xs
xsm
sm
md
lg

สมัครย้ำสื่อกุข่าวถูกจับปชป.ห่วงปฎิวัติช่วยแม้ว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวแก้ตัวในรายการ สนทนาประชาสมัคร วานนี้ (6 ก.ค.) ถึงกรณีที่ให้สัมภาษณ์ว่าจะถูกควบคุมตัวที่สนามบินสุวรรณภูมิ ระหว่างเดินทางกลับจากการเยื่อนสาธารณรัฐประชาชนจีน และบรูไนจนถูกมองว่าเป็นนายกรัฐมนตรีที่ชอบกุข่าวว่า มีคนบอกว่าได้ข่าวในทำนองว่าจะไปจับกุมตัวที่สนามบินโดยจะไม่ได้ประกันตัว ซึ่งจะไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีอีกต่อไป ตนก็บอกว่านี้เป็นข่าวลือ วันหลังหากจะส่งข่าวลือมาก็ให้แนบเนียนหน่อย
ก็อธิบายความว่าผมไม่เคยได้ยินข่าวนี้หรอก แต่ข้อเท็จจริงคือคดีความผม อยู่ศาลอุทธรณ์ และศาลอุทธรณ์นั้นจะเป็นคนวินิจฉัย ท่านจะอ่านเมื่อไร ท่านต้องแจ้งให้ผมทราบ คือต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า แล้วผมก็ไปฟังคำพิพากษา ฟังคำพิพากษาเสร็จจะลงโทษอย่างไรก็ตามแต่ ต่อไปผมก็ต้องประกันตัว ก็เท่านั้นเอง ถ้าแจ้งมาให้ผมไปฟังคำตัดสินแล้วไม่ไป แก็จ้งมาอีกหนถ้าไม่ไปฟังฟังคำพิพากษาอีก ท่านก็จะออกหมายจับผม และท่านจะอ่านคำพิพากษาลับหลังก็เท่านั้นเอง ผมก็อธิบายว่าถ้าจะเอาข่าวอย่างนี้ออกให้แนบเนียนหน่อย
นายสมัคร กล่าวว่า พอมาถึงกรุงเทพฯ กลายเป็นว่า นายสมัครกุข่าวถูกจับที่สนามบิน ก็ตนไป บน.6 มีคำอธิบายอีกนะ นายสมัครจะหลีกเลี่ยงไม่ลงที่สนามบิน สุวรรณภูมิ ให้มาลง บน. 6 ก็ตนไปเครื่องบินทหารอากาศ ขาออกก็ขึ้นที่ บน.6 ขากลับก็ลงที่ บน. 6 ขาไปผู้บัญชาการทหารอากาศก็มาส่ง ขากลับท่านก็มารับ เหมือนกับว่าตนจะเอาเครื่องบินพาณิชย์ที่จะต้องลงตรงนั้นบังคับให้มาลง บน. 6
มันบ้ากันขนาดนี้ครับ แต่ที่บ้าเกินไปกว่านั้นคือว่า เขาพาดหัวข่าว สมัครกุข่าว อย่างนี้พรรคประชาธิปัตย์ ก็เลยบอกให้ 5 พรรคร่วมรัฐบาลถอนตัว ทำไมละ ภาษาไทยคำว่า กุ แปลว่า คนที่เป็นตัวข่าวเอาออกข่าวมาเอง อย่างนั้นเรียกว่ากุข่าว แต่ถ้าเผื่อว่าหนังสือพิมพ์อยู่ดี ๆ เขียนข่าวขึ้นมาเองเรียกว่า เต๊าสำนวนที่เขาเรียก เต๊าข่าว พอมีอะไรข่าวเขียนขึ้นมาเอง เต๊าข่าว แต่คนที่ถูกเป็นข่าวแล้วอ้างว่าอย่างนั้นเขาเรียก กุข่าว กุก็ใช่ เต๊าก็ใช่ นายสมัคร กล่าว
