นพ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส กล่าวถึง กรณีปราสาทพระวิหารว่า ขณะนี้ประเด็นอยู่ที่ประชาชนมีข้อสงสัยในเรื่องผลประโยชน์ทางธุรกิจของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่ามีการตกลงในเรื่องธุรกิจต่างๆทั้ง น้ำมัน การเช่าเกาะกงเพื่อลงทุน อีกทั้งเกิดข้อสงสัยในรัฐบาลว่า มีส่วนเกี่ยวข้องสนับสนุนส่งเสริม พ.ต.ท.ทักษิณ ให้ได้ประโยชน์เหล่านี้หรือไม่ ทำให้ประชาชนไม่สามารถยอมรับได้ ซึ่งต้องพิสูจน์กันต่อไป
ส่วนอีกประเด็นคือ รัฐบาลจะต้องมีการตั้งคณะทำงานที่มีความเป็นกลาง และมีความรู้จริงๆ มีความชำนาญในเรื่องประวัติศาสตร์ และกฎหมายระหว่างประเทศ มาช่วยกันทำงาน และต่อสู้เพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติ
"ควรใช้สติมากกว่าอารมณ์ แยกแยะให้ออกว่า ต่อสู้กับทักษิณ หรือแก้ปัญหาระหว่างประเทศ อย่างไรก็ตาม ถ้ารัฐบาลทำเรื่องนี้เองคนคงไม่ไว้ใจ เพราะสังคมเคลือบแคลงใจว่าเป็นนอมินีคุณทักษิณ ซึ่งความขัดแย้งสามารถแก้ได้ด้วยการเจรจา ไม่ใช่บึ้งตึงใส่กัน เรื่องนี้สามารถเจรจาได้ ให้ทั้งสองฝ่ายได้รับผลประโยชน์ร่วมกัน และเปิดการท่องเที่ยวให้ชาวบ้านได้รับประโยชน์ อย่าให้เกิดสงครามขึ้น" นพ.ประเวศ กล่าว
ส่วนเรื่องปรับครม.นั้น ประเทศชาติควรจะได้คนดีเข้ามาบริหารงาน แต่ปัจจุบันตำแหน่งรัฐมนตรีเป็นเรื่องของผลประโยชน์จากการลงทุน ใครลงทุนให้พรรคมากก็มีโควตาได้รับสิทธิ์เป็นรัฐมนตรี หรือเป็นสิทธิของบุตร ภรรยา ญาติพี่น้อง ซึ่งเรื่องนี้พรรคพลังประชาชนจะต้องพิจารณาเลือกคนเป็นรัฐมนตรีกระทรวงต่างๆ ให้ดี
"แม้จะเป็นพลังประชาชนแต่หากฟอร์มทีมดี ทำดีได้ ประชาชนจะยกย่อง นิยมเอง แต่น่าแปลกที่ผ่านมาพรรคพลังประชาชน กลับแต่งตั้งคนที่ตั้งท่าไปทะเลาะกับคนอื่นไปทั่ว ถ้าฟอร์มทีมใหม่ดีๆ คนก็จะยกย่องเอง" นพ.ประเวศกล่าว
นายเทพไท เสนพงษ์ ผู้ช่วยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการปรับครม. ที่นายกฯระบุว่าจะปรับในวันที่ 28 ก.ค.นี้ว่าขอเสนอนายกฯคำนึงใน 4 ประเด็นคือ
1. คำนึงถึงผลประโยชน์ชาติ เหนือผลประโยชน์ส่วนบุคคลและนายใหญ่ 2 . คำนึงถึงเอกภาพในความเป็น ครม. เพราะมีความขัดแย้งในระหว่างรัฐมนตรี ระหว่างกระทรวง และภายในกระทรวง 3 .เอาบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถ เหมาะสมกับงาน ไม่ควรใช้ในลักษณะโควต้า กลุ่ม พวกพ้องหรือเด็กฝาก 4 . ปรับรัฐมนตรีที่มีปัญหาในการบริหารงาน และรัฐมนตรีที่ไม่มีผลงาน ออกไป ให้มีหน้าใหม่มาทำงานแทน
