ลำปาง/รายงาน
“ถนนคนเดิน ตางคนเตียว” หรือ J-STREET หน้าห้างเสรีสรรพสินค้าลำปาง 1 ในจังหวัดภาคเหนือที่ถือเป็นฐานเสียงสำคัญของพรรคไทยรักไทยในอดีต และพรรคพลังประชาชนในปัจจุบันแบบยกชุดนั้น ปกติทุกวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ จะมีประชาชนนำสินค้าชุมชนมาวางจำหน่าย รวมถึงถนนทุกสายในบริเวณกาดกองต้า
แต่ ณ วันนี้ ถนนสายดังกล่าว กลายเป็นถนนพันธมิตรฯไปอย่างไม่น่าเชื่อ
…….
หลังจากที่แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นำโดย พล.ต.ท.สมเกียรติ พ่วงทรัพย์ ที่คนทั่วประเทศรู้จักในนาม “มือปราบตี๋ใหญ่” ได้ร่วมกับแกนนำคนอื่นๆ ซึ่งมีทั้งนักธุรกิจ ข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ และประชาชนทั่วไป ได้ร่วมกันตั้งเวทีพันธมิตรฯขึ้นครั้งแรก เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.2551 หรือกว่า 1 เดือนที่ผ่านมา
โดยเวทีพันธมิตรฯลำปาง จะเปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 18.00-22.00 น. ในวันธรรมดาคือวันจันทร์-ศุกร์ และ วันอาทิตย์ เวทีแห่งนี้นอกจากจะมีการฉายโปรเจกเตอร์เพื่อให้ประชาชนได้ชมการถ่ายทอดสดผ่าน ASTV แล้ว ที่นี่จะกลายเป็นเวทีเล็กๆ ในการแลกเปลี่ยนความรู้สึก–ความคิดเห็นทางการเมือง และถ่ายทอดประสบการณ์ของขาประจำ ซึ่งจะมีประมาณ 20-30 คน
ส่วนในวันเสาร์ จะมีผู้มาร่วมชุมนุมมากเป็นพิเศษ เฉลี่ยมากกว่า 2,000 คน เนื่องจากจะมีแกนนำหลัก-ศิลปินจากส่วนกลางมาให้ความรู้และความบันเทิง ด้วย
พล.ต.ท.สมเกียรติ พ่วงทรัพย์ ประธานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยภาคเหนือตอนบน กล่าวว่า ไม่น่าเชื่อว่าเวทีพันธมิตรฯที่ลำปาง จะตั้งอยู่ได้นานขนาดนี้ เพราะทุกครั้งที่ผ่านมาตั้งได้เพียงไม่กี่วันก็ต้องล้มเลิก เนื่องจากมีปัจจัยหลายๆอย่าง ทั้งเรื่องงบประมาณ บุคลากรที่จะทุ่มเทในการทำงานด้วยความเสียสละอย่างแท้จริง แต่ครั้งนี้ทุกคนที่เข้ามาร่วมมีอุดมการณ์เดียวกันได้ทุ่มเทกันมากจนทำให้เวทีของเราตั้งอยู่ได้นาน
นอกจากนี้ ยังมีการคิดกันต่อไปด้วยว่า หากการชุมนุมพันธมิตรฯส่วนกลาง ยุติลง ทางแกนนำลำปางก็อยากให้เวทีแห่งมี อยู่ตลอดไปเพื่อเป็นเวทีสาธารณะแลกเปลี่ยน รับเรื่อง ประสานงาน ให้ความรู้ เกี่ยวกับเรื่องทางการเมืองและเรื่องอื่นๆ ซึ่งก็จะเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมอย่างแท้จริง