นายสมัคร กล่าวว่า วันเสาร์เช้า พาดหัว ชัยหักหมัก เรื่องสถานที่ก่อสร้าง อาคารรัฐสภาแห่งใหม่ เหมือนกับว่า ตนอยากจะให้ก่อสร้างอยู่ที่ทางปากเกร็ด แต่นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาฯ ท่านจะให้เอาที่คลองเตย พาดหัวเลย ชัยหักหมัก โอเคเช้าวันเสาร์ ตนนัดกันไว้ล่วงหน้า ตนกลับมาวันเสาร์ก็บอกไหว ไปดูที่ดินคลองเตย เพราะการรถไฟฯเขาจัดการ เนื้อที่ใกล้เคียงกันกับที่ปากเกร็ด ผิดกัน 3 ไร่ เนื้อที่กว้างยาวมาก ลึก และทุกอย่างเจ๋ง อยู่ริมแม่น้ำและอยู่ในกรุงเทพฯ ก็ไปดู ไปดูเมื่อวันเสาร์ พอวันอาทิตย์เช้าบอกอย่างไร รู้ไหม พาดหัวข่าว หมักกินรวบ คือกินรวบที่ก่อสร้างที่ตรงคลองเตย วันเสาร์พาดหัวเลย ชัยหักหมัก พอถึงวันอาทิตย์กลายเป็น หมักกินรวบ
นายสมัคร กล่าวว่า ความจริงทั้งหลายทั้งปวง นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร กำลังดำเนินการเรื่องนี้ จะตัดสินรอบสุดท้าย โดยถามมาว่า นายกฯ จะมาช่วยกันคิดหน่อยได้ไหม ตนบอกความจริงทางท่านเป็นหลัก ทางรัฐบาลเป็นคนให้งบประมาณ เพราะฉะนั้น ท่านจะเอาก็ได้ ถ้าอยากจะดู ท่านบอกเหลือ 2 แห่งสุดท้าย แต่ที่ทางคลองเตย ท่านยังไม่ได้ดู ไปดู ก็ไปดู ตนเป็นคนจัดการหาเรือ ขอเรือกรมเจ้าท่าเอาไปให้ดู ก็ไม่มีอะไร และดูแล้วก็ยังไม่ตกลง ต้องเรียกประชุม สุดท้ายว่าอย่างไร จะเอาเอกสารมาวางแล้วเขาจะตัดสินใจกัน
ออกข่าวกัน หักก็มี กินรวบก็มี หัก สำนวนแปลว่า หักหน้า คืออย่างนี้ก็หักธรรมดา แต่ว่า ชัยหักหมัก แปลว่า เหมือนกับหักหน้านายสมัคร นายสมัครอยากจะได้เมืองนนท์ ประธานชัยฯ ท่านอยากจะได้คลองเคย ก็เลยหัก หักหน้าสมัครทำนองนั้น เขายังไม่ตกลงกันเลย บอก หมักกินรวบ กินรวบน่ะ พวกหวยใต้ดิน เขาเรียกหวยกินรวบ ธรรมดาถ้าบนดินก็กินแบ่ง สลากกินแบ่งหมายความว่า ขายแล้วก็จัดการแบ่งสรรและแบ่งปันกัน สำนวนด่าทอก็เผื่อใครไปได้อะไรมา และเอาไว้คนเดียว พรรคพวกไม่ให้ ไม่แบ่งกันเลย อย่างนั้นเรียกว่า กินรวบ แล้วการสร้างอะไร เขาตกลงเลือกสถานที่กันของหลวงทั้งคู่ ของทหาร ทางนี้ก็ของการรถไฟฯ ใครจะไปกินรวบอะไรได้แค่ไหนอย่างไร ฉะนั้น คนที่เขียน ข้อความอย่างนี้ ต้องมีความคิดว่าจะเขียนถึงใคร เขียนอะไรอย่างไร สักแต่ว่าเขียน ๆ ๆ ๆ เวลาผมว่าเข้าก็ทำฟึดฟัด ๆ โกรธเคืองว่าไปว่าอีกแล้ว และถ้าไม่ว่าก็เล่นกันตามใจชอบอย่างนี้

ปชป.บอกเป็นไปได้รัฐบาลปฎิวัติตัวเอง
