังจากนี้ โดยประเมินว่าใช้งบกว่า 3,000 บาท ทั้งการซื้อที่ดิน การก่อสร้างและการจัดซื้ออุปกรณ์เพิ่ม จากปัจจุบันอุปกรณ์ที่ส่งต่อจากทีไอทีวีเดิมสามารถใช้งาน 60%
งบที่จะนำมาใช้มาจากงบประมาณที่ทางทีวีสาธารณะได้มาจากภาษีเหล้าและบุหรี่ ที่จัดสรรงบให้มาปีละ 2,000 บาท ซึ่งทางองค์การจะต้องประหยัดให้ได้ปีละ 300-500 ล้านบาท จึงจะสามารถลงทุนหาสถานที่ทำงานแห่งใหม่ได้ จากปัจจุบันสถานีโทรทัศน์ทีวีไทย ทีวีสาธารณะ มีรายได้เดือนละ 150 ล้านบาท หรือเฉลี่ยปีละ 1,800 ล้านบาท เป็นรายได้ทรงตัวในแต่ละปี เพราะไม่สามารถหารายได้เพิ่มจากโฆษณาได้ โดยมีพนักงานรวมกว่า 900 ราย
2.การสรรหาผู้อำนวยการสถานีคนใหม่ ในระยะ 120 วัน หลังจากที่คณะกรรมการถาวร 9 ท่านเข้ามาทำงาน โดยวานนี้(5 ส.ค.) ได้ประชุม เพื่อหาข้อสรุปในการวางกฎ กติกา กรอบ คุณสมบัติ และระยะเวลาการเปิดรับสมัครผู้อำนวยการคนใหม่ และ3.การวางกฎเกณฑ์และแนวทางต่างๆในการทำงานในทุกระดับตั้งแต่ระดับผู้บริหารลงมา รวมถึงการวางยุทธศาสตร์ขององค์การว่าจะไปในทิศทางใด
"ก่อนหน้านี้นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวว่า ทีวีสาธารณะได้งบจากรัฐบาลปีละ 2,000 ล้านบาท มาใช้พัฒนาองค์การ ขอชี้แจงว่า งบดังกล่าวมาจากภาษีของประชาชน ไม่ใช่จากรัฐบาลโดยตรง ซึ่งถือเป็นความเข้าใจที่ผิดของผู้มีอำนาจ ในเรื่องการทำงานขององค์การทีวีสาธารณะที่ไม่ถูกต้อง แต่หากประชาชนเข้าใจ ก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว"
สำหรับเรื่องสภาผู้ชม จะมีข้อสรุปอีกครั้งถึงรูปแบบ และทางองค์การยังจะมีการจัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมา เพื่อดูแลรับฟังเรื่องร้องทุกข์จากประชาชน
ทั้งนี้สิ่งที่คณะกรรมการชุดชั่วคราวทำแล้วดีจะมีการสานต่อ เช่น สัญจรรับฟังความคิดเห็น แต่คงไม่ได้เจาะลึกเท่าชุดชั่วคราว ส่วนแผนที่ทีวีสาธารณะจะทำต่อไปจะยังคงเดินหน้าอยู่ อาทิ เรื่องของคลื่นวิทยุ หรือ ทีวีดิจิตอล ซึ่งยังต้องรอให้กฎหมายเกิดขึ้นก่อน
เพิ่มเวลาข่าว -ทำสถานีข่าว 3 จังหวัดภาคใต้
นายเทพชัย หย่อง รักษาการผู้อำนวยการ สถานีโทรทัศน์ ไทยพีบีเอส หรือ ทีวีไทย ทีวีสาธารณะ กล่าวว่า ทางสถานีฯได้มีการปรับผังเวลาข่าวเพิ่ม 30 นาทีในช่วงข่าวดึกจากเดิม 23.00-24.00น. เป็น 23.30-24.30น.แทน โดยจะเป็นนำไฮไลท์ข่าวที่สำคัญของวัน มานำเสนอเพิ่มอีกครั้ง ซึ่งเป็นแผนที่วางไว้อยู่แล้ว ไม่เกี่ยวข้องกับการที่ฟรีทีวีบางช่องมีการปรับผังรายการข่าวในระยะนี้
นอกจากนี้ทางสถานีฯ มีแผนที่จะทำรายการโทรทัศน์ 3 จ.ชายแดนภาคใต้โดยเฉพาะ โดยอีก 2 เดือนเริ่มออกอากาศ รูปแบบรายการจะเป็นลักษณะรายการข่าวที่มีภาษาท้องถิ่นประกอบผ่านสถานีข่าวภูมิภาค โดยทางเทคนิค อาจจะเป็นการออกอากาศเฉพาะ 3 จ.ชายแดนภาคใต้
สำหรับรายชื่อของคณะกรรมการถาวรฯทั้ง 9 ท่าน ประกอบด้วย 1.ศาตราจารย์ เกริกเกียรติ พิพัฒน์เสรีธรรม ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการถาวรฯ 2.นายแพทย์ พลเดช ปิ่นประทีป 3.นายกมล กมลตระกูล 4.นายจอน อึ้งภากรณ์ 5.นายสมชัย สุวรรณบรรณ 6.นางสาวอรศรี งามวิทยาพงศ์ 7.นางจินตนา พันธุ์ฟัก 8.นางมัทนา หอมลออ และ9.นางเอื้อจิต วิโรจน์ไตรรัตน์