“ป้าต้อย” หรือนางทิพาพรรณ์ นิลรัตน์ ณ อยุธยา คุณป้าวัย 57 ปี ขาประจำ ซึ่งมานั่งชมการถ่ายทอดสดเป็นประจำทุกวัน กล่าวว่า การที่แกนนำได้ถ่ายทอดสดการชุมนุมของพันธมิตรฯส่วนกลาง ผ่าน ASTV เป็นเรื่องที่ดี โดยจากการมานั่งชมทุกวัน ทำให้ได้ความรู้ ได้รับทราบข้อมูล ข่าวสาร ต่างๆ ที่สื่ออื่นๆไม่ได้นำเสนอมากขึ้น ได้พบกับเพื่อนๆที่มีแนวคิดแบบเดียวกัน
“ลึก ๆ ในใจ เมื่อทราบข้อมูลต่างๆแล้วรู้สึกห่วงในหลวง ซึ่งเป็นที่รักและเทิดทูนของประชาชนทุกคน”
โดยทุกคืนวันเสาร์ผู้ที่มาร่วมชุมนุม ณ เวทีพันธมิตรฯจะได้เห็นภาพของสาวน้อยน่ารักวัย 9 ขวบ ชื่อน้องผึ้ง หรือ ด.ญ.ภูริ ชญา ที่จะขึ้นไปร้องเพลงโชว์พลังเสียงที่แสนจะไพเราะขับกล่อมผู้ที่มาร่วมชุมนุม ช่วงเปิดเวทีก่อนที่จะพบกับแกนนำต่างๆ ทำให้ “น้องผึ้ง” กลายเป็นศิลปินประจำบนเวทีพันธมิตรฯลำปางไปแล้ว ทำให้หลายคนเกิดคำถามเช่นกันว่า สาวน้อยคนนี้เป็นใคร ทำไมถึงได้กล้าขึ้นเวทีพันธมิตรฯ
“น้องผึ้ง” หรือ “เด็กหญิงภูริชญา ยิ้มพงษ์ ” (น้องผึ้ง ตีสิบ) อายุ 9 ขวบ บุตรสาวของคุณพ่อภูมินทร์ ยิ้มพงษ์ ปัจจุบันทำงานอยู่กองเดินเครื่อง1 แผนกเดินเครื่อง 1/4 กฟผ.แม่เมาะ คุณแม่นภาพรรณ ยิ้มพงษ์ ปัจจุบันน้องผึ้งเรียนอยู่ที่โรงเรียนอนุบาลลำปาง ชั้น ป.4/4 ผลการเรียนจัดอยู่ในระดับดี ได้รับทุนการศึกษาประเภทเรียนดีจาก กฟผ. 3 ปีซ้อน ด้วยความสามารถและพรสวรรค์ บวกกับการสนับสนุนของคุณพ่อและคุณแม่ ที่เห็น “น้องผึ้ง” ชอบร้องเพลงจึงให้การสนับสนุน และส่งเข้าประกวดในเวทีต่างๆ มากมาย
เวทีที่ได้สร้างชื่อเสียงให้แก่ “น้องผึ้ง” มากที่สุดก็คือ เมื่อเข้าประกวดร้องเพลงในรายการตีสิบช่วงดันดารา โดยได้คะแนนเต็มสิบ จาก “ครูอ้วน-มณีนุช เสมรสุต” เมื่อวันที่ 15 พ.ค.50 และได้รับรางวัลเกียรติยศทองคำจากการประกวดร้องเพลงพระราชนิพนธ์ “ลมหนาว” โดยเป็นตัวแทนของจังหวัดลำปาง เมื่อวันที่ 8 ส.ค.50 และได้รับเลือกให้เป็นตัวแทน 17 จังหวัดภาคเหนือจากรายการกรุงเทพฯราตรี ทางช่อง3 ผ่านเข้ารอบ 50 คน จากผู้เข้าแข่งขัน 500 คน เมื่อวันที่ 14 ต.ค.50