"มีข่าวออกมา รมต.บางคนที่ไม่เคยสนใจใยดีสมาชิกพรรค อย่างร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ก็เปิดโรงแรมจัดเลี้ยงหาฐานเสียงให้ตัวเองอยู่ในตำแหน่งต่อไป ก็ไม่รู้ว่าจะทำสำเร็จหรือไม่ แต่ร.ต.อ.เฉลิม ก็ถือเป็นคนพิเศษ เพราะไม่มีฐานเสียงแต่สามารถดำรงตำแหน่ง รมว.มหาดไทยได้ ถือว่าไม่ธรรมดา แต่ถ้าผมมีอำนาจเหมือนนายกรัฐมนตรี ก็จะปรับครม.ทั้งชุดออกจากตำแหน่ง รวมทั้งตัวนายกฯ ด้วย เพราะไม่มีความเหมาะสม" นายเทพไทกล่าว
อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้รัฐบาลต้องฝ่าวิกฤตใหญ่ 2 ด้าน คือ วิกฤตภายในพรรค ที่จะมีการวิ่งเต้นต่อรองตำแหน่ง โดยเฉพาะกลุ่มอีสานเหนือ อีสานใต้ ส่วนวิกฤตภายนอกพรรค ตั้งแต่วันที่ 2 ส.ค.เป็นต้นไป รัฐบาลจะเจอวิกฤตแก้ รธน. เพราะสมาชิกพรรคเดินหน้าแก้รธน.เต็มที่ เพื่อให้เป็นไปตามความต้องการของนายใหญ่ ทั้งที่อนุกรรมการที่ตั้งขึ้นมา 5 ชุด ยังไม่ได้ศึกษา แต่นายกระมล ทองธรรมชาติ ประธานคณะกรรมาธิการศึกษาปัญหารัฐธรรมนูญ 2550 บอกจะสรุปให้ทัน วันที่ 27 ก.ค. ให้สอดรับกับความคิดนายกฯ ที่จะยื่นแก้ไขทันทีเมื่อเปิดสภา เป็นวิกฤตที่รัฐบาลต้องฝ่าให้ได้ในช่วงปัญหาเฉพาะหน้านี้
ทั้งนี้ มีรายงานข่าวว่า ที่กระทรวงมหาดไทย มี ส.ส.พรรคพลังประชาชนประมาณ 20 คน ไปรับประทานอาหารกลางวัน และทยอยเข้าพบร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง อาทิ เชิดชัย วิเชียรวรรณ นายอนุสรณ์ ปั้นทอง นายสากล ม่วงศิริ นายอนันต์ ศรีพันธุ์ นายนัจมุดดีน อูมา น.ส.ปาริชาติ ชาลีเครือ และนายวิเชียร ขาวขำ ซึ่ง ร.ต.อ.เฉลิม อ้างว่า ไม่ได้พยายามตั้งกลุ่มแข่งกับนายเนวิน ชิดชอบ หากจะตั้งกลุ่มก็จะทำเพื่อให้พรรคมีความแข็งแรงขึ้น ไม่ได้ทำเพื่อต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรี นอกจากนี้ พล.ต.ศรชัย มนตริวัต ต้องการให้ตน ดูแล ส.ส.ภาคกลางด้วย
ส่วนอีกประเด็นคือ รัฐบาลจะต้องมีการตั้งคณะทำงานที่มีความเป็นกลาง และมีความรู้จริงๆ มีความชำนาญในเรื่องประวัติศาสตร์ และกฎหมายระหว่างประเทศ มาช่วยกันทำงาน และต่อสู้เพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติ
"ควรใช้สติมากกว่าอารมณ์ แยกแยะให้ออกว่า ต่อสู้กับทักษิณ หรือแก้ปัญหาระหว่างประเทศ อย่างไรก็ตาม ถ้ารัฐบาลทำเรื่องนี้เองคนคงไม่ไว้ใจ เพราะสังคมเคลือบแคลงใจว่าเป็นนอมินีคุณทักษิณ ซึ่งความขัดแย้งสามารถแก้ได้ด้วยการเจรจา ไม่ใช่บึ้งตึงใส่กัน เรื่องนี้สามารถเจรจาได้ ให้ทั้งสองฝ่ายได้รับผลประโยชน์ร่วมกัน และเปิดการท่องเที่ยวให้ชาวบ้านได้รับประโยชน์ อย่าให้เกิดสงครามขึ้น" นพ.ประเวศ กล่าว
ส่วนเรื่องปรับครม.นั้น ประเทศชาติควรจะได้คนดีเข้ามาบริหารงาน แต่ปัจจุบันตำแหน่งรัฐมนตรีเป็นเรื่องของผลประโยชน์จากการลงทุน ใครลงทุนให้พรรคมากก็มีโควตาได้รับสิทธิ์เป็นรัฐมนตรี หรือเป็นสิทธิของบุตร ภรรยา ญาติพี่น้อง ซึ่งเรื่องนี้พรรคพลังประชาชนจะต้องพิจารณาเลือกคนเป็นรัฐมนตรีกระทรวงต่างๆ ให้ดี
