เฟสต้ายกทีมยื่นหนังสือถึง "วีระศักดิ์" และ บอร์ดททท. ช่วยอ้อนคลังงดเก็บ VAT แพกเกจทัวร์ อ้างสถานการณ์ฉุกเฉิน ต้องใส่ยาแรง แก้ปัญหาให้ไว ช่วง 6 เดือนหลัง ระบุยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว ทั้งช่วยเหลือผู้ประกอบการ และกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวคึกคัก เหตุสมาคมโรงแรมไทยส่งสัญญาณร้าย ยอดจองโรงแรมสิ้นปีนี้น้อยจนน่าตกใจ ส่วนครึ่งปีแรกโตเพียง 1%
นายอภิชาติ สังฆอารี นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว(แอตต้า) เปิดเผยว่า ในวันนี้(23 ก.ค.51) สหพันธ์สมาคมท่องเที่ยวไทย หรือเฟสต้า ซึ่งประกอบด้วย 5 สมาคมในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว จะยื่นหนังสือถึงนายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และ นายวันชัย ศารทูลทัต ประธานบอร์ด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เสนอให้เจรจากับกระทรวงการคลัง ให้ยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม(VAT) แพกเกจทัวร์ เพื่อกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวสนใจและซื้อแพกเกจทัวร์เข้ามาท่องเที่ยวในช่วงไฮซีซั่นปีนี้ ซึ่งถือเป็นการกระตุ้นให้เกิดการท่องเที่ยวในระยะสั้น 7 เดือนตั้งแต่ ตุลาคม 2551 ถึงเมษายน 2552
"เราจะขอให้รัฐบาลช่วยลดVAT แก่ผู้ซื้อแพกเกจทัวร์ทุกประเภท ทั้งทัวร์อินบาวนด์ เอาต์บาว และโดเมสติก ซึ่งนอกจากจะทำให้ราคาแพกเกจทัวร์จูงใจนักท่องเที่ยวมากขึ้น ยังได้ช่วยเหลือผู้ประกอบการ ในช่วงที่ธุรกิจกำลังย่ำแย่ในขณะนี้ ซึ่งต่อปีแพกเกจทัวร์สร้างรายได้เข้าประเทศราว 2 แสนล้านบาท แต่สถานการณ์เช่นนี้ กำลังซื้อลดลง เราจึงต้องออกแคมเปญช่วยกระตุ้น ซึ่งวิธีลดVAT น่าจะได้ผลเร็วที่สุด"
นายอภิชาติ กล่าวว่า ปัจจุบัน ผู้ประกอบการท่องเที่ยวกำลังเผชิญกับสภาวะที่น่าเป็นห่วง เพราะ สถานการณ์ราคาน้ำมันได้ส่งผลกระทบกับเศรษฐกิจทั่วโลก ยังปัญหาการเมืองภายในประเทศเข้ามาซ้ำซ้อน ทำให้ทั้งนักท่องเที่ยวต่างชาติ และคนไทย ชะลอถึงหยุดเดินทางท่องเที่ยว จึงต้องการให้รัฐช่วยแบ่งเบาภาระ โดยยอมที่จะสูญเสียรายได้จากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มของธุรกิจนี้ แต่รายได้จากนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาจับจ่ายใช้สอยในประเทศเราจะมากกว่าเป็นหลายเท่า ที่ผ่านมาการจัดเก็บข้อมูลการใช้จ่ายของ ททท. ที่ว่า นักท่องเที่ยวมีการใช้จ่ายประมาณ 4 พันบาทต่อคนต่อวัน นั้นรวมค่าชอปปิ้งด้วย แต่หากรัฐออกแคมเปญลดภาษีมูลค่าเพิ่มนี้ จะเพิ่มแรงจูงใจให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาประเทศไทย เพราะขณะนี้ ทุกระเทศต่างมุ่งหวังที่จะมีรายได้จากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทั้งสิ้น
นอกจากนั้นยังเตรียมเสนอข้อมูลเศรษฐกิจใน 5 ทวีป คือ ยุโรป อเมริกา แอฟริกา ออสเตรเลีย และเอเชีย เพื่อ ททท.จะได้นำไปปรับใช้ในการทำกลยุทธ์ทางการตลาด อีกทั้งต้องการให้ ททท.เน้นทำตลาดระยะใกล้ เนื่องจากสามารถมาได้บ่อยครั้ง และ ตัดสินใจได้รวดเร็ว นักท่องเที่ยวก็เสียค่าใช้จ่ายไม่มาก
ทางด้านนายประกิจ ชินอมรพงษ์ นายกสมาคมโรงแรมไทย กล่าวว่า ไฮซีซั่นปีนี้ มีสัญญาณที่ค่อยดี เพราะยอดจองห้องพักของนักท่องเที่ยวน้อยมากจนน่าเป็นห่วง บางโรงแรมยังไม่มียอดจองเข้ามาเลย ดังนั้นจึงต้องการให้รัฐบาล และ ททท. ออกมาตรการเร่งด่วน มากระตุ้น จะได้ทันเวลา เพราะ 6 เดือนแรกปีนี้ อัตราเข้าพักเฉลี่ย 69% เติบโตจากปีก่อนเพียง 1%