จากประสบการณ์ต่างๆ ทำให้ครูเพลง “ผ่องศรี วรนุช” ตั้งชื่อให้ว่า “ภูริชญา” และศิลปินอย่าง “ปาน ประกาศิต” ได้ช่วยแต่งเพลงให้ร้อง จนปัจจุบันน้องผึ้ง มีผลงานอัลบั้มเป็นของตัวเองร่วมกับปาน ประกาศิต ออกสู่สายตาประชาชนแล้วเป็นอัลบั้มแรก โดยใช้ชื่ออัลบั้มว่า “ความฝันของหนู” ซึ่งเพลงในอัลบั้มชุดนี้จะมีหลากหลายอารมณ์ คือมีทั้งความน่ารักแบบเด็กๆ เช่น เพลงแบ่งให้หนูหน่อย รวมถึงเพลงที่มีกลิ่นอายแบบเหนือๆ เช่น บ่าได้ขี้จุ๊ และคิดถึงพี่สาว
คำถามที่ว่า ทำไม “น้องผึ้ง” ถึงได้มาขึ้นเวทีพันธมิตรฯ ซึ่งเป็นคำถามที่ตอบยาก หากไปถามกับคนที่มีใจไม่เต็มร้อย
แต่สำหรับ “น้องผึ้ง” เมื่อได้ฟังคำถามก็ได้ตอบทันทีว่า อยากมาให้กำลังใจพ่อ แม่ พี่น้อง คุณตา คุณยายที่มาร่วมชุมนุมกันทุกวัน ซึ่งตนเองแม้จะเป็นเด็กทำอะไรไม่ได้มากก็ขอร้องเพลงเป็นกำลังใจแทน
เมื่อมาฟังการปราศรัยทุกครั้งแล้วอยากบอกอะไรถึงรัฐบาลบ้าง
“หนูอยากบอกว่าอยากให้คุณลุงทักษิณ คุณลุงสมัคร รีบออกไปเร็วๆ เพราะคนไทยไม่โง่ให้หลอกได้อีกแล้วค่ะ”
ส่วนร้านค้าที่อยู่บริเวณใกล้เคียงเวทีพันธมิตรฯลำปาง เช่น ร้านขายนมสด ร้านขายผัดไทย อาหารตามสั่งและร้านอื่นๆอีกหลายร้าน วันนี้ต่างพากันใช้ “เสื้อกู้ชาติและเสื้อพันธมิตรฯ” เป็นยูนิฟอร์มประจำของร้านไปแล้ว
โดยนางศิริรักษ์ พันลา หรือที่คนลำปางรู้จักคือ "เจ๊ไวท์ นมสด" กล่าวว่า ในช่วงแรกๆที่มีการเปิดเวที ก็มีเสียงเข้ามาบ้างว่าทำไมถึงมาเปิดที่นี่ ทำให้การจราจรไม่สะดวก หลายคนกลัวว่าอาจจะทำให้ประชาชนเกิดความแตกแยก แต่ตนเองที่ค้าขายอยู่ ณ ที่แห่งนี้ก็ได้ช่วยอธิบายให้แก่ลูกค้าได้ฟังถึงข้อดีข้อเสีย และในร้านก็ได้เปิด ASTV ให้ลูกค้าได้ชมตลอด บางรายเมื่อชมแล้วก็ต้องกลับมาถามตนว่าจะซื้อจานได้ที่ไหน บางคนที่ไม่มีเงินซื้อจานไม่มีเงินต่อเคเบิลทีวี ก็จะมานั่งชมที่ร้าน ซึ่งตนเองก็อำนวยความสะดวกให้ เพราะเมื่อมานั่งชมก็จะสั่งนม ขนม มารับประทาน ทางร้านก็ได้จำหน่ายสินค้าด้วย
ถามว่า เมื่อเปิดตัวชัดเจนแบบนี้มีผลกระทบใดๆกับการงานหรือไม่
