ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 15.00 น. วานนี้ (4 ก.ค.) นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม พร้อมคณะ ได้เดินทางกลับถึงประเทศไทย ด้วยเครื่องบินกองทัพอากาศ มาลงที่สนามบินกองทัพอากาศ ภายหลังเสร็จสิ้น ภารกิจเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีน และประเทศบรูไนดารุสสลาม อย่างเป็นทางการ โดยบริเวณท่าอากาศยาน และพื้นที่โดยรอบ ไม่มีการเสริมกำลังทหาร หรือตำรวจ เพิ่มเติมจากปกติ แม้ว่าก่อนหน้านี้นายสมัครได้พูดถึงประเด็นการจับกุมตัวนายกรัฐมนตรีบริเวณสนามบินก็ตาม
นายสมัคร กล่าวถึงเรื่องที่เคยเปรยว่า จะมีการจับตัวนายกรัฐมนตรีทันทีที่ลง เครื่องบิน แสดงให้เห็นว่าอำนาจนอกระบบ ความพยายามนอกระบบจะมีผลต่อตัวนายกรัฐมนตรีหรือไม่ว่า ตนไม่กลัว แต่บอกว่า ตนอยู่ทางโน้นมีคนโทรศัพท์ไปบอก เล่าให้ฟังมีคนไปแสดงความหวาดวิตก ตนไม่กลัวจะถูกจับกุมตัว ก็บอกว่า ไม่มีเหตุผลเท่านั้นเอง กรุณาฟังให้ดีก่อนไปเขียนข่าว
“เขาบอกว่าผมจะถูกศาลออกหมายจับแล้วศาลจะตัดสินคดีความ ผมบอกว่า จะแจ้งข่าวลือให้เนียบเนียนหน่อย ทางศาลต้องแจ้งผมก่อนจะอ่านความ จะอ่านคดี ถ้าไปก็ไปนั่งฟังธรรมดา ถ้าผมไม่ไป 2-3 ครั้ง ศาลออกหมายจับ ศาลอ่านลับหลัง แต่นี่ออกข่าวไปว่า ศาลจะอ่านแล้ว จัดการแล้ว แล้วจับจะไม่ให้เป็นนายกฯ ต่อไป คิดอะไรกันอย่างนี้ ผมจึงคิดดังๆ ย้อนกลับเท่านั้นเอง จะได้ไม่ต้องมีอะไรกัน ให้มันจบม้วนเดียวกัน”
ผู้สื่อข่าวถามว่ามองว่าเป็นการจับตัวเพื่อรัฐประหารหรือไม่ นายสมัคร กล่าวว่า ตนพูดแล้ว อธิบายแล้ว ฟังไม่เข้าใจหรือ พูดหยกๆ ชัดเจน มีทางอื่นอีกไหม ยังไม่เข้าใจอีกหรือ
ผู้สื่อข่าวถามซักว่า ใครเป็นคนปล่อยข่าวให้นายกรัฐมนตรีเสียหาย นายสมัคร กล่าวว่า ไม่ปล่อยข่าวหรอก คนที่เป็นนักข่าวได้ถามว่า ได้ทราบข่าวนี้หรือเปล่า พอถามว่าข่าวอะไร เขาก็บอกแชต แชต แชต ผมบอกว่า ถ้าจะเอาข่าวมาปล่อยกับผมก็ควรให้มันแนบเนียนหน่อยเท่านั้นเอง
สมัครฉุนนักข่าวถูกจี้ถามหนัก
ผู้สื่อข่าวถามว่ากำหนดการที่จะลงที่ สนามบินกองทัพอากาศหรือ บน. 6 แต่ทำไมมีข่าวว่าจะจับกุมตัวที่สนามบินสุวรรณภูมิ นายสมัคร กล่าวว่า ฟังไม่ได้สับจับไปกระเดียด ที่บน.6 เครื่องบินนี้ไม่ลงสุวรรณภูมิหรอก เมื่อถามว่า ไม่เชื่อใจในการรักษาความปลอดภัยของกองทัพอากาศใช่ไหม นายสมัคร กล่าวแย้งว่า คุณอย่าพูดอย่างนี้
ผู้สื่อข่าวตอบกลับว่า จะโดนด่าใช่หรือไม่ นายสมัคร กล่าวว่า โดนด่าแน่นอน เพราะยังไม่ได้พูดสักคำ ผู้สื่อข่าวพูดว่า ต้องการถามให้เคลียร์ นายสมัคร กล่าว แบบมีอารมณ์ว่า จะเคลียร์อะไร คุณพูดอย่างนี้ต้องการจะให้ร้ายกองทัพอากาศ ผู้สื่อข่าวชี้แจงว่า หมายถึงต้องการถามให้เคลียร์ นายสมัคร กล่าวว่า คุณอย่าพูด อย่างนี้ดอีก พูดอย่างนี้เป็นการดูแคลนกองทัพอากาศ จากนั้น ผู้สื่อข่าวพยามถามต่อ นายสมัคร สวนกลับทันทีว่า ไม่ต้องพูดอีก
