xs
xsm
sm
md
lg

"เพ็ญ"ไร้สำนึกอ้างถูกการเมืองเล่นงาน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วานนี้ (2 ก.ค.) เวลา 10.00 น. ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) นายจักรภพ เพ็ญแข อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ผู้ต้องหาคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ พร้อมด้วยนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และอดีตแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ (นปก.) และทีมทนายความ เดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.สมเดช ขาวขำ รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.)ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีดังกล่าว หลังจากที่ บช.ก. มีมติว่า การกระทำของนายจักรภพ เข้าข่ายความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 โดยการเข้าพบพนักงานสอบสวนครั้งนี้ มีสมาชิกกลุ่มนปก. มามอบดอกไม้ให้กำลังใจกับนายจักรภพด้วย
นายจักรภพ กล่าวว่า หลังจากมีการแจ้งความดำเนินคดีแล้ว ตนได้ให้ความร่วมมือมาตลอด และเรื่องนี้เป็น เรื่องการเมือง ซึ่งทำให้เกิดคดีความที่ไม่ควรจะเกิดขึ้นมา เพราะฉะนั้นการต่อสู้คดีนี้ จึงถือว่าเพื่อการพิสูจน์ใจของคนที่เป็นพสกนิกร เป็นข้าของพระบาทเป็นอันดับแรก อันดับที่ 2 เป็นการให้คำตอบที่ชัดเจนทางการเมืองว่า ตนนั้นแม้แต่จะคิดก็ไม่มีที่จะได้กระทำความผิดเกี่ยวกับเรื่องที่มีความรุนแรงดังกล่าว ซึ่งถือว่าเป็นเครื่องมือในการทำลายกันทางการเมืองในหลายยุคสมัย อันดับที่ 3 คือ อยากให้การดำเนินการเรื่องนี้เป็นการให้การศึกษาแก่ประชาชน เพราะใจตนอยากให้คดีแบบนี้เกิดขึ้นน้อยที่สุด
นายจักรภพ กล่าวว่า การอ้างเบื้องสูงไม่ควรกระทำในกระบวนการแบบนี้ เพราะท่านอยู่เหนือกฎหมายในความรู้สึกของคนไทย อยู่เหนือการเมืองในทางปฏิบัติ และอยู่เหนือทุกสิ่งทุกอย่าง ที่เป็นการต่อสู้ในระดับของการเมือง และการต่อสู้ทั่วไป เรื่องนี้น่าจะเป็นอนุสติว่า ใครก็ตามที่นำเรื่องนี้มาเป็นเครื่องมือทางการเมืองอยู่ ก็ขอให้รู้ว่าเป็นการนับถอยหลังการเมืองให้กับตัวเองเหมือนกัน
"ผมจำเป็นต้องชี้แจงทั้งพยานบุคคล เอกสาร และใช้หลักวิชาการทุกอย่างเพื่อพิสูจน์ว่าเรื่องนี้ไม่ได้มีมูลความจริงใดๆทั้งสิ้น ซึ่งผมจะต่อสู้จนกว่าจะได้รับชัยชนะ ทั้งทางกฎหมาย และการเมือง ส่วนการเข้าให้การเพิ่มเติมในครั้งนี้นั้น ผมจะให้การด้วยตัวเองว่า ในมุมของผมนั้นมันเกิดอะไรขึ้นกับเหตุการณ์นี้ทั้งหมด"
นายจักรภพ กล่าวด้วยว่า จะนำพยานบุคคล และพยานเอกสารมามอบให้พนักงานสอบสวนในโอกาสต่อไป ซึ่งเป็นการใช้สิทธิของผู้ถูกกล่าวหา ส่วนเรื่องการแปลคำบรรยายนั้น จะต้องใช้ความเห็นผู้เชี่ยวชาญมาประกอบ แต่ที่สำคัญ คือเรื่องเจตนาในการบรรยายซึ่งตนถือว่า ไม่มีใครรู้ดีไปกว่าตนเอง
ด้าน พ.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า การสอบสวนสมัยใหม่จะใช้หลักการฟังความรอบด้าน ซึ่งต้องรวบรวมหลักฐานของทั้งผู้กล่าวหา และผู้ถูกกล่าวหา หลังจากที่นายจักรภพ ได้อ้างพยานหลักฐานแล้วก็จะได้รวบรวมมาพิจารณามีความเห็น แต่ในเรื่องคดีนี้ ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีคณะกรรมการกลั่นกรองอีก 2 คณะ คือ ระดับ ตร.และ บช.ก. หากถามว่าจะต้องใช้เวลาอีกเท่าไร ก็ต้องดูว่าผู้ถูกกล่าวหาอ้างพยานหลักฐานเสร็จสิ้นเมื่อไร เมื่อทุกอย่างครบถ้วนแล้วจึงจะพิจารณามีความเห็นเสนอคณะกรรมการระดับที่สูงขึ้นไป
กำลังโหลดความคิดเห็น