“เจ๊ไวท์ นมสด” บอกว่า เจ๊ ขายนม ขนม ที่โรงเรียนของรัฐในลำปางด้วย ซึ่งแผงในโรงเรียนเด็กๆก็ยังมาใช้บริการเหมือนเดิม ยอดจำหน่ายไม่ได้ตกลงเลย แถมยังมีเพิ่มขึ้นเสียอีก เด็กๆที่เป็นขาประจำของร้านเคยมาบอกเจ๊ เหมือนกันว่า มีอาจารย์มาบอกห้ามไม่ให้เด็กมาซื้อขนมที่ร้านเจ๊ บอกว่าร้านเจ๊เป็นพันธมิตรฯ อย่าไปซื้อ แต่เด็กก็ยังมาซื้อตามปกติ
“เจ๊ ก็คิดเหมือนกันว่า แม้แต่เด็กยังแยกแยะถูกผิดได้ แต่ทำไมอาจารย์ ซึ่งมีวุฒิภาวะสูงกว่าเด็กและเป็นผู้ที่ต้องปลูกฝังสิ่งดีๆให้เด็กกลับไม่สามารถแยกแยะได้ แต่เจ๊ก็ไม่ได้ว่าอะไร เด็กๆที่มาซื้อของๆเราหากมีโอกาสเจ๊ก็จะคอยบอกเล่าความจริงในเรื่องต่างๆให้ฟัง”
เวทีพันธมิตรฯลำปาง ได้เปิดตัวมาตั้งแต่วันที่16 มิ.ย.2551 และได้ดำเนินการติดต่อกันอย่างต่อเนื่อง แต่ในวันนี้เวทีพันธมิตรฯลำปาง ได้หยุดชั่วคราว เพื่อให้ผู้ร่วมอุดมการณ์ไปรวมพลังกันที่กรุงเทพฯ
โดยระหว่างที่เวทีพันธมิตรฯพักยก “ร้านเจ๊ไวท์นมสด” ได้กลายเป็นสถานที่ติดต่อประสานงานของพันธมิตรฯลำปาง โดยสมาชิกสามารถมาซื้อสินค้าต่างๆของพันธมิตรฯได้
ส่วนบรรดาขาประจำก็ยังคงแวะเวียนไปนั่งชม ASTV และนั่งพูดคุยกันในร้านอย่างสม่ำเสมอและคาดว่าหากเหตุการณ์ต่างๆ คลี่คลายแล้วทางแกนนำก็จะได้เปิดเวทีเพื่อเป็นเวทีสาธารณะต่อไป
“ถนนคนเดิน ตางคนเตียว” หรือ J-STREET หน้าห้างเสรีสรรพสินค้าลำปาง 1 ในจังหวัดภาคเหนือที่ถือเป็นฐานเสียงสำคัญของพรรคไทยรักไทยในอดีต และพรรคพลังประชาชนในปัจจุบันแบบยกชุดนั้น ปกติทุกวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ จะมีประชาชนนำสินค้าชุมชนมาวางจำหน่าย รวมถึงถนนทุกสายในบริเวณกาดกองต้า
แต่ ณ วันนี้ ถนนสายดังกล่าว กลายเป็นถนนพันธมิตรฯไปอย่างไม่น่าเชื่อ
…….
หลังจากที่แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นำโดย พล.ต.ท.สมเกียรติ พ่วงทรัพย์ ที่คนทั่วประเทศรู้จักในนาม “มือปราบตี๋ใหญ่” ได้ร่วมกับแกนนำคนอื่นๆ ซึ่งมีทั้งนักธุรกิจ ข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ และประชาชนทั่วไป ได้ร่วมกันตั้งเวทีพันธมิตรฯขึ้นครั้งแรก เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.2551 หรือกว่า 1 เดือนที่ผ่านมา