ผู้สื่อข่าวจึงบอกว่าที่ถามเพื่อต้องการให้เกิดความเข้าใจกัน นายสมัคร กล่าวว่า ไม่มีปัญหา ตนมา พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผบ.ทอ.ก็มาส่ง กลับมาก็คุยกัน เรื่องเครื่องบิน เรื่องสมรรถภาพเครื่องบินและคุยกันเรื่องอาหารที่มาเลี้ยงตอนขาไป มันมีอะไรผิดปกติ เมื่อถามว่า สภาพการเมืองร้อนๆ นายสมัคร ย้อนถามว่า ร้อนตรงไหน ใครมันเอาเตาไปใส่ไว้ใต้ใคร
ปรับครม.แน่1เก้าอี้-ส่วนอีก2ให้รอศาล
นายสมัคร ซักถึงความชัดเจนในการปรับ ครม.ว่า คุณจะถามให้มีเรื่องให้ได้หรือยังไง เวลาที่ครม.มันขาดไปคนหนึ่ง วันไหนจะปรับก็ต้องปรับ เติมเข้ามา มี ครม. 2 คนจะต้องถูกศาลพิจารณา ซึ่งเมื่อไหร่ที่ศาลพิจารณาก็ต้องปรับ ครม. มีการเขียนบทความกันว่าใครจะแน่ ใครจะดำน้ำอึดกว่ากัน มันไม่แน่ไม่อึดหรอก แต่ผมบอกว่า ผมไม่ได้ปรับตามหนังสือพิมพ์ที่มาสั่งผม แหม จดกันใหญ่..ยิก ยิก ยิก
ผู้สื่อข่าวถามว่าแสดงว่าจะปรับ ครม.ในเร็วๆ นี้ใช่หรือไม่ นายสมัคร ย้อนกลับผู้สื่อข่าวว่า ก็อธิบายให้ฟังหยกๆ ยังถามอย่างนี้ บอกว่ามันมีคนขาดอยู่คนหนึ่ง วันข้างหน้าก็จะต้องปรับเปลี่ยนและมี 2 คนกำลังจะขึ้นศาลอยู่ หากศาลสั่งอย่างไรจะได้ปรับเปลี่ยน ก็เท่านั้นเอง แค่นี้พอมั้ยก็ต้องหยุดถามกันได้แล้ว
ส่วน หากนายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตประธานสภาฯหลุดพ้นคดีจะมีโอกาส เข้ามามีตำแหน่งอะไรหรือไม่ นายสมัคร กล่าวว่า วันนี้วันที่เท่าไหร่ วันที่ 4 ก.ค. แล้วศ าลตัดสินวันที่เท่าไหร่ มาถามคำถามอย่างนี้ได้อย่างไร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เป็นที่น่าสังเกตว่าการเดินทางกลับของนายสมัครครั้งนี้ นาย ไชยา สะสมทรัพย์ ได้ปรากฏตัวบริเวณที่ห้องรับรองในท่าอากาศยานด้วย ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่นายไชยาจะมาหารือกับนายสมัครกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยเรื่องการขาดคุณสมบัติของนายไชยา กรณีที่ทำการแจ้งบัญชีทรัพย์สินย้อนหลัง
อภิสิทธิ์ติงสมัครปล่อยข่าวมั่ว
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายสมัคร ให้สัมภาษณ์ว่ามีกระบวนการที่จะเอาออกจากตำแหน่งและมีการปล่อยข่าวจะมีการจับกุมตัวที่สนามบินสุวรรณภูมิว่า ตนไม่ทราบว่าเจตนาของนายกรัฐมนตรีคืออะไร แต่การพูดลักษณะนี้ไม่ได้ช่วยสร้างความเชื่อมั่นทางการเมืองและไม่ได้ช่วยสร้าง ความเชื่อมั่นว่ารัฐบาลจะแก้ไขปัญหาอะไรได้