"แม้จะเป็นพลังประชาชนแต่หากฟอร์มทีมดี ทำดีได้ ประชาชนจะยกย่อง นิยมเอง แต่น่าแปลกที่ผ่านมาพรรคพลังประชาชน กลับแต่งตั้งคนที่ตั้งท่าไปทะเลาะกับคนอื่นไปทั่ว ถ้าฟอร์มทีมใหม่ดีๆ คนก็จะยกย่องเอง" นพ.ประเวศกล่าว
นายเทพไท เสนพงษ์ ผู้ช่วยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการปรับครม. ที่นายกฯระบุว่าจะปรับในวันที่ 28 ก.ค.นี้ว่าขอเสนอนายกฯคำนึงใน 4 ประเด็นคือ
1. คำนึงถึงผลประโยชน์ชาติ เหนือผลประโยชน์ส่วนบุคคลและนายใหญ่ 2 . คำนึงถึงเอกภาพในความเป็น ครม. เพราะมีความขัดแย้งในระหว่างรัฐมนตรี ระหว่างกระทรวง และภายในกระทรวง 3 .เอาบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถ เหมาะสมกับงาน ไม่ควรใช้ในลักษณะโควต้า กลุ่ม พวกพ้องหรือเด็กฝาก 4 . ปรับรัฐมนตรีที่มีปัญหาในการบริหารงาน และรัฐมนตรีที่ไม่มีผลงาน ออกไป ให้มีหน้าใหม่มาทำงานแทน
"มีข่าวออกมา รมต.บางคนที่ไม่เคยสนใจใยดีสมาชิกพรรค อย่างร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ก็เปิดโรงแรมจัดเลี้ยงหาฐานเสียงให้ตัวเองอยู่ในตำแหน่งต่อไป ก็ไม่รู้ว่าจะทำสำเร็จหรือไม่ แต่ร.ต.อ.เฉลิม ก็ถือเป็นคนพิเศษ เพราะไม่มีฐานเสียงแต่สามารถดำรงตำแหน่ง รมว.มหาดไทยได้ ถือว่าไม่ธรรมดา แต่ถ้าผมมีอำนาจเหมือนนายกรัฐมนตรี ก็จะปรับครม.ทั้งชุดออกจากตำแหน่ง รวมทั้งตัวนายกฯ ด้วย เพราะไม่มีความเหมาะสม" นายเทพไทกล่าว
อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้รัฐบาลต้องฝ่าวิกฤตใหญ่ 2 ด้าน คือ วิกฤตภายในพรรค ที่จะมีการวิ่งเต้นต่อรองตำแหน่ง โดยเฉพาะกลุ่มอีสานเหนือ อีสานใต้ ส่วนวิกฤตภายนอกพรรค ตั้งแต่วันที่ 2 ส.ค.เป็นต้นไป รัฐบาลจะเจอวิกฤตแก้ รธน. เพราะสมาชิกพรรคเดินหน้าแก้รธน.เต็มที่ เพื่อให้เป็นไปตามความต้องการของนายใหญ่ ทั้งที่อนุกรรมการที่ตั้งขึ้นมา 5 ชุด ยังไม่ได้ศึกษา แต่นายกระมล ทองธรรมชาติ ประธานคณะกรรมาธิการศึกษาปัญหารัฐธรรมนูญ 2550 บอกจะสรุปให้ทัน วันที่ 27 ก.ค. ให้สอดรับกับความคิดนายกฯ ที่จะยื่นแก้ไขทันทีเมื่อเปิดสภา เป็นวิกฤตที่รัฐบาลต้องฝ่าให้ได้ในช่วงปัญหาเฉพาะหน้านี้
ทั้งนี้ มีรายงานข่าวว่า ที่กระทรวงมหาดไทย มี ส.ส.พรรคพลังประชาชนประมาณ 20 คน ไปรับประทานอาหารกลางวัน และทยอยเข้าพบร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง อาทิ เชิดชัย วิเชียรวรรณ นายอนุสรณ์ ปั้นทอง นายสากล ม่วงศิริ นายอนันต์ ศรีพันธุ์ นายนัจมุดดีน อูมา น.ส.ปาริชาติ ชาลีเครือ และนายวิเชียร ขาวขำ ซึ่ง ร.ต.อ.เฉลิม อ้างว่า ไม่ได้พยายามตั้งกลุ่มแข่งกับนายเนวิน ชิดชอบ หากจะตั้งกลุ่มก็จะทำเพื่อให้พรรคมีความแข็งแรงขึ้น ไม่ได้ทำเพื่อต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรี นอกจากนี้ พล.ต.ศรชัย มนตริวัต ต้องการให้ตน ดูแล ส.ส.ภาคกลางด้วย