โจเซฟิน และแซ็ก โอเนียนส์ สนุกสนานและซุกซนเหมือนเด็กทั่วไป แต่สิ่งที่ทั้งคู่ไม่เหมือนใครคือยังกินนมจากอกแม่อยู่ทั้งที่อายุ 5 ขวบและ 3 ขวบตามลำดับ
สเตลลา วัย 45 ปี แม่ของเด็กทั้งสองคนเชื่อว่า ลูกๆ ของตนเป็นเด็กอายุมากที่สุดในอังกฤษที่ยังกินนมแม่
แม้แม่ส่วนใหญ่หยุดให้นมหลังจากลูกอายุครบหกเดือน แต่สำหรับสเตลลากลับเชื่อว่า แนวทางที่ผิดแผกจากประเพณีนิยมของเธอมีประโยชน์ทั้งในแง่ร่างกายและจิตใจ
“มีผลศึกษามากมายแสดงให้เห็นว่า ทารกที่ถูกเลี้ยงด้วยนมสำเร็จรูปมีแนวโน้มติดเชื้อในกระเพาะอาหาร ทางเดินปัสสาวะ และมีปัญหาระบบหายใจมากกว่า งานศึกษาบางชิ้นยังระบุว่าเด็กเหล่านั้นมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นในการเป็นมะเร็งบางชนิดที่เกิดกับเด็ก
“นอกจากนั้น ผู้หญิงที่ไม่ให้นมลูกยังเสี่ยงสูงที่จะเป็นมะเร็งเต้านมและมะเร็งรังไข่ รวมถึงโรคไขข้ออักเสบ เมื่อให้นมลูก ร่างกายจะผลิตฮอร์โมนที่ทำให้แม่อารมณ์ดีและจิตใจสงบเยือกเย็น และยังมีการทำวิจัยอยู่ขณะนี้ว่าการให้นมช่วยบรรเทาอาการซึมเศร้าหลังคลอดหรือไม่”
สเตลลาเริ่มให้นมลูกๆ พร้อมกันหลังจากแซ็กเกิด แม้ตอนนี้ทั้งคู่จะแยกกันกินนมเพราะเริ่มโตกันแล้วก็ตาม
“วิธีนี้ช่วยให้พวกแกรู้จักแบ่งปันและไม่มีการแก่งแย่งแข่งขันกันระหว่างพี่น้อง รวมถึงตัดปัญหาเรื่องอารมณ์เกรี้ยวกราดฉุนเฉียว
“ดูเหมือนไม่ค่อยฉลาดเลยที่จะหยุดให้นมเมื่อลูกอายุหกเดือนโดยไม่มีเหตุผล และการให้นมลูกยังเป็นวิธีที่สะดวกอย่างยิ่ง เราไปต่างประเทศกันบ่อย โดยไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยของน้ำประปาในประเทศเหล่านั้น”
สเตลลา หนึ่งในนักรณรงค์การให้นมลูก เป็นน้องคนสุดท้องในบรรดาพี่น้องเจ็ดคนที่ล้วนโตมาด้วยนมแม่
เธอบอกว่าเพื่อนๆ ของลูกเคยเห็นลูกกินนมจากอกเธอ แต่ไม่มีใครพูดอะไร
“ฉันโตมาในแอฟริกาใต้ ที่ผู้หญิงมองว่าเต้านมคือแหล่งอาหารสำหรับทารก ไม่ใช่มีไว้เพื่อวัตถุประสงค์ทางเพศ บางคนทำท่าตกอกตกใจเวลาเห็นผู้หญิงให้นมลูก โดยเฉพาะในที่สาธารณะ ถ้าอย่างนั้นเวลาแพะให้นมลูก เราต้องเอาผ้าห่มไปคลุมกันคนเห็นด้วยหรือเปล่า นี่เป็นสิ่งที่ธรรมชาติตั้งใจให้เกิดขึ้น”
สเตลลาลูกที่อาศัยอยู่ในชรอปเชียร์ อังกฤษ และแต่งงานกับแอนดี้ นักออกแบบเกมคอมพิวเตอร์นั้น ยังบอกอีกว่า อาจหยุดให้นมเมื่อลูกๆ อายุ 5-8 ขวบ ซึ่งระบบภูมิคุ้มกันมีพัฒนาการสมบูรณ์แล้ว