ทั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่นายกรัฐมนตรีออกมาพูดในทำนองนี้ พรรคประชาธิปัตย์ได้เคยทักท้วงไปหลายครั้ง ทั้งนี้หากสิ่งที่นายกรัฐมนตรีพูดเป็นความจริงรัฐบาลจะต้องดำเนินการ แต่หากไม่เป็นความจริงผลเสียจะตกอยู่กับรัฐบาลเองเพราะทำให้เกิดความหวั่นไหวในตัวรัฐบาลและเสถียรภาพของรัฐบาล
อยากย้ำอีกครั้งว่าท่านนายกฯน่าจะหลีกเลี่ยงที่จะพูดลักษณะนี้ คือถ้ามีอะไรที่ผิดปกติท่านก็ดำเนินการไปเลย การพูดลักษณะนี้มีแต่จะบั่นทอนรัฐบาล ทำให้การแก้ปัญหาต่างๆ ลำบากมากขึ้น ส่วนเหตุผลจะเป็นเพราะอะไรผมไม่ทราบ เรื่องแบบนี้ได้ยินครั้งแรกก็ได้ยินจากท่านนายกฯนี่แหละ ดังนั้นดีที่สุดคือหลีกเลี่ยง แล้วไปสร้างบรรยากาศในการแก้ไขปัญหาดีกว่า โดยเฉพาะเรื่องเงินเฟ้อ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่กระแสข่าวที่เกิดขึ้นจะมีผลต่อการปรับค.ร.ม.หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนเคยบอกแล้วว่าหากนายกรัฐมนตรีจะปรับค.ร.ม.โดยเร็วจะช่วยสร้างความมั่นใจให้กลับคืนมา แต่หากจะปรับค.ร.ม.ทีละตำแหน่งเมื่อมีปัญหาจะทำให้บรรยากาศทางการเมืองยังคงหมกมุ่นอยู่เฉพาะเรื่องนี้ซึ่งไม่เป็นผลดี
หมอมาลินีชี้ไร้วุฒิภาวะผู้นำ
พญ.มาลินี สุขเวชชวรกิจ ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เรื่องที่เป็น ถึงผู้นำประเทศ ไม่ควรออกมาพูดโวยวายว่ามีกลุ่มคนจะมาอุ้ม เพราะจะทำให้สังคมสะเทือนปั่นป่วนกันไปหมด ซึ่งควรจะต้องมีภาวะผู้นำ มีความสุขุม นิ่ง หากทราบข้อมูลชัดเจนควรให้หน่วยราชการลับสอบ ถ้าเป็นจริงก็ดำเนินการจัดการได้ เพราะรัฐบาลมีอำนาจอยู่แล้ว
การพูดแบบนี้ทำให้ต่างชาติมองถึงวุฒิภาวะผู้นำประเทศเป็นอย่างไร ทำเหมือนเด็กร้องไห้งอแงโวยวาย เพราะการพูดอย่างนี้ทำให้ประชาชนยิ่งเครียดกันไปใหญ่ หากผู้นำประเทศจะพูดอะไรควรคำนึงผลประโยชน์กับส่วนรวม มิฉะนั้น สังคมจะไม่สงบสุขได้เลย
ลูกกรอกอ้างนายกฯต้องมีข้อมูล
ร.ท.กุเทพ ใสกระจ่าง โฆษกพรรคพลังประชาชน กล่าวถึงคำพูดของนายกรัฐมนตรีที่ว่าจะมีกลุ่มนมาควบคุมตัวที่สนามบินสุวรรณภูมิว่า สถานการณ์การเมืองขณะนี้มีความสับสนอย่างมาก แต่การที่นายกฯออกมาพูดเช่นนี้ น่าจะมีฐานข้อมูลที่แน่ชัดว่าจึงต้องออกมาพูดด้วยตัวเอง เพื่อแสดงนัยยะไปยังกลุ่มบุคคลที่พยายามจะกดดันนายกฯและจะทำการรวบตัว ให้ได้รู้ตัว ไม่ได้พูดเลื่อนลอยเหมือนอย่างที่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวหา เพราะนายอภิสิทธิ์ไม่อยู่ในฐานะที่จะรู้ข้อมูลเท่านายกฯซึ่งนายกฯสามารถจะพูดได้และไม่มีผลกระทบแต่อย่างใด