โดยเวทีพันธมิตรฯลำปาง จะเปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 18.00-22.00 น. ในวันธรรมดาคือวันจันทร์-ศุกร์ และ วันอาทิตย์ เวทีแห่งนี้นอกจากจะมีการฉายโปรเจกเตอร์เพื่อให้ประชาชนได้ชมการถ่ายทอดสดผ่าน ASTV แล้ว ที่นี่จะกลายเป็นเวทีเล็กๆ ในการแลกเปลี่ยนความรู้สึก–ความคิดเห็นทางการเมือง และถ่ายทอดประสบการณ์ของขาประจำ ซึ่งจะมีประมาณ 20-30 คน
ส่วนในวันเสาร์ จะมีผู้มาร่วมชุมนุมมากเป็นพิเศษ เฉลี่ยมากกว่า 2,000 คน เนื่องจากจะมีแกนนำหลัก-ศิลปินจากส่วนกลางมาให้ความรู้และความบันเทิง ด้วย
พล.ต.ท.สมเกียรติ พ่วงทรัพย์ ประธานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยภาคเหนือตอนบน กล่าวว่า ไม่น่าเชื่อว่าเวทีพันธมิตรฯที่ลำปาง จะตั้งอยู่ได้นานขนาดนี้ เพราะทุกครั้งที่ผ่านมาตั้งได้เพียงไม่กี่วันก็ต้องล้มเลิก เนื่องจากมีปัจจัยหลายๆอย่าง ทั้งเรื่องงบประมาณ บุคลากรที่จะทุ่มเทในการทำงานด้วยความเสียสละอย่างแท้จริง แต่ครั้งนี้ทุกคนที่เข้ามาร่วมมีอุดมการณ์เดียวกันได้ทุ่มเทกันมากจนทำให้เวทีของเราตั้งอยู่ได้นาน
นอกจากนี้ ยังมีการคิดกันต่อไปด้วยว่า หากการชุมนุมพันธมิตรฯส่วนกลาง ยุติลง ทางแกนนำลำปางก็อยากให้เวทีแห่งมี อยู่ตลอดไปเพื่อเป็นเวทีสาธารณะแลกเปลี่ยน รับเรื่อง ประสานงาน ให้ความรู้ เกี่ยวกับเรื่องทางการเมืองและเรื่องอื่นๆ ซึ่งก็จะเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมอย่างแท้จริง
“ป้าต้อย” หรือนางทิพาพรรณ์ นิลรัตน์ ณ อยุธยา คุณป้าวัย 57 ปี ขาประจำ ซึ่งมานั่งชมการถ่ายทอดสดเป็นประจำทุกวัน กล่าวว่า การที่แกนนำได้ถ่ายทอดสดการชุมนุมของพันธมิตรฯส่วนกลาง ผ่าน ASTV เป็นเรื่องที่ดี โดยจากการมานั่งชมทุกวัน ทำให้ได้ความรู้ ได้รับทราบข้อมูล ข่าวสาร ต่างๆ ที่สื่ออื่นๆไม่ได้นำเสนอมากขึ้น ได้พบกับเพื่อนๆที่มีแนวคิดแบบเดียวกัน
“ลึก ๆ ในใจ เมื่อทราบข้อมูลต่างๆแล้วรู้สึกห่วงในหลวง ซึ่งเป็นที่รักและเทิดทูนของประชาชนทุกคน”
โดยทุกคืนวันเสาร์ผู้ที่มาร่วมชุมนุม ณ เวทีพันธมิตรฯจะได้เห็นภาพของสาวน้อยน่ารักวัย 9 ขวบ ชื่อน้องผึ้ง หรือ ด.ญ.ภูริ ชญา ที่จะขึ้นไปร้องเพลงโชว์พลังเสียงที่แสนจะไพเราะขับกล่อมผู้ที่มาร่วมชุมนุม ช่วงเปิดเวทีก่อนที่จะพบกับแกนนำต่างๆ ทำให้ “น้องผึ้ง” กลายเป็นศิลปินประจำบนเวทีพันธมิตรฯลำปางไปแล้ว ทำให้หลายคนเกิดคำถามเช่นกันว่า สาวน้อยคนนี้เป็นใคร ทำไมถึงได้กล้าขึ้นเวทีพันธมิตรฯ