นายเอนก ศรีชีวะชาติ ประธานที่ปรึกษา สมาคมไทยบริการท่องเที่ยว(ทีทีเอเอ) กล่าวว่า ต้องการให้ ททท.และกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ประสานไปยัง การบินไทย ให้ลดหย่อนค่าตั๋ว หรือภาษีน้ำมัน เพื่อเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามา
นายอภิชาติ สังฆอารี นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว(แอตต้า) เปิดเผยว่า ในวันนี้(23 ก.ค.51) สหพันธ์สมาคมท่องเที่ยวไทย หรือเฟสต้า ซึ่งประกอบด้วย 5 สมาคมในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว จะยื่นหนังสือถึงนายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และ นายวันชัย ศารทูลทัต ประธานบอร์ด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เสนอให้เจรจากับกระทรวงการคลัง ให้ยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม(VAT) แพกเกจทัวร์ เพื่อกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวสนใจและซื้อแพกเกจทัวร์เข้ามาท่องเที่ยวในช่วงไฮซีซั่นปีนี้ ซึ่งถือเป็นการกระตุ้นให้เกิดการท่องเที่ยวในระยะสั้น 7 เดือนตั้งแต่ ตุลาคม 2551 ถึงเมษายน 2552
"เราจะขอให้รัฐบาลช่วยลดVAT แก่ผู้ซื้อแพกเกจทัวร์ทุกประเภท ทั้งทัวร์อินบาวนด์ เอาต์บาว และโดเมสติก ซึ่งนอกจากจะทำให้ราคาแพกเกจทัวร์จูงใจนักท่องเที่ยวมากขึ้น ยังได้ช่วยเหลือผู้ประกอบการ ในช่วงที่ธุรกิจกำลังย่ำแย่ในขณะนี้ ซึ่งต่อปีแพกเกจทัวร์สร้างรายได้เข้าประเทศราว 2 แสนล้านบาท แต่สถานการณ์เช่นนี้ กำลังซื้อลดลง เราจึงต้องออกแคมเปญช่วยกระตุ้น ซึ่งวิธีลดVAT น่าจะได้ผลเร็วที่สุด"
นายอภิชาติ กล่าวว่า ปัจจุบัน ผู้ประกอบการท่องเที่ยวกำลังเผชิญกับสภาวะที่น่าเป็นห่วง เพราะ สถานการณ์ราคาน้ำมันได้ส่งผลกระทบกับเศรษฐกิจทั่วโลก ยังปัญหาการเมืองภายในประเทศเข้ามาซ้ำซ้อน ทำให้ทั้งนักท่องเที่ยวต่างชาติ และคนไทย ชะลอถึงหยุดเดินทางท่องเที่ยว จึงต้องการให้รัฐช่วยแบ่งเบาภาระ โดยยอมที่จะสูญเสียรายได้จากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มของธุรกิจนี้ แต่รายได้จากนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาจับจ่ายใช้สอยในประเทศเราจะมากกว่าเป็นหลายเท่า ที่ผ่านมาการจัดเก็บข้อมูลการใช้จ่ายของ ททท. ที่ว่า นักท่องเที่ยวมีการใช้จ่ายประมาณ 4 พันบาทต่อคนต่อวัน นั้นรวมค่าชอปปิ้งด้วย แต่หากรัฐออกแคมเปญลดภาษีมูลค่าเพิ่มนี้ จะเพิ่มแรงจูงใจให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาประเทศไทย เพราะขณะนี้ ทุกระเทศต่างมุ่งหวังที่จะมีรายได้จากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทั้งสิ้น
นอกจากนั้นยังเตรียมเสนอข้อมูลเศรษฐกิจใน 5 ทวีป คือ ยุโรป อเมริกา แอฟริกา ออสเตรเลีย และเอเชีย เพื่อ ททท.จะได้นำไปปรับใช้ในการทำกลยุทธ์ทางการตลาด อีกทั้งต้องการให้ ททท.เน้นทำตลาดระยะใกล้ เนื่องจากสามารถมาได้บ่อยครั้ง และ ตัดสินใจได้รวดเร็ว นักท่องเที่ยวก็เสียค่าใช้จ่ายไม่มาก
ทางด้านนายประกิจ ชินอมรพงษ์ นายกสมาคมโรงแรมไทย กล่าวว่า ไฮซีซั่นปีนี้ มีสัญญาณที่ค่อยดี เพราะยอดจองห้องพักของนักท่องเที่ยวน้อยมากจนน่าเป็นห่วง บางโรงแรมยังไม่มียอดจองเข้ามาเลย ดังนั้นจึงต้องการให้รัฐบาล และ ททท. ออกมาตรการเร่งด่วน มากระตุ้น จะได้ทันเวลา เพราะ 6 เดือนแรกปีนี้ อัตราเข้าพักเฉลี่ย 69% เติบโตจากปีก่อนเพียง 1%
นายเอนก ศรีชีวะชาติ ประธานที่ปรึกษา สมาคมไทยบริการท่องเที่ยว(ทีทีเอเอ) กล่าวว่า ต้องการให้ ททท.และกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ประสานไปยัง การบินไทย ให้ลดหย่อนค่าตั๋ว หรือภาษีน้ำมัน เพื่อเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามา