ศูนย์ข่าวขอนแก่น-“สุวิทย์” ดันนิคมอุตสาหกรรมไอซีที ที่จังหวัดขอนแก่นเต็มสูบ ตั้งเป็นฟรีโซน หนุนการผลิตอุตสาหกรรมไอซีทีเพื่อการส่งออก เบื้องต้นมหาวิทยาลัยขอนแก่นให้พื้นที่ก่อสร้างกว่า 500 ไร่ ทั้งหารือผู้ให้บริการด้านโทรคมนาคม เร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานจังหวัดขอนแก่นให้มีประสิทธิภาพ ทั้งลดค่าบริการลงให้ทัดเทียมกับประเทศที่พัฒนาแล้ว เตรียมหารือทุกฝ่ายจัดทำแผนธุรกิจภายในสัปดาห์หน้า
นายสุวิทย์ คุณกิตติ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า จากที่กระทรวงฯมีนโยบาย ส่งเสริมการลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมไอซีที เพื่อรองรับอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับไมโครอิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูง อุตสาหกรรมเกี่ยวกับเทคโนโลยีสมองกลฝังตัว ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มการเพิ่มมูลค่าเพิ่มขึ้นทุกปี เช่นเดียวกับประเทศอินเดียที่ประสบผลสำเร็จด้านการลงทุนในอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจให้ประเทศอินเดียสูงมาก
สำหรับแผนจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมไอซีที จะใช้พื้นที่จังหวัดขอนแก่นเป็นสถานที่จัดตั้ง เนื่องจากมีความพร้อมหลายด้าน ทั้งกรอบการพัฒนาให้เป็นเมืองนำร่องไอซีที ที่เกิดการพัฒนาด้านไอซีทีมาอย่างต่อเนื่อง ที่สำคัญจังหวัดขอนแก่นและภาคอีสาน มีสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษาผลิตบัณฑิตด้านคอมพิวเตอร์และไอซีที รวมถึงการฝึกอบรมซอฟต์แวร์ที่ผ่านการรับรองมากที่สุดของประเทศ
ส่วนรูปแบบของนิคมอุตสาหกรรมไอซีทีจังหวัดขอนแก่น จะผลักดันให้เป็นฟรีโซน สนับสนุนการลงทุนในอุตสาหกรรมไอซีทีผลิตเพื่อการส่งออก ไม่เสียภาษี เบื้องต้นมหาวิทยาลัยขอนแก่น ให้การสนับสนุนจัดสรรพื้นที่กว่า 500 ไร่ รองรับการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมไอซีที
นายสุวิทย์ กล่าวอีกว่า ล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้หารือกับผู้บริหารบริษัท ทีโอที ,บริษัท ทีทีแอนด์ที ผู้ให้บริการโทรศัพท์พื้นฐาน รวมถึงบริษัทผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตในประเทศ ที่พร้อมให้ความร่วมมือเข้ามาปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานด้านโทรคมนาคมในจังหวัดขอนแก่น ให้มีประสิทธิภาพ และลดค่าบริการอินเทอร์เน็ต ให้เท่าเทียมกับประเทศที่พัฒนาแล้ว รองรับแผนการลงทุนอุตสาหกรรมไอซีที
“ภายในสัปดาห์หน้า จะเชิญทุกส่วนงานที่เกี่ยวข้องกับโครงการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมไอซีที มาร่วมหารือเพื่อร่วมกันกำหนดแผนธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมไอซีทีจังหวัดขอนแก่น ให้เป็นรูปธรรม”นายสุวิทย์กล่าวและว่า
แม้ว่าปัญหาเศรษฐกิจ และปัญหาการเมือง จะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นการลงทุนในประเทศพอสมควร แต่เชื่อมั่นว่าจะสามารถผลักดันเป้าหมายโครงการลงทุนของกระทรวงอุตสาหกรรมให้เดินหน้าตามเป้าหมาย เชื่อว่าวิกฤตเศรษฐกิจ,การเมืองครั้งนี้ จะเป็นโอกาสในการผลักดันโครงการให้สำเร็จผลแน่นอน