“น้องผึ้ง” หรือ “เด็กหญิงภูริชญา ยิ้มพงษ์ ” (น้องผึ้ง ตีสิบ) อายุ 9 ขวบ บุตรสาวของคุณพ่อภูมินทร์ ยิ้มพงษ์ ปัจจุบันทำงานอยู่กองเดินเครื่อง1 แผนกเดินเครื่อง 1/4 กฟผ.แม่เมาะ คุณแม่นภาพรรณ ยิ้มพงษ์ ปัจจุบันน้องผึ้งเรียนอยู่ที่โรงเรียนอนุบาลลำปาง ชั้น ป.4/4 ผลการเรียนจัดอยู่ในระดับดี ได้รับทุนการศึกษาประเภทเรียนดีจาก กฟผ. 3 ปีซ้อน ด้วยความสามารถและพรสวรรค์ บวกกับการสนับสนุนของคุณพ่อและคุณแม่ ที่เห็น “น้องผึ้ง” ชอบร้องเพลงจึงให้การสนับสนุน และส่งเข้าประกวดในเวทีต่างๆ มากมาย
เวทีที่ได้สร้างชื่อเสียงให้แก่ “น้องผึ้ง” มากที่สุดก็คือ เมื่อเข้าประกวดร้องเพลงในรายการตีสิบช่วงดันดารา โดยได้คะแนนเต็มสิบ จาก “ครูอ้วน-มณีนุช เสมรสุต” เมื่อวันที่ 15 พ.ค.50 และได้รับรางวัลเกียรติยศทองคำจากการประกวดร้องเพลงพระราชนิพนธ์ “ลมหนาว” โดยเป็นตัวแทนของจังหวัดลำปาง เมื่อวันที่ 8 ส.ค.50 และได้รับเลือกให้เป็นตัวแทน 17 จังหวัดภาคเหนือจากรายการกรุงเทพฯราตรี ทางช่อง3 ผ่านเข้ารอบ 50 คน จากผู้เข้าแข่งขัน 500 คน เมื่อวันที่ 14 ต.ค.50
จากประสบการณ์ต่างๆ ทำให้ครูเพลง “ผ่องศรี วรนุช” ตั้งชื่อให้ว่า “ภูริชญา” และศิลปินอย่าง “ปาน ประกาศิต” ได้ช่วยแต่งเพลงให้ร้อง จนปัจจุบันน้องผึ้ง มีผลงานอัลบั้มเป็นของตัวเองร่วมกับปาน ประกาศิต ออกสู่สายตาประชาชนแล้วเป็นอัลบั้มแรก โดยใช้ชื่ออัลบั้มว่า “ความฝันของหนู” ซึ่งเพลงในอัลบั้มชุดนี้จะมีหลากหลายอารมณ์ คือมีทั้งความน่ารักแบบเด็กๆ เช่น เพลงแบ่งให้หนูหน่อย รวมถึงเพลงที่มีกลิ่นอายแบบเหนือๆ เช่น บ่าได้ขี้จุ๊ และคิดถึงพี่สาว
คำถามที่ว่า ทำไม “น้องผึ้ง” ถึงได้มาขึ้นเวทีพันธมิตรฯ ซึ่งเป็นคำถามที่ตอบยาก หากไปถามกับคนที่มีใจไม่เต็มร้อย
แต่สำหรับ “น้องผึ้ง” เมื่อได้ฟังคำถามก็ได้ตอบทันทีว่า อยากมาให้กำลังใจพ่อ แม่ พี่น้อง คุณตา คุณยายที่มาร่วมชุมนุมกันทุกวัน ซึ่งตนเองแม้จะเป็นเด็กทำอะไรไม่ได้มากก็ขอร้องเพลงเป็นกำลังใจแทน
เมื่อมาฟังการปราศรัยทุกครั้งแล้วอยากบอกอะไรถึงรัฐบาลบ้าง
“หนูอยากบอกว่าอยากให้คุณลุงทักษิณ คุณลุงสมัคร รีบออกไปเร็วๆ เพราะคนไทยไม่โง่ให้หลอกได้อีกแล้วค่ะ”
