พบการสูบบุหรี่เพิ่มโอกาสสูญเสียความจำในผู้ใหญ่วัยกลางคน โดยคนวัยนี้ที่เป็นสิงห์อมควันมีแนวโน้มทำบททดสอบเกี่ยวกับความจำและการให้เหตุผลได้คะแนนต่ำกว่าคนวัยเดียวกันที่ไม่สูบบุหรี่
จากการวิเคราะห์ข้อมูลเก่าที่เก็บรวบรวมจากข้าราชการพลเรือนราว 5,000 คนของอังกฤษ ที่มีอายุระหว่าง 35-55 ปีเมื่อเริ่มต้นการทดลองในปี 1985 นักวิจัยแดนน้ำหอมพบว่าคนที่สูบบุหรี่มีแนวโน้มได้คะแนนต่ำกว่าคนที่ไม่เคยสูบบุหรี่เลยในการทดสอบความจำ การให้เหตุผล คำศัพท์ และการใช้ภาษา
นอกจากการสูบบุหรี่จะเชื่อมโยงกับการเจ็บป่วยทางกายแล้ว เซเวรีน ซาเบีย และนักวิจัยจากสถาบันวิจัยทางการแพทย์และสุขภาพแห่งชาติของฝรั่งเศส สำทับว่าการสูบบุหรี่ในช่วงวัยกลางคนยังเกี่ยวข้องกับปัญหาด้านความจำและกระบวนการคิดในช่วงบั้นปลายชีวิต
รายงานของนักวิจัยกลุ่มนี้ที่อยู่ในวารสารอาร์ไคฟ์ส ออฟ อินเทอร์นอล เมดิซินระบุว่า “ประการแรก การสูบบุหรี่ในช่วงวัยกลางคนเชื่อมโยงกับการสูญเสียความสามารถในการจำและการให้เหตุผล
“ประการที่สอง ผู้ที่เคยสูบบุหรี่เมื่อนานมาแล้วมีแนวโน้มมีปัญหาความจำ คำศัพท์ และการใช้ภาษาน้อยลง
“ประการที่สาม การเลิกบุหรี่ในช่วงวัยกลางคนจะมาพร้อมการปรับเปลี่ยนสู่พฤติกรรมที่ดีต่อสุขภาพมากขึ้น เช่น การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์น้อยลง มีกิจกรรมทางร่ายกายมากขึ้น กินผักและผลไม้มากขึ้น
“และประการที่สี่ หรือผลการศึกษาของเราคือ อาจมีการประเมินข้อบ่งชี้ถึงความเกี่ยวโยงระหว่างการสูบบุหรี่กับปัญหาในกระบวนการคิด แม้ในช่วงปลายวัยกลางคน ต่ำเกินไป เนื่องจากผู้สูบบุหรี่มากกว่าสองเท่าเมื่อเทียบกับผู้ไม่สูบบุหรี่ ปฏิเสธที่จะทำแบบทดสอบความจำอีกครั้ง หรือไม่สามารถทำได้ เนื่องจากบางคนเสียชีวิตระหว่างการติดตามผลนาน 17 ปี”
ผู้จัดทำรายงานย้ำว่า ผลลัพธ์นี้มีความสำคัญ เนื่องจากการเสื่อมความสามารถด้านกระบวนการคิดในวัยกลางคนอาจนำไปสู่โรคจิตเสื่อมได้เร็วขึ้น
จากการวิเคราะห์ข้อมูลเก่าที่เก็บรวบรวมจากข้าราชการพลเรือนราว 5,000 คนของอังกฤษ ที่มีอายุระหว่าง 35-55 ปีเมื่อเริ่มต้นการทดลองในปี 1985 นักวิจัยแดนน้ำหอมพบว่าคนที่สูบบุหรี่มีแนวโน้มได้คะแนนต่ำกว่าคนที่ไม่เคยสูบบุหรี่เลยในการทดสอบความจำ การให้เหตุผล คำศัพท์ และการใช้ภาษา
นอกจากการสูบบุหรี่จะเชื่อมโยงกับการเจ็บป่วยทางกายแล้ว เซเวรีน ซาเบีย และนักวิจัยจากสถาบันวิจัยทางการแพทย์และสุขภาพแห่งชาติของฝรั่งเศส สำทับว่าการสูบบุหรี่ในช่วงวัยกลางคนยังเกี่ยวข้องกับปัญหาด้านความจำและกระบวนการคิดในช่วงบั้นปลายชีวิต
รายงานของนักวิจัยกลุ่มนี้ที่อยู่ในวารสารอาร์ไคฟ์ส ออฟ อินเทอร์นอล เมดิซินระบุว่า “ประการแรก การสูบบุหรี่ในช่วงวัยกลางคนเชื่อมโยงกับการสูญเสียความสามารถในการจำและการให้เหตุผล
“ประการที่สอง ผู้ที่เคยสูบบุหรี่เมื่อนานมาแล้วมีแนวโน้มมีปัญหาความจำ คำศัพท์ และการใช้ภาษาน้อยลง
“ประการที่สาม การเลิกบุหรี่ในช่วงวัยกลางคนจะมาพร้อมการปรับเปลี่ยนสู่พฤติกรรมที่ดีต่อสุขภาพมากขึ้น เช่น การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์น้อยลง มีกิจกรรมทางร่ายกายมากขึ้น กินผักและผลไม้มากขึ้น
“และประการที่สี่ หรือผลการศึกษาของเราคือ อาจมีการประเมินข้อบ่งชี้ถึงความเกี่ยวโยงระหว่างการสูบบุหรี่กับปัญหาในกระบวนการคิด แม้ในช่วงปลายวัยกลางคน ต่ำเกินไป เนื่องจากผู้สูบบุหรี่มากกว่าสองเท่าเมื่อเทียบกับผู้ไม่สูบบุหรี่ ปฏิเสธที่จะทำแบบทดสอบความจำอีกครั้ง หรือไม่สามารถทำได้ เนื่องจากบางคนเสียชีวิตระหว่างการติดตามผลนาน 17 ปี”
ผู้จัดทำรายงานย้ำว่า ผลลัพธ์นี้มีความสำคัญ เนื่องจากการเสื่อมความสามารถด้านกระบวนการคิดในวัยกลางคนอาจนำไปสู่โรคจิตเสื่อมได้เร็วขึ้น