“คนระดับนายกรฯคงไม่ออกมาพูดอะไรที่เลื่อนลอย เชื่อว่าท่านได้รับทราบ ข้อมูลจากข่าวกรองในการกดดันให้นายกฯออกจากตำแหน่งรวมทั้งการพยายามรวบตัวก็มีโอกาสเป็นไปได้ เพราะเคยเกิดขึ้นในการเมืองไทยในยุคหนึ่ง ดังนั้น นายกฯ จึงต้องออกมาพูดดักทางไว้ก่อนเพื่อให้กลุ่มคนเหล่านั้น ได้รู้ว่าท่านนายกฯ รู้ข้อมูลดี นอกจากนี้ นายกฯยังทราบข้อมูลที่อยู่นอกระบบการเมืองที่ต้องการทำลายล้างรัฐบาล อย่างเช่นกลุ่มพันธมิตรฯ ออกมาเสนอการเมืองใหม่ ลักษณะแบบบ้าบอคอแตก”
ตำรวจยืนยันไม่เคยมีข่าวจับสมัคร
ด้านพล.ต.ต.สุรพล ทวนทอง รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า จากการสืบสวนหาข่าวเชิงลึกยังไม่พบว่าจะมีผู้ใดเข้าไปจับกุมนายสมัคร สุนทรเวช เนื่องจากคดีความต่างๆ ของนายกฯ ไม่ว่าจะเป็นคดีหมิ่นประมาทหรือคดีที่ ส.ว.29 คน ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาคุณสมบัติที่จัดรายการ ชิมไปบ่นไป ก็ยังอยู่ในชั้นศาลและกระบวนการตามกฎหมาย ทั้งนี้ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ที่ดูแลในจังหวัดสมุทรปราการคงต้องมีการเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและเพิ่มความเข้มงวดในการรักษาความปลอดภัยมากกว่าในช่วงปกติในการเดินทางกลับมาในครั้งนี้
ด้าน พล.ต.ท.ชัชวาย์ สุขสมจิตร์ ผบช.สตม. กล่าวว่า ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง มีหน้าที่ดูแลเฉพาะในส่วนของช่องทางเข้าออกประเทศเท่านั้น หากมีการจับกุมจะต้องมีหมายจับส่งมา หรือมีคำสั่งประสานงานมายังที่ สตม.จึงสามารถดำเนินการจับกุมได้ แต่ยืนยันว่าขณะนี้ยังไม่มีหมายจับนายสมัครมา
พล.ต.ต.วิทยา ประยงค์พันธ์ ผบก.สมุทรปราการ กล่าวปฏิเสธว่าข่าวลือจะมีการจับกุมนายสมัครว่า ไม่เป็นความจริง และทางตำรวจสมุทรปราการไม่ได้สั่งเสริมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจไปดูแลรักษาความปลอดภัยยังสนามบินสุวรรณภูมิ เป็นพิเศษแต่อย่างใด ทั้งนี้ การดูแลรักษาความปลอดภัยทั่วไปที่สนามบินสุวรรณภูมิ เป็นหน้าที่ตามปกติของท้องที่ ซึ่งทาง ผกก.สภ.ราชาเทวะ จะเป็นดูแลอยู่แล้ว ทาง บก.ภ.สมุทรปราการไม่ได้สั่งการอะไรลงไปเป็นพิเศษ
ส.ว.ชี้รัฐแจไม่เคลียร์เตรียมซักฟอกอีก
น.ส.สุมล สุตะวิริยะวัฒน์ ส.ว.เพชรบุรี แกนนำ 61 ส.ว.ที่ยื่นญัตติเปิดอภิปราย ทั่วไปรัฐบาลที่ผ่านมา กล่าวว่า ทางกลุ่มได้มีการประเมินผลการอภิปรายฯว่า ถือว่าประสบความสำเร็จ ที่วุฒิสภาสามารถเปิดอภิปรายรัฐบาลได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ แต่รู้สึกผิดหวังท่าทีของรัฐบาลโดยเฉพาะตัวนายกฯที่ตอบคำถามของสมาชิกในหลักษณะดูหมิ่น ดูแคลน ไม่ให้เกียรติ ทำตัวเก่งทุกเรื่องตอบแทนรัฐมนตรีทุกกระทรวง แต่ยังมีหลายคำถามที่ไม่สามารถชี้แจงให้เกิดความชัดเจนได้ ดังนั้นทางกลุ่ม จึงมีความเห็นร่วมกันว่า ในการเปิดสมัยประชุมสภานิติบัญญัติจะนำคำถามที่รัฐบาลยังไม่ได้ตอบตั้งเป็นกระทู้ถามซ้ำอีก และเมื่อเปิดสภาสมัยสามัญทั่วไป วุฒิสภาก็จะยื่นญัตติเปิดอภิปรายทั่วไปรัฐบาลอีก หากรัฐบาลชุดนี้ยังมีโอกาสบริหารงานอีกเราก็จะเดินหน้าต่อไป เพื่อทำหน้าที่ของเราให้สมบรูณ์ที่สุด