ส่วนร้านค้าที่อยู่บริเวณใกล้เคียงเวทีพันธมิตรฯลำปาง เช่น ร้านขายนมสด ร้านขายผัดไทย อาหารตามสั่งและร้านอื่นๆอีกหลายร้าน วันนี้ต่างพากันใช้ “เสื้อกู้ชาติและเสื้อพันธมิตรฯ” เป็นยูนิฟอร์มประจำของร้านไปแล้ว
โดยนางศิริรักษ์ พันลา หรือที่คนลำปางรู้จักคือ "เจ๊ไวท์ นมสด" กล่าวว่า ในช่วงแรกๆที่มีการเปิดเวที ก็มีเสียงเข้ามาบ้างว่าทำไมถึงมาเปิดที่นี่ ทำให้การจราจรไม่สะดวก หลายคนกลัวว่าอาจจะทำให้ประชาชนเกิดความแตกแยก แต่ตนเองที่ค้าขายอยู่ ณ ที่แห่งนี้ก็ได้ช่วยอธิบายให้แก่ลูกค้าได้ฟังถึงข้อดีข้อเสีย และในร้านก็ได้เปิด ASTV ให้ลูกค้าได้ชมตลอด บางรายเมื่อชมแล้วก็ต้องกลับมาถามตนว่าจะซื้อจานได้ที่ไหน บางคนที่ไม่มีเงินซื้อจานไม่มีเงินต่อเคเบิลทีวี ก็จะมานั่งชมที่ร้าน ซึ่งตนเองก็อำนวยความสะดวกให้ เพราะเมื่อมานั่งชมก็จะสั่งนม ขนม มารับประทาน ทางร้านก็ได้จำหน่ายสินค้าด้วย
ถามว่า เมื่อเปิดตัวชัดเจนแบบนี้มีผลกระทบใดๆกับการงานหรือไม่
“เจ๊ไวท์ นมสด” บอกว่า เจ๊ ขายนม ขนม ที่โรงเรียนของรัฐในลำปางด้วย ซึ่งแผงในโรงเรียนเด็กๆก็ยังมาใช้บริการเหมือนเดิม ยอดจำหน่ายไม่ได้ตกลงเลย แถมยังมีเพิ่มขึ้นเสียอีก เด็กๆที่เป็นขาประจำของร้านเคยมาบอกเจ๊ เหมือนกันว่า มีอาจารย์มาบอกห้ามไม่ให้เด็กมาซื้อขนมที่ร้านเจ๊ บอกว่าร้านเจ๊เป็นพันธมิตรฯ อย่าไปซื้อ แต่เด็กก็ยังมาซื้อตามปกติ
“เจ๊ ก็คิดเหมือนกันว่า แม้แต่เด็กยังแยกแยะถูกผิดได้ แต่ทำไมอาจารย์ ซึ่งมีวุฒิภาวะสูงกว่าเด็กและเป็นผู้ที่ต้องปลูกฝังสิ่งดีๆให้เด็กกลับไม่สามารถแยกแยะได้ แต่เจ๊ก็ไม่ได้ว่าอะไร เด็กๆที่มาซื้อของๆเราหากมีโอกาสเจ๊ก็จะคอยบอกเล่าความจริงในเรื่องต่างๆให้ฟัง”
เวทีพันธมิตรฯลำปาง ได้เปิดตัวมาตั้งแต่วันที่16 มิ.ย.2551 และได้ดำเนินการติดต่อกันอย่างต่อเนื่อง แต่ในวันนี้เวทีพันธมิตรฯลำปาง ได้หยุดชั่วคราว เพื่อให้ผู้ร่วมอุดมการณ์ไปรวมพลังกันที่กรุงเทพฯ
โดยระหว่างที่เวทีพันธมิตรฯพักยก “ร้านเจ๊ไวท์นมสด” ได้กลายเป็นสถานที่ติดต่อประสานงานของพันธมิตรฯลำปาง โดยสมาชิกสามารถมาซื้อสินค้าต่างๆของพันธมิตรฯได้
ส่วนบรรดาขาประจำก็ยังคงแวะเวียนไปนั่งชม ASTV และนั่งพูดคุยกันในร้านอย่างสม่ำเสมอและคาดว่าหากเหตุการณ์ต่างๆ คลี่คลายแล้วทางแกนนำก็จะได้เปิดเวทีเพื่อเป็นเวทีสาธารณะต่อไป