ผู้จัดการรายวัน – รอยัลฯ มั่นใจตลาดท็อปพรีเมี่ยมสินค้าเด็กยังเติบโต เหตุพ่อแม่ทุ่มงบไม่อั้น เตรียมขยายไลน์สินค้าแบรนด์เพียว พร้อมเพิ่มช่องทางจำหน่าย
นางสาวจรรยาพร โสภาพอมร ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท รอยัล อินดัสตรีส์ (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตสินค้าเด็กอ่อน “เพียว” กล่าวว่า ตลาดรวมผลิตภัณฑ์แม่และเด็กมีมากกว่า 700 ล้านบาท แบ่งเป็น 3 กลุ่มใหญ่ๆคือ กลุ่มท็อปพรีเมี่ยม สัดส่วน 5% กลุ่มพรีเมียม สัดส่วน 62% และกลุ่มอีโคโนมี่ 33%
อย่างไรก็ตามแม้ว่าอัตราการเกิดของเด็กจะน้อยลง แต่ค่าใช้จ่ายสำหรับเด็กเฉลี่ยต่อคนสูงขึ้น เนื่องจากพ่อแม่สมัยใหม่ใส่ใจดูแลเด็กมากขึ้น เรื่องราคาไม่ใช่ปัจจัยหลักในการตัดสินใจซื้อ
บริษัทฯมีแผนเพิ่มไลน์สินค้าและช่องทางจำหน่าย โดยเน้นสินค้าเด็กอ่อน และอุปกรณ์สำหรับคุณแม่ สินค้าตัวแรก ที่บริษัทฯจะทำตลาดคือ ขวดนมแอนตี้-คอลิก หรือขวดนมกันสำลัก รวมทั้งปลายปีนี้มีแผนจะนำสินค้านวัตกรรมใหม่จากต่างประเทศเข้ามาทำตลาดด้วย ซึ่งรวมแล้ว เพียว มีสินค้าทำตลาดมากกว่า 80 รายการ
ส่วนช่องทางการจำหน่ายเน้นที่ห้างสรรพสินค้า เช่น เซ็นทรัล สยามพารากอน เอ็มโพเรียม เดอะมอลล์ รวมถึงโรงพยาบาล จากนั้นจะขยายไปยังจังหวัดใหญ่ๆ เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต นครราชสีมา โดยปีนี้เตรียมงบตลาดไว้ที่ 15 ล้านบาท เพื่อจัดกิจกรรมตามห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล รวมทั้งโฆษณาผ่านสื่อสิ่งพิมพ์ โดยบริษัทฯตั้งเป้ารายได้ในประเทศปีนี้ไว้ที่ 40 ล้านบาท
ทั้งนี้บริษัทฯเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ของไทยซึ่งมีวางจำหน่ายในต่างประเทศมากกว่า 35 ประเทศทั่วโลก และยังเป็นฐานการผลิตให้กับสินค้าเด็กแบรนด์ดังระดับโลกในยุโรป อเมริกา รวมถึงสินค้าลิขสิทธิ์ต่างๆ ทั้งนี้รายได้จากการส่งออกโดยรวมมีสัดส่วน 95% ของรายได้รวม
ปัจจุบันส่งออไปยังต่างประเทศกว่า 50 ประเทศ โดยมีสัดส่วน ยุโรป 51% อเมริกาและแคนาดา 15% เอเชีย 10% และอื่นๆ 24% ซึ่งปีนี้จะทำการบุกตลาดใหม่ๆในต่างประเทศเพิ่มขึ้นเพื่อสร้างฐานลูกค้าในระยะยาว โดยตั้งเป้ารายได้ส่งออกไว้ที่ 500 ล้านบาท
นางสาวจรรยาพร โสภาพอมร ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท รอยัล อินดัสตรีส์ (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตสินค้าเด็กอ่อน “เพียว” กล่าวว่า ตลาดรวมผลิตภัณฑ์แม่และเด็กมีมากกว่า 700 ล้านบาท แบ่งเป็น 3 กลุ่มใหญ่ๆคือ กลุ่มท็อปพรีเมี่ยม สัดส่วน 5% กลุ่มพรีเมียม สัดส่วน 62% และกลุ่มอีโคโนมี่ 33%
อย่างไรก็ตามแม้ว่าอัตราการเกิดของเด็กจะน้อยลง แต่ค่าใช้จ่ายสำหรับเด็กเฉลี่ยต่อคนสูงขึ้น เนื่องจากพ่อแม่สมัยใหม่ใส่ใจดูแลเด็กมากขึ้น เรื่องราคาไม่ใช่ปัจจัยหลักในการตัดสินใจซื้อ
บริษัทฯมีแผนเพิ่มไลน์สินค้าและช่องทางจำหน่าย โดยเน้นสินค้าเด็กอ่อน และอุปกรณ์สำหรับคุณแม่ สินค้าตัวแรก ที่บริษัทฯจะทำตลาดคือ ขวดนมแอนตี้-คอลิก หรือขวดนมกันสำลัก รวมทั้งปลายปีนี้มีแผนจะนำสินค้านวัตกรรมใหม่จากต่างประเทศเข้ามาทำตลาดด้วย ซึ่งรวมแล้ว เพียว มีสินค้าทำตลาดมากกว่า 80 รายการ
ส่วนช่องทางการจำหน่ายเน้นที่ห้างสรรพสินค้า เช่น เซ็นทรัล สยามพารากอน เอ็มโพเรียม เดอะมอลล์ รวมถึงโรงพยาบาล จากนั้นจะขยายไปยังจังหวัดใหญ่ๆ เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต นครราชสีมา โดยปีนี้เตรียมงบตลาดไว้ที่ 15 ล้านบาท เพื่อจัดกิจกรรมตามห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล รวมทั้งโฆษณาผ่านสื่อสิ่งพิมพ์ โดยบริษัทฯตั้งเป้ารายได้ในประเทศปีนี้ไว้ที่ 40 ล้านบาท
ทั้งนี้บริษัทฯเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ของไทยซึ่งมีวางจำหน่ายในต่างประเทศมากกว่า 35 ประเทศทั่วโลก และยังเป็นฐานการผลิตให้กับสินค้าเด็กแบรนด์ดังระดับโลกในยุโรป อเมริกา รวมถึงสินค้าลิขสิทธิ์ต่างๆ ทั้งนี้รายได้จากการส่งออกโดยรวมมีสัดส่วน 95% ของรายได้รวม
ปัจจุบันส่งออไปยังต่างประเทศกว่า 50 ประเทศ โดยมีสัดส่วน ยุโรป 51% อเมริกาและแคนาดา 15% เอเชีย 10% และอื่นๆ 24% ซึ่งปีนี้จะทำการบุกตลาดใหม่ๆในต่างประเทศเพิ่มขึ้นเพื่อสร้างฐานลูกค้าในระยะยาว โดยตั้งเป้ารายได้ส่งออกไว้ที่ 500 ล้านบาท