นายสมัคร กล่าวถึงเรื่องที่เคยเปรยว่า จะมีการจับตัวนายกรัฐมนตรีทันทีที่ลง เครื่องบิน แสดงให้เห็นว่าอำนาจนอกระบบ ความพยายามนอกระบบจะมีผลต่อตัวนายกรัฐมนตรีหรือไม่ว่า ตนไม่กลัว แต่บอกว่า ตนอยู่ทางโน้นมีคนโทรศัพท์ไปบอก เล่าให้ฟังมีคนไปแสดงความหวาดวิตก ตนไม่กลัวจะถูกจับกุมตัว ก็บอกว่า ไม่มีเหตุผลเท่านั้นเอง กรุณาฟังให้ดีก่อนไปเขียนข่าว
“เขาบอกว่าผมจะถูกศาลออกหมายจับแล้วศาลจะตัดสินคดีความ ผมบอกว่า จะแจ้งข่าวลือให้เนียบเนียนหน่อย ทางศาลต้องแจ้งผมก่อนจะอ่านความ จะอ่านคดี ถ้าไปก็ไปนั่งฟังธรรมดา ถ้าผมไม่ไป 2-3 ครั้ง ศาลออกหมายจับ ศาลอ่านลับหลัง แต่นี่ออกข่าวไปว่า ศาลจะอ่านแล้ว จัดการแล้ว แล้วจับจะไม่ให้เป็นนายกฯ ต่อไป คิดอะไรกันอย่างนี้ ผมจึงคิดดังๆ ย้อนกลับเท่านั้นเอง จะได้ไม่ต้องมีอะไรกัน ให้มันจบม้วนเดียวกัน”
ผู้สื่อข่าวถามว่ามองว่าเป็นการจับตัวเพื่อรัฐประหารหรือไม่ นายสมัคร กล่าวว่า ตนพูดแล้ว อธิบายแล้ว ฟังไม่เข้าใจหรือ พูดหยกๆ ชัดเจน มีทางอื่นอีกไหม ยังไม่เข้าใจอีกหรือ
ผู้สื่อข่าวถามซักว่า ใครเป็นคนปล่อยข่าวให้นายกรัฐมนตรีเสียหาย นายสมัคร กล่าวว่า ไม่ปล่อยข่าวหรอก คนที่เป็นนักข่าวได้ถามว่า ได้ทราบข่าวนี้หรือเปล่า พอถามว่าข่าวอะไร เขาก็บอกแชต แชต แชต ผมบอกว่า ถ้าจะเอาข่าวมาปล่อยกับผมก็ควรให้มันแนบเนียนหน่อยเท่านั้นเอง
สมัครฉุนนักข่าวถูกจี้ถามหนัก
ผู้สื่อข่าวถามว่ากำหนดการที่จะลงที่ สนามบินกองทัพอากาศหรือ บน. 6 แต่ทำไมมีข่าวว่าจะจับกุมตัวที่สนามบินสุวรรณภูมิ นายสมัคร กล่าวว่า ฟังไม่ได้สับจับไปกระเดียด ที่บน.6 เครื่องบินนี้ไม่ลงสุวรรณภูมิหรอก เมื่อถามว่า ไม่เชื่อใจในการรักษาความปลอดภัยของกองทัพอากาศใช่ไหม นายสมัคร กล่าวแย้งว่า คุณอย่าพูดอย่างนี้
ผู้สื่อข่าวตอบกลับว่า จะโดนด่าใช่หรือไม่ นายสมัคร กล่าวว่า โดนด่าแน่นอน เพราะยังไม่ได้พูดสักคำ ผู้สื่อข่าวพูดว่า ต้องการถามให้เคลียร์ นายสมัคร กล่าว แบบมีอารมณ์ว่า จะเคลียร์อะไร คุณพูดอย่างนี้ต้องการจะให้ร้ายกองทัพอากาศ ผู้สื่อข่าวชี้แจงว่า หมายถึงต้องการถามให้เคลียร์ นายสมัคร กล่าวว่า คุณอย่าพูด อย่างนี้ดอีก พูดอย่างนี้เป็นการดูแคลนกองทัพอากาศ จากนั้น ผู้สื่อข่าวพยามถามต่อ นายสมัคร สวนกลับทันทีว่า ไม่ต้องพูดอีก