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกระแสข่าวรัฐบาลจะปฏิวัตรัฐประหารตัวเองเพราะเกรงว่า จะแพ้คดี ที่อยู่ในชั้นศาลและอาจจจะทำให้เจ้าของพรรคตัวจริงติดคุกว่า กระแสข่าว ที่เกิดขึ้นน่าจะมีความเป็นไปได้ เพราะหลายคดีที่เกี่ยวข้องกับเจ้าของพรรคตัวจริง ขึ้นสู่การพิจารณาของศาล ที่อาจจะมีผลทำให้เจ้าของพรรคตัวจริงติดคุกได้ การปฏิบัติจึงเป็นเหมือนการหาทางออก เพื่อหนีความผิด เพราะขณะนี้ปรากฎหลักฐานชัดเจนหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น กรณีการให้สินบนศาล 2 ล้านบาท ที่ถูกจับได้ และกรณี ของความพยามยามแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่ถูกประชาชนจับได้ไล่ทัน ดังนั้นจึงเป็นความพยายามของผู้ที่เป็นเจ้าของ พรรคตัวจริงต้องการหาทาง หลีกหนีความผิด ดังนั้นการปฏิวัติไม่น่าจะเกิดจากทหารเพียงฝ่ายเดียว
อย่างไรก็ตาม พรรคประชาธิปัตย์ไม่สนับสนุนให้มีการปฏิวัติ และอยากให้ทุกอย่างเป็นไปตามครรลองของระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับสังคมไทย

เชื่อทักษิณยังหนุนหลังพปช.
ด้านนายสาธิต ปิตุเตชะ รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ พรรคพลังประชาชนมีการแบ่งกลุ่มส.ส.ออกเป็น 10 กลุ่ม และให้รัฐมนตรีมาดูแลบริหารจัดการ ส.ส. หลังจากนั้นมีกระแสข่าวการนำส.ส.แต่ละกลุ่มเข้าพบ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยอาจจะมองได้ว่าเป็นการไปเยี่ยมเยียนกันปกติธรรมดา แต่จากการตรวจสอบจากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ทราบว่าพ.ต.ท.ทักษิณได้กำชับกับส.ส. ทุกกลุ่มที่เข้าพบว่าขอให้ดูแลเรื่องกรณีเขาพระวิหารด้วย ซึ่งถ้าเรื่องนี้เป็นความจริง ก็แสดงว่าพ.ต.ท. ทักษิณ โกหก หลอกลวงประชาชน เพราะเคยประกาศว่าจะไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับการเมืองอีกและจะทำธุรกิจเพียงอย่างเดียว แต่สิ่งที่เกิดขึ้นชี้ให้เห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณยังคอยขับเคลื่อนพรรคพลังประชาชนให้เป็นไปตามความต้องการของตัวเอง จึงอยากเรียกร้องให้สังคมได้ช่วยกันจับตาดูพฤติกรรมของพ.ต.ท.ทักษิณที่ยังคงวนเวียนอยู่กับการเมือง ไม่ได้วางมืออย่างที่ประกาศเอาไว้

เหน็บเฉลิมตไม่ทำให้สังคมผิดหวัง
นายสาธิต ยังกล่าวถึงกรณีที่ร.ต.อ. เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทยแต่งตั้งคณะทำงานด้านปราบปรามยาเสพติดว่า เป็นเรื่อง ที่ถูกต้องที่ร.ต.อ.เฉลิม จะหันมาเอาจริงเอาจังกับการแก้ไขปัญหายาเสพติด แต่จากการ ตรวจสอบรายชื่อของคณะทำงานดังกล่าวพบว่าเหมือนเป็นการตอบแทนทางการเมือง เพราะหลายชื่อเป็นพวกพ้อง หรือเป็นเพื่อนของลูกชาย ซึ่งร.ต.อ.เฉลิมเคยประกาศว่า จะไม่เอาลูกชายมาทำงานที่กระทรวง อย่างไรก็ตามพรรคจะคอยติดตามการทำงาน ของคณะทำงานชุดนี้อย่างใกล้ชิด ต่อไป
