รศ.ดร.สังศิต พิริยะรังสรรค์ ประธานคณะกรรมการและผู้อำนวยการโครงการปริญญาดุษฎีบัณฑิต สาขาการพัฒนาธรรมาภิบาล มหาวิทยาลัยราชภัฎจันทรเกษม อดีตรองประธานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กล่าวถึงผลการทำงานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.)ในการปราบปรามการพนันทายผลการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2008 ที่ผ่านมาว่า เท่าที่ประเมินพบว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถปราบปรามการพนันฟุตบอลได้ เพราะเจ้ามือบ่อนการพนันรายใหญ่ส่วนใหญ่ไม่ถูกจับ เนื่องจากคนกลุ่มนี้ให้การอุปถัมภ์ตำรวจอยู่
ส่วนเจ้าของบ่อนและนักพนันที่ถูกจับแม้จะมีจำนวนมาก แต่ส่วนใหญ่เป็นพวกปลาซิวปลาสร้อย ดังนั้นการปราบปรามการพนันฟุตบอลของตำรวจ เป็นเพียงการสร้างภาพลักษณ์และทำเป็นพิธีกรรมของตำรวจมากกว่า ไม่ได้คิดปราบปรามอย่างจริงจัง
"เท่าที่ประเมินเงินที่เกี่ยวข้องกับการพนันฟุตบอลยูโร 2008 มีไม่ต่ำกว่า 40,000 – 50,000 ล้านบาท ที่สำคัญเงินที่ตำรวจได้รับเป็นค่าส่วยมีจำนวนหลายร้อยล้านบาท" รศ.ดร.สังศิตกล่าว พร้อมกับยอมรับว่า การปราบปรามการพนันฟุตบอลในวันนี้ หรือในอนาคตคงไม่สามารถทำได้ เพราะแม้จะจบศึกฟุตบอลยุโรแล้ว ก็จะเข้าสู่การเปิดฤดูกาลใหม่ของศึกฟุตบอลของลีกต่างๆทั่วโลก ทำให้ตำรวจได้รับส่วยจากบ่อนการพนันทุกเดือน และปัญหาการพนันบอลจะทวีความรุนแรงส่งผลทำให้เกิดปัญหาสังคมต่างๆตามมา ตรงนี้ถือว่า เป็นความไม่รับผิดชอบของตำรวจจำนวนมาก ที่ไปรับส่วยจากเจ้ามือพนัน ทั้งๆที่รู้ว่าเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายทำให้ธุรกิจใต้ดินอย่างพนันบอลไม่มีวันที่จะแก้ได้
นอกจากนี้ รศ.ดร.สังศิต ยังกล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลพูดตลอดเวลาว่า การจะจัดระเบียบการพนันฟุตบอลให้ถูกต้องตามกฎหมาย จะต้องมีการตั้งเอนเตอร์เทนเม้นต์ คอมเพล็กซ์ ว่า มันทำยาก เพราะตำรวจเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาเป็นนักศีลธรรม เขาไม่ยอมให้ทำ เพราะถ้าทำแล้ว ตำรวจจะสูญเสียผลประโยชน์มาก และที่สำคัญการจะไปตั้งเอนเตอร์เม้นต์ คอมเพล็กซ์ ก็ไม่ได้แก้ปัญหาอะไร เพราะตำรวจจะดื้อแพ่งไม่ยอมท่าเดียว
ส่วนเจ้าของบ่อนและนักพนันที่ถูกจับแม้จะมีจำนวนมาก แต่ส่วนใหญ่เป็นพวกปลาซิวปลาสร้อย ดังนั้นการปราบปรามการพนันฟุตบอลของตำรวจ เป็นเพียงการสร้างภาพลักษณ์และทำเป็นพิธีกรรมของตำรวจมากกว่า ไม่ได้คิดปราบปรามอย่างจริงจัง
"เท่าที่ประเมินเงินที่เกี่ยวข้องกับการพนันฟุตบอลยูโร 2008 มีไม่ต่ำกว่า 40,000 – 50,000 ล้านบาท ที่สำคัญเงินที่ตำรวจได้รับเป็นค่าส่วยมีจำนวนหลายร้อยล้านบาท" รศ.ดร.สังศิตกล่าว พร้อมกับยอมรับว่า การปราบปรามการพนันฟุตบอลในวันนี้ หรือในอนาคตคงไม่สามารถทำได้ เพราะแม้จะจบศึกฟุตบอลยุโรแล้ว ก็จะเข้าสู่การเปิดฤดูกาลใหม่ของศึกฟุตบอลของลีกต่างๆทั่วโลก ทำให้ตำรวจได้รับส่วยจากบ่อนการพนันทุกเดือน และปัญหาการพนันบอลจะทวีความรุนแรงส่งผลทำให้เกิดปัญหาสังคมต่างๆตามมา ตรงนี้ถือว่า เป็นความไม่รับผิดชอบของตำรวจจำนวนมาก ที่ไปรับส่วยจากเจ้ามือพนัน ทั้งๆที่รู้ว่าเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายทำให้ธุรกิจใต้ดินอย่างพนันบอลไม่มีวันที่จะแก้ได้
นอกจากนี้ รศ.ดร.สังศิต ยังกล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลพูดตลอดเวลาว่า การจะจัดระเบียบการพนันฟุตบอลให้ถูกต้องตามกฎหมาย จะต้องมีการตั้งเอนเตอร์เทนเม้นต์ คอมเพล็กซ์ ว่า มันทำยาก เพราะตำรวจเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาเป็นนักศีลธรรม เขาไม่ยอมให้ทำ เพราะถ้าทำแล้ว ตำรวจจะสูญเสียผลประโยชน์มาก และที่สำคัญการจะไปตั้งเอนเตอร์เม้นต์ คอมเพล็กซ์ ก็ไม่ได้แก้ปัญหาอะไร เพราะตำรวจจะดื้อแพ่งไม่ยอมท่าเดียว