ผู้สื่อข่าวจึงบอกว่าที่ถามเพื่อต้องการให้เกิดความเข้าใจกัน นายสมัคร กล่าวว่า ไม่มีปัญหา ตนมา พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผบ.ทอ.ก็มาส่ง กลับมาก็คุยกัน เรื่องเครื่องบิน เรื่องสมรรถภาพเครื่องบินและคุยกันเรื่องอาหารที่มาเลี้ยงตอนขาไป มันมีอะไรผิดปกติ เมื่อถามว่า สภาพการเมืองร้อนๆ นายสมัคร ย้อนถามว่า ร้อนตรงไหน ใครมันเอาเตาไปใส่ไว้ใต้ใคร
ปรับครม.แน่1เก้าอี้-ส่วนอีก2ให้รอศาล
นายสมัคร ซักถึงความชัดเจนในการปรับ ครม.ว่า คุณจะถามให้มีเรื่องให้ได้หรือยังไง เวลาที่ครม.มันขาดไปคนหนึ่ง วันไหนจะปรับก็ต้องปรับ เติมเข้ามา มี ครม. 2 คนจะต้องถูกศาลพิจารณา ซึ่งเมื่อไหร่ที่ศาลพิจารณาก็ต้องปรับ ครม. มีการเขียนบทความกันว่าใครจะแน่ ใครจะดำน้ำอึดกว่ากัน มันไม่แน่ไม่อึดหรอก แต่ผมบอกว่า ผมไม่ได้ปรับตามหนังสือพิมพ์ที่มาสั่งผม แหม จดกันใหญ่..ยิก ยิก ยิก
ผู้สื่อข่าวถามว่าแสดงว่าจะปรับ ครม.ในเร็วๆ นี้ใช่หรือไม่ นายสมัคร ย้อนกลับผู้สื่อข่าวว่า ก็อธิบายให้ฟังหยกๆ ยังถามอย่างนี้ บอกว่ามันมีคนขาดอยู่คนหนึ่ง วันข้างหน้าก็จะต้องปรับเปลี่ยนและมี 2 คนกำลังจะขึ้นศาลอยู่ หากศาลสั่งอย่างไรจะได้ปรับเปลี่ยน ก็เท่านั้นเอง แค่นี้พอมั้ยก็ต้องหยุดถามกันได้แล้ว
ส่วน หากนายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตประธานสภาฯหลุดพ้นคดีจะมีโอกาส เข้ามามีตำแหน่งอะไรหรือไม่ นายสมัคร กล่าวว่า วันนี้วันที่เท่าไหร่ วันที่ 4 ก.ค. แล้วศ าลตัดสินวันที่เท่าไหร่ มาถามคำถามอย่างนี้ได้อย่างไร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เป็นที่น่าสังเกตว่าการเดินทางกลับของนายสมัครครั้งนี้ นาย ไชยา สะสมทรัพย์ ได้ปรากฏตัวบริเวณที่ห้องรับรองในท่าอากาศยานด้วย ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่นายไชยาจะมาหารือกับนายสมัครกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยเรื่องการขาดคุณสมบัติของนายไชยา กรณีที่ทำการแจ้งบัญชีทรัพย์สินย้อนหลัง
อภิสิทธิ์ติงสมัครปล่อยข่าวมั่ว
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายสมัคร ให้สัมภาษณ์ว่ามีกระบวนการที่จะเอาออกจากตำแหน่งและมีการปล่อยข่าวจะมีการจับกุมตัวที่สนามบินสุวรรณภูมิว่า ตนไม่ทราบว่าเจตนาของนายกรัฐมนตรีคืออะไร แต่การพูดลักษณะนี้ไม่ได้ช่วยสร้างความเชื่อมั่นทางการเมืองและไม่ได้ช่วยสร้าง ความเชื่อมั่นว่ารัฐบาลจะแก้ไขปัญหาอะไรได้
ทั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่นายกรัฐมนตรีออกมาพูดในทำนองนี้ พรรคประชาธิปัตย์ได้เคยทักท้วงไปหลายครั้ง ทั้งนี้หากสิ่งที่นายกรัฐมนตรีพูดเป็นความจริงรัฐบาลจะต้องดำเนินการ แต่หากไม่เป็นความจริงผลเสียจะตกอยู่กับรัฐบาลเองเพราะทำให้เกิดความหวั่นไหวในตัวรัฐบาลและเสถียรภาพของรัฐบาล