ทั้งนี้ แม่ 2 ใน 3 ให้นมลูกควบคู่กับนมผงหรือให้นมลูกอย่างเดียวในช่วงขวบปีแรก เพิ่มขึ้นจากเมื่อห้าปีที่แล้วประมาณ 1 ใน 3 เนื่องจากมีรายงานออกมามากมายที่ระบุว่านมแม่ช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดการไหลตายในเด็ก และส่งเสริมสติปัญญาของลูก
นอกจากนั้น ยังมีความกังวลกันว่าเด็กอาจได้รับสารเคมีที่ทำให้เกิดการสลับเพศจากนมขวด กระนั้น การให้นมหลังจากลูกอายุครบหนึ่งขวบค่อนข้างพบได้น้อย
จูเลียน ดีน จากลา แลช ลีก กลุ่มสนับสนุนการให้นมลูก บอกว่าการให้นมลูกวัยกำลังหัดเดินอาจไม่ใช่บรรทัดฐานในสังคม แต่เป็นกระแสที่ได้รับความนิยมมากขึ้น เนื่องจากมีผลศึกษามากมายที่ล้วนบ่งชี้ถึงคุณประโยชน์ในเรื่องนี้
เด็กที่กินนมแม่หลังอายุหนึ่งขวบยังไม่มีปัญหาในการหย่านม แต่กลับปรับตัวได้ดีกว่า เนื่องจากจะหยุดกินนมแม่เองมากกว่าให้แม่เป็นคนกำหนดว่าถึงเวลาหรือยัง
ดร.เคที เดตทวิลเลอร์ นักมานุษยวิทยาชั้นนำ สำทับว่ายังไม่มีงานวิจัยชิ้นใดที่ระบุว่าเด็กที่กินนมแม่นานกว่าสามปีมีปัญหาสุขภาพร่างกาย จิตใจ หรืออารมณ์
สเตลลานั้นยิ่งกว่าเห็นด้วย เธอตั้งเว็บไซต์ชื่อว่า breastfeedingcommunity.co.uk เพื่อสนับสนุนแม่ที่เลือกให้ลูกกินนมตัวเอง
“ฉันไม่ได้พยายามทำให้ผู้หญิงรู้สึกผิดที่ไม่ได้ให้นมลูก แต่คุณต้องไม่มองข้ามผลศึกษาหลายต่อหลายฉบับ เป้าหมายหลักของฉันคือการสร้างการรับรู้ในหมู่ผู้หญิง”
สเตลลา วัย 45 ปี แม่ของเด็กทั้งสองคนเชื่อว่า ลูกๆ ของตนเป็นเด็กอายุมากที่สุดในอังกฤษที่ยังกินนมแม่
แม้แม่ส่วนใหญ่หยุดให้นมหลังจากลูกอายุครบหกเดือน แต่สำหรับสเตลลากลับเชื่อว่า แนวทางที่ผิดแผกจากประเพณีนิยมของเธอมีประโยชน์ทั้งในแง่ร่างกายและจิตใจ
“มีผลศึกษามากมายแสดงให้เห็นว่า ทารกที่ถูกเลี้ยงด้วยนมสำเร็จรูปมีแนวโน้มติดเชื้อในกระเพาะอาหาร ทางเดินปัสสาวะ และมีปัญหาระบบหายใจมากกว่า งานศึกษาบางชิ้นยังระบุว่าเด็กเหล่านั้นมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นในการเป็นมะเร็งบางชนิดที่เกิดกับเด็ก
“นอกจากนั้น ผู้หญิงที่ไม่ให้นมลูกยังเสี่ยงสูงที่จะเป็นมะเร็งเต้านมและมะเร็งรังไข่ รวมถึงโรคไขข้ออักเสบ เมื่อให้นมลูก ร่างกายจะผลิตฮอร์โมนที่ทำให้แม่อารมณ์ดีและจิตใจสงบเยือกเย็น และยังมีการทำวิจัยอยู่ขณะนี้ว่าการให้นมช่วยบรรเทาอาการซึมเศร้าหลังคลอดหรือไม่”
สเตลลาเริ่มให้นมลูกๆ พร้อมกันหลังจากแซ็กเกิด แม้ตอนนี้ทั้งคู่จะแยกกันกินนมเพราะเริ่มโตกันแล้วก็ตาม
“วิธีนี้ช่วยให้พวกแกรู้จักแบ่งปันและไม่มีการแก่งแย่งแข่งขันกันระหว่างพี่น้อง รวมถึงตัดปัญหาเรื่องอารมณ์เกรี้ยวกราดฉุนเฉียว