การที่ร.ต.อ.เฉลิม เคยพูดว่าจะไม่ให้ลูกชายเดินตามหลังและจะไม่ให้เข้ามา ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง แต่กลับกลายเป็นว่า ให้ลูกชายเดินนำหน้าโดยมีเพื่อนพ้องของ ลูกชายเข้ามาอยู่ในคณะทำงานปราบปรามยาเสพติด ซึ่งเรื่องนี้ต้องติดตามกันต่อไปว่าการตั้งคณะทำงานชุดนี้มุ่งหวังทำประโยชน์เพื่อประเทศชาติจริงหรือไม่

โพลชี้คนเบื่อข่าวการเมืองมีแต่ขัดแย้ง
วันเดียวกัน สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ได้สำรวจความเห็น ของประชาชนทั่วประเทศถึงการรับรู้ทั้งการชม การฟัง และการอ่าน ข่าว เพื่อสะท้อนความคิดเห็นและสรุปข้อคิดเกี่ยวกับปัญหาและแนวทางแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม สำรวจประชาชนทั่วประเทศ จำนวน 3,697 คน ระหว่างวันที่ 1-6 กรกฎาคม พบว่าข่าวที่ประชาชนเบื่อหน่าย ไม่อยากรับรู้มากที่สุด ร้อยละ 45.78 คือข่าวการเมือง เพราะเห็นว่ามีแต่เรื่องความขัดแย้ง เล่นเกมการเมืองไม่หยุด รองลงไปร้อยละ 32.38 ข่าวความขัดแย้ง ม็อบประท้วง เพราะเกิดความเครียด ไม่รู้จักจบสิ้น บ้านเมืองวุ่นวาย เศรษฐกิจตกต่ำ ฯลฯ ร้อยละ 21.84 ข่าวอาชญากรรม ปล้น ฆ่าข่มขืน ฆ่าตัวตาย เพราะสลดหดหู่ เกิดความทุกข์ สังคมมีแต่ความโหดร้ายน่ากลัว ฯลฯ
ส่วนข่าวที่ประชาชนอยากติดตาม อยากรับรู้ มากที่สุดร้อยละ 60.35 คือ ข่าวเศรษฐกิจ เพราะอยากรับรู้ราคาสินค้า โดยเฉพาะน้ำมัน ข้าว อยากรู้วิธีแก้ปัญหาปากท้อง ความยากจน ฯลฯ รองลงไปข่าวบันเทิงร้อยละ 25.86 เพราะเบื่อข่าวการเมือง อยากสบายใจ คลายความเครียด ฯลฯ ร้อยละ 13.79 ข่าวสังคม การแก้ปัญหาสังคม การทำความดี เพราะทำให้รู้แนวทางป้องกันปัญหา การทำความดีทำให้มีความหวัง ฯลฯ
ส่วนดุสิตโพล ระบุว่าการสำรวจจะนำเสนอข้อคิดจากจากประชาชน โดยสรุปภาพรวมในการนำเสนอ ข่าวของสื่อมวลชน ณ วันนี้ ทำให้มองประเทศไทยอยู่ในภาวะอย่างไร อันดับ 1 ร้อยละ 32.89 มองว่า การเมืองไทยอยู่ในภาวะขัดแย้ง เล่นเกมการเมืองมากเกินไป อันดับ 2 ร้อยละ 23.10 มองว่าความสามัคคีเป็นเรื่องสำคัญต้องเร่งสมานฉันท์ แก้ไขความขัดแย้งอย่างจริงจัง อันดับ 3 ร้อยละ 22.61 มองว่าเศรษฐกิจไทยต้องเร่งมือและแก้ปัญหาปากท้องชาวบ้าน อันดับ 4 ร้อยละ 15.61 มองว่าน่าเป็นห่วงทุกฝ่าย ต้องเร่งมือช่วยกันแก้ไข อันดับสุดท้ายร้อยละ 5.79 มองว่ากลัวบ้านเมืองวุ่นวาย และจะเกิดการปฏิวัติ รัฐประหาร
กำลังโหลดความคิดเห็น