อยากย้ำอีกครั้งว่าท่านนายกฯน่าจะหลีกเลี่ยงที่จะพูดลักษณะนี้ คือถ้ามีอะไรที่ผิดปกติท่านก็ดำเนินการไปเลย การพูดลักษณะนี้มีแต่จะบั่นทอนรัฐบาล ทำให้การแก้ปัญหาต่างๆ ลำบากมากขึ้น ส่วนเหตุผลจะเป็นเพราะอะไรผมไม่ทราบ เรื่องแบบนี้ได้ยินครั้งแรกก็ได้ยินจากท่านนายกฯนี่แหละ ดังนั้นดีที่สุดคือหลีกเลี่ยง แล้วไปสร้างบรรยากาศในการแก้ไขปัญหาดีกว่า โดยเฉพาะเรื่องเงินเฟ้อ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่กระแสข่าวที่เกิดขึ้นจะมีผลต่อการปรับค.ร.ม.หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนเคยบอกแล้วว่าหากนายกรัฐมนตรีจะปรับค.ร.ม.โดยเร็วจะช่วยสร้างความมั่นใจให้กลับคืนมา แต่หากจะปรับค.ร.ม.ทีละตำแหน่งเมื่อมีปัญหาจะทำให้บรรยากาศทางการเมืองยังคงหมกมุ่นอยู่เฉพาะเรื่องนี้ซึ่งไม่เป็นผลดี
หมอมาลินีชี้ไร้วุฒิภาวะผู้นำ
พญ.มาลินี สุขเวชชวรกิจ ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เรื่องที่เป็น ถึงผู้นำประเทศ ไม่ควรออกมาพูดโวยวายว่ามีกลุ่มคนจะมาอุ้ม เพราะจะทำให้สังคมสะเทือนปั่นป่วนกันไปหมด ซึ่งควรจะต้องมีภาวะผู้นำ มีความสุขุม นิ่ง หากทราบข้อมูลชัดเจนควรให้หน่วยราชการลับสอบ ถ้าเป็นจริงก็ดำเนินการจัดการได้ เพราะรัฐบาลมีอำนาจอยู่แล้ว
การพูดแบบนี้ทำให้ต่างชาติมองถึงวุฒิภาวะผู้นำประเทศเป็นอย่างไร ทำเหมือนเด็กร้องไห้งอแงโวยวาย เพราะการพูดอย่างนี้ทำให้ประชาชนยิ่งเครียดกันไปใหญ่ หากผู้นำประเทศจะพูดอะไรควรคำนึงผลประโยชน์กับส่วนรวม มิฉะนั้น สังคมจะไม่สงบสุขได้เลย
ลูกกรอกอ้างนายกฯต้องมีข้อมูล
ร.ท.กุเทพ ใสกระจ่าง โฆษกพรรคพลังประชาชน กล่าวถึงคำพูดของนายกรัฐมนตรีที่ว่าจะมีกลุ่มนมาควบคุมตัวที่สนามบินสุวรรณภูมิว่า สถานการณ์การเมืองขณะนี้มีความสับสนอย่างมาก แต่การที่นายกฯออกมาพูดเช่นนี้ น่าจะมีฐานข้อมูลที่แน่ชัดว่าจึงต้องออกมาพูดด้วยตัวเอง เพื่อแสดงนัยยะไปยังกลุ่มบุคคลที่พยายามจะกดดันนายกฯและจะทำการรวบตัว ให้ได้รู้ตัว ไม่ได้พูดเลื่อนลอยเหมือนอย่างที่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวหา เพราะนายอภิสิทธิ์ไม่อยู่ในฐานะที่จะรู้ข้อมูลเท่านายกฯซึ่งนายกฯสามารถจะพูดได้และไม่มีผลกระทบแต่อย่างใด
“คนระดับนายกรฯคงไม่ออกมาพูดอะไรที่เลื่อนลอย เชื่อว่าท่านได้รับทราบ ข้อมูลจากข่าวกรองในการกดดันให้นายกฯออกจากตำแหน่งรวมทั้งการพยายามรวบตัวก็มีโอกาสเป็นไปได้ เพราะเคยเกิดขึ้นในการเมืองไทยในยุคหนึ่ง ดังนั้น นายกฯ จึงต้องออกมาพูดดักทางไว้ก่อนเพื่อให้กลุ่มคนเหล่านั้น ได้รู้ว่าท่านนายกฯ รู้ข้อมูลดี นอกจากนี้ นายกฯยังทราบข้อมูลที่อยู่นอกระบบการเมืองที่ต้องการทำลายล้างรัฐบาล อย่างเช่นกลุ่มพันธมิตรฯ ออกมาเสนอการเมืองใหม่ ลักษณะแบบบ้าบอคอแตก”
