xs
xsm
sm
md
lg

คนกรุงกระเป๋าแห้งซื้อเสื้อผ้าลดลง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน – คอตตอน ยูเอสเอ ชี้เศรษฐกิจพ่นพิษธุรกิจเสื้อผ้า เผยผลสำรวจคนกรุงเทพฯ ปลายปี 2550 เริ่มใช้เงินซื้อเสื้อผ้าลดลง 400 บาท ระบุหากเศรษฐกิจยังดิ่งแบบนี้ โอกาสซื้อสินค้าไม่ถึง 3,000 บาทมีสูง เทรนด์แห่ซื้อของเพราะโปรโมชัน หั่นราคามากกว่า 20% ล่อตาล่อใจนักชอป กระแสคลั่งแบรนด์เนมลดลง เลือกซื้อสินค้าจากวัตถุดิบผลิต ใส่ตามไลฟ์สไตล์บูม

นายไกรภพ แพ่งสภา ตัวแทนคอตตอน ยูเอสเอ ประเทศไทย ได้เปิดเผยผลสำรวจทัศนคติและพฤติกรรมการจับจ่ายใช้สอยการแต่งกายของผู้บริโภค ในช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคม ปีที่ผ่านมา ในกลุ่มคนกรุงเทพฯ จำนวน 500 คน อายุระหว่าง 15-54 ปี มีรายได้ครอบครัวต่อเดือนมากกว่า 2 หมื่นบาทขึ้นไป พบว่า การซื้อเสื้อผ้าลดลงจากเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา คือจาก 3,650 บาท ในปี 2548 เหลือเป็น 3,246 บาท ในปี 2550 หรือลดลงเฉลี่ยเดือนละ 1 พันเศษๆเท่านั้น ทั้งนี้เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง ผู้บริโภคมีความระมัดระวังการจับจ่ายใช้สอย
นอกจากนี้ยังพบว่า การให้ส่วนลดมีส่วนกระตุ้นการเลือกซื้อเสื้อผ้าของผู้บริโภคคนไทย เพราะการซื้อผลิตภัณฑ์ประเภทเสื้อผ้า ส่วนใหญ่ไม่ได้เป็นการวางแผนล่วงหน้า โดยผู้บริโภคกว่า 76% จะซื้อเสื้อผ้าหากมีการลดราคาตั้งแต่ 20% ขึ้นไป อย่างไรก็ตามกลยุทธ์ราคาจะใช้ได้ผลดีกับกลุ่มเป้าหมายกลุ่มวัยทำงานอายุตั้งแต่ 20-30 ปี และกลุ่มอายุตั้งแต่ 30- 50 ปีขึ้นไป การตัดสินใจซื้อสินค้าจะพิจารณาสินค้าที่คุ้มค่ากับเม็ดเงินที่จ่าย และกลยุทธ์โปรโมชันจะมีส่วนกระตุ้นกับทั้งสองกลุ่มดังกล่าวมากที่สุด
ทั้งนี้หากแนวโน้มเศรษฐกิจในช่วง 2 ปีนี้ ชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่อง และค่าครองชีพยังสูงขึ้น มีโอกาสที่พฤติกรรมการซื้อเสื้อผ้าจะลดลงโดยต่ำกว่า 3,000 บาท โดยความถี่ในการซื้อไม่ลดลงแต่แง่มูลค่าจะลดลง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการใช้กลยุทธ์ราคาของผู้ประกอบการ ทำให้สินค้าราคาถูกลง และผู้บริโภคลดเกรดการซื้อสินค้าจากมีแบรนด์เป็นสินค้าทั่วไปบ้าง เนื่องจากการแข่งขันเสื้อผ้ามีความรุนแรง มีทั้งสินค้าลอกเลียนแบบหลากหลายเกรด โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นอายุ 12-19 ปี จะเป็นกลุ่มที่ไม่มีความภักดีต่อตราสินค้า พร้อมที่จะซื้อสินค้าลอกเลียนแบบ หรือสินค้าทั่วไป
**แบรนด์เนมไม่ใช่ทางเลือกอีกต่อไป**
นายไกรภพ กล่าวว่าจากข้อมูลรายงานมีแนวโน้มการเลือกซื้อเสื้อผ้าในอีก 12 เดือนข้างหน้านี้ พบว่า ชุดลำลองและยีนส์ ยังเป็นประเภทเสื้อผ้าที่ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคชาวไทย และตามด้วยชุดสำหรับใส่ทำงาน ซึ่งเน้นประเภทที่สวมใส่สบาย เหมาะกับสภาพอากาศร้อน โดยเสื้อผ้าในรูปแบบที่เป็นทางการหรือประเภทสูทจะไม่ค่อยนิยมกัน แม้ว่ากลุ่มผู้บริโภคผู้หญิงที่มีรายได้สูงและมีกำลังการซื้อมากพอ ทั้งนี้การเลือกซื้อสินค้าแบรนด์เนมจะลดลง แต่คนจะใส่ใจเรื่องของวัตถุดิบการผลิตมากขึ้น
“หลักการเลือกซื้อเสื้อผ้าก็เริ่มเปลี่ยนแปลง จากเดิมพิจารณาจากคุณภาพแต่เริ่มหันมาดูจากมูลค่าที่ได้รับและเหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ ซึ่งสินค้าที่เป็นแมส คอนซูเมอร์จะเริ่มเลือนหายไปจากตลาด และเริ่มมีเซกเมนต์เทชันซอยย่อยตามไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคแต่ละกลุ่มมากขึ้น”
**เท20ล.สร้างการรับรู้ดึงไลเซนซี**
นายไกรภพ กล่าวถึงแผนการทำตลาดว่า ปีนี้บริษัททุ่มงบ 20 ล้านบาท จากปีที่ผ่านมา 15 ล้านบาท โดยจะมุ่งเน้นการจัดกิจกรรมสื่อสารการตลาดและกิจกรรมร่วมกับไลเซนซีที่คอตตอน ยูเอสเอ ทั้งนี้เพื่อสร้างการรับรู้ในวงกว้างเกี่ยวกับเครื่องหมายคอตตอน ยูเอสเอ โดยในปีนี้จะมีลูกค้าที่เป็นไลเซนซีอีก 10 แบรนด์ ล่าสุดในเดือนกรกฎาคม ได้ไลเซนซี 5 ราย แบ่งเป็น เสื้อผ้าในกลุ่มซีเอ็มจี  4 ราย และ 1 รายเป็นเครื่องนอน ซึ่งกำลังเซ็นสัญญาในเร็วๆ นี้ และกำลังอยู่ระหว่างเจรจากับผู้ประกอบการสำลี คอตตอนสำหรับในปีที่ผ่านมาบริษัทมียอดขายไลเซนซีเติบโต 10-12% หรือมีผู้ที่ติดป้านคอตตอน ยูเอสเอ  6.5 ล้านชิ้น คาดว่าสิ้นปีนี้เพิ่ม 5-10%
กำลังโหลดความคิดเห็น