“ดูเหมือนไม่ค่อยฉลาดเลยที่จะหยุดให้นมเมื่อลูกอายุหกเดือนโดยไม่มีเหตุผล และการให้นมลูกยังเป็นวิธีที่สะดวกอย่างยิ่ง เราไปต่างประเทศกันบ่อย โดยไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยของน้ำประปาในประเทศเหล่านั้น”
สเตลลา หนึ่งในนักรณรงค์การให้นมลูก เป็นน้องคนสุดท้องในบรรดาพี่น้องเจ็ดคนที่ล้วนโตมาด้วยนมแม่
เธอบอกว่าเพื่อนๆ ของลูกเคยเห็นลูกกินนมจากอกเธอ แต่ไม่มีใครพูดอะไร
“ฉันโตมาในแอฟริกาใต้ ที่ผู้หญิงมองว่าเต้านมคือแหล่งอาหารสำหรับทารก ไม่ใช่มีไว้เพื่อวัตถุประสงค์ทางเพศ บางคนทำท่าตกอกตกใจเวลาเห็นผู้หญิงให้นมลูก โดยเฉพาะในที่สาธารณะ ถ้าอย่างนั้นเวลาแพะให้นมลูก เราต้องเอาผ้าห่มไปคลุมกันคนเห็นด้วยหรือเปล่า นี่เป็นสิ่งที่ธรรมชาติตั้งใจให้เกิดขึ้น”
สเตลลาลูกที่อาศัยอยู่ในชรอปเชียร์ อังกฤษ และแต่งงานกับแอนดี้ นักออกแบบเกมคอมพิวเตอร์นั้น ยังบอกอีกว่า อาจหยุดให้นมเมื่อลูกๆ อายุ 5-8 ขวบ ซึ่งระบบภูมิคุ้มกันมีพัฒนาการสมบูรณ์แล้ว
ทั้งนี้ แม่ 2 ใน 3 ให้นมลูกควบคู่กับนมผงหรือให้นมลูกอย่างเดียวในช่วงขวบปีแรก เพิ่มขึ้นจากเมื่อห้าปีที่แล้วประมาณ 1 ใน 3 เนื่องจากมีรายงานออกมามากมายที่ระบุว่านมแม่ช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดการไหลตายในเด็ก และส่งเสริมสติปัญญาของลูก
นอกจากนั้น ยังมีความกังวลกันว่าเด็กอาจได้รับสารเคมีที่ทำให้เกิดการสลับเพศจากนมขวด กระนั้น การให้นมหลังจากลูกอายุครบหนึ่งขวบค่อนข้างพบได้น้อย
จูเลียน ดีน จากลา แลช ลีก กลุ่มสนับสนุนการให้นมลูก บอกว่าการให้นมลูกวัยกำลังหัดเดินอาจไม่ใช่บรรทัดฐานในสังคม แต่เป็นกระแสที่ได้รับความนิยมมากขึ้น เนื่องจากมีผลศึกษามากมายที่ล้วนบ่งชี้ถึงคุณประโยชน์ในเรื่องนี้
เด็กที่กินนมแม่หลังอายุหนึ่งขวบยังไม่มีปัญหาในการหย่านม แต่กลับปรับตัวได้ดีกว่า เนื่องจากจะหยุดกินนมแม่เองมากกว่าให้แม่เป็นคนกำหนดว่าถึงเวลาหรือยัง
ดร.เคที เดตทวิลเลอร์ นักมานุษยวิทยาชั้นนำ สำทับว่ายังไม่มีงานวิจัยชิ้นใดที่ระบุว่าเด็กที่กินนมแม่นานกว่าสามปีมีปัญหาสุขภาพร่างกาย จิตใจ หรืออารมณ์
สเตลลานั้นยิ่งกว่าเห็นด้วย เธอตั้งเว็บไซต์ชื่อว่า breastfeedingcommunity.co.uk เพื่อสนับสนุนแม่ที่เลือกให้ลูกกินนมตัวเอง
“ฉันไม่ได้พยายามทำให้ผู้หญิงรู้สึกผิดที่ไม่ได้ให้นมลูก แต่คุณต้องไม่มองข้ามผลศึกษาหลายต่อหลายฉบับ เป้าหมายหลักของฉันคือการสร้างการรับรู้ในหมู่ผู้หญิง”