ตำรวจยืนยันไม่เคยมีข่าวจับสมัคร
ด้านพล.ต.ต.สุรพล ทวนทอง รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า จากการสืบสวนหาข่าวเชิงลึกยังไม่พบว่าจะมีผู้ใดเข้าไปจับกุมนายสมัคร สุนทรเวช เนื่องจากคดีความต่างๆ ของนายกฯ ไม่ว่าจะเป็นคดีหมิ่นประมาทหรือคดีที่ ส.ว.29 คน ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาคุณสมบัติที่จัดรายการ ชิมไปบ่นไป ก็ยังอยู่ในชั้นศาลและกระบวนการตามกฎหมาย ทั้งนี้ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ที่ดูแลในจังหวัดสมุทรปราการคงต้องมีการเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและเพิ่มความเข้มงวดในการรักษาความปลอดภัยมากกว่าในช่วงปกติในการเดินทางกลับมาในครั้งนี้
ด้าน พล.ต.ท.ชัชวาย์ สุขสมจิตร์ ผบช.สตม. กล่าวว่า ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง มีหน้าที่ดูแลเฉพาะในส่วนของช่องทางเข้าออกประเทศเท่านั้น หากมีการจับกุมจะต้องมีหมายจับส่งมา หรือมีคำสั่งประสานงานมายังที่ สตม.จึงสามารถดำเนินการจับกุมได้ แต่ยืนยันว่าขณะนี้ยังไม่มีหมายจับนายสมัครมา
พล.ต.ต.วิทยา ประยงค์พันธ์ ผบก.สมุทรปราการ กล่าวปฏิเสธว่าข่าวลือจะมีการจับกุมนายสมัครว่า ไม่เป็นความจริง และทางตำรวจสมุทรปราการไม่ได้สั่งเสริมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจไปดูแลรักษาความปลอดภัยยังสนามบินสุวรรณภูมิ เป็นพิเศษแต่อย่างใด ทั้งนี้ การดูแลรักษาความปลอดภัยทั่วไปที่สนามบินสุวรรณภูมิ เป็นหน้าที่ตามปกติของท้องที่ ซึ่งทาง ผกก.สภ.ราชาเทวะ จะเป็นดูแลอยู่แล้ว ทาง บก.ภ.สมุทรปราการไม่ได้สั่งการอะไรลงไปเป็นพิเศษ
ส.ว.ชี้รัฐแจไม่เคลียร์เตรียมซักฟอกอีก
น.ส.สุมล สุตะวิริยะวัฒน์ ส.ว.เพชรบุรี แกนนำ 61 ส.ว.ที่ยื่นญัตติเปิดอภิปราย ทั่วไปรัฐบาลที่ผ่านมา กล่าวว่า ทางกลุ่มได้มีการประเมินผลการอภิปรายฯว่า ถือว่าประสบความสำเร็จ ที่วุฒิสภาสามารถเปิดอภิปรายรัฐบาลได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ แต่รู้สึกผิดหวังท่าทีของรัฐบาลโดยเฉพาะตัวนายกฯที่ตอบคำถามของสมาชิกในหลักษณะดูหมิ่น ดูแคลน ไม่ให้เกียรติ ทำตัวเก่งทุกเรื่องตอบแทนรัฐมนตรีทุกกระทรวง แต่ยังมีหลายคำถามที่ไม่สามารถชี้แจงให้เกิดความชัดเจนได้ ดังนั้นทางกลุ่ม จึงมีความเห็นร่วมกันว่า ในการเปิดสมัยประชุมสภานิติบัญญัติจะนำคำถามที่รัฐบาลยังไม่ได้ตอบตั้งเป็นกระทู้ถามซ้ำอีก และเมื่อเปิดสภาสมัยสามัญทั่วไป วุฒิสภาก็จะยื่นญัตติเปิดอภิปรายทั่วไปรัฐบาลอีก หากรัฐบาลชุดนี้ยังมีโอกาสบริหารงานอีกเราก็จะเดินหน้าต่อไป เพื่อทำหน้าที่ของเราให้สมบรูณ์ที่สุด